Author Archives: GRANTScreativeWe40

เจาะลึก GIESTA ประตูหน้าบ้านที่คุณมั่นใจ

ประตูหน้าบ้านสำคัญกว่าแค่เป็นทางเข้าบ้าน เพราะเป็นเหมือนปราการด่านแรกจากด้านนอกเข้าสู่ด้านใน ทั้งสมาชิกในบ้าน แขกผู้มาเยือนดังนั้น ประตูบ้านจึงจำเป็นต้องสวยงามสอดคล้องไปกับดีไซน์ของบ้าน ในขณะเดียวกันก็ต้องแข็งแรง ปลอดภัยเพื่อป้องกันการบุกรุกที่จะเข้ามายังตัวบ้านด้วย

GIESTA ประตูหน้าบ้านจาก TOSTEM จึงถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการทั้งหมดที่ประตูบ้านจำเป็นต้องมี แล้วมารู้จัก GIESTA ไปพร้อมๆ กันครับ

ความแข็งแรง เรื่องหลักที่ทำให้ GIESTA ต่างจากประตูบ้านอื่นๆ

GIESTA คือประตูเหล็กลายไม้คุณภาพสูง จึงการันตีความแข็งแรงของประตูตั้งแต่โครงสร้างภายในบานประตูที่ติดตั้งฉนวนกันความร้อนและยางป้องกันอากาศภายในแผ่นเหล็กที่ประกบเป็นหน้าบาน จึงมาพร้อมคุณสมบัติป้องกันการถ่ายเทความร้อน การต้านทานแรงลม การป้องกันน้ำฝนรั่ว และอากาศรั่วไหล ในเรื่องวัสดุ กรอบวงกบอะลูมิเนียม บานประตูเหล็กปิดผิวด้วยเรซินชีทลายไม้ ประกอบกันขึ้นเพื่อต้านทานสิ่งแวดล้อมภายนอกทั้งแดดที่ร้อนจัดและความชื้น ทนทานต่ออุณหภูมิและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง บานประตูจึงไม่บิดและโก่งงอ และปิดสนิทแน่นตลอดทั้งวัน

ระบบล็อค-กุญแจ หัวใจสำคัญของประตูบ้าน

การป้องกันการบุกรุกจากนอกบ้านคือหน้าที่หลักที่สำคัญของประตูบ้าน เริ่มจากระบบล็อค 2 ชั้น พร้อมหัวล็อคดีไซน์แบบขอเกี่ยวเสริมอีก 3 จุด เพื่อเสริมความปลอดภัยขึ้นอีกชั้นหนึ่ง รวมทั้ง door guard ด้านบนสุดที่เติมเต็มความปลอดภัยแบบแมนนวล ส่วนฝั่งด้านในห้อง ออกแบบลูกบิดกุญแจให้สามารถดึงปลายออกได้เพื่อป้องกันการบุกรุกแล้วพยายามปลดล็อคจากฝั่งในห้อง

ดีไซน์มือจับและดีเทลเพื่อความสวยงามและปลอดภัย

ลำดับถัดมาคือมือจับที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและปลอดภัยกับผู้ใช้ โดยการติดตั้งยางป้องกันอากาศระหว่างวงกบและบานประตูขนาด 13.5 มิลลิเมตร ช่วยทั้งป้องกันการรั่วซึมของน้ำ-อากาศ และยังป้องกันอุบัติเหตุประตูหนีบนิ้วมือได้อีกด้วย อีกเรื่องเล็กๆ ที่ TOSTEM ไม่มองข้าม คืองานดีไซน์ที่สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน ด้วยเบ้ากุญแจเรืองแสง จึงใช้งานได้ง่ายในเวลากลางคืน และกุญแจที่สามารถเสียบใช้ได้ทั้งสองด้าน เพียงเสียบเข้าไปด้านใดก็ได้ ก็จะล็อคและปลดล็อคได้ทันที

