fbpx

Author Archives: GRANTScreativeWe40

รู้จัก Casement Window – หน้าต่างบานเปิด ข้อดี และการเลือกสรรเพื่อใช้งาน

รู้จัก Casement Window – หน้าต่างบานเปิด ข้อดี และการเลือกสรรเพื่อใช้งาน

รู้หรือไม่ว่า หน้าต่างบานเปิดตามบ้านอย่างที่เราคุ้นเคยกัน มีชื่ออย่างเป็นทางการในภาษาอังกฤษว่า Casement Window และหน้าต่างแบบนี้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากทั้งบ้านในเมืองไทยและในต่างประเทศ นั่นก็เพราะความสะดวกในการใช้งานและการดูแลรักษา จากฟังก์ชั่นการใช้งานที่สะดวกสบาย หน้าต่างบานเปิดเช่นนี้สามารถปรับให้เข้ากับรูปลักษณ์และดีไซน์ได้ในทุกสไตล์ ตั้งแต่งานแบบคลาสสิกกับเส้นสายสวยงาม ไปจนถึงงานออกแบบเรียบง่าย ที่ใช้เส้นเรียบนิ่งของกรอบบานเป็นส่วนหนึ่งของงานสถาปัตยกรรม  หน้าต่างบานเปิดเดี่ยว Single Casement Windows

รูปแบบของหน้าต่างแบบบานเปิดที่ง่ายที่สุด สามารถประยุกต์งานดีไซน์ได้หลากหลายตามความต้องการใช้งาน ทั้งในเรื่องขนาดของกรอบบานและระยะที่ติดตั้งบนผนัง ตั้งแต่บานเปิดขนาดมาตรฐานในระดับสายตา บานเปิดแบบแคบสูงจากระดับพื้น หรือจะใช้ประกอบร่วมกับบานหน้าต่างแบบฟิกซ์ เพื่อสร้างดีไซน์สวยงามและดึงดูดสายตา  หน้าต่างบานเปิดคู่ Double Casement Windows

หน้าต่างบานเปิดอีกรูปแบบที่ได้รับความนิยมอย่างมากนั่นคือ หน้าต่างบานเปิดคู่ ไม่ว่าจะเป็นแบบเปิดออกจากตรงกลาง หรือเปิดไปทางเดียวกัน นั่นเพราะสามารถเปิดรับลมและอากาศดีได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไอเดียในการใช้หน้าต่างบานเปิดคู่หลากหลาย ทั้งขนาดเท่ากันแบบที่ชินตา หรือจะเป็นต่างขนาดกัน โดยควรคำนึงถึงสัดส่วนที่ดูพอดีกัน เช่นบานใหญ่ควรมีขนาดเป็นสองเท่าพอดีของบานเล็ก เพื่อความสวยงามในแง่องค์ประกอบศิลป์  หน้าต่างบานลูกฟัก Multi Pane Casement Window

ความสนุกอีกอย่างของการเล่นกับหน้าต่างบานเปิดนั่นก็คือ หน้าบานที่สามารถดีไซน์ได้ตามต้องการ และหนึ่งในแบบที่นิยมกันมากนั่นคือ การใช้เหล็กลูกฟักคาดตรงกลางบานให้สมมาตรกัน เพราะเส้นสายช่วยดึงคาแร็กเตอร์ของบ้านและงานสถาปัตยกรรมให้ออกมาได้อย่างชัดเจน  หน้าต่างบานเปิดเดี่ยวแบบแคบ Narrow Single Casement Window

สำหรับพื้นที่ทางเดิน ห้องน้ำ หรือพื้นที่ในซอกแคบที่ต้องการแสงสว่างส่องถึงและการระบายอากาศ สามารถติดตั้งกรอบบานหน้าต่างบานเดี่ยวแบบแคบได้เช่นกัน เพื่อให้พื้นที่แคบหรือมุมอับ ดูปลอดโปร่งและมีมิติมากขึ้น โดยกรอบบานแบบนี้สามารถใช้ร่วมกันกับมู่ลี่แบบดึง สำหรับกรองแสงสว่างและความร้อนส่วนเกินในบางช่วงเวลาของวัน เพราะสามารถเก็บมู่ลี่ได้ทั้งหมดเหนือกรอบวงกบของหน้าต่าง โดยไม่บดบังการใช้งานบานหน้าต่างในเวลาปกติ  หน้าต่างบานเปิดและมุ้งลวด Casement Window With Wire Screen

