fbpx

Author Archives: GRANTScreativeWe40

HOUSE 362 บ้านที่เปิด “ช่อง” เชื่อมโยงชีวิตเข้ากับธรรมชาติ

HOUSE 362 บ้านที่เปิด “ช่อง” เชื่อมโยงชีวิตเข้ากับธรรมชาติ

เพราะเราถูกหยุดให้อยู่แค่ภายในพื้นที่อันจำกัดมาตลอด 2 ปี ทำให้โจทย์ความต้องการด้านที่อยู่อาศัยมีการเปลี่ยนแปลงไปตามการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งภายในให้สะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัย การจัดสรรพื้นที่ใหม่ให้สามารถทำกิจกรรมได้อย่างหลากหลาย ทั้งห้องทำงาน พื้นที่ออกกำลังกาย รวมถึงพื้นที่สำหรับพักผ่อนจิตใจ โดยเฉพาะกับพื้นที่ธรรมชาติ ที่ถูกกลับมาให้ความสำคัญอีกครั้งจนกลายเป็นเทรนด์ใหม่สำหรับเจ้าของบ้าน นอกจากต้องตอบสนองการใช้ชีวิตแล้ว บ้านจึงต้องเป็นสถานที่ที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้อาศัยกับบริบทแวดล้อมภายนอกด้วย เหมือนกับ HOUSE 362 ของครอบครัวพงษ์สุรพิพัฒน์ อันเป็นฝีมือการออกแบบของเพื่อนสถาปนิกอย่าง จูน เซคิโน จาก Junsekino Architect and Design / Junsekino Interior Design ที่นอกจากจะสวยงามด้วยเค้าโครงสถาปัตยกรรมอันเรียบง่ายแล้ว ยังสร้างการเชื่อมโยงให้สมาชิกภายในบ้าน ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างไร้ขอบเขตผ่านดีไซน์ประตู หน้าต่างบานเลื่อน และหน้าต่างบานกระทุ้งของ Double Space อันเป็นพื้นที่หัวใจหลักของบ้าน

แสงเงาและสายลมที่สร้างเสน่ห์ให้กับ HOUSE 362 

แม้ว่าจะถูกสร้างมานานแล้ว แต่ HOUSE 362 ก็ยังคงทำให้สถาปนิกเจ้าของผลงานอย่างคุณจูนนึกย้อนกลับไปถึงวันแรกที่ส่งมอบบ้านหลังนี้ให้กับเพื่อนสนิท ทั้งความรู้สึกและบรรยากาศที่ล้วนเกิดขึ้นมาจากองค์ประกอบของธรรมชาติที่ลอดผ่านเข้ามาตามช่องต่าง ๆ ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เสน่ห์ที่ไม่ผันเปลี่ยนตามกาลเวลานี้เกิดขึ้นมาจากโจทย์ความต้องการ ไลฟ์สไตล์ และตัวตนของครอบครัวพงษ์สุรพิพัฒน์ ทำให้พื้นที่ภายในมีความเรียบง่าย พร้อมเปิดรับเอาบริบทแวดล้อมภายนอกให้เข้ามาสู่ Double Space มีลมที่พัดเข้ามาจากหน้าต่างบานกระทุ้งให้อากาศหมุนเวียนแทนการเปิดเครื่องปรับอากาศ และแสงเงาที่ลอดผ่านมาจากประตูและหน้าต่างบานเลื่อนให้ความสว่างทั่วพื้นที่ได้ตลอดช่วงกลางวัน รวมถึงทัศนียภาพสีเขียวรอบบ้านที่ให้ความรู้สึกเหมือนถูกล้อมรอบไปด้วยต้นไม้แทนที่จะเป็นรั้วหรือสิ่งปลูกสร้าง 

“เราไม่ต้องการเหล็กดัด เราไม่ต้องการสิ่งที่มากั้นสายตา เราเลยเลือกใช้โครงของอะลูมิเนียมมาแทน แสงที่ได้จากธรรมชาติจึงไม่ถูกบดบังด้วยซี่เหล็ก มองออกไปแล้วก็เห็นทัศนียภาพภายนอกเลย และโครงสร้างของมันเองก็ล้อไปกับการออกแบบของบ้านด้วยเช่นกันค่ะ” เจ้าของบ้านอย่าง คุณปุ้ม ศันสนีย์ พันธ์ศรี เล่าถึงที่มาของช่องอันเปิดโล่ง