อุปกรณ์ประกอบครบครัน เพื่อการใช้งานที่ราบรื่น

นอกจากอุปกรณ์ชิ้นหลัก TOSTEM ยังออกแบบอุปกรณ์ประกอบบานประตูเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานประตูบ้าน เช่น โช้คอัพประตูและบานพับอะลูมิเนียมมาตรฐานของ TOSTEM ที่ช่วยให้การปิดเปิดบานประตูทำได้ราบรื่นขึ้น, ธรณีประตู วัสดุอะลูมิเนียมชุบสีระบบอะโนไดซ์และยาง รวมทั้งกระจกนิรภัยสองชั้น ความหนารวม 19 มิลลิเมตร สำหรับหน้าบานประตูแบบติดตั้งกระจก

เลือกบานหน้าต่าง ให้เหมาะกับห้องในบ้านของคุณ

ไลฟ์สไตล์การใช้งานพื้นที่ของแต่ละห้องคือเงื่อนไขหนึ่งที่สำคัญในการออกแบบสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เหมาะกับฟังก์ชั่นการใช้งาน ไม่เพียงแต่เรื่องการจัดผังพื้นภายในและเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเลือกเปิดช่องเปิด และติดตั้งกรอบบานหน้าต่างสำหรับติดต่อกับสิ่งแวดล้อมภายนอกด้วยสภาวะความต้องการที่แตกต่างกัน ดังนั้นมาดูกันว่า ห้องไหนในบ้าน เหมาะกับกรอบบานหน้าต่างรูปแบบไหนบ้าง

01 ห้องรับแขก / ห้องนั่งเล่น

ห้องรับแขกเป็นส่วนแรกที่เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่นอกบ้านกับพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวของสมาชิกภายในบ้าน และสำหรับหลายๆ บ้าน ห้องรับแขกก็ทำหน้าที่เป็นห้องนั่งเล่นของสมาชิกในครอบครัวไปด้วยในตัว การได้ทอดสายตาออกไปนอกบ้านผ่านหน้าต่างกระจกบานกว้าง และเปิดรับลมให้ถ่ายเทได้ในวันอากาศดี ก็เหมือนกับเป็นการเปิดทัศนวิสัยเพื่อสร้างความผ่อนคลาย ช่วยให้การพักผ่อนเกิดขึ้นอย่างเต็มที่ บานหน้าต่างในห้องนี้จึงควรเป็นกรอบกระจกบานใหญ่ เพื่อขยายมุมมองการมองเห็นจากภายในออกสู่ภายนอกให้มากที่สุด อย่างการใช้กรอบกระจกบานสไลด์หรือบานเปิดเต็มบานควบคู่ไปกับบานฟิกซ์เพื่อต้อนรับบรรยากาศจากภายนอกตลอดเวลา หรือหากห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่นของใครมีชานระเบียงต่อออกไปด้านนอก การใช้บานประตูแบบสไลด์ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่จะเชื่อมต่อสองพื้นที่นี้เข้าด้วยกัน

02 ห้องนอน

ห้องนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานของแต่ละคน หากเป็นห้องที่จัดฟังก์ชั่นไว้สำหรับการนอนเท่านั้น ก็ใช้เพียงกรอบหน้าต่างขนาดมาตรฐาน เปิดหน้าบานแบบบานสไลด์ บานเปิด หรือบานกระทุ้งก็เพียงพอ เพราะการนอนหลับให้สนิทในเวลากลางคืนควรจำกัดแสงสว่างให้เข้ามาน้อยที่สุด ส่วนสำหรับบางคนที่ใช้ห้องนอนเป็นห้องส่วนตัวในการทำกิจกรรมอื่นๆ ด้วย เช่น นั่งทำงาน นอนอ่านหนังสือ หรือนั่งเล่นดูโทรทัศน์ อาจมีกรอบกระจกบานใหญ่สักบานเพื่อช่วยให้เพิ่มความผ่อนคลายในการทำกิจกรรมภายในห้องนอน โดยมีผ้าม่านเป็นผู้ช่วยในการกรองแสงธรรมชาติจากภายนอกอีกขั้นหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญสำหรับหน้าต่างห้องนอน คือการจัดตำแหน่งของบานหน้าต่างซึ่งไม่ควรอยู่ตรงกับหัวนอนพอดี เพราะสิ่งแวดล้อมจากภายนอก เช่นแสงสว่างหรือเสียงรบกวนอาจทำให้การนอนขาดคุณภาพ หากตำแหน่งของเตียงนอนต้องตรงกับหน้าต่างจริงๆ แนะนำให้ใช้ผ้าม่านหนาๆ ช่วยซับเสียงและแสงอีกแรงหนึ่ง