แน่นอนว่าหน้าต่างบานเปิดในบ้านเมืองไทยย่อมมาพร้อมกับมุ้งลวด เพราะสามารถป้องกันฝุ่นแมลงเข้าสู่ตัวบ้าน โดยยังคงสามารถเปิดหน้าต่างเพื่อต้อนรับแดด ลม พร้อมกับระบายอากาศเพื่อให้บ้านปลอดโปร่ง ถูกสุขลักษณะ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับการอยู่อาศัย

หน้าต่างกว้าง กับการเปิดรับธรรมชาติอย่างสมดุล

หน้าต่างกว้าง กับการเปิดรับธรรมชาติอย่างสมดุล

หน้าต่างคือองค์ประกอบของบ้านที่สำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นๆ เพราะหน้าต่างไม่ใช่แค่ช่องเปิด-ปิดสำหรับแสงแดดและลมเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจของผู้อยู่อาศัยภายในบ้านอีกด้วย โดยเฉพาะหน้าต่างบานกว้าง ซึ่งมีข้อดีหลายอย่างที่ไม่ควรมองข้ามไป เพราะยิ่งบานกว้างมาก ก็ยิ่งเปิดรับธรรมชาติ ซึ่งส่งผลต่อสมดุลของอากาศและสุขภาวะของผู้อยู่อาศัยได้มากขึ้นไปด้วย Tostem จึงรวบรวม 3 ข้อดีของหน้าต่างบานกว้างมาให้ เผื่อเป็นไอเดียให้ผู้ที่กำลังออกแบบบ้านเอาไปปรับใช้และให้ความสำคัญกับหน้าต่างมากขึ้น ไปดูกันเลย!

หน้าต่างกว้างช่วยลดมลพิษในบ้าน

สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกา (Environmental Protection Agency -EPA) ระบุว่า มวลอากาศภายในบ้านหรืออาคารสำนักงานอาจมีมลพิษที่เกิดจากกิจกรรมของผู้อยู่อาศัย เช่น การสูบบุหรี่ การทำอาหาร รวมถึงเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ และคงไม่ดีนักหากเราปล่อยให้มลภาวะอัดแน่นกันอยู่ด้านในเป็นเวลานาน การเปิดหน้าต่างกว้างๆ วันละ 15-30 นาที และพักเว้นการใช้เครื่องปรับอากาศ จึงเป็นวิธีสำคัญในการระบายอากาศภายในให้ไหลออกและหมุนเอาอากาศภายนอกเข้าไปแทนที่ ช่วยสร้างสมดุล ระบายความร้อนอบอ้าว และยังดีต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยในระยะยาวอีกด้วย  

หน้าต่างกว้างช่วยลดเชื้อโรคจากความชื้น

หน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่เปิดรับแสงให้เข้าไปในบ้านได้มาก จะช่วยสร้างบรรยากาศที่โปร่งโล่งได้มากขึ้น เพราะบ้านที่ไม่ได้รับแสงอย่างเต็มที่จะมีปัญหาเรื่องความชื้น ซึ่งเป็นที่มาของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราตามพื้น ผนัง หรือเนื้อผ้าของเฟอร์นิเจอร์และเครื่องนอน อาจก่อให้เกิดโรคไม่พึงประสงค์ อย่างโรคทางเดินหายใจ รวมไปถึงสุขอนามัยอื่นๆ ดังนั้น เราควรเลือกหน้าต่างบานกว้างที่เป็นกระจกซึ่งปล่อยให้แสงส่องผ่านเข้าไปในตัวบ้าน ที่ช่วยไล่ไอชื้นบ่อเกิดของเชื้อโรค เพื่อสุขอนามัยที่ดีในระยะยาวของทุกคนในครอบครัว  