Living Space อันอบอุ่นที่ทุกสมาชิกได้ใช้เวลาร่วมกัน 

พื้นที่ Double Space ชั้นล่างขนาด 200 ตร.ม. เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ด้วยขนาดที่กว้างขวางและมีความสว่างจากแสงตามธรรมชาติตลอดทั้งวัน เมื่อไม่ได้ทำงานหรือภารกิจส่วนตัวแล้วสมาชิกทั้งสามจึงมักจะมารวมตัวและใช้เวลาดูซีรีย์ อ่านหนังสือ หรือเล่มเกม สร้างช่วงเวลาที่ผ่อนคลายบริเวณโซฟาหน้าโทรทัศน์ ห้องเอนเตอร์เทนที่อยู่บริเวณใกล้ ๆ ก็เป็นอีกห้องที่ทั้งสามได้ใช้เวลาร่วมกัน โดยมีเสียงของเชลโล่เป็นตัวเชื่อมระหว่างลูกชายที่กำลังซ้อมกับคุณแม่ผู้รับหน้าที่ช่วยทบทวนบทเรียน ในขณะที่เสียงกลองและคีย์บอร์ดที่บรรเลงโดยคู่พ่อลูกก็ช่วยสร้างความครื้นเครงให้พื้นที่ ดนตรีจึงกลายมาเป็นเสียงของบ้านไปโดยบริยาย ในขณะเดียวกัน ความอบอุ่นที่เกิดขึ้นภายในสองพื้นที่ก็ช่วยเติมเต็มความหมายของคำว่าบ้านให้กับ HOUSE 362 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ 

“Living Space สำคัญนะ คือทุกคนในบ้านมีภารกิจของตัวเอง อย่างลูกต้องเรียนออนไลน์ พ่อก็ทำงานที่บ้านเพราะ Work Form Home และพอทุกคนอยู่บ้านทั้งวัน ตัวเราก็ทำงานบ้านมากขึ้น คือทุกคนเหนื่อย แต่พอ ณ ช่วงที่ได้ใช้เวลาร่วมกัน ทุกคนก็พร้อมจะวางทุกสิ่งและมาทำกิจกรรมผ่านคลายไปด้วยกัน เราเลยรู้สึกว่า Living Space มันเป็นสถานที่ที่ได้ปลดปล่อยภาระของตัวเองจริง ๆ ”

พื้นที่ที่เชื่อมโยงผู้อาศัยกับธรรมชาติได้อย่างไร้กังวล

ช่องแสงถูกเปิดรอบบ้านมากขนาดนี้อาจทำให้เกิดความกังวลถึงความทนทานของวัสดุต่อการใช้งานได้ แต่ไม่ใช่กับ HOUSE 362 เพราะคุณจูนเลือกใช้วัสดุอะลูมิเนียมที่เขารู้จักและเห็นคุ้นตาทุกครั้งเวลากลับบ้านเกิดที่ประเทศญี่ปุ่น อย่างวัสดุของ TOSTEM มาใช้สร้างกรอบช่องแสง รวมถึงหน้าต่างบานกระทุ้ง “ผมสนใจเรื่องของการควบคุมคุณภาพก่อนเลย เพราะเขาจะมีกรอบ Standard Technical ที่ดี ไม่ได้ทำตามใจของสถาปนิกไปเสียทุกอย่าง ถ้าเราทำตามคำแนะนำของเขา ยังไงมันก็โอเค นี่เป็นสิ่งที่ผมมองเห็น ก็เลยนำไปเสนอกับเจ้าของบ้านครับ”

“ความคงทนถือว่าโอเคมาก ๆ นะ ส่วนเรื่องเสียงเองก็ไม่เป็นปัญหาเลย แม้ว่าบ้านหลังนี้จะถูกออกแบบมาให้รับลมได้ แต่ก็ไม่มีปัญหาเรื่องคลอนของบานหน้าต่างหรือประตูเลย อาจจะมีเล็กน้อยในกรณีที่ลมพัดเข้ามาปะทะอย่างหนักและแรงจริง ๆ แต่เราที่อยู่ภายในบ้าน ก็ไม่ได้รู้สึกว่าไม่ปลอดภัยหรืออยู่ภายในบ้านไม่ได้” คุณปุ้มเล่าถึงประสบการณ์หลังการใช้งานต่อเนื่องมาหลายปี