03 ห้องทำงาน

แสงสว่างที่เพียงพอคือหลักสำคัญของห้องทำงาน เพื่อถนอมสายตาในขณะทำงานไม่ว่าจะอยู่กับหน้าคอมพิวเตอร์หรือบนหน้ากระดาษ และหลักสำคัญต่อมาคือการอยู่สบาย โดยเฉพาะการระบายอากาศที่ดี เพื่อเพิ่มคุณภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น สิ่งที่จะเสริมให้ทั้งสองข้อทำหน้าที่ได้เต็มที่ นั่นก็คือ แสงธรรมชาติ บรรยากาศสิ่งแวดล้อมภายนอก และอากาศถ่ายเทได้ดี ดังนั้นหน้าต่างที่ควรเลือกให้กับห้องทำงาน จึงควรเป็นกรอบหน้าต่างบานใหญ่ ไม่จำกัดประเภทของบานว่าจะเป็นบานสไลด์ บานเปิด หรือบานกระทุ้ง สำหรับเปิดเพื่อระบายอากาศ และกับวันอากาศดีก็อาจเปิดทิ้งไว้ได้ทั้งวันโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ หน้าต่างบานหลักอาจติดตั้งคู่กับกรอบกระจกบานฟิกซ์ก็ได้ เพื่อให้แสงสว่างยังคงเข้ามาช่วยสร้างชีวิตชีวาและเพียงพอต่อการทำงานตลอดทั้งวัน

04 ห้องน้ำ

สุขลักษณะคือหัวใจของห้องน้ำ การระบายอากาศที่ดีจะทำให้ห้องน้ำไม่อับชื้น และแสงสว่างจากธรรมชาติที่เพียงพอจะช่วยฆ่าเชื้อโรคไม่พึงประสงค์ เพื่อให้ห้องน้ำปลอดจากเชื้อราและมีกลิ่นสะอาดอยู่สม่ำเสมอ แต่เพราะห้องน้ำเป็นพื้นที่ส่วนตัว กรอบบานกระจกแบบที่ตอบโจทย์กับห้องน้ำมากที่สุดจึงเป็นกรอบบานกระทุ้ง เพราะสามารถเปิดทิ้งไว้ได้ตลอดวันโดยยังคงความปลอดภัยจากการบุกรุกภายนอก ในขณะเดียวกันก็สามารถระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติได้ด้วย และทางที่ดีกรอบบานกระทุ้งนี้ควรติดตั้งคู่กับบานมุ้งลวด เป็นจุดป้องกันแมลงและยุงอีกชั้นหนึ่ง

05 ห้องครัว

การใช้งานห้องครัวไม่ว่าจะเป็นครัวไทยหรือครัวฝรั่ง สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาแน่นอนคือกลิ่นที่จำเป็นต้องระบายออกให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้กลิ่นอาหารติดกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ ภายในบ้าน การระบายอากาศจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับห้องครัว กรอบบานหน้าต่างที่เหมาะกับห้องครัวมากที่สุดจึงเป็นกรอบบานแบบสไลด์หรือบานเปิดที่เปิดออกได้เต็มที่ขณะใช้งานทำอาหาร ช่วยกันสองแรงแข็งขันกับฮูดสำหรับดูดควันในการระบายกลิ่นอาหารออก และอาจติดตั้งบานกระทุ้งและบานมุ้งลวดบนตำแหน่งเหนือศีรษะอีกสักจุด เพื่อช่วยในการถ่ายเทอากาศได้ตลอดทั้งวัน นอกจากนั้นแล้ว การกั้นแบ่งพื้นที่ส่วนครัวออกจากพื้นที่อื่นๆ ภายในบ้านก็เป็นเรื่องที่ควรทำหากมีพื้นที่เพียงพอ การใช้ประตูบานสไลด์ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดี เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดพื้นที่ทั้งในแง่การติดตั้งและการใช้งานบานประตูแล้ว ยังช่วยแบ่งห้องให้เป็นสัดส่วน และกลิ่นที่คงค้างจากการประกอบอาหารก็ไม่ลอยไปรบกวนพื้นที่พักผ่อนในห้องอื่นๆ อีกด้วย