หน้าต่างกว้างสร้างสุนทรียะให้ชีวิต

ธรรมชาติภายนอกบ้านเป็นอีกหนึ่งความพิเศษที่เราจะได้สัมผัสหากมีหน้าต่างบานกว้าง เหมือนกรอบรูปบานใหญ่ที่มีวิวข้างนอกเป็นเรื่องราวภายในรูป เช่นการชื่นชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกดุจภาพวาดที่มีชีวิต หรือจะลองเปิดหน้าต่างออก เพื่อฟังเสียงโลกภายนอก สัมผัสบรรยากาศที่ต่างออกไปจากในบ้านก็ได้ อย่าลืมเติมเต็มสุนทรียะด้วยวิวธรรมชาติที่หาได้ง่ายๆ เพียงแค่ใช้หน้าต่างบานกว้างที่สามารถรับวิวแบบเต็มๆ ได้ทุกวัน  

ออกแบบห้องนอนอย่างไร ให้หลับสบายยันเช้า

ออกแบบห้องนอนอย่างไร ให้หลับสบายยันเช้า

การนอนหลับเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด เราต้องนอนอย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้มีเวลาปรับสมดุลและเริ่มต้นวันใหม่ได้อย่างสดชื่น แต่หากการนอนหลับถูกรบกวนอยู่บ่อยครั้ง ประสิทธิภาพในการนอนก็จะถูกลดทอนลงไป ทำให้หลับไม่อิ่ม ไม่สดชื่น และง่วงงุนไปทั้งวัน ปัญหาการนอนหลับเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความเครียดสะสม การพักผ่อนไม่เป็นเวลาจนระบบการทำงานของร่างกายผิดปกติ ความไวต่อแสง และเสียงรบกวนที่อาจทำให้สะดุ้งตื่น หรือบรรยากาศในห้องนอนไม่เหมาะสม แต่หากเราลองออกแบบและจัดสภาพแวดล้อมในห้องใหม่ ก็จะช่วยให้หลับสนิทและมีประสิทธิภาพได้ไม่ยาก มาดู 4 เคล็ดลับในการออกแบบห้องนอนให้หลับสบายยันเช้าที่ทอสเท็ม Tostem นำมาฝากกัน

กำจัดเสียงรบกวน

เสียงรบกวน ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงที่เรากำลังนอนหลับ ไม่ว่าจะเป็นเสียงเสียงโทรศัพท์ เสียงปิด-เปิดประตู หรือเสียงรบกวนจากภายนอกก็ทำให้รำคาญและสะดุ้งตื่นได้ง่ายสำหรับคนที่ไวต่อเสียง สำหรับเสียงรบกวนภายนอก สามารถแก้ไขได้โดยการเลือกใช้ประตูและหน้าต่างห้องนอนที่ปิดสนิท ซึ่งจะช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก และยังป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กหลุดลอดเข้ามาได้อีกด้วย  

จัดแสงให้เหมาะสม

แสงสว่างคืออุปสรรคของการนอนหลับ ดังนั้นเราควรทำให้ห้องมีแสงสว่างน้อยที่สุด แม้แต่แสงจากจอโทรศัพท์ก็ไม่ควรมี หลอดไฟในห้องนอนก็ไม่ควรเป็นหลอดไฟที่ให้แสงสว่างจ้ามากเกินไป แต่ควรเป็นหลอดไฟที่ให้แสงโทนอุ่นๆ ที่ทำให้รู้สึกสบายและผ่อนคลาย และไม่ควรเป็นแสงที่ส่องมาจากหลอดไฟโดยตรง อาจจะเป็นโคมไฟที่คลุมผ้า ซ่อนในผนัง หรืออาจเลือกใช้โคมไฟที่มีแสงสลัวๆ แทนก็ได้เช่นกัน  

