Tag: โครงการ

TOSTEM Master Class | Architecture Disruption

สถาปนิกตัวท็อป แลกเปลี่ยนมุมมอง ‘𝗔𝗿𝗰𝗵𝗶𝘁𝗲𝗰𝘁𝘂𝗿𝗲 𝗗𝗜𝗦𝗥𝗨𝗣𝗧𝗜𝗢𝗡‘ เมื่อโลกเปลี่ยน สถาปัตยกรรมต้องปรับอะไรบ้าง ในงาน TOSTEM Master Class ครั้งที่ 2

TOSTEM ผู้นำด้านนวัตกรรมประตู หน้าต่าง จัดงาน TOSTEM Master Class | Architecture Disruption ที่ TOSTEM Flagship Showroom เชิญชวนสถาปนิกชั้นนำมาร่วมแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์เกี่ยวกับเทรนด์การออกแบบอาคารในยุค Disruption ควบคู่ไปกับแนวทางการอยู่กับโลกอย่างยั่งยืน

ภายในงานเต็มไปด้วยบรรยากาศคึกคัก เหล่าสถาปนิกรุ่นใหม่ต่างให้ความสนใจเข้าร่วมฟังการบรรยายและแลกเปลี่ยนมุมมองอย่างเต็มที่ โดยวิทยากรหลักของงานครั้งนี้คือ คุณวุธ – ศราวุธ  จันทรแสงอร่าม จาก Dersyn Studio และคุณเติ้ล – เผดิมเกียรติ สุขกันต์ สถาปนิกจาก Studio Miti

คุณวุธ ได้กล่าวถึงเทรนด์การออกแบบอาคารในยุค Disruption ที่มีความเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว สถาปนิกจำเป็นต้องปรับตัวและเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ ควบคู่ไปกับการยึดมั่นในหลักการออกแบบที่ดี

คุณเติ้ล เสริมว่า สถาปัตยกรรมในยุคนี้ควรคำนึงถึงความยั่งยืน ออกแบบอาคารที่ประหยัดพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานอย่างแท้จริง

คุณวิชา วรสายัณห์ ลีดเดอร์ กลุ่มธุรกิจเฮาส์ซิ่ง เทคโนโลยี บริษัท แอล เอช ที เอเชีย เซลส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด

คุณวิชา วรสายัณห์ ผู้บริหารจาก TOSTEM ได้กล่าวถึงความมุ่งมั่นของ TOSTEM ในการนำเสนอนวัตกรรมและโซลูชั่นใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของสถาปนิกและผู้ใช้งาน TOSTEM มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ประหยัดพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และใช้งานได้อย่างยาวนาน

นอกจากการบรรยายแล้ว ยังมีกิจกรรมเวิร์คชอปปั้นดินน้ำมัน ให้สถาปนิกได้แสดงฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบอาคาร ผู้ชนะได้รับรางวัลห้องพักจาก Private Pool Villa 1 คืนจาก Z9 Resort จังหวัดกาญจนบุรี มูลค่าสูงสุดถึง 24,000 บาท โดยมีคุณโน้ต ฉัตรชัย ฉัตรอุดมกุล ผู้บริหาร Z9 Resort มามอบรางวัลด้วยตัวเอง

งาน TOSTEM Master Class ครั้งนี้ ถือเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้สถาปนิกได้แลกเปลี่ยนมุมมอง เรียนรู้เทรนด์ใหม่ ๆ และสร้างแรงบันดาลใจในการออกแบบอาคารที่ตอบโจทย์ยุค Disruption ควบคู่ไปกับการอยู่กับโลกอย่างยั่งยืน

สำหรับสถาปนิกท่านใดที่สนใจอยากเข้าร่วมงาน TOSTEM Master Class ครั้งต่อไป สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ TOSTEM Thailand TOSTEM ยังมีบูธในงานสถาปนิก’67 บูธ D101 ในวันที่ 30 เม.ย. – 5 พ.ค. 2567 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เชิญชวนสถาปนิกและผู้สนใจเข้าชมนวัตกรรมและโซลูชั่นใหม่ ๆ สำหรับการออกแบบอาคาร

วิธีอ่านแปลนบ้านจากวิศวะ และสถาปนิก

วิธีอ่านแปลนบ้านจากวิศวะ และสถาปนิก

แปลนบ้าน ช่วยให้เราเข้าใจรายละเอียดต่างๆ ของบ้าน ไปจนถึงสามารถจินตนาการถึงห้องต่างๆ ภายในบ้าน หรือแม้แต่ส่วนโค้งที่ทอดยาวเข้าไปในผนัง ประตู และหน้าต่าง ทั้งยังช่วยให้เราสื่อสารกับผู้ออกแบบและผู้รับเหมาให้งานบ้านออกมาสวยตรงใจ ตรงตามละเอียดในแปลนบ้านของเราได้เป็นอย่างดี

บทความนี้ TOSTEM จึงขอแนะนำเรื่องควรรู้ขั้นพื้นฐานของแปลนบ้านแบบวิศวกรรม และแบบสถาปัตยกรรม รวมถึงสัญลักษณ์ต่างๆ ที่พบเห็นบ่อย ให้ทุกคนได้ทราบเบื้องต้นกัน 

วิธีอ่านแปลนบ้านจากวิศวะ และสถาปนิก

รู้จักแปลนแบบวิศวกรรม 

แปลนแบบวิศวกรรม เป็นเอกสารที่บอกรายละเอียดของการก่อสร้างบ้านอย่างละเอียด ออกแบบโดยวิศวกร โดยครอบคลุมตั้งแต่ โครงสร้างพื้นฐาน ระบบไฟฟ้าและระบบน้ำ ซึ่งสถาปนิกมักจะติดตัวอักษรกำกับแปลนด้วยรหัสตัวอักษร เป็นต้นว่า

  • แผ่น S – แบบวิศวกรรมโครงสร้าง (Structural Drawing) แปลนที่กำหนดรายละเอียดของโครงสร้างและความแข็งแรงของตัวบ้าน ประกอบไปด้วยข้อมูลฐานราก เสา คาน พื้น โครงหลังคา และวิธีการเสริมคอนกรีต เหล็กเส้น รวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ ที่รับประกันความสมบูรณ์ของโครงสร้างของอาคาร
  • แผ่น E – แบบวิศวกรรมระบบไฟฟ้า (Electrical Drawing) บอกรายละเอียดงานระบบไฟฟ้าและแสงสว่างภายในบ้าน เช่น ชนิดของโคมไฟ ตำแหน่งของวงจร เบรกเกอร์ เป็นต้น

วิธีอ่านแปลนบ้านจากวิศวะ และสถาปนิก

ใส่ใจและเข้าใจแปลนแบบสถาปัตยกรรม

แปลนสถาปัตยกรรม เป็นแปลนที่สถาปนิกออกแบบ โดยระบุขนาดห้อง จำนวนห้อง แปลนหลังคา แปลนพื้นของอาคาร และรายการประกอบแบบ บอกรายละเอียดวัสดุที่จะใช้ เช่น ผนัง ฝ้า ประตูและหน้าต่าง นอกจากนี้ภายในแบบจะมีสัญลักษณ์ที่ต่างกันไปตามแต่ละแปลน โดยสัญลักษณ์ที่ปรากฏให้เห็นบ่อยๆ มีอะไรบ้าง ลองมาดูกัน 

  • เส้นบอกระยะ (dimention) คือ เส้นบอกขนาดความกว้าง ความยาวของแต่ละห้อง 
  • สัญลักษณ์รูปด้าน ในแปลนบ้านจะมีสัญลักษณ์ที่เป็นหัวลูกศรหันเข้าหากัน นั่นคือเพื่อแสดงรูปด้านรวมภายนอกอาคาร ส่วนหัวลูกศรหันออกแสดงรูปด้านรวมภายในของห้อง ส่วนตัวเลขในวงกลมแถวบน หมายถึงแต่ละด้านในแปลน ส่วนตัวเลขแถวล่าง เป็นหน้าที่แสดงรูปด้านนั้นๆ อ้างอิงถึง