บูธทอสเท็มได้รับรางวัลชนะเลิศ จากการประกวดบูธแสดงสินค้างานสถาปนิก 2562

บูธทอสเท็มได้รับรางวัลชนะเลิศ จากการประกวดบูธแสดงสินค้างานสถาปนิก 2562 จัดขึ้นโดย สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ภายใต้หัวข้อ “ Living Booth” โดยมี มร. ฮิโรกาซู โมโรคุมะ ผู้อำนวยฝ่ายการตลาดและปฏิบัติการแบรนด์ทอสเท็ม เป็นผู้แทนรับมอบรางวัล

ส่วนรายละเอียดการออกแบบของบูธในปีนี้จะเป็นอย่างไร เราเก็บภาพและข้อมูลมาฝากกันในบทความนี้แล้วครับ ไปชมกันเลย งานสถาปนิก ’62 งานประจำปีที่บรรดาสถาปนิกและแวดวงการก่อสร้างจะได้มาพบปะแลกเปลี่ยนไอเดียและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้กับนักออกแบบและประชาชนผู้สนใจได้เข้าชมนวัตกรรมและนิทรรศการจากออฟฟิศสถาปนิกและแบรนด์ดังมากมาย เช่นเดียวกันกับ TOSTEM ที่บูธในปีนี้ กับคอนเซ็ปต์ที่สอดคล้องไปกับไอเดียตั้งต้นของงาน “กรีน อยู่ ดี”

Booth Design by M Space

เริ่มต้นจากงานออกแบบบูธของ TOSTEM ในปีนี้ ได้ M Space เข้ามาร่วมทำงานกับเราเป็นปีที่ 3 โดยยึดหลักการออกแบบที่ต้องการใช้ดีไซน์ในการแก้ปัญหา และสำหรับหัวเรื่องความยั่งยืน งานดีไซน์ก็สามารถตอบข้อนี้ได้อย่างสมบูรณ์ด้วยการใช้โครงสร้างน้อยที่สุดแต่ภาพรวมยังคงสวยงามที่สุด เพื่อลดการสร้างขยะและส่งต่อความยั่งยืนด้านการใช้งานวัสดุ

จากคอนเซ็ปต์ สู่นิทรรศการจริง

จากแนวความคิดหลักถูกแปลออกมาเป็นงานดีไซน์ที่ใช้โครงสร้างโปร่งโล่งที่สามารถหมุนเวียนสำหรับการใช้งานนิทรรศการในครั้งต่อๆ ไปได้ด้วย ประกอบกันโดยใช้ข้อต่อไม้ (Wood Joint) ที่ถูกออกแบบด้วยการนำเศษแผ่นไม้เหลือในโรงงานมาประกอบกันอย่างหนาแน่นแข็งแรง จึงสามารถประกอบและดัดแปลงให้เข้ากับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งยังสามารถเก็บไว้หมุนเวียนใช้กับงานอื่นๆ ต่อไปได้ในอนาคต

บิดแกนเพื่อสร้างมิติในทุกก้าวเดิน

เปิดพื้นที่ภายในบูธสำหรับสร้างปฎิสัมพันธ์ระหว่างการชมผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ Gallery Space ด้วยการบิดแกนของโครงสร้างให้สามารถเข้าถึงภายในพื้นที่ได้จากทั้ง 4 ทิศ โดยแกนหลักหันทิศทางสัมพันธ์กับทางเข้าออกหลักของงานสถาปนิกพอดี การบิดมุมที่เปลี่ยนไปสร้างมุมมองที่แตกต่างจากภายนอกบูธ และขณะเดินชมภายในเองยังมีปรากฎการณ์จากเงาสะท้อนของแผงกระจกที่ซ้อนทับสร้างมิติทางความรู้สึกจากตัวผลิตภัณฑ์ 

โปรดักต์ทุกชิ้นโชว์ความเป็นตัวเอง

จากข้อดีของความโปร่งโล่งนี้เอง นอกจากจะสร้างความรู้สึกต้อนรับให้กับทุกคนแล้ว ยังเป็นพื้นที่ให้ผลิตภัณฑ์ได้แสดงศักยภาพความเป็นตัวเองออกมาอย่างมากที่สุด อย่างในภาพที่ผนังทั้งผืนกลายเป็นพื้นที่จัดแสดงผลิตภัณฑ์รุ่น GRANTS ทั้งตัวบานเลื่อนชนิด 4 บาน และหน้าต่างทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่แรนด้อมการเปิดหลากหลายรูปแบบ เป็นตัวเลือกให้กับผู้ชมสินค้าได้แบบครบครัน