อุณหภูมิภายในห้องต้องพอดี

อุณหภูมิที่ดีต่อการนอนหลับคือ “ไม่ร้อน ไม่หนาวเย็นจนเกินไป” หรือสำหรับร่างกายมนุษย์ก็คือ ประมาณ 25-27 องศาเซลเซียส โชคดีที่เราสามารถควบคุมอุณหภูมิได้ง่ายขึ้นด้วยเครื่องปรับอากาศที่เลือกระดับความเย็นได้ตามต้องการ แต่สิ่งสำคัญคือ ไม่ควรติดตั้งเครื่องปรับอากาศเหนือหัวเตียงหรือปลายเตียง เพราะจะทำให้ลมเย็นที่ออกมาลงตัวเราตรงๆ ควรติดตั้งในส่วนด้านข้างของเตียงขยับเยื้องไปทางปลายเตียงเล็กน้อย เพื่อลดการปะทะกับลมเย็นจากแอร์โดยตรง ซึ่งอาจรบกวนการนอนของเราได้  

สร้างกลิ่นที่ผ่อนคลาย

กลิ่นหอมจะช่วยให้เรานอนหลับได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลิ่นหอมแบบอโรมาเธอราปีจากน้ำมันหอมระเหย ซึ่งไม่ได้แค่ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีผลต่ออารมณ์ ช่วยเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ บรรเทาความเครียด เช่น กลิ่นลาเวนเดอร์ กลิ่นส้ม กลิ่นคาโมมายล์ ฯลฯ ควรเลือกใช้กลิ่นที่ชอบและทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย จะช่วยให้นอนหลับได้ง่ายและเต็มอิ่มมากขึ้น

แม้ไม่อยู่บ้านก็ยังมีบ้านที่ระบายอากาศได้อย่างปลอดภัยด้วย Ventilation Door

แม้ไม่อยู่บ้านก็ยังมีบ้านที่ระบายอากาศได้อย่างปลอดภัยด้วย Ventilation Door

หนึ่งในปัญหาเกี่ยวกับบ้านที่หลายคนต้องเผชิญเมื่อไม่อยู่บ้าน และต้องปิดประตูหน้าต่างให้แน่นหนาเพื่อป้องกันอันตรายต่าง ๆ ทั้งจากคนหรือจากสัตว์    ก็คือเรื่องอากาศที่ถ่ายเทไม่สะดวกภายในบ้านทำให้เกิดความร้อนสะสมและเกิดกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ต่าง ๆ ภายในบ้าน  ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยต่างกลุ้มอกกลุ้มใจไปตาม ๆ กัน TOSTEM  เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เล็งเห็นปัญหานี้จึงได้ออกแบบ Ventilation Door หรือประตูระบายอากาศ  ที่ออกแบบมาเพื่อการระบายอากาศที่ดีภายในบ้าน  สามารถเลือกเปิดให้เกิดช่องระบายอากาศได้หลายระดับ ในขณะที่ประตูนั้นปิดล็อคอยู่  เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกมั่นใจได้ว่าแม้ไม่อยู่บ้านก็ยังมีบ้านที่สามารถระบายอากาศได้ อย่างปลอดภัย

อากาศภายในบ้านถ่ายเทได้สะดวก

Ventilation Door มีการออกแบบให้มีบานประตูแบบบานเปิดและบานเลื่อนเอาไว้ในประตูบานเดียว เมื่อล็อคประตูก่อนออกจากบ้านเราสามารถเปิดบานเลื่อนไว้ได้ตลอด  เพื่อช่วยให้มีการหมุนเวียนของอากาศโดยถ่ายเทอากาศเย็นเข้าสู่ภายใน และระบายอากาศร้อนสู่ภายนอก  ไม่ทำให้บ้านร้อนอบอ้าวแม้แต่เวลาที่ไม่มีใครอยู่บ้านก็ตาม  

ช่วยระบายกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ภายในบ้าน

Ventilation Door นอกจากจะช่วยระบายอากาศได้ดีแล้วยังสามารถช่วยระบายกลิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์ต่าง ๆ ภายในบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็น กลิ่นอาหาร กลิ่นสัตว์เลี้ยง หรือกลิ่นอับภายในบ้านก็ตาม  โดยการเปิดบานเลื่อนเพื่อระบายกลิ่นภายในออกสู่ภายนอกไม่ให้ภายในบ้านมีกลิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์คงค้างอยู่แม้เราจะปิดบ้านแล้วก็ตาม  