ความเป็นบ้านและชีวิตที่ต้องอยู่ร่วมกับบริบทโดยรอบ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความอบอุ่น ความมีชีวิตชีวา และความเป็นบ้านที่อบอวลอยู่ใน HOUSE 362 เกิดขึ้นมาจากการเชื่อมโยงพื้นที่ธรรมชาติภายนอกสู่ภายใน ไม่ใช่ในแง่ของการเปิดรับทัศนียภาพเพียงเท่านั้น แต่การออกแบบฟังก์ชันและการจัดวางห้องภายในให้อยู่ร่วมกับธรรมชาติเองก็เป็นเรื่องสำคัญ “บ้านมันจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่มีบริบทโดยรอบ เราต้องเข้าใจบริบทก่อนบ้านมันถึงจะเกิด อย่าง HOUSE 362 ทำไมเราถึงเลือกเปิดช่องแสงในมุมนี้ ก็เพราะว่าด้านหน้าเป็นสวน มีแสงแดดช่วงบ่ายผ่านเข้ามาตลอด ผมเลยจัดสรรส่วนต่าง ๆ ให้สอดคล้องไปกับธรรมชาติ และพอไปดูภาพรวม มันก็เจ๋งตรงที่เราจะเห็นความเป็นบ้านที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดทั้งวันได้อย่างชัดเจน เป็นบ้านแบบในแง่ Seasonal ตอนเช้าอยู่มุมหนึ่ง ตอนเที่ยงวันอยู่อีกมุมหนึ่ง และเมื่อมีคนเข้าไปอาศัย มีชีวิตชีวา มีปฏิสัมพันธ์อยู่ข้างใน มันก็ช่วยทำให้ความเป็นบ้านมันสมบูรณ์ยิ่งขึ้น” 

“ธรรมชาติและการตอบสนองการใช้งาน” โจทย์ใหม่ในยุค New Normal

เมื่อก่อนเราแทบไม่ค่อยได้ใช้เวลาภายในบ้านมากสักเท่าไหร่ แต่เมื่อต้องอยู่บ้านอย่างไม่มีทางเลือกนานเป็นปี ก็ทำให้สถาปนิกอย่างจูนเข้าใจเลยว่า เมื่อผ่านช่วงยุค COVID-19 ไปแล้ว ผู้อยู่อาศัยอาจไม่ได้ต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่ แต่เป็นพื้นที่ธรรมชาติและพื้นที่ที่ตอบสนองพื้นฐาน สังเกตได้จากเทรนด์การปลูกต้นไม้ การเลี้ยงสัตว์ การทำอาหารในครัว หรือการกลับมาดูแลสุขภาพตัวเอง กำลังเป็นเทรนด์ฮิตในตอนนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นการ Back to Basic อีกครั้ง ‘Living’ มันจึงไม่ใช่แค่เรื่องสไตล์และการออกแบบอาคารแล้ว แต่มันเป็นเรื่องของการตอบสนองพฤติกรรมการใช้ชีวิตทั้ง 24 ชั่วโมงของผู้อยู่อาศัย “สิ่งที่เราต้องชัดเจนคือ เราต้องการอะไร พฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราต้องการบ้านแบบไหน เพราะบางครั้งสิ่งที่อยากมี มันไม่ได้มีความจำเป็นในการใช้ชีวิตเลย หรือบางครั้งเราอยากมีอยากได้เต็มไปหมด แต่สิ่งที่สำคัญจริง ๆ กลับมีนิดเดียว ซึ่งสิ่งนี้มันก็เช็คไม่ยากหรอกครับ ลองสังเกตตัวเองเยอะ ๆ อย่าง เวลาเลือกของสักชิ้นหนึ่ง เราอาจจะชอบเลยทันที แต่พอผ่านเวลาไปสักสิบนาทีหรือหนึ่งวัน กลับมาดูใหม่เราอาจจะไม่ได้ชอบแล้วก็ได้ เราต้องลองเลือกช้าลงนิดนึง เอาให้แน่ใจครับ เพราะเราทำบ้านได้แค่ครั้งเดียวครับ” คุณจูนเล่าส่งท้าย