  • สัญลักษณ์ประตู หน้าต่าง
    สำหรับสัญลักษณ์ประตูนั้นจริงๆ อาจไม่เป็นวงกลมเสมอไป แต่ทั้งนี้มักมีตัวเลขและตัวอักษรกำกับ เช่น D9 อยู่ภายในกรอบ เพื่อบอกว่าประตูบานนั้นเป็นประตูบานที่เท่าไหร่และลักษณะไหน ซึ่งจะเห็นได้แบบขยาย 

วิธีอ่านแปลนบ้านจากวิศวะ และสถาปนิก

ส่วนสัญลักษณ์หน้าต่าง อาจเป็นรูปหกเหลี่ยม สี่เหลี่ยม หรือระบุด้วยรูปทรงต่างๆ นอกจากนี้หน้าต่างบานเดี่ยวและบานคู่ส่วนใหญ่จะแสดงด้วยเส้นสามเส้น ซึ่งมีการแรงเงาแตกต่างจากผนัง หรืออาจระบุด้วยรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ เช่นหน้าต่างบานเปิด จะแสดงเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีเส้นทแยงมุมและมีส่วนโค้งด้านหนึ่ง เพื่อระบุว่าบานเปิดออกด้านนอก เป็นต้น 

วิธีเลือกประตูหน้าต่างให้เหมาะกับบ้าน 

การเลือกประตูหน้าต่างให้เหมาะกับบ้าน สำคัญไม่น้อยกว่าการอ่านแปลนบ้าน เพราะการออกแบบประตูหน้าต่างให้เหมาะกับฟังก์ชั่นการใช้งาน ไม่เพียงช่วยในเรื่องการจัดผังพื้นภายในเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเลือกช่องเปิด-ปิดของกรอบบานหน้าต่าง สำหรับเชื่อมต่อสิ่งแวดล้อมภายนอกที่ดีได้ ซึ่งการเลือกใช้วัสดุที่ได้คุณภาพมาตรฐาน จากแบรนด์ TOSTEM นวัตกรรมประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมจะช่วยตอบโจทย์ทุกความต้องการสำหรับที่อยู่อาศัยของคุณได้เป็นอย่างดี

บานเปิดและบานกระทุ้ง 

บานเปิด เป็นอีกหนึ่งรูปแบบยอดนิยม เหมาะกับหน้าต่างห้องทั่วไป โดยเฉพาะห้องที่ทิศทางลมมาด้านข้าง ประตูหน้าต่างแบบบานเปิดจะช่วยดักให้ลมเข้าบ้านมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สะดวกสบาย สามารถปรับให้เข้ากับรูปลักษณ์และดีไซน์ทุกสไตล์ ตั้งแต่ งานคลาสสิกกับเส้นสายสวยงาม หรือแม้แต่งานออกแบบที่เน้นความเรียบง่ายของกรอบบาน

ส่วนบานกระทุ้ง มีลักษณะคล้ายหน้าต่างบานเปิด โดยลักษณะการเปิดเป็นการเปิดขึ้นด้านบน ซึ่งมีได้ทั้งบานเล็กที่มักใช้ระบายอากาศให้ห้องน้ำ และบานใหญ่ที่ใช้ตามพื้นที่ทั่วไป โดยควรคำนึงถึงขนาดและน้ำหนักของบาน เพื่อง่ายต่อการเปิดปิด 

บานเลื่อน 

บ้านที่ต้องการให้ประตูหน้าต่างเรียบไปกับผนัง แนะนำให้เลือกประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบบานเลื่อน เพื่อช่วยทั้งเรื่องงานดีไซน์ที่สวยงามและไม่ให้เสียพื้นที่ในการเปิดปิดหน้าต่าง ซึ่งผลิตภัณฑ์ TOSTEM มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ เช่น 

  • บานเลื่อนแบบ 3 บาน สามารถรวบเก็บหน้าบานไว้ข้างเดียวได้ และช่วยให้เปิดส่วนหน้าบานได้ถึงสองในสามของช่องเปิด ให้มุมมองที่กว้าง โดยบานเลื่อนแบบ 3 บาน 3 รางของทอสเท็ม พบได้ในรุ่น WE PLUS

  • หลายบานเลื่อนในกรอบเดียว สำหรับบ้านที่อยากเพิ่มลูกเล่น ลองเลือกรูปแบบประตูหน้าต่างบานเลื่อนในกรอบเดียว แต่มีหน้าที่ที่หลากหลายขึ้น ร่วมกับกรอบบานฟิกซ์ที่สร้างสเปซให้โปร่งโล่งขึ้น นอกจากได้ฟังก์ชันที่หลากหลาย ยังเพิ่มดีไซน์ของเส้นกรอบบานได้อีก

บานเฟี้ยม มีลักษณะเหมือนบานเปิดผสมกับบานเลื่อน โดยบานเฟี้ยมสามารถเปิดได้กว้างโล่งกว่าประตูรูปแบบอื่น ให้ลุคที่ดูหรูหรา มีสไตล์ไม่ซ้ำใคร โดยประตูบานเฟี้ยมของทอสเท็มมาพร้อมโปรไฟล์ที่ถูกออกแบบอย่างชาญฉลาด และการติดตั้งชุดอุปกรณ์คุณภาพสูง บานเฟี้ยมของทอสเท็มจึงสวยงาม ใช้งานได้อย่างสะดวก รวมถึงมีดีไซน์แบบเปิดที่แตกต่างหลากหลาย ให้คุณเลือกได้ตามความต้องการ

นอกจากความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ TOSTEM ที่คำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นสำคัญ ทุกดีเทลของทุกรุ่นยังผ่านการออกแบบมาอย่างดี เพื่อให้ได้ความแข็งแรงจากโครงสร้างภายใน และความสะดวกสบายจากการใช้งานภายนอก หากอยากดูสินค้าประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมเพิ่มเติม คลิกได้ที่

  

รวม 8 ไอเดียดีไซน์หน้าต่างสุดโดดเด่นจาก TOSTEM

Window Inspiration รวม 8 ดีไซน์หน้าต่างสุดโดดเด่นจาก TOSTEM

หน้าต่างที่ดีไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงช่องว่างให้สายลมหรือแสงแดดพัดผ่าน แต่ยังต้องปกป้องผู้คนให้รู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลายในระหว่างอยู่อาศัย รวมถึงยังช่วยเสริมภาพลักษณ์ดีไซน์ให้สะท้อนถึงตัวตนของอาคารและผู้อยู่อาศัย ซึ่งเป็นสิ่งที่คนยุคนี้ให้ความสำคัญไม่แพ้เรื่องของฟังก์ชันการใช้งานเลยทีเดียว หากใครที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจในการออกแบบ วันนี้เราจะมาแนะนำไอเดียหน้าต่างสุดโดดเด่น ชวนสะดุดตา ผ่าน 8 ผลงานดีไซน์น่าสนใจจากผลิตภัณฑ์ TOSTEM ให้ได้ชมกัน! 

รวม 8 ไอเดียดีไซน์หน้าต่างสุดโดดเด่นจาก TOSTEM

รวม 8 ไอเดียดีไซน์หน้าต่างสุดโดดเด่นจาก TOSTEM

S71 House

แม้การตกแต่งบ้านด้วยบานหน้าต่างที่สูงกว้าง  จะทำให้บรรยากาศของบ้านดูโปร่งโล่งสบาย มีชีวิตชีวา น่าอยู่อาศัย แต่นั่นอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีสำหรับบ้านทุกหลังเสมอไป โดยเฉพาะบ้านที่มีข้อจำกัดเรื่องมุมมองทัศนียภาพ, ความเป็นส่วนตัวจากรอบข้าง หรือแม้แต่การเผชิญหน้ากับความโหดร้ายของแสงแดด ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงมองว่าการทำช่องแสงเล็กๆ เรียงรายหลายช่องทดแทน ก็ดูจะเป็นวิธีที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