NEW PRODUCT : INTERIOR SERIES 

ภายในงานยังมีการโชว์ผลิตภัณฑ์ที่จะเปิดตัวใหม่ในเดือนสิงหาคมปีนี้ นั่นก็คือบานเลื่อนไร้รางพื้นสำหรับงานภายใน ที่ถูกออกแบบใหม่เพื่อแก้ปัญหาบานเลื่อนไร้รางแบบเดิมๆด้วยชุดเลื่อนบานล้อแขวนที่แข็งแรงทนทาน และอุปกรณ์ป้องกันบานสั่นขณะเลื่อนที่ติดมากับกรอบบาน เพื่อเป็นการเชื่อมต่อพื้นที่ภายในบ้านได้แบบไม่มีสะดุด

TOSTEM INNOVATION

นอกจากนั้นแล้ว ยังมีการจัดแสดงวัสดุและนวัตกรรมของ TOSTEM เพื่อแสดงถึงมาตรฐานและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ทางแบรนด์คำนึงถึงมาตั้งแต่การเลือกใช้งานวัสดุ นวัตกรรมการผลิตและการประกอบ รวมไปถึงงานดีไซน์ที่เป็นหัวใจสำคัญซึ่งต้องมาควบคู่กับคุณภาพและฟังก์ชั่นการใช้งานอยู่เสมอ

“ถ่ายเทอากาศภายในบ้าน” หลักการที่ทุกคนควรทราบ “หน้าหนาวแท้ๆ ทำไมอากาศร้อนแบบนี้”

สำหรับประเทศในเขตเมืองร้อนแบบบ้านเรา อากาศร้อนดูจะเป็นเรื่องที่หลบหนีไม่ได้เลยไม่ว่าจะฤดูกาลใด หลายคนเลือกทางออกด้วยการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ แต่ก็ตามมาด้วยค่าไฟมหาศาลและการซ่อมบำรุงที่ต้องทำเป็นประจำ เราว่าน่าจะดีกว่าหากในช่วงเวลาที่ไม่ร้อนมาก ยังสามารถอยู่ในบ้านและอาคารได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องทุ่นแรงจากภายนอก แต่ใช้หลักการเบื้องต้นในการระบายอากาศ เพื่อออกแบบฟังก์ชั่นให้บ้านมีประโยชน์มากกว่าเป็นที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นพื้นที่อยู่สบายสำหรับทั้งครอบครัว

ภาพโครงการ: StudioK

CROSS VENTILATION

การระบายอากาศรูปแบบนี้เป็นวิธีพื้นฐานสำหรับการสร้างบ้าน คือการเว้นช่องเปิดสำหรับติดตั้งหน้าต่างของอาคารสองช่องเยื้องกัน เพื่อให้เกิดทิศทางของลมที่ไหลผ่านจากด้านหนึ่งไปอีกด้านตามแนวทิศทางลม (ทิศเหนือ-ใต้) หรือหากเป็นตึกแถวที่มีหน้าสัมผัสกับอากาศเพียงสองด้าน ควรเว้นช่องเปิดหน้าต่างเอาไว้ทั้งสองด้านของผนัง วิธีนี้นับเป็นการสร้างการระบายอากาศที่ลงทุนน้อย แต่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้เกิดประโยชน์สูงสุด

ภาพโครงการ: HOUSE 362

STACK VENTILATION

เมื่อมีการระบายอากาศในแนวราบผ่านหน้าต่างแล้ว ในทางแนวดิ่งก็มีเช่นกัน จากหลักการที่่ว่าอากาศร้อนมีน้ำหนักเบาจะลอยขึ้นสู่ที่สูง พออากาศร้อนลอยขึ้น นอกจากด้านล่างจะเย็นลงแล้ว เราก็ต้องหาทางระบายออกให้กับอากาศร้อนเหล่านั้น อาจจะใช้การเปิดระแนงระบายอากาศส่วนฝ้าชายคา หรือหน้าต่างบริเวณชั้นด้านบนก็ช่วยได้ทั้งการระบายอากาศร้อนออก และรับอากาศใหม่เข้าหมุนเวียนในบ้านเรื่อยๆ