HOUSE 362 ก็นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของบ้านที่ตอบโจทย์เทรนด์ความต้องการเรื่องบ้านที่ผู้คนมองหาในปัจจุบัน ทั้งดีไซน์ที่สะท้อนตัวตนความเป็นเจ้าของบ้าน การออกแบบภายในที่ตอบสนองการใช้งานของทุกสมาชิกในครอบครัว การเปิดช่องรับแสงลมที่ตอบสนองฟังก์ชันการใช้งาน และช่วยให้ชีวิตภายในบ้านได้สัมผัสกับธรรมชาติรอบข้างได้อย่างลงตัว

“ทอสเท็ม” คำตอบสำหรับทุกความต้องการของบ้านยุคใหม่

“ทอสเท็ม” คำตอบสำหรับทุกความต้องการของบ้านยุคใหม่

“บ้าน” หนึ่งในเป้าหมายชีวิตที่ใครหลายคนกำลังมองหา ยิ่งเป็นช่วงหลังโรคระบาดด้วยแล้ว การได้อยู่ในพื้นที่บ้านอันโล่ง ปลอดภัย เป็นส่วนตัว และมองเห็นธรรมชาติรอบบ้านได้อิสระ คงจะให้ความรู้สึกผ่อนคลายได้มากกว่าคอนโดมิเนียมสี่เหลี่ยมอันคับแคบ แต่การสร้างบ้านขึ้นสักหนึ่งหลังนั้นก็มีโจทย์ที่เหล่าว่าที่เจ้าของบ้านควรคำนึงถึงมากมาย ทั้งงบประมาณ ฟังก์ชันที่ตอบสนองการใช้ชีวิต และการตกแต่งภายในที่สะท้อนตัวตน แต่โจทย์ที่เรามักจะลืมนึกถึงเสมอก็คือผลิตภัณฑ์ ที่นับเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างบ้าน อย่างประตูและหน้าต่าง ที่จะต้องมีดีมากกว่าแค่สวยสะดุดตา และชื่อแบรนด์ TOSTEM ก็มักจะถูกพูดถึงเสมอ เมื่อพูดถึงประตูหรือหน้าต่างที่มีคุณภาพและตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ได้จนทำให้บ้าน “น่าอยู่” กว่าเดิม แต่เพราะอะไรที่ทำให้ TOSTEM ครองใจเจ้าของบ้านได้มากขนาดนี้ ตามไปหาคำตอบพร้อมกันกับเราได้เลย

นวัตกรรมถ่ายเทอากาศ เปลี่ยนบ้านให้อยู่สบาย

ด้วยสภาพภูมิอากาศของบ้านเราที่มีแค่ร้อนกับร้อนมาก หากไม่มีระบบระบายอากาศที่ดีแล้วก็คงลงเอยด้วยบิลค่าไฟที่แพงหูฉีกจากการเปิดพัดลมและเครื่องปรับอากาศ ยิ่งเป็นช่วงหน้าร้อนก็นับเป็นฝันร้ายของเจ้าของบ้าน ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีช่องช่วยระบาย ที่พัดเอาลมธรรมชาติจากภายนอกสู่ทุกมุมของบ้านอย่างทั่วถึงได้โดยไม่ใช้พลังงาน อย่างประตูหรือหน้าต่างจาก TOSTEM จึงช่วยตอบโจทย์ Air Flow System ได้อย่างชาญฉลาด เมื่อได้ระบบระบายอากาศที่หมุมเวียนได้ดีแล้ว ก็หมดห่วงเรื่องปัญหาบ้านร้อน มีกลิ่นและอับชื้น

