ความท้าทายในการออกแบบบ้าน A+B HOUSE ไม่ใช่แค่การทำพื้นที่ให้สวยงามเพื่อให้เกิดสุนทรียะในชีวิตประจำวันของสมาชิกทุกคนในบ้าน แต่ยังต้องคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้อาศัยกว่า 10 คน เพื่อไม่ให้เกิดความอึดอัดระหว่างพักอาศัยร่วมกัน จึงเกิดเป็นคอนเซ็ปต์ในการออกแบบว่า จะต้องให้ทุกคนในบ้านรู้สึกเหมือนมีบ้านของตัวเองขณะที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ โดยมีกรอบบานประตูและหน้าต่าง TOSTEM ATIS ที่ถูกจัดวางไว้รอบบ้าน ทำหน้าที่เป็นจุดกลางของสุนทรียะและความเป็นส่วนตัว
เปิดรับแสงของเช้าวันใหม่ได้ทุกวัน เมื่อมีบานหน้าต่าง TOSTEM ATIS ที่มาพร้อมดีไซน์สุดมินิมอล พร้อมกระจกบานหนาที่มองทะลุเห็นวิวภายนอกได้ตามต้องการ ในขณะเดียวกันยังเก็บเสียง และไม่มีการรั่วซึมของละอองฝน เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวในการใช้ชีวิตของทุกคนในบ้านอย่างเต็มที่
TOSTEM ATIS ในบ้าน A+B HOUSE ทำหน้าที่อย่างดีในการรักษาพื้นที่ส่วนตัว ปลอดภัยระหว่างใช้งาน และที่สำคัญด้วยการออกแบบที่ลงตัวกันทั้งภายนอกและภายในตัวบ้าน ทำให้บานหน้าต่างทุกบานก็กลายเป็นงานศิลปะที่มีชีวิตสำหรับบ้านหลังนี้
“ในการออกแบบจะเน้นเรื่องฟังก์ชั่น และพื้นที่ใช้สอย ในแง่ของ Space มันต้อง Fit-in กับคนในแต่ละ Generation ให้มากที่สุด” คุณนนทวัฒน์ เจริญชาศรี ผู้ออกแบบบ้าน เล่าให้ฟังถึงการออกแบบ Space ในบ้าน A+B HOUSE
“ในมุมมองของผู้ใช้งาน จะเป็นการมองจากภายในตัวบ้านออกไปสู่วิวข้างนอก ส่วนโจทย์ของสถาปนิกคือการออกแบบภายนอกให้ดูดีและสวยงาม สำหรับบ้านหลังนี้จึงเป็นการ Compromise กัน” คุณนัท ผู้เป็นเจ้าของบ้านพูดถึงโจทย์การสร้างพื้นที่ให้เข้ากับการใช้ชีวิตของผู้อาศัย
เพราะบ้านเป็นที่พักพิงสำคัญของทุกชีวิต ดังนั้นการใส่ใจเรื่องการออกแบบบ้าน และการเลือกจัดวางกรอบบานประตูและหน้าต่างในบ้านจึงเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ เพื่อทำให้บ้านเป็น Safe Zone ที่มีความสุขที่สุดของทุกคนในครอบครัว
“วัสดุไม้หรือลายไม้” เป็นสิ่งที่เราเห็นแล้วจะทำให้นึกถึงความเป็นบ้านญี่ปุ่นเสมอ เพราะไม่ว่าบ้านญี่ปุ่นแบบโบราณ หรือแบบโมเดิร์น ก็มักจะใช้วัสดุไม้มาเป็นเฟอร์นิเจอร์ หรือแม้ในบ้านยุคใหม่ ก็จะเห็นว่ามีการใช้วัสดุทำบ้านที่หลากหลายมากขึ้น อย่างเช่น วัสดุอะลูมิเนียมในผลิตภัณฑ์ GIESTA ที่ถูกดีไซน์โดยใช้สีเคลือบและทำลวดลายไม้ (Wood) เพื่อทำให้บ้านมีกลิ่นอายของไม้ธรรมชาติ แต่ยังแข็งแรงทนทานด้วยเหล็กตลอดการใช้งาน
“ประตูบานเลื่อน” ถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของบ้านญี่ปุ่นเลยทีเดียวกับประตูหรือทรานสิชันบานเลื่อน ที่เป็นตารางไม้หรือวัสดุลายไม้ ที่มีการใช้กระดาษสีขาวแปะเพื่อกันลม และกันสายตา จึงไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด ในขณะเดียวกันก็ยังระบายอากาศให้หมุนเวียนในบ้านได้อยู่
“พื้นที่ว่าง (Space)” หลายคนที่หลงรักบ้านแบบญี่ปุ่น มักจะชอบในสไตล์มินิมอลร่วมด้วย กล่าวคือ ชื่นชอบ Space ที่เรียบง่าย ไม่ต้องเยอะก็ดูสวยได้ บ้านแบบญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกัน ไม่ต้องมีของใช้วางเยอะ ก็ยังดูดีเข้าธีมมินิมอลสุดๆ สำหรับคนยุคใหม่ที่ไม่อยากให้ของในห้องดูวางเกะกะรกตาเกินไป ลองเลือกของใช้ที่มีฟังก์ชั่นครบในหนึ่งเดียว ก็จะยิ่งประหยัดพื้นที่ เติมเต็มความมินิมอลให้บ้านมากยิ่งขึ้น
“เอิร์ธโทน” การคุมโทนสีเอิร์ธเป็นเรื่องสลักสำคัญขึ้นมา สำหรับการตกแต่งบ้านในสไตล์ญี่ปุ่น นอกเหนือจากของใช้ หรือเฟอร์นิเจอร์ บ้านญี่ปุ่นยังมีการตกแต่งด้วยของประดับบ้านที่มีลักษณะเข้ากันสุดๆ ลองวางเครื่องปั้น หรือแจกันสีเอิร์ธโทนในห้องสักชิ้น ก็ยิ่งเสริมให้พื้นที่ตรงนั้นมีสุนทรียะมากขึ้น และอาจจะกลายเป็นมุมโปรดของคุณเลยก็ได้
Sliding Gate ถูกออกแบบให้มีซี่รั้วที่แข็งแรง ทนทาน เมื่ออยู่สภาวะกลางแจ้งนานๆ โครงสร้างของรั้วก็จะไม่มีโก่งงอ
รางเลื่อนสเตนเลสสตีล ถูกออกแบบให้เข้ากับรั้วอะลูมิเนียม Sliding Gate โดยถูกสร้างให้สามารถเลื่อนไหลได้แบบไม่มีสะดุด ไม่ต้องใช้แรงเยอะ
ATIS พร้อมนวัตกรรมเกราะป้องกันล่องหนอย่างมุ้งลวดดีไซน์ใหม่ ที่ช่วยปกป้องทุกสมาชิกภายในบ้านจากแมลงขนาดเล็กด้วยช่องตาข่ายที่แสนละเอียด โดยไม่ไปบดบังหรือรบกวนสายตาเลยแม้แต่น้อย เพราะผลิตจากเส้นไฟเบอร์ที่มีขนาดเล็กกว่าเส้นไนลอนทั่วไปถึง 40% และแม้ว่าจะมีช่องตาข่ายที่เล็กลงกว่ามุ้งลวดทั่วไปแต่กลับถ่ายเทอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมถึง 20% เทคโนโลยีมุ้งลวดใหม่ยังมาพร้อมการออกแบบที่ช่วยให้ถอดเปลี่ยน และทำความสะอาดได้ง่าย จึงสะดวกต่อการใช้งาน