อย่างบ้าน S17 House หลังนี้ มีการออกแบบฟาซาดให้เป็นช่องสี่เหลี่ยมหลายๆ ช่อง และเรียงด้วยช่องแสงเล็กๆ ที่มีขนาดแตกต่างกันลึกเข้าไปข้างใน ตามองศาของแสงแดดที่ส่องเข้ามาในทิศตะวันตก ส่งผลให้บรรยากาศภายในบ้านดูละมุนมากขึ้น แสงไม่จ้าจนเกินไป แต่ยังคงเพียงพอต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

รวม 8 ไอเดียดีไซน์หน้าต่างสุดโดดเด่นจาก TOSTEM

รวมถึงช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวจากการสัญจรบนถนนหน้าบ้าน มากกว่านั้นดีไซน์ของฟาซาดสีขาวประกอบกับหน้าต่างอะลูมิเนียมบานฟิกซ์ สี Natural Silver ยังทำให้บ้านดูมีลูกเล่น ไม่เหมือนใคร ด้วยไดนามิกของมิติช่องแสงที่เปลี่ยนไป ตามแสงแดดที่ตกกระทบในแต่ละช่วงเวลาของวัน หรือแม้แต่ในยามที่แสงเหลืองนวลจากโคมไฟส่องสว่างออกมาจากภายในบ้าน


รวม 8 ไอเดียดีไซน์หน้าต่างสุดโดดเด่นจาก TOSTEM

Chevalife

บ้านโมเดิร์นสไตล์นอร์ดิกโดดเด่นด้วยดีไซน์หน้าต่างอะลูมิเนียมบานเปิดสลับกับบานฟิกซ์ เรียงต่อกันตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ขึ้นไปรับกับรูปทรงของหลังคาจั่วอย่างพอดิบพอดี ทำให้เกิดเป็นแพทเทิร์นของฟาซาดเก๋ๆ จากเส้นบานกรอบอะลูมิเนียมสี Shine Gray ที่ขับเน้นผนังสีขาวของภายนอกตัวบ้านให้โดดเด่นยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็เข้ากันกับบรรยากาศอันแสนอบอุ่น สบายตาของโทนสีน้ำตาลอ่อนจากไม้ภายในบ้านได้อย่างลงตัว นอกจากนี้การติดตั้งบานหน้าต่างหลายๆ แบบ ทั้งบานเปิด บานเลื่อน และบานฟิกซ์รอบบ้าน ยังทำให้แสงและลมธรรมชาติสามารถเข้าสู่ตัวบ้านอย่างโปร่งโล่ง เปิดรับความสดชื่นจากบรรยากาศธรรมชาติรอบบ้านในทุกๆ วัน

รวม 8 ไอเดียดีไซน์หน้าต่างสุดโดดเด่นจาก TOSTEM

รวม 8 ไอเดียดีไซน์หน้าต่างสุดโดดเด่นจาก TOSTEM

รวม 8 ไอเดียดีไซน์หน้าต่างสุดโดดเด่นจาก TOSTEM

Chantra Khiri Chalet

แม้ประตู-หน้าต่างบานกรอบอะลูมิเนียมจะเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ในงานออกแบบบ้านและอาคารต่างๆ แต่น้อยคนนักที่จะหยิบบานกรอบอะลูมิเนียมมาจับคู่กันกับเรือนไม้ของไทย แต่สำหรับจันตราคีรี ชาเลต์ รีสอร์ทสุดหรูที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางอ้อมกอดขุนเขา ณ จังหวัดเชียงใหม่ กลับนำประตู-หน้าต่างบานกรอบอะลูมิเนียมมาใช้ออกแบบได้อย่างลงตัว ด้วยเสน่ห์ของบานกรอบอะลูมิเนียมสี Natural Black ที่เข้ากันได้ดีกับสีน้ำตาลเข้มจากไม้ธรรมชาติของตัวอาคาร ชวนให้หลงใหลในกลิ่นอายความงามตามฉบับเรือนไทยล้านนา ทั้งยังช่วยแฝงตัวอาคารให้เป็นส่วนหนึ่งของผืนป่าด้านหลังอย่างกลมกลืน


รวม 8 ไอเดียดีไซน์หน้าต่างสุดโดดเด่นจาก TOSTEM

Salee Boutique Hotel

เมื่อสถาปัตยกรรมล้านนาดั้งเดิมถูกนำมาตีความใหม่ ในรูปแบบที่เรียบง่ายและทันสมัยยิ่งขึ้น จึงเกิดการรวมตัวกันระหว่างงานบัวปั้นย่อมุมและบานกรอบอะลูมิเนียมสี Natural Black ออกมาเป็นหน้าตาฟาซาดสุดโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ของ Salee Boutique Hotel ที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่การรับน้ำหนักบนโครงสร้างอาคารสูง 4 ชั้น และความสะดวกสบายในการติดตั้ง ซึ่งมีการสร้างภาพจำให้แก่แขกผู้มาเยือน โดยออกแบบเส้นสายของบัวปั้นย่อมุม ให้ซ้อนกันเป็นกรอบสี่เหลี่ยมหลายชั้นลึกเข้าสู่บานหน้าต่างอย่างมีมิติ ทำให้บานกรอบอะลูมิเนียมเหล่านี้ถูกขับเน้นให้โดดเด่นยิ่งขึ้นหลายเท่าตัว


รวม 8 ไอเดียดีไซน์หน้าต่างสุดโดดเด่นจาก TOSTEM

Nirvana Beyond

บางครั้งการเล่นสนุกกับรูปทรงของบ้านที่แปลกใหม่ อาจเป็นการเปิดรับประสบการณ์การอยู่อาศัยที่น่าประทับใจในอีกรูปแบบ อย่างโครงการบ้าน Nirvana Beyond ที่มีการยื่นพื้นที่บางส่วนออกมาจากโครงสร้างหลักอย่างพอเหมาะ พร้อมบิดรูปทรงอาคารให้หันมุมห้องออกมา เผยโฉมความงามของดีไซน์บานหน้าต่างสูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ที่มีมุมขอบกระจกชนกันอย่างต่อเนื่อง และมาพร้อมกับความเงางามของบานกรอบอะลูมิเนียมสี Shine Gray ซึ่งนอกจากจะช่วยทำให้บ้านดูมีเสน่ห์อย่างทันสมัยแล้ว ยังทำให้เกิดพื้นที่พิเศษภายในบ้าน ที่สามารถเปิดรับมุมมองทัศนียภาพใหม่ได้น่าสนใจมากขึ้น

รวม 8 ไอเดียดีไซน์หน้าต่างสุดโดดเด่นจาก TOSTEM


รวม 8 ไอเดียดีไซน์หน้าต่างสุดโดดเด่นจาก TOSTEM

Baan po-d

บ้านที่แบ่งสัดส่วนของตัวอาคารและพื้นที่สวนได้อย่างพอดิบพอดี ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องการใช้งานทุกฟังก์ชัน และการสร้างบรรยากาศอันแสนร่มรื่นรอบบ้าน ดังนั้นบ้านหลังนี้จึงมีการผสานดีไซน์บานหน้าต่างชนิดต่างๆ ให้กลายเป็นหน้าต่างบานใหญ่เต็มผนังในจุดที่สำคัญของบ้าน โดยเฉพาะห้องนอน Master Bedroom ที่นำหน้าต่างบานฟิกซ์ขนาดใหญ่มาประกอบกันกับหน้าต่างบานเปิด เพื่อเปิดรับทัศนียภาพสวนได้อย่างเต็มตา ผ่านบานกรอบอะลูมิเนียมสี Autumn Brown ราวกับเฟรมภาพวาดศิลปะ พร้อมเปิดรับการไหลเวียนของอากาศจากภายนอก และประกอบกันกับที่นั่งริมหน้าต่างอย่างเหมาะเจาะลงตัว