ป้องกันน้ำฝนรั่วซึมอย่างมีประสิทธิภาพ

น้ำรั่วซึมตามบานประตูถือปัญหาพื้นฐานฉบับ 101 ที่ทำให้เจ้าของบ้านหลายคนปวดหัวมานักต่อนัก ซึ่งเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น ปัญหาจากการติดตั้งที่ไม่เรียบร้อย ไม่เข้ามุม รอยยาแนวชำรุด แน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้ง่าย ๆ ด้วยการหาช่างติดตั้งคนใหม่ที่ชำนาญ แต่ถ้าหากเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากตัวผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวลาที่ต้องรื้อแก้แก้ไขทีก็คงกระทบเงินในกระเป๋ามากอยู่พอสมควร TOSTEM จึงมีนวัตกรรมของกรอบบานเพื่อป้องกันการรั่วซึมของน้ำ เช่น การออกแบบรางและบานเลื่อนให้ปิดแนบสนิทจนน้ำผ่านเข้าไปไม่ได้ และรางระบายน้ำที่ถ่ายเทน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเสริมความแข็งแรงให้การต้านทานแรงลมที่เป็นผู้ร้ายตัวฉกาจในปัญหาน้ำฝนรั่วซึมได้โดยไม่แตกหัก บิดงอ และเสียหายแน่นอน

อยู่บ้านอย่างสบายใจ ไร้เสียงรบกวน

ปัญหาเสียงเป็นสิ่งที่ใครหลายคนลืมนึกถึง และมันก็มักจะกลับมาเป็นปัญหาจุกจิกกวนใจทีหลังเสมอ โดยเฉพาะคนที่ไวต่อเสียงที่อยู่ในย่านจอแจ ไม่ว่าจะนอน ทำงาน หรือพักผ่อนก็คงนับเป็นเรื่องที่ปั่นทอนความสุขและรบกวนสมาธิไม่น้อย นอกจากจะป้องกันน้ำรั่วซึมแล้ว รางและบานเลื่อนที่ถูกออกแบบให้ปิดแนบสนิทของ TOSTEM จึงช่วยกรองเสียงรบกวนจากภายนอกได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งช่วยลดเสียงหรือ Noise Insulation ได้ถึง 25 เดซิเบล (เทียบเท่ากับเสียงกระซิบ) รวมถึงมลพิษภายนอกอย่างฝุ่นละอองหรือควันเองก็เล็ดลอดผ่านเข้าไปในบ้านไม่ได้เช่นกัน ทำให้ภายในบ้านมีบรรยากาศที่น่าอยู่มากขึ้น โดยเฉพาะกับครอบครัวคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่ต้องดูแลสุขภาพของเจ้าตัวน้อยเป็นพิเศษ

คุณภาพมาตรฐานระดับสูง มาพร้อมความเรียบง่ายและงดงาม

นอกจากนวัตกรรมที่ถูกพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ด้านที่อยู่อาศัยของคนยุคใหม่แล้ว ในเรื่องดีไซน์เองก็ทำออกมาได้อย่างงดงาม มีกลิ่นอายแบบโมเดิร์นที่สามารถนำไปประยุกต์ติดตั้งให้เข้ากับบ้านเพื่อเสริมความสง่างามได้อย่างพอดิบพอดี มีสีให้เลือกได้ตามต้องการ ไม่หวั่นแม้วันที่ต้องเจอกับพายุฝน ลม และแสงแดด เพราะมีความคงทนและแข็งแรงที่ได้มาตรฐาน Japanese industrial Standards (JIS) จากประเทศญี่ปุ่นที่เข้มงวดเรื่องคุณภาพสินค้ามาก และยังได้รับมาตรฐาน ASTM จากสหรัฐอเมริกา TOSTEM จึงเป็นที่ยอมรับในแวดวงอุตสาหกรรมระดับโลก เชื่อถือได้ เพียงแค่นี้เหล่าว่าที่เจ้าของบ้านในอนาคตก็มั่นใจได้เลยว่าบานประตูและหน้าต่างที่คุณกำลังเลือกใช้ สามารถตอบโจทย์ได้ตรงความต้องการของทุกพื้นที่ภายในของบ้านจริง ๆ

ค้นหานิยามของ “บ้านที่น่าอยู่” ด้วยผลิตภัณฑ์จาก TOSTEM

ติดต่อประเมินราคา: https://bit.ly/2XJ2f2l

สอบถามข้อมูลสินค้า: https://bit.ly/3y1xj9T

ดูรายละเอียดสินค้า: https://bit.ly/3D3Ycxz

อี-แคตตาล็อก: https://bit.ly/3mrEHcm

ร่วมถอดรหัสแนวคิดการออกแบบบ้าน A+B HOUSE จากมุมมองสถาปนิกและนักออกแบบ “คุณนนทวัฒน์ เจริญชาศรี” และเจ้าของบ้าน “คุณนัท”