ป้องกันอันตรายจากแมลงและมลพิษต่างๆ

การออกแบบ Ventilation Door  นอกจากจะมีบานเลื่อนกระจกอยู่ด้านในสุดแล้วยังมีการซ้อนชั้นด้วยบานมุ้งลวดตรงกลางตามด้วยแผงระแนงอยู่ด้านนอก  เพื่อให้บานมุ้งลวดและระแนงเป็นตัวป้องกันแมลง  สัตว์มีพิษ  ฝุ่น  หรือมลพิษทางอากาศอย่าง PM 2.5  ไม่ให้เข้ามารบกวนผู้อยู่อาศัยภายในบ้านแม้จะเปิดบานเลื่อนกระจกไว้ก็ตาม  

ระบายอากาศด้วยบานสไลด์ได้ 3 ระดับ

Ventilation Door ถูกออกแบบมาเพื่อให้ระบายอากาศได้ด้วยตัวหน้าบานที่อยู่ด้านในสุดจะเป็นบานเลื่อนแบบกระจกที่สามารถสไลด์เปิดได้ 3 ระดับคือ ปิดล็อคทั้งบานเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในเวลาที่ไม่มีคนอยู่บ้าน,  เปิดเพื่อระบายอากาศเพียงเล็กน้อยด้วยการเปิดแง้มบานกระจกทั้งบนและล่าง  และสุดท้ายคือเปิดบานกระจกมารวมกันตรงกลางเพื่อเปิดทางระบายอากาศได้อย่างเต็มที่ในขณะที่ประตูปิดล็อคอยู่  

มีตัวล็อคที่แน่นหนาเพื่อความปลอดภัย

อีกสิ่งหนึ่งในการออกแบบที่ TOSTEM ให้ความสำคัญนั้นคือเรื่องความปลอดภัย  เพราะนอกจาก Ventilation Door จะสามารถช่วยระบายอากาศได้ดีแล้ว  ยังมีการติดตั้งบานมุ้งและลูกกรงระแนงกันขโมยเพื่อป้องกันผู้บุกรุก  นอกจากนี้ตัวล็อคบานเลื่อนยังถูกออกแบบมาให้เป็นแบบขอเกี่ยวที่ทำลายได้ยากเป็นกลไกการล็อคที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยแม้ไม่มีคนอยู่บ้านก็ตาม

PM2.5 กลับมาอีกแน่! เตรียมรับมือก่อนสายเกินแก้ด้วย 3 วิธีง่ายๆ

PM2.5 กลับมาอีกแน่! เตรียมรับมือก่อนสายเกินแก้ด้วย 3 วิธีง่ายๆ

สิ่งที่น่ากังวลในช่วงนี้ไม่ใช่แค่โรคระบาด แต่ยังมีภัยร้ายจากฝุ่น PM2.5 ที่เริ่มกลับมาอีกครั้ง โดยมีสาเหตุมาจากปัจจัยหลักๆ คือสภาพอากาศนิ่ง ลมน้อย ทำให้ฝุ่นสะสมตัวได้มาก ซึ่งเป็นฝุ่นที่มาจากการก่อสร้าง การเผาไหม้ รวมถึงการผลิตในภาคอุตสาหกรรมด้วย เจ้าฝุ่นร้ายนี้จะส่งผลต่อสุขภาพของเราหากสูดดมเข้าไปเป็นมากๆ ด้วยความที่เป็นฝุ่นขนาดเล็กประมาณ 1 ใน 25 ของเส้นผมมนุษย์ ขนจมูกของเราจึงไม่สามารถกรองได้ และเมื่อสูดเข้าไปแล้ว ฝุ่นขนาดจิ๋วก็จะสามารถแพร่กระจายสู่ทางเดินหายใจ กระแสเลือด และแทรกซึมกระบวนการทำงานของอวัยวะต่างๆ เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคหลอดเลือดในสมอง เป็นต้น ได้เวลาเตรียมรับมือกับอันตราย เพื่อป้องกันตัวเองจาก PM2.5 มาดูวิธีใช้ชีวิตทั้งในบ้านและนอกบ้านให้ปลอดภัยกันเลย!

