หน้าต่างแบบนี้ ควรเลือกใช้ผ้าม่านแบบใด

หน้าต่างแบบนี้ ควรเลือกใช้ผ้าม่านแบบใด 

หากคุณกำลังสงสัยอยู่ว่า ผ้าม่านสำหรับหน้าต่างแบบไหน ที่จะช่วยยกระดับการตกแต่งบ้านของคุณให้มีสไตล์ ถูกใจทั้งเจ้าของบ้านและแขกที่มาเยือน ไม่อยากให้พลาดบทความนี้ เพราะผ้าม่านไม่เพียงช่วยเรื่องงานดีไซน์ แต่ผ้าม่านสำหรับหน้าต่าง ยังเป็นองค์ประกอบหนึ่งของบ้าน ที่ช่วยในการกรองแสง ป้องกันเสียงภายนอก และสร้างความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดี

6 แบบผ้าม่านยอดนิยม

โครงสร้างของจีบผ้าม่าน ส่งผลต่อวิธีการแขวนผ้าม่านบนกรอบหน้าต่าง ฉะนั้นการรู้จักประเภทผ้าม่านจะช่วยให้การตกแต่งภายในให้ออกมาสวยงามและตรงตามการใช้งาน ซึ่งในปัจจุบันผ้าม่านมีให้เลือกกันอยู่หลายแบบ แต่เราขอคัดแบบยอมนิยมมาให้ได้รู้จักกัน ทั้งหมด 6 แบบ 

  • ม่านจีบ ม่านทรงมาตราฐาน ที่ลักษณะของม่านจะมีการจับจีบด้านบน ด้วยการเว้นระยะเท่าๆ กัน ช่วยให้รอยพับของผ้าไหลลงมาด้านล่าง และสร้างลุคที่หรูหราและเป็นทางการ โดยม่านจีบสามารถติดผ้าได้ 2 ชั้น คือม่านโปร่งและม่านทึบ
  • ม่านลอน ผ้าม่านลอนจะใช้วัสดุติดที่หัวผ้ากับราง ทำให้แขวนแล้วเกิดลอนสวย นอกจากจะใช้กับประตูหน้าต่างได้แล้ว ยังเหมาะกับการกั้นพื้นที่อีกด้วย
  • ม่านตาไก่ เป็นม่านผ้าที่มีลักษณะของรางผ้าม่านที่สอดผ่านห่วงตาไก่ที่ยึดติดกับหัวผ้าม่านด้านบน ทำให้เกิดลอนสวยงามแถมยังเป็นการโชว์รางพร้อมห่วงตาไก่ทีเพิ่มความโดดเด่นได้เป็นอย่างดี
  • ม่านพับ เป็นม่านอีกชนิดที่หลายบ้านให้ความนิยม เนื่องจากม่านพับมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ให้ความรู้สึกเรียบหรู ดูทันสมัย โดยรูปแบบม่านจะใช้ระบบเชือกในการดึงผ้าม่าน ให้พับทบกันเป็นชั้นๆ และเรียงซ้อนกันขึ้นไปด้านบน
  • ม่านม้วน ลักษณะพิเศษของผ้าม่านม้วนคือ เป็นผ้าผืนใหญ่ที่สามารถม้วนเก็บขึ้นไปให้มิดชิดได้ ซึ่งม่านม้วนมีทั้งชนิดกันแสง และชนิดกรองแสง ที่ปล่อยให้แสงส่องผ่านได้บ้าง เหมาะกับการตกแต่งที่ต้องการทั้งแสงสว่างและความเป็นส่วนตัวในเวลาเดียวกัน
  • ม่านมูลี่ ไม่ได้ใช้วัสดุผ้า แต่นับว่าเป็นม่านบังตาอีกชนิดหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยลักษณะเฉพาะที่ถูกออกแบบเป็นซี่ๆ โดยวัสดุมีทั้ง พลาสติก โลหะ ไม้ การใช้งานจะมีรอกและเชือกสำหรับชักให้ม้วนหรือคลี่ออกได้ 

หน้าต่างแต่ละแบบแมตช์กับผ้าม่านแบบไหนดี

หากกรอบบานหน้าต่างหรือประตูเป็นบานใหญ่และสูง การเลือกติดม่านจีบแบบสองชั้น ด้วยการจับคู่ผ้าบางและผ้าหนา จะยิ่งช่วยเสริมให้ห้องนั้นดูสวย เรียบหรู 