ร่วมถอดรหัสแนวคิดการออกแบบบ้าน A+B HOUSE จากมุมมองสถาปนิกและนักออกแบบ “คุณนนทวัฒน์ เจริญชาศรี” และเจ้าของบ้าน “คุณนัท”

ร่วมถอดรหัสแนวคิดการออกแบบบ้าน A+B HOUSE จากมุมมองสถาปนิกและนักออกแบบ “คุณนนทวัฒน์ เจริญชาศรี” และเจ้าของบ้าน “คุณนัท” ที่ร่วมกันออกแบบบ้านหลังนี้ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยที่มีมากกว่าหนึ่งครอบครัว มีสมาชิกหลากหลาย Generation ได้อย่างลงตัวที่สุด

บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่รวมทุก Generation เพราะฉะนั้นการออกแบบก็จะเน้นเรื่องฟังก์ชั่นกับพื้นที่ใช้สอยต่าง ๆ สร้าง Space ให้เหมาะกับแต่ละคนมากที่สุด และเนื่องจากบ้านหลังนี้มี Void และช่องเปิดค่อนข้างเยอะ เพราะฉะนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์กรอบประตูหน้าต่าง จึงต้องคำนึงถึงเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่หน้าบ้านและภายในบ้าน ซึ่งต้องเลือกให้ดูกลมกลืนและเป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด – คุณนนทวัฒน์ เจริญชาศรี” สถาปนิกและนักออกแบบ

สำหรับความต้องการของเจ้าของบ้าน ต้องการให้ความรู้สึกเหมือนกับ “อพาร์ตเมนต์” เพราะเป็นครอบครัวใหญ่ มีพ่อ แม่ ลูก และหลาน มากกว่า 1 ครอบครัว จากเคยอยู่กัน 4 คน ก็ขยายขึ้นเป็น 10 คน จึงจำเป็นต้องเพิ่มพื้นที่จากบ้านหลังเดิม โดยแต่ละครอบครัวจะมีพื้นที่ส่วนตัว ให้ความรู้สึกว่าเหมือนมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่อยู่ในพื้นที่เดียวกัน และต้องการให้มีอากาศถ่ายเทได้ทั้งหลัง 

.

และ TOSTEM ก็เป็นตัวเลือกแรก ๆ ในการสร้างบ้านอยู่แล้ว เพราะทั้งในเรื่องของคุณภาพที่ได้มาตรฐาน และผลงานที่ออกมาก็เป็นที่น่าพอใจมาก มีรุ่นให้เลือกหลากหลาย และเหมาะกับการใช้งานในแต่ละพื้นที่ ซึ่งทุกคนในบ้านก็แฮปปี้ค่ะ – คุณนัท เจ้าของบ้าน

ผลิตภัณฑ์ของ TOSTEM ATIS ที่ถูกเลือกใช้ในบ้าน A+B HOUSE ก็จะมี รุ่น Sliding Door, Slit Window, Casement Window, Combination Window, Tilt & Slide ทุกรุ่นมาพร้อมการออกแบบฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การใช้งานของคนทุกวัยในบ้าน โดยคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ทั้งยังเปี่ยมด้วยความสวยงามของดีไซน์ ที่ช่วยสร้างสุนทรียภาพทั้งภายในบ้านและนอกบ้าน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Framing the beauty of living” 

รับชมวิดีโอเพิ่มเติม

https://www.facebook.com/TostemThailand/videos/671721747269921

MINIMAL & MODERN เรียบง่าย สไตล์ใหม่

MINIMAL & MODERN เรียบง่าย สไตล์ใหม่

“เรียบง่าย สไตล์ใหม่” คำจำกัดความของการผสมผสานระหว่างสองสไตล์ ได้แก่ Minimal Style และ Modern Style โดยทั้งสองสไตล์นั้นคาบเกี่ยวกันในด้านของความน้อยชิ้นและมากประโยชน์ใช้สอย

เรามักจะพบความเรียบง่ายในบ้านสไตล์ Modern Loft ที่มีการใช้หิน หรือปูนเปลือยมาสร้างผนังแล้วโชว์ผิวสัมผัสที่จริงแท้ของวัสดุนั้นๆ หรือที่เราเรียกว่า สัจจะวัสดุ เมื่อประยุกต์ให้เข้ากับความน้อยชิ้นในสไตล์มินิมอล ก็ยิ่งสร้างพื้นที่ว่างที่มอบประโยชน์มากมายให้กับบ้าน