ภาพโครงการ: INTHAMARA 29

VENTILATION HELPER

นอกจากจะอาศัยพลังงานจากลมเองแล้ว เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างพัดลมเพดานยังเป็นอุปกรณ์ช่วยทุ่นแรงอีกอย่างเพื่อสร้างการไหลเวียนของอากาศที่สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมกับผลพลอยได้ที่ใบพัดทำงานสร้างความเย็นเพิ่มขึ้นเป็นอีกเท่าตัวหนึ่ง จึงนับว่าพัดลมเพดานเป็นตัวช่วยที่ประหยัดและเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นอีก หรือหากเป็นบ้านตึกแถวทรงสูง อาจใช้การติดตั้งพัดลมระบายอากาศบนหลังคาเป็นตัวช่วยสำหรับอาคารที่มีผนังสัมผัสกับอากาศด้านนอกเพียงสองด้าน

VENTILATION DOOR & WINDOWS

ยิ่งเป็นเรื่องดี หากส่วนประกอบต่างๆ ภายในบ้านสามารถช่วยระบายอากาศได้ด้วย อย่างที่เราทำกันง่ายๆ คือการติดตั้งบานมุ้งลวดให้กับหน้าต่าง ขณะเปิดหน้าต่างก็สามารถป้องกันแมลงที่จะเข้ามาก่อความรำคาญให้กับสมาชิก และจากแนวความคิดนี้ ต่อยอดไปเป็นงานออกแบบบานประตูระบายอากาศของ TOSTEM เพื่อช่วยการระบายอากาศได้อย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ของบ้าน ไปพร้อมกับการออกแบบล็อครักษาความปลอดภัยเพื่อให้อุ่นใจขณะใช้งานอยู่เสมอ

ภาพโครงการ: HOUSE 362

TOSTEM’s PRE-FABRICATED PRODUCTS

เราอาจจะคุ้นหูกันกับคำว่าเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูป นั่นก็คือเฟอร์นิเจอร์ที่ประกอบเองได้ง่ายและเร็ว แต่กับคนรักบ้านที่อยากต่อเติมหรือเพิ่มพื้นที่ให้กับบ้าน อุปกรณ์สำหรับบ้านแบบสำเร็จรูปก็เป็นอีกทางเลือกที่ง่ายดาย รวดเร็ว และได้มาตรฐาน อย่างที่ TOSTEM ต้องการยกระดับงานสำเร็จรูป หรือ พรีแฟบบริเคท ให้เพียบพร้อมทั้งคุณสมบัติและดีไซน์

นิยามของระบบ PRE-FABRICATED

ระบบ PRE-FABRICATED นั่นคือแต่ละชิ้นส่วนถูกผลิตแบบสำเร็จมาจากโรงงานแล้ว เมื่อถึงหน้างานที่ต้องติดตั้งจริงก็แค่ลงมือประกอบ ทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย ซึ่งทุกชิ้นส่วนจะถูกออกแบบในเรื่องรายละเอียดและกลไกเรียบร้อย รวมทั้งการออกแบบเพื่อให้สามารถประกอบได้ง่าย และสำหรับ TOSTEM มาตรฐานเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เพื่อให้การประกอบ ติดตั้ง และใช้งานเป็นไปได้อย่างราบรื่น

ข้อดีของ PRE-FABRICATEDTOSTEM ดึงเอาข้อดีของระบบพรีแฟบบริเคท (สำเร็จรูป) มาพัฒนาเพื่อสร้างจุดเด่นให้กับผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น ตั้งแต่งานออกแบบชิ้นส่วนและวิธีการประกอบแต่ละชิ้นให้ทำได้ง่าย แข็งแรง และอยู่ภายใต้มาตรฐานขั้นสูง ใช้เวลาไม่มากกับเครื่องมือช่างธรรมดาก็สามารถติดตั้งได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาวัดขนาดหน้างาน อีกทั้งยังประหยัดทั้งในเรื่องการขนส่งที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ในการบรรทุกมาก คงคุณภาพสูงตั้งแต่หน้าโรงงานถึงหน้าไซต์งาน