หน้าต่างแบบนี้ ควรเลือกใช้ผ้าม่านแบบใด

ทั้งนี้ม่านจีบยังสามารถออกแบบรางม่านซ่อนไว้บนฝ้าเพดาน ร่วมกับการออกแบบไลท์ติ้ง ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ห้องดูโมเดิร์นร่วมสมัย บวกกับมุมมองหน้าต่างที่มีขนาดใหญ่ ยิ่งเป็นการเปิดมุมมองให้กว้างขึ้น สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามภายนอกได้อย่างเต็มตากว่าที่เคย

สำหรับหน้าต่างบานกระทุ้ง หรือบานเปิด ที่มีลักษณะบานแคบ เหมาะกับการแมตช์กับผ้าม่านแบบพับ เพราะช่วยเน้นแนวตั้งของประตูหรือหน้าต่าง เมื่อผ้าม่านพับไปถึงชั้นบนสุดจะทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง เข้ากับการแต่งห้องในสไตล์โมเดิร์น ที่สำคัญทำความสะอาดง่ายอีกด้วย

หน้าต่าง ขนาดเล็กถึงปานกลางที่มีความกว้างไม่มากจนเกินไป แนะนำให้แมตช์กับผ้าม่านตาไก่ เพื่อป้องกันรางม่านแอ่นจากน้ำหนักของผ้า เสน่ห์ของม่านตาไก่ คือ การโชว์ความสวยงามของลอนผ้าและโชว์รางพร้อมกับห่วงตาไก่ 

หน้าต่างกรอบบานเลื่อน เข้าได้ง่ายกับม่านมูลี่ ซึ่งช่วยให้บานหน้าต่างไม่ดูโล่งจนเกินไป ทั้งยังเพิ่มลูกเล่นของช่องแสงที่ลอดผ่านมูลี่ทำให้ห้องนั้นๆ ดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ขอแนะนำให้เลือกติดตั้งม่านมู่ลี่ ในบริเวณห้องน้ำ หรือห้องครัว เพราะสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ทนความชื้นได้ดี หรือจะให้ดีสามารถเลือกเป็นบานประตูระบายอากาศของทอสเท็มสำหรับห้องที่ต้องการการระบายอากาศโดยเฉพาะ ซึ่งมีทั้งบานมุ้งลวดและการปรับระดับหน้าต่างให้เลือกได้ตามความต้องการของการใช้งาน 

หน้าต่างแบบนี้ ควรเลือกใช้ผ้าม่านแบบใด

สำหรับใครที่ต้องการติดตั้งหน้าต่างอะลูมิเนียม สามารถดูข้อมูลสินค้าทุกรุ่นของ TOSTEM ล้วนผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากล ผสานด้วยดีไซน์อันสวยงาม กลมกลืนไปกับผ้าม่านได้หลากสไตล์และเข้าตัวบ้านทุกรูปแบบได้อย่างลงตัว 

Derposh Grand Sriracha
นิยามใหม่ของความหรูหรา และการใช้ชีวิตในพื้นที่แห่งความสุข

Derposh Grand Sriracha นิยามใหม่ของความหรูหรา และการใช้ชีวิตในพื้นที่แห่งความสุข

คุณรู้มั้ยว่าความงามของสถาปัตยกรรมมีผลต่อความรู้สึกแค่ไหน และบ่งบอกถึงอะไรได้บ้าง ในสมัยก่อนบ้านที่มี เสาโรมัน คิ้วบัว ซุ้มประตู เราจะรู้ได้ทันทีว่าเจ้าของบ้านมีฐานะ แต่จำเป็นหรือไม่ที่เราจะแสดงออกถึงความมั่งคั่งในงานสถาปัตยกรรมผ่าน Element เหล่านั้น Derposh Grand Sriracha หมู่บ้านในศรีราชากลับใช้องค์ประกอบในโครงการแสดงถึงความ Luxury ได้อย่างเรียบง่าย