การนำสายตาด้วยเส้นเรขาคณิตของสไตล์ Modern ยิ่งทำให้พื้นที่ในบ้านดูน่าสนใจและมีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น ผสมกับการจัดวางของใช้ในบ้านที่เรียบง่ายแบบมินิมอล ก็ทำให้รู้สึกสบายตา และเกิดการโฟกัสกับกิจกรรมตรงหน้าได้ดียิ่งขึ้น

ความเข้มขรึม เรียบเท่ ในบ้านสไตล์ Modern ถูกฉาบด้วยผนังและของใช้โทนสีดำ ช่วยเสริมให้พื้นที่ในห้องดูเงียบสงบ ปราศจากความวุ่นวาย ซึ่งพอดีกับความเรียบง่ายของมินิมอลที่โดดเด่นทั้งดีไซน์และฟังก์ชั่นเช่นเดียวกัน

วัสดุนวัตกรรมใหม่มักถูกใช้ในบ้านสไตล์ Modern และ Minimal เช่นกัน ยิ่งถ้าเป็นบ้านสมัยใหม่ก็มักจะให้ความสำคัญกับ Sustainable หรือความยั่งยืน วัสดุไม่สึกกร่อนง่ายเกินไป ในขณะเดียวกันก็ยังคงดูกลมกลืนให้ธรรมชาติแวดล้อม เฉกเช่นกับ 𝗚𝗜𝗘𝗦𝗧𝗔 ผลิตภัณฑ์ประตูหน้าบ้านที่ถูกออกแบบโดยใช้เหล็กลายไม้ ที่ดูเข้ากันกับ สองสไตล์ข้างต้น โดยคุณสามารถเลือกดีไซน์และเฉดสีของบานประตูให้เข้ากับบ้านของคุณได้ตามต้องการ เพื่อเติมเต็มให้ทุกอณูในบ้านตรงกับภาพการใช้ชีวิตในฝันของคุณ

ทอสเท็ม จัดแสดงผลิตภัณฑ์สินค้าประตูอะลูมิเนียมสำเร็จรูประดับไฮเอนด์

ทอสเท็ม จัดแสดงผลิตภัณฑ์สินค้าประตูอะลูมิเนียมสำเร็จรูประดับไฮเอนด์

ข่าวประสัมพันธ์

ทอสเท็ม จัดแสดงผลิตภัณฑ์สินค้าประตูอะลูมิเนียมสำเร็จรูประดับไฮเอนด์ และสินค้าภายนอกอาคาร เช่น ประตูบานเลื่อน รั้วอะลูมิเนียมสำเร็จรูป โรงจอดรถ การ์เดนรูม ในงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Home Builder & Materials Expo 2017 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อเร็วๆนี้

ลิกซิล เปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ ทอสเท็ม

ลิกซิล เปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ ทอสเท็ม

ลิกซิล เปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ ทอสเท็ม

ลุยเจาะกลุ่มตลาดอาคารสูง และกลุ่มตกแต่งเพิ่มมั่นใจผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียม ตอบโจทย์การใช้งานในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี

บมจ.ลิกซิล (ประเทศไทย) ในเครือ ลิกซิล คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้แบรนด์ ทอสเท็ม (TOSTEM) ในงานสถาปนิก’ 60 พร้อมวางเป้าเจาะตลาดใหม่เพิ่มเติม ส่ง ประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมสุดหรู ซีรี่ส์ใหม่ เจาะกลุ่มลูกค้าอาคารสูง พร้อมรุกตลาดตกแต่งอย่างต่อเนื่อง เปิดตัวการ์เดนรูม ห้องกระจกสำเร็จรูปเพื่อต่อเติมเป็นห้องเสริมจากตัวบ้าน รั้วและประตูรั้วอะลูมิเนียมสำเร็จรูป ที่โดดเด่นในเรื่องความแข็งแรงและน้ำหนักเบา มั่นใจผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียม สามารถตอบโจทย์การใช้งานในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี พร้อมวางเป้ายอดขายเพิ่มอีก 30% ในปี 2560