รวม 8 ไอเดียดีไซน์หน้าต่างสุดโดดเด่นจาก TOSTEM


รวม 8 ไอเดียดีไซน์หน้าต่างสุดโดดเด่นจาก TOSTEM

The other’s own place

บ้านครอบครัวขยายที่ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของสมาชิกหลากหลายวัย พร้อมแนวคิดของสถาปนิกที่เชื่อว่าธรรมชาติ เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้การอยู่อาศัยดำเนินไปอย่างมีความสุข ดังนั้นบานประตู-หน้าต่างสำหรับบ้านหลังนี้ จึงไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเปิดรับทัศนียภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวกลางเชื่อมต่อความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกภายในบ้าน และระหว่างผู้คนกับธรรมชาติในระยะที่เหมาะสมผ่านการมองเห็น ซึ่งบานกรอบอะลูมิเนียมสี Shine Gray ก็ได้ร่วมทำหน้าที่นี้ได้เป็นอย่างดี ด้วยโทนสีที่มอบความเป็นธรรมชาติให้กับตัวบ้าน สามารถเข้ากันกับวัสดุอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย จึงทำให้ภาพรวมของบ้านดูน่าสบายและทันสมัย

รวม 8 ไอเดียดีไซน์หน้าต่างสุดโดดเด่นจาก TOSTEM

รวม 8 ไอเดียดีไซน์หน้าต่างสุดโดดเด่นจาก TOSTEM

รวม 8 ไอเดียดีไซน์หน้าต่างสุดโดดเด่นจาก TOSTEM

Yellow House

บ้านคอนกรีตสุดส่วนตัวที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนต้นไม้โดยไม่มีรั้วกั้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของบ้านที่ต้องการ อาศัยอยู่ท่ามกลางธรรมชาติในทุกๆ วัน โดยสถาปนิกได้มีการออกแบบให้ผนังบ้าน เป็นตัวโอบล้อมคอร์ทยาร์ดธรรมชาติไว้ภายใน เพื่อสร้างความปลอดภัยสำหรับการอยู่อาศัย พร้อมเปิดรับแสงแดด สายลม และวิวธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างทั่วถึง สำหรับตัวบ้านนั้นสถาปนิกได้สร้างผนังคอนกรีต ที่โดดเด่นด้วยผิวสัมผัสและลวดลายแตกต่างกันในแต่ละแผ่น ประกอบกับความเงางามของบานกรอบอะลูมิเนียมสี Natural Silver ที่กลมกลืนไปกับผนังอย่างมีมิติ ช่วยขับเน้นบรรยากาศบ้านให้ดูสบาย เป็นธรรมชาติ แต่สามารถสัมผัสถึงความเรียบหรูได้ในขณะเดียวกัน

รวม 8 ไอเดียดีไซน์หน้าต่างสุดโดดเด่นจาก TOSTEM

รวม 8 ไอเดียดีไซน์หน้าต่างสุดโดดเด่นจาก TOSTEM

การเลือกหน้าต่างที่เหมาะสมกับอาคาร นอกจากจะช่วยเปลี่ยนคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยให้ดีขึ้น ด้วยความโปร่งโล่ง อยู่สบาย, ความปลอดภัยและความสงบสุขจากสิ่งรบกวนภายนอกแล้ว หน้าต่างที่สวยงามยังช่วยขับเน้นเอกลักษณ์ของอาคารให้โดดเด่น สร้างภาพจำอันน่าประทับใจให้กับผู้ที่พบเห็นได้เสมอ

รวม 8 ไอเดียดีไซน์หน้าต่างสุดโดดเด่นจาก TOSTEM

และไม่ว่าจะเป็นบ้าน รีสอร์ท หรือโรงแรมสไตล์ไหน ประตู-หน้าต่างของ TOSTEM ก็สามารถเข้ากันได้กับดีไซน์ทุกรูปแบบอย่างกลมกลืน ด้วยสีสันและผิวสัมผัสของบานกรอบอะลูมิเนียม ที่ถูกคัดสรรและผ่านกระบวนการผลิตอย่างเข้มงวด ตามมาตรฐาน JIS จากญี่ปุ่น มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ TOSTEM สามารถทนทานต่อทุกสภาพอากาศ และสร้างการอยู่อาศัยที่ดีได้อย่างยาวนาน


หากสนใจสินค้าประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมจาก TOSTEM ที่ช่วยปกป้องบ้านจากความร้อน ทนทานต่อทุกสภาพอากาศได้ดี สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลย

Derposh Grand Sriracha นิยามใหม่ของความหรูหรา และการใช้ชีวิตในพื้นที่แห่งความสุข

Derposh Grand Sriracha นิยามใหม่ของความหรูหรา และการใช้ชีวิตในพื้นที่แห่งความสุข

คุณรู้มั้ยว่าความงามของสถาปัตยกรรมมีผลต่อความรู้สึกแค่ไหน และบ่งบอกถึงอะไรได้บ้าง ในสมัยก่อนบ้านที่มี เสาโรมัน คิ้วบัว ซุ้มประตู เราจะรู้ได้ทันทีว่าเจ้าของบ้านมีฐานะ แต่จำเป็นหรือไม่ที่เราจะแสดงออกถึงความมั่งคั่งในงานสถาปัตยกรรมผ่าน Element เหล่านั้น Derposh Grand Sriracha หมู่บ้านในศรีราชากลับใช้องค์ประกอบในโครงการแสดงถึงความ Luxury ได้อย่างเรียบง่าย

Derposh Grand Sriracha นิยามใหม่ของความหรูหรา และการใช้ชีวิตในพื้นที่แห่งความสุข

ความหรูหราที่เรียบง่าย

ความแพงที่ไม่ได้ตะโกนออกมา แต่กับซ่อนไว้ในงานดีไซน์ วัตถุ และ สิ่งของ ที่โครงการเลือกใช้ในหมู่บ้าน ตั้งแต่โลเคชั่นของหมู่บ้านที่ตั้งกลางทำเลเศรษฐกิจใจกลางศรีราชา ห่างจาก J park แค่ 1.6 กิโลเมตร และใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า ส่วนทางเข้าหมู่บ้านที่เว้นพื้นที่ไว้สำหรับสวนขนาดใหญ่ทำให้ เปิดมุมมองของคนที่ขับรถผ่านไปมาได้กว้างมากขึ้นจนกลายเป็นที่สังเกตเห็นป้ายโครงการขนาดใหญ่ ตัวหนังสือสีทองบนผนังหินสีเทาเข้ม ยิ่งยกระดับให้โครงการมากขึ้น เมื่อเข้ามาตัวโครงการเราจะเห็นต้นโอลีฟขนาดใหญ่ตั้งเด่นอยู่หน้าหมู่บ้าน เพิ่มความหรูหราให้กับโครงการเข้าไปอีก

Derposh Grand Sriracha นิยามใหม่ของความหรูหรา และการใช้ชีวิตในพื้นที่แห่งความสุข

เว้นระยะห่างสำหรับพื้นที่ส่วนตัว

ภายนอกบ้านเราจะเห็นการดีไซน์แบบ British Japanese เพราะต้องการผสมผสานความมินิมอลและความหรูหราเข้าด้วยกัน เช่น การใช้วัสดุลายไม้สีอ่อนมาตกแต่งภายนอกที่ทำดูอบอุ่น และ ทำเป็นระแนงในบางจุดเพื่อทำให้เส้นตั้งโดดเด่นขึ้นมาจากตัวบ้าน รวมเข้ากับกระเบื้องลายหินสีเทาเข้มสไตล์อังกฤษที่ทำให้บ้านดูมีเสน่ห์แบบเรียบง่าย

บ้านที่เราได้มีโอกาสเข้าไปชมคือ 𝐏𝐫𝐞𝐬𝐭𝐢𝐠𝐞 𝐓𝐲𝐩𝐞 บ้านที่รองรับครอบครัวขนาดใหญ่ ด้วยพื้นที่ 260 ตารางเมตร บนที่ดิน 65 ตารางวา

ก่อนเข้าถึงตัวบ้านจะมีพื้นที่สำหรับเก็บของไว้ที่หลังโรงจอดรถ สำหรับเก็บของใช้ภายนอกบ้าน เช่น อุปกรณ์ทำสวน อุปกรณ์กีฬา ต่างๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเก็บในตัวบ้าน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วถือว่าสะดวกต่อการใช้งานมากเพราะเมื่อต้องการใช้ก็หยิบจับได้เลย ไม่จำเป็นต้องเข้าไปในบ้าน สำหรับพื้นที่รอบ ๆ บ้านก็สำคัญมากในการตัดสินใจของผู้ซื้อ เพราะการมีพื้นที่ว่างรอบบ้านนั้นทำให้เกิดความรู้สึกสบาย ไม่อึดอัด ซึ่งเป็นข้อดีของการสร้างบ้านเดี่ยว