Derposh Grand Sriracha นิยามใหม่ของความหรูหรา และการใช้ชีวิตในพื้นที่แห่งความสุข

ความหรูหราที่เรียบง่าย

ความแพงที่ไม่ได้ตะโกนออกมา แต่กับซ่อนไว้ในงานดีไซน์ วัตถุ และ สิ่งของ ที่โครงการเลือกใช้ในหมู่บ้าน ตั้งแต่โลเคชั่นของหมู่บ้านที่ตั้งกลางทำเลเศรษฐกิจใจกลางศรีราชา ห่างจาก J park แค่ 1.6 กิโลเมตร และใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า ส่วนทางเข้าหมู่บ้านที่เว้นพื้นที่ไว้สำหรับสวนขนาดใหญ่ทำให้ เปิดมุมมองของคนที่ขับรถผ่านไปมาได้กว้างมากขึ้นจนกลายเป็นที่สังเกตเห็นป้ายโครงการขนาดใหญ่ ตัวหนังสือสีทองบนผนังหินสีเทาเข้ม ยิ่งยกระดับให้โครงการมากขึ้น เมื่อเข้ามาตัวโครงการเราจะเห็นต้นโอลีฟขนาดใหญ่ตั้งเด่นอยู่หน้าหมู่บ้าน เพิ่มความหรูหราให้กับโครงการเข้าไปอีก

Derposh Grand Sriracha นิยามใหม่ของความหรูหรา และการใช้ชีวิตในพื้นที่แห่งความสุข

เว้นระยะห่างสำหรับพื้นที่ส่วนตัว

ภายนอกบ้านเราจะเห็นการดีไซน์แบบ British Japanese เพราะต้องการผสมผสานความมินิมอลและความหรูหราเข้าด้วยกัน เช่น การใช้วัสดุลายไม้สีอ่อนมาตกแต่งภายนอกที่ทำดูอบอุ่น และ ทำเป็นระแนงในบางจุดเพื่อทำให้เส้นตั้งโดดเด่นขึ้นมาจากตัวบ้าน รวมเข้ากับกระเบื้องลายหินสีเทาเข้มสไตล์อังกฤษที่ทำให้บ้านดูมีเสน่ห์แบบเรียบง่าย

บ้านที่เราได้มีโอกาสเข้าไปชมคือ 𝐏𝐫𝐞𝐬𝐭𝐢𝐠𝐞 𝐓𝐲𝐩𝐞 บ้านที่รองรับครอบครัวขนาดใหญ่ ด้วยพื้นที่ 260 ตารางเมตร บนที่ดิน 65 ตารางวา

ก่อนเข้าถึงตัวบ้านจะมีพื้นที่สำหรับเก็บของไว้ที่หลังโรงจอดรถ สำหรับเก็บของใช้ภายนอกบ้าน เช่น อุปกรณ์ทำสวน อุปกรณ์กีฬา ต่างๆ ที่ไม่จำเป็นต้องเก็บในตัวบ้าน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วถือว่าสะดวกต่อการใช้งานมากเพราะเมื่อต้องการใช้ก็หยิบจับได้เลย ไม่จำเป็นต้องเข้าไปในบ้าน สำหรับพื้นที่รอบ ๆ บ้านก็สำคัญมากในการตัดสินใจของผู้ซื้อ เพราะการมีพื้นที่ว่างรอบบ้านนั้นทำให้เกิดความรู้สึกสบาย ไม่อึดอัด ซึ่งเป็นข้อดีของการสร้างบ้านเดี่ยว

Derposh Grand Sriracha นิยามใหม่ของความหรูหรา และการใช้ชีวิตในพื้นที่แห่งความสุข

โครงการของ Derposh Grand Sriracha “คอนเซปโครงการ คือการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้ลูกบ้านทุกหลัง โครงการเรามีแต่บ้านเดี่ยวทั้งโครงการ ไม่มีบ้านแฝด ไม่มีทาวน์โฮม จึงทำให้ลูกบ้านทุกหลังมีพื้นที่สีเขียวรอบบ้าน และมีความเป็นส่วนตัว หลังคาและกำแพงไม่ติดกัน ลมถ่ายเทสะดวกค่ะ”

คุณแนน บุญยนุช ศรขจร เจ้าของโครงการได้กล่าวถึงแนวคิดที่ทำ Derposh Grand Sriracha เป็นหมู่บ้านเดียวในศรีราชาที่ทำเป็นบ้านเดี่ยวทั้งโครงการ

บริเวณรอบ ๆ บ้านมีสวนที่โครงการจัดเตรียมไว้เป็นพื้นที่พักผ่อนให้ลูกบ้านได้มีพื้นที่สวนเป็นของตัวเอง ใช้ทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ทำกิจกรรมภายนอกบ้านกับคนในบ้าน หรือ เล่นกับสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้แล้วการเว้นระยะห่างระหว่างเพื่อนบ้านก็ทำให้คนในบ้านได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นอีกด้วย 