PRE-FABRICATED QUALITY

พอเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป มาตรฐานจึงเป็นสิ่งที่สามารถควบคุมได้กับผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นที่ออกมาจากโรงงาน ตั้งแต่การผลิตแม่พิมพ์และบิลเล็ตอะลูมิเนียม การรีดขึ้นรูปอะลูมิเนียมเส้น การชุบสี การตัดอะลูมิเนียมเส้น และการประกอบขึ้นเป็นกรอบบานประตูหน้าต่าง เพื่อพร้อมนำไปติดตั้งหน้างานอย่างครบถ้วนด้วยฝีมือช่างประกอบมาตรฐานของ TOSTEM

PRE-FABRICATED FRAME

โปรดักต์ที่เป็นหัวใจหลักของ TOSTEM คือกรอบบานประตู-หน้าต่าง ที่ใช้การกำหนดขนาดและจำนวนสั่งโดยลูกค้า จากนั้นโรงงานจะทำการผลิตสินค้าให้ตามคำสั่งและส่งมอบให้กับตัวแทนจำหน่ายเพื่อนำส่วนประกอบทั้งหมดไปประกอบและติดตั้งให้กับลูกค้าที่หน้างาน ดังนั้นกรอบบานของ TOSTEM จึงมีข้อดีด้านระดับมาตรฐานและคุณภาพที่สม่ำเสมอทุกบาน

PRE-FABRICATED GARDEN  ROOM

ห้องนั่งเล่นในสวนแบบสำเร็จรูป เป็นทางเลือกที่ง่ายและเร็วสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน โดย ห้องนั่งเล่นในสวนของ TOSTEM ได้เตรียมห้องสำเร็จรูปแบบโปร่งโล่งสำหรับไลฟ์สไตล์นอกบ้าน ผ่านดีไซน์ที่ล้อมผนังสามด้านด้วยประตูบานเฟี้ยม และหลังคาโพลิคาร์บอเนตทึบหรือใส ให้เลือกส่วนประกอบต่างๆ ได้ตามจุดประสงค์ของการใช้งาน

PRE-FABRICATED CARPORT

โรงรถที่ประกอบได้แบบง่ายและรวดเร็วเป็นอีกโปรดักต์สำเร็จรูปที่รวมคุณสมบัติของโรงรถที่ดีเข้าไว้ร่วมกับดีไซน์ที่เหมาะสมกับทุกบ้าน ทั้งในเรื่องความแข็งแรงของโครงสร้างอะลูมิเนียมและหลังคาโพลิคาร์บอเนต ซึ่งรองรับความรุนแรงของพายุ สภาพอากาศที่แปรปรวน รวมทั้งรังสีอัลตร้าไวโอเล็ตในทุกวัน ด้วยมาตรฐาน JIS จากประเทศญี่ปุ่น

‘ช่องเปิด’ ในงานสถาปัตยกรรมหมายถึง ช่องว่างที่ถูกออกแบบสำหรับให้แสง ลมธรรมชาติหรือน้ำเข้ามา หรือจะเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ซึ่งหน้าต่าง-และประตูเองก็ถือช่องเปิดลักษณะหนึ่งของอาคาร และเพื่อรูปลักษณ์ที่สวยงามทางองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมแล้ว การเลือกวงกบและสีของวงกบจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อให้บ้านที่ออกแบบนั้นตรงตามความต้องการและสไตล์ในการตกแต่งของเจ้าของบ้านให้ได้มากที่สุดนั่นเอง

COMTEMPORARY-LIFE IN THE GARDEN

สไตล์คอนเทมโพรารีเป็นสไตล์ที่พบเห็นได้ทั่วไปในบ้านเรา รวมถึงประเทศที่มีภูมิอากาศร้อนชื้นในเอเชียตะวันออกฉียงใต้ เนื่องจากสไตล์นี้เน้นการผสมผสานการออกแบบดั้งเดิมของประเทศนั้นๆ และวัสดุท้องถิ่นเพื่อให้บ้านออกมาเรียบง่ายและกลมกลืนกับบริบทเป็นสำคัญ เช่น การนำลักษณะของหลังคาทรงจั่วมาปรับใช้แต่ใส่วงกบประตูหรือหน้าต่างขนาดใหญ่แทนผนังทึบแบบทั่วไป อาจเลือกเป็นดำเพื่อให้เกิดเป็นเส้นสายที่ชัดเจนขณะที่ตัดกับผนังไม้