Derposh Grand Sriracha นิยามใหม่ของความหรูหรา และการใช้ชีวิตในพื้นที่แห่งความสุข

โครงการของ Derposh Grand Sriracha “คอนเซปโครงการ คือการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้ลูกบ้านทุกหลัง โครงการเรามีแต่บ้านเดี่ยวทั้งโครงการ ไม่มีบ้านแฝด ไม่มีทาวน์โฮม จึงทำให้ลูกบ้านทุกหลังมีพื้นที่สีเขียวรอบบ้าน และมีความเป็นส่วนตัว หลังคาและกำแพงไม่ติดกัน ลมถ่ายเทสะดวกค่ะ”

คุณแนน บุญยนุช ศรขจร เจ้าของโครงการได้กล่าวถึงแนวคิดที่ทำ Derposh Grand Sriracha เป็นหมู่บ้านเดียวในศรีราชาที่ทำเป็นบ้านเดี่ยวทั้งโครงการ

บริเวณรอบ ๆ บ้านมีสวนที่โครงการจัดเตรียมไว้เป็นพื้นที่พักผ่อนให้ลูกบ้านได้มีพื้นที่สวนเป็นของตัวเอง ใช้ทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ทำกิจกรรมภายนอกบ้านกับคนในบ้าน หรือ เล่นกับสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้แล้วการเว้นระยะห่างระหว่างเพื่อนบ้านก็ทำให้คนในบ้านได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นอีกด้วย 

ยินดีต้อนรับสู่พื้นที่ของคนสำคัญ

ชั้นหนึ่งของบ้านจะเป็นพื้นที่ต้อนรับแขกสู่ตัวบ้าน เริ่มตั้งแต่พื้นที่แรกที่เข้ามาในตัวบ้านคือ Living room ที่เชื่อมต่อกับ Dining area ซึ่งเมื่ออยู่ในสถานที่จริงเรารู้สึกถึงความใส่ใจของดีไซเนอร์ในรายละเอียดของตัวบ้านเป็นอย่างมาก ความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 3 เมตร คนที่เข้าไปในตัวบ้านจึงรู้สึกถึงความโล่งสบาย ไม่อึดอัด เว้นความสูงให้ลูกบ้านใส่ Chandelier เพิ่มความหรูหราให้กับตัวบ้านตามสไตล์ตัวเองได้อีกด้วย และเพื่อความเป็นส่วนตัวของเจ้าของบ้าน ดีไซเนอร์ออกแบบให้ห้องนอนสำหรับแขกอยู่ชั้นหนึ่ง แต่ก็ให้ความสำคัญกับแขกไม่ต่างจากสมาชิกในครอบครัวเพราะเขาถือว่าคนที่เข้ามาอาศัยในบ้านนี้ทุกคนคือคนสำคัญ ดีไซเนอร์จึงวางห้องนอนแขกไว้ติดพื้นที่สีเขียว ให้คนที่เข้ามาพักได้รับชมวิวจากสวนส่วนตัวในบ้าน บ้านหลังนี้แยกพื้นที่ครัวอย่างชัดเจนเพื่อไม่ให้เวลาประกอบอาหารส่งกลิ่นรบกวนคนที่ใช้งานส่วนอื่นของบ้าน และพื้นที่ข้าง ๆ บันไดก่อนขึ้นไปชั้นสอง ได้ออกแบบให้มีพื้นที่เก็บของขนาดย่อม สำหรับเก็บของภายในบ้านด้วย

Derposh Grand Sriracha นิยามใหม่ของความหรูหรา และการใช้ชีวิตในพื้นที่แห่งความสุข

พื้นที่ส่วนตัวของสมาชิกในบ้าน

ระหว่างที่เดินขึ้นชั้นสองของบ้าน เราจะเห็นความอลังการภายในบ้านจาก Double Volume บริเวณโถงบันไดของบ้านที่มี Chandelier ห้อยลงมา และการมีช่องเปิดที่สูงตั้งแต่ชานพักไปถึงสุดฝ้าของชั้นสอง ยิ่งทำให้บ้านดูโปร่งมากขึ้น ทั้งยังเป็นการนำแสงธรรมชาติเข้ามาภายในบ้าน ทำให้บริเวณนี้ แทบจะไม่ต้องเปิดไฟให้ความสว่างเพิ่มเติมเลย ยกเว้นแค่ตอนกลางคืน ชั้นสองจะเป็นเหมือน Private zone ของคนในบ้าน ศูนย์กลางของชั้นสองจะเป็น Living room ที่สามารถมองเห็นวิวหน้าบ้านได้จากด้านบน ชั้นสองของบ้านจะรวมห้องนอนของคนในบ้านไว้ทั้งหมด 3 ห้องที่ตกแต่งสไตล์ British โดยทุกห้องนอนจะมีห้องน้ำและ Walk in closet ภายในตัว เพื่อความสะดวกสบายของคนในบ้านและความเป็นส่วนตัวของสมาชิกในบ้าน สำหรับ Master bedroom มีบริเวณระเบียงรองรับการพักผ่อน และเพิ่มการมองเห็นพื้นที่สีเขียวบริเวณบ้านได้เช่นกัน สำหรับห้องน้ำของ Master bedroom จะมีพื้นที่สำหรับอ่างอาบน้ำ Stand alone รองรับความผ่อนคลายให้สมาชิกในบ้านได้แช่น้ำสบาย ๆ นอกจากนี้ชั้นสองยังมีห้องอเนกประสงค์สำหรับคนในบ้านได้ใช้เป็นพื้นที่ทำงานอดิเรกอีกด้วย ราวกับว่าชั้นสองนี้เป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับคนในบ้านเท่านั้น

แสดงความใส่ใจด้วยรายละเอียด

สำหรับความหรูหราที่ไม่มีเสียงของบ้านหลังนี้ที่เราอดที่จะกล่าวถึงไม่ได้คือระบบ วัสดุ อุปกรณ์ ในบ้านหลังนี้ เพราะโครงการให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกสบายในบ้าน จึงติดตั้งระบบ Smart Home ทั้ง Digital Door Lock ระบบกล้องวงจรปิด และระบบหมุนเวียนอากาศและฟอกอากาศภายในบ้านที่ทำให้บ้านเย็นขึ้นแม้ไม่เปิดแอร์ การแจ้งเตือนเมื่อเปิดปิดประตูและเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงเครื่องปรับอากาศในบ้าน โดยทั้งหมดนี้เจ้าของบ้านสามารถสั่งการได้จาก Smartphone เเค่เครื่องเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ยังให้ความใส่ใจเรื่องอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้าน ที่ต้องมีมาตรฐาน แข็งแรง คงทน แต่ขณะเดียวกันรูปลักษณ์ต้องดูสวยงามไม่ตกยุค

“ โดยส่วนตัวแล้วการเลือกวัสดุทุกชิ้นในการทำบ้านหนึ่งหลังล้วนแต่สำคัญทั้งสิ้นค่ะ โดยเฉพาะประตู หน้าต่างอะลูมิเนียม หลักๆ จะมีอยู่ 3 ปัจจัยค่ะ คุณภาพ ดีไซน์ และการใช้งาน ” คุณแนน บุญยนุช ศรขจร เจ้าของโครงการพูดถึงเกณฑ์ในการเลือกวัสดุมาใช้ในโครงการ