ยินดีต้อนรับสู่พื้นที่ของคนสำคัญ

ชั้นหนึ่งของบ้านจะเป็นพื้นที่ต้อนรับแขกสู่ตัวบ้าน เริ่มตั้งแต่พื้นที่แรกที่เข้ามาในตัวบ้านคือ Living room ที่เชื่อมต่อกับ Dining area ซึ่งเมื่ออยู่ในสถานที่จริงเรารู้สึกถึงความใส่ใจของดีไซเนอร์ในรายละเอียดของตัวบ้านเป็นอย่างมาก ความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 3 เมตร คนที่เข้าไปในตัวบ้านจึงรู้สึกถึงความโล่งสบาย ไม่อึดอัด เว้นความสูงให้ลูกบ้านใส่ Chandelier เพิ่มความหรูหราให้กับตัวบ้านตามสไตล์ตัวเองได้อีกด้วย และเพื่อความเป็นส่วนตัวของเจ้าของบ้าน ดีไซเนอร์ออกแบบให้ห้องนอนสำหรับแขกอยู่ชั้นหนึ่ง แต่ก็ให้ความสำคัญกับแขกไม่ต่างจากสมาชิกในครอบครัวเพราะเขาถือว่าคนที่เข้ามาอาศัยในบ้านนี้ทุกคนคือคนสำคัญ ดีไซเนอร์จึงวางห้องนอนแขกไว้ติดพื้นที่สีเขียว ให้คนที่เข้ามาพักได้รับชมวิวจากสวนส่วนตัวในบ้าน บ้านหลังนี้แยกพื้นที่ครัวอย่างชัดเจนเพื่อไม่ให้เวลาประกอบอาหารส่งกลิ่นรบกวนคนที่ใช้งานส่วนอื่นของบ้าน และพื้นที่ข้าง ๆ บันไดก่อนขึ้นไปชั้นสอง ได้ออกแบบให้มีพื้นที่เก็บของขนาดย่อม สำหรับเก็บของภายในบ้านด้วย

Derposh Grand Sriracha นิยามใหม่ของความหรูหรา และการใช้ชีวิตในพื้นที่แห่งความสุข

พื้นที่ส่วนตัวของสมาชิกในบ้าน

ระหว่างที่เดินขึ้นชั้นสองของบ้าน เราจะเห็นความอลังการภายในบ้านจาก Double Volume บริเวณโถงบันไดของบ้านที่มี Chandelier ห้อยลงมา และการมีช่องเปิดที่สูงตั้งแต่ชานพักไปถึงสุดฝ้าของชั้นสอง ยิ่งทำให้บ้านดูโปร่งมากขึ้น ทั้งยังเป็นการนำแสงธรรมชาติเข้ามาภายในบ้าน ทำให้บริเวณนี้ แทบจะไม่ต้องเปิดไฟให้ความสว่างเพิ่มเติมเลย ยกเว้นแค่ตอนกลางคืน ชั้นสองจะเป็นเหมือน Private zone ของคนในบ้าน ศูนย์กลางของชั้นสองจะเป็น Living room ที่สามารถมองเห็นวิวหน้าบ้านได้จากด้านบน ชั้นสองของบ้านจะรวมห้องนอนของคนในบ้านไว้ทั้งหมด 3 ห้องที่ตกแต่งสไตล์ British โดยทุกห้องนอนจะมีห้องน้ำและ Walk in closet ภายในตัว เพื่อความสะดวกสบายของคนในบ้านและความเป็นส่วนตัวของสมาชิกในบ้าน สำหรับ Master bedroom มีบริเวณระเบียงรองรับการพักผ่อน และเพิ่มการมองเห็นพื้นที่สีเขียวบริเวณบ้านได้เช่นกัน สำหรับห้องน้ำของ Master bedroom จะมีพื้นที่สำหรับอ่างอาบน้ำ Stand alone รองรับความผ่อนคลายให้สมาชิกในบ้านได้แช่น้ำสบาย ๆ นอกจากนี้ชั้นสองยังมีห้องอเนกประสงค์สำหรับคนในบ้านได้ใช้เป็นพื้นที่ทำงานอดิเรกอีกด้วย ราวกับว่าชั้นสองนี้เป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับคนในบ้านเท่านั้น