อยู่ในบ้านที่หน้าต่างปิดสนิท

หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ชีวิตนอกบ้าน และทำให้บ้านเป็นพื้นที่ปิดสนิทที่ PM2.5 จะเล็ดลอดผ่านเข้ามาได้น้อยที่สุด อย่างการเลือกใช้บานหน้าต่าง ที่ออกแบบให้มีการเสริมยาง ซึ่งช่วยให้หน้าต่างปิดสนิทแนบแน่นครบทุกบาน และยังป้องกันอันตรายจากการถูกหน้าต่างหนีบอีกด้วย นอกจากนี้ยังควรพิจารณาเลือกบานหน้าต่างที่ให้ความสำคัญกับการผลิตที่มีคุณภาพ เพื่อป้องกันอากาศรั่วไหล จากรอยรั่วเล็กๆ ระหว่างวงกบกับหน้าบานประตูหน้าต่างที่ไม่ได้มาตรฐาน เพื่อให้บ้านของคุณปลอดภัยจากมลภาวะและ PM2.5 จนใช้ชีวิตได้อย่างไร้กังวล  

สร้างอากาศสะอาดหมุนเวียนในบ้าน

เมื่อด่านแรกของความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาสร้างอากาศภายในบ้านให้เป็นอากาศที่สะอาด และหมุนเวียนได้ดี เริ่มต้นด้วยการล้างทำความสะอาดพัดลมและเครื่องปรับอากาศทุกเครื่องภายในบ้าน เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นควรติดตั้งเครื่องฟอกอากาศที่ช่วยกรองมลพิษ หรืออาจเลี้ยงต้นไม้ฟอกอากาศ อย่างลิ้นมังกร สาวน้อยปะแป้ง หรือยางอินเดีย ก็เป็นอีกตัวช่วยเล็กๆ ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นและยังให้ความสบายตาอีกด้วย  

สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ข้างนอก

ถ้าหากมีความจำเป็นต้องใช้ชีวิตนอกบ้าน ควรเลือกสวมหน้ากากอนามัยชนิด N95 หรือถ้าหากใช้หน้ากากธรรมดาก็ควรใช้กระดาษทิชชู่ซ้อนด้านใน 2 ชั้น ซึ่งมีการทดลองแล้วว่า สามารถกรองฝุ่นได้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ และเมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วก็ควรทำความสะอาดร่างกายและเสื้อผ้าทันที เพื่อขจัด PM2.5 ที่อาจติดมากับผิวหนังและเครื่องแต่งกาย ช่วยลดการแพร่กระจายของฝุ่นสู่ตัวบ้าน เพื่อให้บ้านเป็นพื้นที่ปลอดภัยของคุณและครอบครัว

หน้าต่าง 3 แบบเพื่อการใช้ชีวิต 3 สไตล์

หน้าต่าง 3 แบบเพื่อการใช้ชีวิต 3 สไตล์

หน้าต่างถือเป็นองค์ประกอบของบ้าน หากบ้านคือหัวใจ หน้าต่างก็เปรียบเสมือนดวงตาของเรา โดยนอกจากจะมีไว้เพื่อรับแสงธรรมชาติ เปิดรับลม และช่วยระบายให้อากาศถ่ายเทหมุ่นเวียนได้สะดวกแล้ว หน้าต่างยังใช้เป็นช่องเปิดมุมออกไปรอบตัวบ้านเพื่อให้เห็นบรรยากาศหรือทิวทัศน์ภายนอกได้ และเป็นสิ่งที่ช่วยสะท้อนหน้าตาของตัวบ้านได้พอสมควร เพราะสามารถมองเห็นได้จากทั้งภายนอกบ้านและภายในบ้าน การเลือกหน้าต่างนอกจากจะเลือกให้เหมาะกับพื้นที่ใช้งานแต่ละส่วนแล้ว ต้องเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยด้วย Tostem มีหน้าต่าง 3 แบบ 3 สไตล์ที่น่าจะตรงกับการใช้ชีวิตของทุกคน ลองมาดูกันว่าหน้าต่างแบบไหนที่จะเหมาะกับคุณบ้าง