Derposh Grand Sriracha นิยามใหม่ของความหรูหรา และการใช้ชีวิตในพื้นที่แห่งความสุข

Derposh Grand Sriracha มองว่าการใช้อะลูมิเนียมตัดประกอบแม้ต้นทุนจะต่ำแต่มีปัญหาการใช้งานหลายอย่าง ทางโครงการจึงเลือกใช้ประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมจาก TOSTEM ที่มีมาตรฐานการผลิต ขึ้นรูปและประกอบมาจากโรงงาน เพื่อลดปัญหาการรั่วซึมของน้ำเวลาฝนตก และลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในขั้นตอนของการติดตั้งหน้างาน แสดงให้เห็นว่าโครงการลงทุนเพื่อให้ลูกบ้านไม่ต้องเจอปัญหาจากการใช้งานประตู หน้าต่าง สำหรับอุปกรณ์ล็อกก็ใช้เป็นเดือยล็อกที่แข็งแรง คงทน ง่ายต่อการเปิด-ปิด เวลาใช้งาน และเมื่อบานประตูหน้าต่างปิดสนิท จะเป็นการลดเสียงต่าง ๆ จากภายนอกบ้าน ลูกบ้านจึงรู้สึกถึงการแบ่งพื้นที่สาธารณะ และพื้นที่ส่วนตัวอย่างชัดเจน

ที่สำคัญคือเรื่องดีไซน์ที่ตอบโจทย์กับบ้านแนว British Japanese ด้วยรูปแบบ Slim version ที่ทำให้บ้านดูมินิมอล ไม่รบกวนทัศนียภาพการมองเห็นของคนภายในบ้าน การที่บานกรอบประตูหน้าต่างมีลักษณะบาง จะทำให้บ้านดูหรูหรามากขึ้น และสี DUSK GRAY ที่เข้ากับกระเบื้องลายหินสีเทาเข้มของตัวบ้าน ยิ่งเพิ่มความสุขุมอย่างมีระดับให้ตัวบ้านอย่างเห็นได้ชัด

“ โครงการนี้เป็นโครงการแรกที่เราเริ่มใช้สินค้า TOSTEM ค่ะ เหตุผลที่ใช้หลักๆ ก็คือ 3 ปัจจัยที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ และก็เรื่อง Branding ที่ค่อนข้างจะเป็นที่รู้จัก ได้รับการยอมรับทั้งจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์  และผู้อยู่อาศัยค่ะ นอกจากนี้ยังมีเรื่องการบริการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการให้บริการติดตั้งจากบริษัท Smart Home Plus ที่ดูแลการติดตั้งและให้บริการหลังการขายเป็นอย่างดีค่ะ ”

Derposh Grand Sriracha นิยามใหม่ของความหรูหรา และการใช้ชีวิตในพื้นที่แห่งความสุข

Derposh Grand Sriracha นิยามใหม่ของความหรูหรา และการใช้ชีวิตในพื้นที่แห่งความสุข

พื้นที่เชื่อมสัมพันธ์

นอกจากเรื่องของตัวบ้านแต่ละหลังแล้ว ทางโครงการก็ให้ความสำคัญกับ พื้นที่ส่วนกลางมากเช่นกัน เพราะปัจจุบันโครงการได้แบ่งพื้นที่จัดทำสวนสไตล์ British Japanese มากกว่า 2 ไร่ เพื่อลูกบ้านในโครงการสามารถมาออกกำลังกายบริเวณนี้ได้ พร้อมทั้งมีสนามแบดมินตัน และศาลาจิบน้ำชาสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อให้ผู้ใช้งานส่วนกลางได้สัมผัสกลิ่นอายของวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่น ทั้งนี้โครงการยังแพลน ที่จะสร้าง Clubhouse ในอนาคต เอาใจสายสุขภาพที่เพียบพร้อมไปด้วย สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ Fitness, Sauna room, Steam room, Golf simulator, Kids-corner และ Co-working space ไว้สำหรับลูกบ้านที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน โครงการตั้งใจจะให้ส่วนกลางนี้เป็นพื้นที่สาธารณะให้ลูกบ้านได้มีปฏิสัมพันธ์กัน สร้าง Community ที่ดีให้กับสังคมหมู่บ้าน

บ้านที่เรียบง่ายแต่ภายในเต็มไปด้วยรายละเอียดที่น่าสนใจอย่าง Derposh Grand Sriracha โครงการหยิบเอา Element ต่างๆ ในโครงการมาแสดงให้เห็นถึงมูลค่าผ่านพื้นที่การใช้งานของโครงการและตัวบ้าน หากใครอ่านบทความนี้แล้วรู้สึกอยากสัมผัสถึงบรรยากาศจริง สามารถแวะชมบ้านตัวอย่างได้ที่ โครงการ Derposh Grand Sriracha


หากสนใจสินค้าประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมจาก TOSTEM ที่ช่วยปกป้องบ้านจากความร้อน ทนทานต่อทุกสภาพอากาศได้ดี สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลย

Lavista Prestige Village Ekkamai สัมผัสความงามไร้กาลเวลา ผ่านดีไซน์บ้านหรูใจกลางเอกมัย

Lavista Prestige Village Ekkamai สัมผัสความงามไร้กาลเวลา ผ่านดีไซน์บ้านหรูใจกลางเอกมัย

พื้นที่ใจกลางเมืองส่วนใหญ่ในยุคนี้ มักถูกจับจองด้วยตึกสูง หรือคอนโดมิเนียม ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ Urban Living ให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ทว่ายังมีข้อจำกัดในเรื่องความเป็นส่วนตัว หากเทียบกับการมีบ้านเดี่ยวเป็นของตัวเอง ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของ Lavista Prestige Village Ekkamai บ้านเดี่ยวหรูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่มอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่หรูหราอย่างมีระดับ ผ่านความงามอันไร้กาลเวลาของสถาปัตยกรรม บนทำเลทองใจกลางเอกมัย

Lavista Prestige Village Ekkamai สัมผัสความงามไร้กาลเวลา ผ่านดีไซน์บ้านหรูใจกลางเอกมัย

นิยามใหม่แห่งการอยู่อาศัยภายใต้แนวคิด Prestige Community

Lavista Prestige Village Ekkamai เป็นบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury ที่ถูกพัฒนาโดย SPJ LAND ด้วยแนวคิด Prestige Community การมอบความสงบและความเป็นส่วนตัวสูงสุดให้กับผู้อยู่อาศัย ท่ามกลางสังคมคุณภาพที่มีเพียง 7 ครอบครัวเท่านั้น โครงการแห่งนี้ตั้งบนทำเลย่านเอกมัย 10 ที่รายล้อมด้วยแหล่งแฮงค์เอาท์ตลอด 24 ชั่วโมง และสถานที่อำนวยความสะดวกชื่อดังมากมาย เช่น ห้างสรรพสินค้า Gateway เอกมัย, Donki mall ทองหล่อ, โรงเรียนนานาชาติเอกมัย, โรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep และ โรงพยาบาลสุขุมวิท เป็นต้น ที่สำคัญยังสามารถเดินทางเชื่อมต่อทุกจุดหมายอย่างสะดวกสบาย ด้วยรถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัย-ทองหล่อ และทางพิเศษฉลองรัช

ถ่ายทอดเอกลักษณ์ความงาม ผ่านดีไซน์ Classic Contemporary

ภายนอกของอาคารถูกออกแบบด้วยรูปลักษณ์สไตล์ Classic Contemporary เป็นการนำความทันสมัยและความคลาสสิกมาผสานกันอย่างลงตัว โดยใช้เส้นตรงแนวตั้ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความทันสมัย ในการออกแบบตัวกรอบอาคาร ลวดลายฟาซาดด้านหน้าอาคาร และผนังครีบบังแดด 

สำหรับที่โครงการนี้ ดีไซน์จากเส้นตรงแนวตั้งยังทำหน้าที่บ่งบอกถึงความมั่นคงและความเพรียวสูงของตัวอาคาร ทำให้บ้านดูสง่างามและมีภูมิฐานมากขึ้น ซึ่งสังเกตได้จากการแบ่งจังหวะช่องเปิดของประตู-หน้าต่างอย่างเป็นระเบียบ แต่แฝงลูกเล่นให้ดูไม่น่าเบื่อ โดยการเลือกขนาดช่องเปิดและดีไซน์บานกรอบที่แตกต่างกันในแต่ละชุด 

นอกจากนี้ผนังโทนสีเขียวเข้มอมเทา ที่ใช้บริเวณส่วนกลางภายนอกอาคาร ยังเป็นจุดดึงดูดสายตาที่ทำให้แบบบ้าน Lavista Prestige Village Ekkamai มีเอกลักษณ์โดดเด่น ดูหรูหราอย่างมีระดับ และสร้างภาพจำอันน่าประทับใจแก่ผู้มาเยือน 