โครงการ Life in the Garden เจ้าของโครงการ : คุณมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ

ULTRA MODERN-MASON PATTAYA

หากหลงใหลในความเรียบง่ายของเส้นสายทางสถาปัตยกรรมที่ตรงไปตรงมา ‘สไตล์โมเดิร์น’ เป็นคำตอบสำหรับการสร้างบ้าน ด้วยความที่สไตล์นี้เน้นช่องเปิดและโทนสีที่ใช้ในงานสถาปัตยกรรมก็เป็นแนวโมโนโทนที่พบเห็นได้บ่อยอย่าง ขาว ดำและเทาหลายเฉด ดังนั้นการเลือกใช้สีวงกบที่เข้ากับสไตล์โมเดิร์นควรเลือกสีที่กลืนไปกับบ้านเพื่อให้เส้นที่ดึงดูดสายตาเป็นเส้นของงานสถาปัตยกรรมมากกว่าวงกบอย่างสีขาวและสีดำ แต่ถ้าหากได้ลูกเล่นในงานออกแบบเพิ่มเติมก็สามารถเลือกใช้สีซิลเวอร์ก็ได้เช่นกัน

โครงการ VILLA MASON สถาปนิก : คุณวสุ วิรัชศิลป์ แห่ง VASLAB

INDUSTRY LOFT-QUINCY

สไตล์อินดัสเทรียล ลอฟท์เป็นสไตล์ที่เกิดขึ้นจากการใช้สัจจะวัสดุ เหล็ก คอนกรีตและไม้เป็นหลัก นั่นจึงสไตล์นี้มีความเรียบง่ายแต่ก็มีดิบในตัวเองค่อนข้างสูงด้วยตากผิวสัมผัสของไม้และคอนกรีตที่เฉพาะตัว ทั้งเรื่องของสีสันตามธรรมชาติของคอนกรีตและเหล็กที่มีสีเข้มอยู่แล้ว การเลือกใช้สีวงกบให้เข้ากันอาจเลือกเป็นสีดำและสีซิลเวอร์เพื่อให้เข้ากับองค์ประกอบโดยรวมอื่นๆ ของบ้านมากกว่าการใช้สีขาว ที่อาจจะตัดกับวัสดุชนิดอื่นจนเกิดไปจนเกิดเป็นเส้นนำสายตาที่ไม่เข้ากับส่วนอื่นๆ ของบ้าน

TROPICAL MODERN-HOUSE 362

อีกหนึ่งสไตล์ที่ถือเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างสไตล์ในงานออกแบบกับ ‘ทรอปิคอล โมเดิร์น’ ที่ข้อดีของเส้นสายที่เรียบง่ายของสไตล์โมเดิร์นและไม้ ซึ่งเป็นวัสดุที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นที่สำคัญในสไตล์ทรอปิคอล ทำให้การตกแต่งสไตล์นี้มีความยืดหยุ่นในการเลือกใช้สีของวงกบได้หลากหลาย ตั้งแต่สีขาวที่เข้ากับผนังด้านนอก หรือ จะเป็นสีน้ำตาลที่เข้ากับไม้ก็ล้วนแต่ดีทั้งสิ้น

บ้าน HOUSE 362 สถาปนิก : Junsekino Architect and Design

CLASSIC MODERN-AP Palazzo

สำหรับสไตล์คลาสสิกโมเดิร์นนั้นอาจมีเส้นสายและองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมที่จริงจังมากกว่าสไตล์อื่น รวมไปถึงการเลือกใช้สีสีนด้วย ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าสไตล์นี้จะใช้สีที่เป็นทางการผสมกัน อย่างสีขาวและดำ ทำให้การเลือกสีวงกบจำเป็นต้องสุภาพและจริงจังไปด้วยโดยสีที่สามารถใช้กับบ้านสไตล์นี้ได้แนะนำเป็นสีดำ น้ำตาลเพื่อให้ตัดกับกระจกบานใหญ่เกิดเป็นองค์ประกอบที่ช่วยขับเน้นให้บ้านมีลูกเล่นมียิ่งขึ้น

โครงการ Palazzo