หน้าต่างบานแคบสำหรับคนชอบความเป็นส่วนตัว

หน้าต่างบานแคบยาวเหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวเป็นพิเศษ แต่ก็ยังคงต้องการเปิดรับแสงธรรมชาติจากภายนอกเข้ามาสร้างความอบอุ่นให้พื้นที่ภายใน ปัจจุบันหน้าต่างบานแคบมีให้เลือกมากมาย ทั้งแบบติดตั้งตามแนวผนังในแนวตั้งและแนวนอน ภายใต้ประโยชน์ใช้สอยยังแอบซ่อนดีไซน์แสนสวยเอาไว้ เพราะเป็นหน้าบานที่มีรูปแบบพิเศษ เหมือนกับการสร้างกรอบภาพวิวธรรมชาติภายนอกเอาไว้ภายในตัวบ้านโดยผู้อยู่อาศัยจำเป็นต้องจัดสรรพื้นที่เชื่อมต่อกับภายนอกให้ดีเพื่อให้ได้มุมมองที่ต้องการ เช่น การจัดสวนแนวตั้ง หรือเปิดวิวของท้องฟ้าโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง  

หน้าต่างบานกว้างสำหรับคนรักธรรมชาติ

หน้าต่างบานกว้าง เป็นไอเทมสำคัญของเหล่าคนรักธรรมชาติที่อยากออกแบบพื้นที่ภายในบ้านให้เชื่อมต่อกับพื้นที่ภายนอก โดยอาจเลือกใช้กระจกใสเพื่อเชื่อมต่อความสมดุลของพื้นที่ทั้งสองส่วน การเปลี่ยนผนังหรือพื้นที่ทึบตันมุมใดมุมหนึ่งของบ้านให้กระเป็นหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่ จะช่วยเพิ่มช่องแสงให้กับบ้าน สามารถเปิดรับลมและวิวทิวทัศน์ได้ดี แม้ว่าบ้านของคุณจะไม่ได้มีพื้นที่กว้างขวางมากนัก แต่เพียงแค่จัดสรรปันส่วนพื้นที่มุมใดมุมหนึ่งใกล้หน้าต่าง ให้กลายเป็นสวนเล็ก ๆ แค่นี้ก็สามารถความรื่นรมย์ให้ช่วงเวลาในการอยู่บ้านได้แล้ว  

หน้าต่างบานฟิกซ์เข้ามุม สำหรับคนอยากเปิดชมวิวแบบไร้เฟรม

สำหรับคนที่มีบ้านอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์สวยงาม อย่างริมทะเล ตามแนวป่า หรือริมเขา ก็ย่อมอยากเห็นภาพนั้นอย่างเต็มตาไร้อุปสรรคกีดขวาง แต่บ่อยครั้งที่เสา ผนัง หรือกรอบหน้าต่างตรงมุมห้องมาบดบังวิสัยทัศน์ที่สวยงามบริเวณมุมฉากสองด้านของผนัง “หน้าต่างแบบบานฟิกซ์เข้ามุม” คือไอเทมที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้ หน้าต่างกระจกใสที่ชิดชนมุมทั้งสองด้าน จะทำให้มุมผนังที่เคยปิดทึบได้เปิดออกกว้าง ผู้อยู่อาศัยจะได้รับมุมมองภายนอกอย่างเต็มที่ไม่มีอุปสรรคสายตา และยังรับแสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้านได้มากกว่าที่เคย เหมาะสำหรับคนที่กำลังต้องการสร้างรูปแบบใหม่ ๆ ให้กับผนัง และต้องการเปิดรับวิวภายนอกได้อย่างเต็มที่