Lavista Prestige Village Ekkamai สัมผัสความงามไร้กาลเวลา ผ่านดีไซน์บ้านหรูใจกลางเอกมัย

ออกแบบฟังก์ชันให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

จุดเด่นของฟังก์ชันสำหรับที่นี่คือ พื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 4 ชั้น ถูกออกแบบให้มีขนาดกว้างขวาง และรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัยตามลำดับชั้น โดยมีจุดเด่นคือบริเวณชั้น 2 ที่รวบรวมห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร, ครัว Pantry และพื้นที่อเนกประสงค์ ไว้ในพื้นที่เดียวกัน ทำให้สามารถใช้พื้นที่สำหรับทำกิจกรรมได้อย่างต่อเนื่อง เต็มที่ทั้งชั้น ไม่มีสะดุด แต่ในขณะเดียวกันก็มีการแบ่งสัดส่วนแต่ละฟังก์ชันอย่างลงตัว มาพร้อมช่องเปิดประตู-หน้าต่างในตำแหน่งที่เหมาะสมรอบด้าน ที่เปิดรับแสงและลมธรรมชาติอย่างโปร่งโล่ง และสามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียงด้านนอก ทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูสดชื่นขึ้นหลายเท่าตัว 

เช่นเดียวกันกับห้องนอน Master Bedroom ขนาดใหญ่ในชั้น 3 และห้องทำงาน ห้องนอนอื่นๆ ในชั้น 4 ที่มีการวางตำแหน่งและชนิดบานเปิดของหน้าต่าง ที่พอดีกับบรรยากาศการพักผ่อนอันเงียบสงบ สบาย และเป็นส่วนตัว ทั้งยังส่งเสริมกับรูปลักษณ์ภายนอกอาคารอีกด้วย

The Finest Legacy เพิ่มมูลค่าให้กับบ้าน ด้วยการคัดสรรวัสดุคุณภาพสูง

Lavista Prestige Village Ekkamai ไม่ได้ถูกออกแบบเพื่อการใช้ชีวิตในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังเป็นมรดกล้ำค่าที่ส่งต่อรุ่นสู่รุ่นในอนาคต ดังนั้นทุกองค์ประกอบของบ้านจึงถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน มีการคัดสรรวัสดุคุณภาพสูง เพื่อให้บ้านอยู่คู่กับการเติบโตของครอบครัวได้อย่างยาวนาน เป็น Timeless Aesthetic หรือความงามไร้กาลเวลา ด้วยเหตุนี้โครงการจึงได้มอบความไว้ใจในการเลือกใช้ประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมจาก TOSTEM ให้เป็นส่วนหนึ่งของบ้านหรูระดับ Super Luxury แห่งนี้

ด้วยดีไซน์ของประตู-หน้าต่าง รุ่น WE70 สี Autumn Brown ที่เข้ากันได้ดีกับผนังสีขาวครีม และผนังสีเขียวเข้มอมเทา ทำให้ภาพรวมทั้งภายในและภายนอกของบ้าน ดูกลมกลืน ส่งเสริมกันอย่างนุ่มนวลและมีมิติ เป็น Mood and Tone ที่ทันสมัยและคลาสสิกในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญสีของบานกรอบอะลูมิเนียม ยังถูกผลิตด้วยกระบวนการทำสีอะโนไดซ์ (Anodized) ซึ่งเป็นการนำอะลูมิเนียมไปชุบสีด้วยประจุไฟฟ้า จนเกิดเป็นชั้นฟิล์มอะลูมิเนียมออกไซด์ พร้อมเคลือบอีกชั้นด้วย TEXGUARD ทำให้สีติดทนนานกว่าการทำสีทั่วไป ไม่ผุกร่อน ไม่หลุดร่อน หรือซีดจาง ตอบโจทย์กับคอนเซ็ปต์ความงามไร้กาลเวลาของโครงการได้ดี 

นอกจากนี้ประตู-หน้าต่าง TOSTEM รุ่น WE70 ยังมาพร้อมคุณสมบัติเด่น ที่มีระบบป้องกันน้ำรั่วประสิทธิภาพสูง มาพร้อมวาล์วระบายน้ำบริเวณโปรไฟล์กรอบล่าง ทำให้น้ำไม่ไหลซึมเข้าสู่ตัวบ้าน ทั้งยังต้านทานต่อแรงดันลมได้ดี จึงเหมาะกับสภาพอากาศในเมืองไทย ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งปีอย่างมาก และด้วยคุณสมบัติบานกรอบที่มีความแข็งแรง ทนทาน สามารถปิดได้อย่างแน่นหนา จึงมีส่วนช่วยในการลดเสียงรบกวนจากภายนอก ทำให้การอยู่อาศัยภายในบ้านมีความเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง

Lavista Prestige Village Ekkamai สัมผัสความงามไร้กาลเวลา ผ่านดีไซน์บ้านหรูใจกลางเอกมัย

หากใครที่สนใจโครงการ Lavista Prestige Village Ekkamai บ้านหรูระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ใจกลางเอกมัย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.spj-land.com/project/lavista/ 


หากสนใจสินค้าประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมจาก TOSTEM ที่ช่วยปกป้องบ้านจากความร้อน ทนทานต่อทุกสภาพอากาศได้ดี สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลย

5 เหตุผลที่ทำให้ Double Volume Space เป็นที่นิยมในบ้านยุคใหม่

5 เหตุผลที่ทำให้ Double Volume Space เป็นที่นิยมในบ้านยุคใหม่

เมื่อกล่าวถึงเอกลักษณ์ของบ้านโมเดิร์นในปัจจุบัน นอกจากหน้าตาอาคารที่เน้นความเรียบหรู มินิมอลแล้ว โถง Double Volume Space ถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบของพื้นที่ภายใน ที่ผู้คนเริ่มให้ความสนใจกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม หรืออาคารสูงอื่นๆ วันนี้เราขอพาทุกคนมาไขข้อสงสัยกันว่า โถงนี้มีข้อดีอย่างไร… ทำไมจึงเป็นที่นิยมในบ้านยุคใหม่กัน?

5 เหตุผลที่ทำให้ Double Volume Space เป็นที่นิยมในบ้านยุคใหม่

01 เพิ่มถ่ายเทอากาศอย่างปลอดโปร่ง

หากเราสังเกตเรือนไทยในสมัยก่อน จะเห็นว่าส่วนใหญ่แล้วโครงสร้างของเรือนไทย มักทำเป็นหลังคาจั่วสูงและไม่ปิดฝ้า ซึ่งเป็นสาเหตุมาจากหลักการถ่ายเทอากาศ เพราะโดยทั่วไปแล้วความร้อนจะลอยตัวขึ้นด้านบน แต่ความเย็นจะลอยตัวต่ำอยู่ด้านล่าง ดังนั้นจึงต้องมีพื้นที่ว่างใต้หลังคาให้ความร้อนลอยตัวขึ้น และระบายออกตามช่องว่างของหลังคาได้อย่างสะดวก แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป บ้านส่วนใหญ่ก็เปลี่ยนมาปิดฝ้าเพดานมากขึ้น เนื่องจากตอบโจทย์กับรูปลักษณ์ และความสวยงามของสไตล์โมเดิร์น รวมถึงสามารถซ่อนงานระบบต่างๆ ได้เป็นระเบียบเรียบร้อย ส่งผลทำให้มีการสะสมความร้อนภายในตัวบ้านมากขึ้นตาม

5 เหตุผลที่ทำให้ Double Volume Space เป็นที่นิยมในบ้านยุคใหม่

การออกแบบ Double Volume Space จึงเป็นตัวช่วยสำคัญ ที่ทำให้อากาศถ่ายเทได้อย่างปลอดโปร่ง ด้วยความสูงของผนังจากพื้นถึงฝ้าที่เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว (ประมาณ 4-5 เมตร) จึงทำให้มีพื้นที่ให้ความร้อนได้ลอยตัวสูงขึ้น และหากต้องการหมุนเวียนอากาศให้ถ่ายเทอย่างต่อเนื่อง ควรมีการออกแบบช่องหน้าต่างหลายด้าน ทั้งส่วนด้านล่างและด้านบนของผนัง Double Volume Space เพื่อให้ความร้อนที่ลอยตัวสูง ได้ระบายออกไปข้างนอก พร้อมกับเปิดรับลมเย็นเข้ามาแทน