แสดงความใส่ใจด้วยรายละเอียด

สำหรับความหรูหราที่ไม่มีเสียงของบ้านหลังนี้ที่เราอดที่จะกล่าวถึงไม่ได้คือระบบ วัสดุ อุปกรณ์ ในบ้านหลังนี้ เพราะโครงการให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกสบายในบ้าน จึงติดตั้งระบบ Smart Home ทั้ง Digital Door Lock ระบบกล้องวงจรปิด และระบบหมุนเวียนอากาศและฟอกอากาศภายในบ้านที่ทำให้บ้านเย็นขึ้นแม้ไม่เปิดแอร์ การแจ้งเตือนเมื่อเปิดปิดประตูและเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงเครื่องปรับอากาศในบ้าน โดยทั้งหมดนี้เจ้าของบ้านสามารถสั่งการได้จาก Smartphone เเค่เครื่องเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ยังให้ความใส่ใจเรื่องอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้าน ที่ต้องมีมาตรฐาน แข็งแรง คงทน แต่ขณะเดียวกันรูปลักษณ์ต้องดูสวยงามไม่ตกยุค

“ โดยส่วนตัวแล้วการเลือกวัสดุทุกชิ้นในการทำบ้านหนึ่งหลังล้วนแต่สำคัญทั้งสิ้นค่ะ โดยเฉพาะประตู หน้าต่างอะลูมิเนียม หลักๆ จะมีอยู่ 3 ปัจจัยค่ะ คุณภาพ ดีไซน์ และการใช้งาน ” คุณแนน บุญยนุช ศรขจร เจ้าของโครงการพูดถึงเกณฑ์ในการเลือกวัสดุมาใช้ในโครงการ

Derposh Grand Sriracha นิยามใหม่ของความหรูหรา และการใช้ชีวิตในพื้นที่แห่งความสุข

Derposh Grand Sriracha มองว่าการใช้อะลูมิเนียมตัดประกอบแม้ต้นทุนจะต่ำแต่มีปัญหาการใช้งานหลายอย่าง ทางโครงการจึงเลือกใช้ประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมจาก TOSTEM ที่มีมาตรฐานการผลิต ขึ้นรูปและประกอบมาจากโรงงาน เพื่อลดปัญหาการรั่วซึมของน้ำเวลาฝนตก และลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในขั้นตอนของการติดตั้งหน้างาน แสดงให้เห็นว่าโครงการลงทุนเพื่อให้ลูกบ้านไม่ต้องเจอปัญหาจากการใช้งานประตู หน้าต่าง สำหรับอุปกรณ์ล็อกก็ใช้เป็นเดือยล็อกที่แข็งแรง คงทน ง่ายต่อการเปิด-ปิด เวลาใช้งาน และเมื่อบานประตูหน้าต่างปิดสนิท จะเป็นการลดเสียงต่าง ๆ จากภายนอกบ้าน ลูกบ้านจึงรู้สึกถึงการแบ่งพื้นที่สาธารณะ และพื้นที่ส่วนตัวอย่างชัดเจน

ที่สำคัญคือเรื่องดีไซน์ที่ตอบโจทย์กับบ้านแนว British Japanese ด้วยรูปแบบ Slim version ที่ทำให้บ้านดูมินิมอล ไม่รบกวนทัศนียภาพการมองเห็นของคนภายในบ้าน การที่บานกรอบประตูหน้าต่างมีลักษณะบาง จะทำให้บ้านดูหรูหรามากขึ้น และสี DUSK GRAY ที่เข้ากับกระเบื้องลายหินสีเทาเข้มของตัวบ้าน ยิ่งเพิ่มความสุขุมอย่างมีระดับให้ตัวบ้านอย่างเห็นได้ชัด

“ โครงการนี้เป็นโครงการแรกที่เราเริ่มใช้สินค้า TOSTEM ค่ะ เหตุผลที่ใช้หลักๆ ก็คือ 3 ปัจจัยที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ และก็เรื่อง Branding ที่ค่อนข้างจะเป็นที่รู้จัก ได้รับการยอมรับทั้งจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์  และผู้อยู่อาศัยค่ะ นอกจากนี้ยังมีเรื่องการบริการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการให้บริการติดตั้งจากบริษัท Smart Home Plus ที่ดูแลการติดตั้งและให้บริการหลังการขายเป็นอย่างดีค่ะ ”

Derposh Grand Sriracha นิยามใหม่ของความหรูหรา และการใช้ชีวิตในพื้นที่แห่งความสุข

Derposh Grand Sriracha นิยามใหม่ของความหรูหรา และการใช้ชีวิตในพื้นที่แห่งความสุข

พื้นที่เชื่อมสัมพันธ์

นอกจากเรื่องของตัวบ้านแต่ละหลังแล้ว ทางโครงการก็ให้ความสำคัญกับ พื้นที่ส่วนกลางมากเช่นกัน เพราะปัจจุบันโครงการได้แบ่งพื้นที่จัดทำสวนสไตล์ British Japanese มากกว่า 2 ไร่ เพื่อลูกบ้านในโครงการสามารถมาออกกำลังกายบริเวณนี้ได้ พร้อมทั้งมีสนามแบดมินตัน และศาลาจิบน้ำชาสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อให้ผู้ใช้งานส่วนกลางได้สัมผัสกลิ่นอายของวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่น ทั้งนี้โครงการยังแพลน ที่จะสร้าง Clubhouse ในอนาคต เอาใจสายสุขภาพที่เพียบพร้อมไปด้วย สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ Fitness, Sauna room, Steam room, Golf simulator, Kids-corner และ Co-working space ไว้สำหรับลูกบ้านที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน โครงการตั้งใจจะให้ส่วนกลางนี้เป็นพื้นที่สาธารณะให้ลูกบ้านได้มีปฏิสัมพันธ์กัน สร้าง Community ที่ดีให้กับสังคมหมู่บ้าน

บ้านที่เรียบง่ายแต่ภายในเต็มไปด้วยรายละเอียดที่น่าสนใจอย่าง Derposh Grand Sriracha โครงการหยิบเอา Element ต่างๆ ในโครงการมาแสดงให้เห็นถึงมูลค่าผ่านพื้นที่การใช้งานของโครงการและตัวบ้าน หากใครอ่านบทความนี้แล้วรู้สึกอยากสัมผัสถึงบรรยากาศจริง สามารถแวะชมบ้านตัวอย่างได้ที่ โครงการ Derposh Grand Sriracha


หากสนใจสินค้าประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมจาก TOSTEM ที่ช่วยปกป้องบ้านจากความร้อน ทนทานต่อทุกสภาพอากาศได้ดี สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลย

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?

ทุกวันนี้การเลือกหน้าต่างอะลูมิเนียมให้กับบ้านหรืออาคาร ไม่ได้เน้นเพียงแค่เรื่องของฟังก์ชันการใช้งานเท่านั้น แต่ยังใส่ใจไปถึงเรื่องรูปลักษณ์หน้าตา รวมถึงสีสันที่ต้องมาควบคู่กันไปด้วย เพราะสีสันก็เป็นอีกสิ่งที่ช่วยส่งเสริมให้ภาพจำของตัวบ้านมีความสวยงามโดดเด่นมากยิ่งขึ้น เราจึงอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับนวัตกรรมการทำสี 4 รูปแบบ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม ให้เลือกกันดูว่า การทำสีแบบไหนจะตอบโจทย์และเหมาะสมลงตัวกับหน้าต่างของคุณมากที่สุด 

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?
สีลายไม้ ให้ผิวสัมผัสธรรมชาติ

‘เทรนด์สีธรรมชาติ’ ถือเป็นเทรนด์ที่กำลังเป็นที่นิยมในบ้านเราเป็นอย่างมาก สำหรับการนำมาใช้ตกแต่งภายในบ้าน เพราะทำให้บรรยากาศภายในดูอบอุ่น และผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าหากเราต้องการเพิ่มกลิ่นอายธรรมชาติให้กับอาคารหรือที่อยู่อาศัย ก็สามารถที่จะเลือกหน้าต่างอะลูมิเนียมที่มีลวดลายดูเป็นธรรมชาติอย่างลายไม้ได้เช่นเดียวกัน ผ่านการใช้เทคนิคสีพ่น พร้อมเคลือบด้วยแผ่นฟิล์มลายไม้ หลังจากนั้นจึงอบอะลูมิเนียมด้วยความร้อนเป็นขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งเทคนิคนี้เรายังสามารถเลือกลายไม้ที่ต้องการได้อย่างหลากหลายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นลวดลายอย่างไม้สัก ไม้แดง ไม้มะค่า เป็นต้น นอกจากนี้การใช้อะลูมิเนียมลายไม้ยังสามารถให้ผิวสัมผัสที่คล้ายคลึงกับไม้จริง จนเรียกได้ว่า สามารถทดแทนบานหน้าต่างที่ใช้วัสดุไม้จริง ซึ่งมีราคาสูง ดูแลรักษายากกว่า และไม่แข็งแรงทนทานเท่าอะลูมิเนียม

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?
สีพ่น (Powder Coat) สร้างสรรค์ไอเดียได้หลากหลาย

อุตสาหกรรมในหลายแห่งมักนิยมใช้สีพ่น (Powder Coat) ที่เป็นการใช้สีฝุ่นพ่นลงบนพื้นผิวของอะลูมิเนียม ซึ่งทำให้เราสามารถที่จะเลือกสีสันอะลูมิเนียมได้ตามความต้องการ หรือหากใครมีไอเดียในการออกแบบก็สามารถเพิ่มเติมกิมมิกผิวสัมผัสแบบพิเศษให้กับอะลูมิเนียม เพื่อให้ดูน่าสนใจมากขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น การพ่นแบบซาฮาร่าที่ให้ผิวสัมผัสเหมือนกับเม็ดทราย หรือจะเป็นการพ่นผิวแบบผิวเงา หรือผิวด้านก็สามารถทำได้เช่นกัน

               ซึ่งข้อดีในการใช้สีพ่นคือ ความหลากลายของสี เนื้อสีไม่หลุดร่อนง่าย แถมยังทนทานต่อทุกสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี แต่การเลือกใช้สีพ่นก็ยังมีข้อเสียตรงที่เนื้อสีบนอะลูมิเนียมอาจจะไม่มีมิติมากเท่าไหร่นัก และเมื่อใช้ไปในระยะเวลานานสีอาจจะซีดจางลงได้

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?
สีพ่น (Powder Coat) และอบ ให้สีติดทนนานกว่าเดิม

หากต้องการสีอะลูมิเนียมที่มีความคงทนมากยิ่งขึ้นก็สามารถใช้เทคนิคการพ่นสีอะลูมิเนียม (Powder Coat) และเพิ่มเติมการอบด้วยความร้อนอีกขั้นตอนหนึ่ง ซึ่งนอกจากความคงทนของสีแล้ว ยังให้ให้มิติของสีสันมากกว่าสีพ่นแบบปกติ แถมยังสามารถออกแบบสีสันได้ตามความต้องการได้อีกด้วย แต่ด้วยเทคนิคที่มีความซับซ้อนจึงมีค่าใช้จ่ายในการทำค่อนข้างสูง และไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่นัก

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?
การชุบสี (Anodized) นวัตกรรมที่ทำให้อะลูมิเนียมมีมิติมากยิ่งขึ้น

ด้วยนวัตกรรมด้านสีที่พัฒนาขึ้นทุกวัน อีกรูปแบบของการทำสีอะลูมิเนียมที่น่าสนใจก็คือ การชุบสี (Anodized) ซึ่งมีการใช้เทคโนโลยี Electrolytic Coloring หรือการทำสีด้วยระบบกระแสไฟฟ้าเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต โดยก่อนทำการชุบสีจะนำอะลูมิเนียมไปผ่านกระบวนการทางเคมีไฟฟ้าที่เรียกกว่า อะลูมิเนียมออกไซด์ (Aluminum Oxide) ลงไปบนชั้นผิวอะลูมิเนียมจนเกิดเป็นรูพรุนจำนวนมาก จากนั้นจึงเติมสีแบบโลหะด้วยประจุไฟฟ้าลงไปที่อะลูมิเนียม เนื้อสีจะเข้าไปตามรูพรุนต่างๆ จนเป็นเหมือนชั้นฟิล์มเคลือบอะลูมิเนียม จากนั้นจึงเข้ากระบวนการอบผิวอีกครั้งเพื่อให้สีทนทานมากยิ่งขึ้น
วิธีนี้ช่วยสร้างผลดีให้กับเนื้อสี และตัวอะลูมิเนียม เพราะไม่ทำให้เกิดการผุกร่อน ให้สีสันที่มีมิติสวยงาม ไม่เกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย คงทนต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นอกจากนี้ยังคงทนต่อรังสี UV และน้ำฝนที่เป็นสาเหตุให้สีซีดจาง รวมไปถึงยังคงผิวสัมผัสลื่น และความเรียบเนียน

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?
เลือกใช้เทคนิคสีของหน้าต่างให้เหมาะสม เพื่อบ้านที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด

จะเห็นได้ว่า ทุกวันนี้การทำสีอะลูมิเนียมนั้นมีกระบวนการทำสีที่แตกต่างกัน จึงต้องดูว่าบานหน้าต่างอะลูมิเนียมของเรานำไปใช้ติดตั้งในพื้นที่ส่วนไหน หรือ ต้องการลวดลายและมิติของสีมากน้อยเพียงใด รวมไปถึงเรื่องของงบประมาณด้วย

ซึ่งถ้าต้องการลวดลายที่เป็นธรรมชาติก็แนะนำให้ใช้วิธีการทำสีแบบลายไม้ แต่ถ้าต้องการทำเฉดสีสไตล์โมเดิร์นอย่างเฉดสีเทาจนถึงเฉดสีดำที่มีมิติ แข็งแรงทนทาน ดูแลรักษาง่าย และมีราคาถูก ก็แนะนำให้เลือกการชุบสี (Anodized) เพราะเป็นการเคลือบสีที่ลงลึกไปถึงด้านในของอะลูมิเนียม ที่มีคุณภาพกว่าการทำสีเทคนิควิธีอื่นๆ  

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?
e-Catalog สี DUSK GRAY

ซึ่งทาง TOSTEM ก็มีผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้วิธีชุบสีแบบ Anodized ให้กับกรอบหน้าต่าง ซึ่งให้มิติสีสันที่สวยงาม ไม่เกิดรอยขีดข่วนง่าย แถมยังคงทนต่อทุกสภาพอากาศ อย่าง Dusk Gray สีเทาเข้มเหลือบน้ำเงิน ที่ได้แรงบันดาลใจมาช่วงพระอาทิตย์ตกดินในยามพลบคล่ำของประเทศญี่ปุ่น เป็นการเชื่อมสีสันให้สีของหน้าต่างดูอบอุ่นเช่นเดียวกับเส้นของขอบฟ้าได้อย่างสวยงาม

หากใครที่กำลังวางแผนตกแต่งบ้านหรือสร้างบ้านใหม่ทาง TOSTEM ก็ยังมีหน้าต่างและประตู อะลูมิเนียมดีไซน์ทันสมัยอีกหลากหลายรุ่นให้ได้เลือกสรรกันว่าแบบไหนจะเหมาะสมกับสไตล์บ้านของเรามากกว่ากัน  

แนะนำสีใหม่จาก TOSTEM : DUSK Gray

Welcome to the new beginning of the next era, DUSK GRAY

One century of experience. One century of passion.
One century of wisdom. Welcome to the new beginning of the next era, DUSK GRAY

 

แนะนำสีใหม่ TOSTEM - DUSK GRAY

In our last one century, Tostem created more than windows and doors because our passion has always been building people’s home for the better place through our wisdom and innovation. With that, we become a leader in the industry and leading many “First” in housing innovation.

As one century of making a better living has gone by, as we continue to rise as a leader in the industry. The new era of Tostem has begun. Introducing another first in the industry with the color Dusk Gray.

แนะนำสีใหม่ TOSTEM - DUSK GRAY

Balancing metallic texture and low-brightness achromatic colors

Coexistence of metallic texture and low brightness achromatic color. We paid close attention to the finishing of the product to improve its decorativeness by using the technique of layering of anodize film and semi-transparent electrodeposition coating to achieve that beautiful DUSK GRAY color with low lightness without impairing the texture of aluminum.

 

แนะนำสีใหม่ TOSTEM - DUSK GRAY

Blends into your lifestyle

Nowadays gray is considered a perfect shade for your exterior walls due to its versatility that can be used with lighter and darker shade, also it would complement many types of building designs from minimal modern contemporary to sophisticated.

Dusk Gray was created to fit perfectly with the trend.
The moderate metal texture blends into the house, creating an exterior wall with a texture that is also in tune and harmonizes with its surrounding without being too prominent and more importantly stands the test of time.

 

 Click here to see more e-Catalog in ‘DUSK GRAY’ 

 

ช่องทางการติดต่อ TOSTEM Thailand