5 เหตุผลที่ทำให้ Double Volume Space เป็นที่นิยมในบ้านยุคใหม่

02 สร้างความโปร่งโล่งภายในพื้นที่จำกัด

หลายคนมักเข้าใจว่าบ้านที่โปร่งโล่ง จะต้องมีขนาดกว้างขวาง แต่ในความจริงแล้วอาจไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป เพราะความสูงของฝ้าเพดาน ประกอบกับการได้รับแสงธรรมชาติอย่างทั่วถึง เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสร้างความโปร่งโล่งได้ แม้มีขนาดพื้นที่จำกัด  ดังนั้นเราจึงเห็นว่าพื้นที่ Double Volume Space มักมาพร้อมกับการติดตั้งหน้าต่างบานกระจกต่อกันทั้งผนัง โดยอาจจะติดตั้งบานที่สามารถเปิดระบายอากาศได้ ทั้งชุดด้านบนและด้านล่าง หรือจะติดตั้งหน้าต่างชุดด้านบนเป็นบานปิดตาย เพื่อทำหน้าที่เป็นช่องแสงก็ได้

นอกจากแสงธรรมชาติจะช่วยสร้างบรรยากาศโปร่ง โล่ง สบายแล้ว ยังช่วยประหยัดพลังงานการเปิดไฟส่องสว่างในช่วงเวลากลางวันอีกด้วย แต่สำหรับใครที่กังวลว่าความร้อนจากแสงแดด จะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนัก ก็สามารถเลือกใช้ชนิดกระจกที่ช่วยปกป้องความร้อน และเลือกใช้บานกรอบหน้าต่างคุณภาพสูง ที่มีตัวล็อกแน่นหนา ทำให้สามารถปิดหน้าต่างได้สนิท และป้องกันอากาศรั่วไหลได้ดี เพียงเท่านี้ก็จะสามารถประหยัดการใช้พลังงาน จากไฟส่องสว่างและเครื่องปรับอากาศได้พร้อมๆ กัน

03 ช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้กับบ้าน

ด้วยลักษณะของโถงที่มีความโอ่อ่า หรูหราในตัว ทำให้ Double Volume Space ถูกนำมาใช้กับพื้นที่สำคัญ เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร หรือโถงต้อนรับ ที่เป็นเหมือนพระเอกของบ้าน และมีการเสริมองค์ประกอบที่ทำให้บ้านมีเอกลักษณ์ บ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์เจ้าของบ้านยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟระย้า (Chandelier) หลากหลายรูปแบบ, การกรุผนังด้วยวัสดุพิเศษ หรือบานกรอบประตู-หน้าต่าง ที่มีสีสันและลวดลายผิวสัมผัสของวัสดุสวยงาม เข้ากับสไตล์ของบ้าน ซึ่งเราสามารถเลือกสีบานกรอบ ที่มีโทนสว่าง กลมกลืนไปกับสีของผนัง เพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูเบา สบาย หรือจะเลือกสีโทนเข้ม ตัดกับผนัง เพื่อเน้นดีไซน์ของหน้าต่าง รวมถึงเสริมหน้าตาภายนอกของบ้านให้ดูโดดเด่นขึ้นก็ได้

04 เชื่อมต่อความรู้สึกคนในบ้านผ่านการมองเห็น

นอกจากการจัดแปลนแบบ Open Space ที่เชื่อมต่อพื้นที่ฟังก์ชันในแนวนอนแล้ว ยังมี Double Volume Space ที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อในแนวตั้งอีกเช่นกัน ซึ่งมีข้อดีคือ ทำให้คนในบ้านรู้สึกเชื่อมต่อกันได้ แม้ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เดียวกัน หรือทำกิจกรรมร่วมกัน โดยเราสามารถออกแบบพื้นที่ชั้นบนให้เป็นระเบียงทางเดิน หรือพื้นที่นั่งเล่น ที่เปิดโล่ง เชื่อมต่อกับพื้นที่ชั้นล่างอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของการมองเห็น การใช้งาน และการไหลเวียนอากาศ หรือจะออกแบบให้เป็นห้องนอน หรือห้องทำงาน ที่ถูกกั้นด้วยบานหน้าต่างกระจก เพื่อรักษาความส่วนตัว แต่ยังสามารถมองเห็นโถงด้านล่างได้ ซึ่งนอกจากจะส่งผลในเรื่อง การเชื่อมต่อความรู้สึกแล้ว ยังทำให้คนในบ้านสามารถมองเห็นได้ เมื่อมีแขกมาเยือน หรือหากมีผู้บุกรุกเข้ามาในบ้าน

5 เหตุผลที่ทำให้ Double Volume Space เป็นที่นิยมในบ้านยุคใหม่

5 เหตุผลที่ทำให้ Double Volume Space เป็นที่นิยมในบ้านยุคใหม่

05 เปิดมุมมองทิวทัศน์ธรรมชาติรอบบ้านให้กว้างขึ้น

โถง Double Volume Space ไม่แค่เพียงการเชื่อมต่อการมองเห็นภายในบ้านเท่านั้น แต่ยังช่วยเปิดมุมมองทิวทัศน์ให้กว้างขึ้น ทำให้สามารถมองเห็นทัศนียภาพสวนของเรา บริบทรอบข้างบ้าน และท้องฟ้าสดใสได้อย่างเต็มที่ ซึ่งการที่มีทัศนียภาพที่ดี จะส่งผลทำให้บรรยากาศบ้านของเราดูมีชีวิตชีวา ผู้อยู่อาศัยรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ รวมถึงยังเป็นการเสริมให้บ้านดูหรูหราได้อีกทางหนึ่ง อย่างบ้านหรืออาคารในเมือง ที่มีทัศนียภาพพาโนรามาของตึกรอบๆ

เมื่อเปิดรับธรรมชาติแล้ว ในขณะเดียวกันก็ควรมีการป้องกันจากความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติเช่นกัน โดยเฉพาะวันที่ฝนตก ฟ้าร้อง หรือพายุเข้า ดังนั้นบานประตู-หน้าต่างจึงต้องมีกลไกที่ช่วยรับมือได้ทุกสภาพอากาศ อย่างผลิตภัณฑ์ของ TOSTEM ที่มีความแข็งแรง ทนทาน สามารถต้านแรงลมได้สูงถึง 2,000 Pascal ตอบโจทย์ทั้งบ้านและอาคารสูง มาพร้อมกับกลไกป้องกันน้ำฝนในโปรไฟล์กรอบล่างหลายชั้น และมีวาล์วระบายน้ำ ที่ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำที่เอ่อล้นไหลย้อนกลับเข้ามาภายในบ้าน

5 เหตุผลที่ทำให้ Double Volume Space เป็นที่นิยมในบ้านยุคใหม่

ที่สำคัญบานประตู-หน้าต่างของ TOSTEM ยังสามารถสั่งทำขนาดพิเศษ ที่มีความสูงถึง 3 เมตร ต่างจากปกติที่สูงเพียง 2 เมตรเท่านั้น เพื่อตอบโจทย์กับดีไซน์ Double Volume Space ของบ้านและอาคารสูง โดยยังคงประสิทธิภาพความทนทานในทุกๆ ด้าน ตามมาตรฐาน JIS หรือ Japanese Industrial Standards ควบคู่กับมาตรฐาน ASTM จากสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับการยอมรับในแวดวงอุตสาหกรรมระดับโลก และได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานมาอย่างยาวนานกว่า 100 ปี

5 เหตุผลที่ทำให้ Double Volume Space เป็นที่นิยมในบ้านยุคใหม่


หากสนใจสินค้าประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมจาก TOSTEM ที่ช่วยปกป้องบ้านจากความร้อน ทนทานต่อทุกสภาพอากาศได้ดี สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลย