fbpx

Author Archives: GRANTScreativeWe40

เมืองไทยเมืองร้อน มาออกแบบหน้าต่างให้รับลม แต่หลบแดดกันเถอะ!

เมืองไทยเมืองร้อน มาออกแบบหน้าต่างให้รับลม แต่หลบแดดกันเถอะ!

สำหรับประเทศไทยเมืองร้อน ที่มีแค่ฤดูร้อนกับฤดูร้อนมาก โจทย์สำคัญของงานออกแบบจึงเป็นเรื่องของการรับลมให้มากที่สุด และการหลบแดดให้ดีที่สุด เพื่อลดความร้อนสะสมภายในบ้านและถ่ายเทอากาศให้อยู่สบายตลอดทั้งวันยาวไปจนถึงกลางคืนที่นอนหลับได้อย่างสนิท หน้าต่างก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บ้านอยู่สบายแม้จะอากาศร้อน ว่าแล้วเราก็ขอชวนคุณมาออกแบบหน้าต่างให้รับลม แต่หลบแดดไปพร้อมๆ กับทริคเหล่านี้จากทอสเท็ม (TOSTEM)

ระบายอากาศในทุกช่องอับ

ทิศใต้คือทิศที่รับลมได้ดีที่สุด แต่ก็แดดแรงตลอดทั้งวันเช่นเดียวกัน ทางออกที่ดีคือการใช้หน้าต่างบานเล็กที่อาจจะไม่ต้องเปิดเต็มที่อย่างการใช้บานกระทุ้ง พร้อมกับหลักการออกแบบหน้าต่างเพื่อให้ลมเข้าได้ดีที่สุด คือการเปิดช่องเปิดจากสองด้านของผนังให้ตรงกันพอดี โดยให้ทิศทางที่ลมเข้ามีขนาดหน้าบานเล็กกว่าทิศทางที่ลมออก จะช่วยสอบแนวลมให้แรงขึ้น รวมทั้งในแนวช่องอับต่างๆ อย่างใต้บันได แนวข้างเสา หรือมุมห้อง ก็สามารถใช้บานกระทุ้งในการช่วยระบายอากาศให้อยู่สบายขึ้นได้

ระบายอากาศส่วนบันได

พื้นที่ใช้งานน้อยอย่างบันได ติดตั้งบานหน้าต่างสำหรับระบายอากาศอย่างบานกระทุ้งที่ทั้งปลอดภัยและเพิ่มการไหลเวียนลมของอาคารทุกชั้นได้ดี ผนังส่วนบันไดของบ้านบางหลังอาจจะตรงกับทิศทางของแดดบ้าง แต่ก็สามารถใช้ผ้าม่านบางๆ ช่วยเสริมเพื่อกรองแสงบางส่วน หรือปิดบังในช่วงเวลาที่ไม่ต้องการใช้งาน

หน้าต่างเล็กแต่พอดี

แม้ผนังบางส่วนจะไม่สามารถเปิดทั้งหมดให้รับแดดแรงได้ ติดตั้งบานหน้าต่างไว้สักหน่อยสำหรับระบายอากาศ เลือกขนาดที่พอดีกับดีไซน์ของห้องและสถาปัตยกรรมของตัวบ้าน เพียงพอให้มีพื้นที่ระบายอากาศ เพื่อช่วยระบายอากาศเก่าจากในห้องออกไปไหลเวียนกับอากาศนอกบ้าน และเปิดระบายทิ้งไว้ในเวลากลางวัน กลางคืนจะได้นอนหลับสบายไม่อบอ้าว

ชายคาเป็นผู้ช่วย

สำหรับบ้านในเขตเมืองร้อน ชายคาเป็นผู้ช่วยสำคัญที่ช่วยบดบังและกรองแสงให้กับกรอบบานประตูหน้าต่างที่กรุกระจก เปิดไลฟ์สไตล์โล่งโปร่งภายในบ้านออกสู่ธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ จะเป็นรูปแบบฝ้าทึบปกป้องเต็มที่ หรือไม้ระแนงสำหรับกรองแสง ก็เลือกรูปแบบตามทิศทางแดดที่ส่องเข้าสู่ตัวห้อง รวมทั้งเลือกวัสดุและดีไซน์ให้เข้ากับทั้งภายนอกและภายในบ้าน

ให้ประตูช่วยระบายอากาศอีกแรง

ในพื้นที่อับอย่างหลังบ้าน ที่จำเป็นต้องระบายทั้งกลิ่นและไอร้อนจากการประกอบอาหาร หรือหากไม่ได้ใช้งาน แต่เพราะเป็นห้องเล็กๆ จึงต้องการการระบายอากาศไม่ให้พื้นที่อบอ้าว หากแค่หน้าต่างไม่เพียงพอ แนะนำให้ใช้ประตูช่วยในการระบายอากาศด้วย ตัวอย่าง Ventilation Door ของทอสเท็ม ที่สามารถเปิดหน้าบานเพียงเล็กน้อยเพื่อระบายอากาศในตอนกลางวัน ป้องกันอากาศร้อนในตอนกลางคืน หรือจะเปิดออกเต็มที่เพื่อรับลมก็ช่วยให้การไหลเวียนอากาศดียิ่งขึ้นอีก

Salee Boutique Hotel โรงแรมที่แสดงอัตลักษณ์ของเชียงใหม่อย่างแข็งแรงผ่านงานสถาปัตยกรรม

Salee Boutique Hotel โรงแรมที่แสดงอัตลักษณ์ของเชียงใหม่อย่างแข็งแรงผ่านงานสถาปัตยกรรม

สำหรับนักท่องเที่ยว หากเอ่ยถึงเชียงใหม่ ภาพของอาหารเหนือขึ้นชื่อหรือสถานที่ท่องเที่ยวสุดเก๋คงเป็นภาพแรกที่ผุดขึ้นมา แต่สำหรับเหล่านักออกแบบแล้วนั้น จังหวัดนี้กลับเป็นพื้นที่ปล่อยของที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะด้านสถาปัตยกรรม ส่งผลให้การแข่งขันค่อนข้างสูง เพราะนอกจากจะต้องออกแบบให้ไม่ซ้ำแล้ว งานออกแบบยังต้องมีเอกลักษณ์จนเกิดเป็นภาพจำที่ส่งผลดีต่อธุรกิจอีกด้วย ด้วยประเด็นที่น่าสนใจดังกล่าว วันนี้เราจึงได้รับเกียรติจาก คุณวรพจน์ ลิ้นกนกรัตน์  กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิร์คสเปซอาร์คิเทกเจอร์สตูดิโอ จำกัด มาร่วมแบ่งปันเรื่องราวที่น่าสนใจในการออกแบบ Salee Boutique Hotel โรมแรมที่อัดแน่นด้วยกลิ่นอายของความเป็นเชียงใหม่เอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม แต่ในขณะเดียวกันก็มีฟังก์ชันที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานสำหรับแขกที่เข้ามาพักได้เป็นอย่างดี

สะลี บูติก โฮเทล หรือ Salee Boutique Hotel ตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มากนัก ด้วยทำเลที่มีศักยภาพอีกทั้งยังติดถนนเส้นรอบเมืองเชียงใหม่ทำให้เจ้าของโครงการจัดสินใจทำโรงแรมขึ้นมา โดยเป็นโรงแรมขนาดเล็กที่ออกแบบและก่อสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด มีห้องพักจำนวน 22 ห้องและมีรูปแบบห้องพักให้เลือกถึง 4 แบบด้วยกัน โดยเริ่มออกแบบตั้งแต่กลางปี 2016 จนก่อสร้างแล้วเสร็จในปลายปี 2019 ที่ผ่านมานี่เอง แต่นอกจากทำเลทองของโครงการแล้ว ทางเจ้าของโครงการยังให้คุณค่ากับงานออกแบบเป็นอย่างมากและไว้วางใจให้เวิร์คสเปซอาร์คิเทกเจอร์สตูดิโอดูแลงานออกแบบทั้งหมด “แนวคิดหลักที่ทาง Workspace มักใช้ในการคิดงาน คือ การผสานวัฒนธรรมในพื้นที่นั้นๆ เข้ากับสถาปัตยกรรมอย่างกลมกลืน ซึ่งก็เป็นแนวความคิดหลักในการออกแบบที่ สะลี บูติก โฮเทล เช่นเดียวกัน สำหรับการออกแบบโรงแรมแห่งนี้สิ่งสำคัญที่เราต้องการ คือ การใส่ความเป็นสถาปัตยกรรมของเชียงใหม่ที่มีรายละเอียดการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ผสมผสานเข้ากับความทันสมัยของวัสดุและเทคโนโลยีทางสถาปัตยกรรมในยุคนี้ โดยให้ทั้งสองอย่างนี้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัวครับ

ซึ่งสำหรับจุดเด่นของที่นี่อยู่ที่การออกแบบองค์ประกอบ (element) ทางสถาปัตยกรรมที่ชัดเจน อย่างการเลือกใช้โฟมสำหรับงานก่อสร้างและตกแต่งอาคารมาขึ้นงานบัวปั้นย่อมุม โดยสั่งขึ้นรูปสำเร็จมาจากโรงงานแล้วจึงนำมาฉาบปูนทาสี ที่หน้างาน ทำให้ผนังอาคารไม่เกิดการรับภาระน้ำหนักที่มากเกินไป อีกทั้งวัสดุดังกล่าวยังทนต่อสภาพภูมิอากาศได้อย่างดี ซึ่งอีกนัยหนึ่ง งานปั้นบัวย่อมุมนี้ก็มีจุดเริ่มต้นมาจากสถาปัตยกรรมล้านนา เราจึงได้นำองค์ประกอบที่โดดเด่นดังกล่าวมาเรียบเรียงในภาษาสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ โดยร่วมกันคิดกับทางเจ้าของโครงการในการหาวัสดุที่มีน้ำหนักเบาและติดตั้งง่ายซึ่งได้ผลลัพธ์ออกมาน่าพอใจมากครับ” เมื่อได้แนวความคิดในการออกแบบงานสถาปัตยกรรมแล้ว ยังมีความท้าทายในการออกแบบโครงการด้านอื่นๆ อีกหรือไม่ “ความท้าทายของ สะลี บูติก โฮเทลนี้ คือ เรื่องที่ดินของโครงการที่ตั้งอยู่ริมถนนครับ ด้วยกฎหมายการก่อสร้างอาคารทำให้อาคารที่ออกแบบจำเป็นต้องมีระยะถอยร่นที่ค่อนข้างมาก ส่งผลให้การวางอาคารเพื่อตอบโจทย์ของเจ้าของโรงแรมในเรื่องจำนวนห้องทำได้อย่างจำกัด และลงตัวที่จำนวน 22 ห้อง แต่อย่างไรก็ตามด้วยระยะร่นนี้เองที่ทำให้อาคารมีด้านหน้าที่ตอบรับกับมุมมองที่ดีมาก เห็นรายละเอียดในการออกแบบสถาปัตยกรรมได้อย่างชัดเจน เกิดภาพจำติดตา อีกทั้งยังทำให้เกิดลานด้านหน้าที่เป็นทางเข้าโรงแรมที่สวยงามด้วยครับ เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโรงแรม”

เมื่องานสถาปัตยกรรมภายนอกลงตัวแล้วทางเวิร์คสเปซอาร์คิเทกเจอร์สตูดิโอ มีแนวความคิดในการตกแต่งภายใน การเลือกใช้วัสดุและไลท์ติ้งของ สะลี บูติก โฮเทลอย่างไร “แนวความคิดหลักในการตกแต่งภายใน คือ การออกแบบให้งานสถาปัตยกรรมไหลต่อเข้ามาในงานตกแต่งภายใน เพื่อสร้างความต่อเนื่องของการรับรู้ ร่วมกับแนวความคิดที่พยายามจะผสมผสานงานสถาปัตยกรรมเชียงใหม่ให้เข้ากับศิลปะสมัยใหม่ได้อย่างลงตัวครับ เช่น ลายผนังก่ออิฐโชว์แนวหรือลายของผ้ามัดย้อมที่สะท้อนมาที่ผนังห้อง นอกจากนี้ต้องขอบคุณทางเจ้าของโครงการที่ร่วมออกแบบไปกับเรา ไอเดียหลายๆ อย่างรวมถึงของตกแต่งที่เจ้าของโครงการไปเสาะหามาจากงาน craft ในเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงทำให้งานตกแต่งภายในดูกลมกลืนและโดดเด่นมากยิ่งขึ้นครับ”

ความสนุกในการออกแบบสะลี บูติก โฮเทล “ส่วนหนึ่งความสนุกในการออกแบบสะลี บูติก โฮเทลเป็นเรื่องของข้อจำกัดเรื่องของระยะร่นที่ได้กล่าวไปครับ นอกนั้นก็เป็นเรื่องของความสนุกของงานที่ทางสถาปนิกต้องการจะทำให้ที่ดินที่มีอยู่เกิดประโยชน์สูงสุดในเชิงการลงทุน อาคารสวยงามไม่พอธุรกิจก็ต้องไปได้ดีด้วย สิ่งสำคัญอีกประการ คือ การได้ลองแนวคิดและออกแบบใหม่ๆ ที่เจ้าของโครงการอนุญาตให้สถาปนิกได้ลองออกความคิดอย่างเต็มที่โดยไม่ปิดกั้น ซึ่งนอกจากจะไม่ปิดกั้นแล้วยังช่วยคิด ผลักดันและส่งเสริมในหลายๆ ส่วนครับ จนทำให้สะลี บูติก โฮเทลเสร็จออกมาอย่างที่ตั้งใจไว้”

จากงานออกแบบทางสถาปัตยกรรมเห็นได้ชัดว่าสถาปนิกให้ความสำคัญกับช่องเปิดที่มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องถึงแพทเทิร์นของงานย่อมุมบนผนังอาคารในเวลาเดียวกันค่อนข้างมาก ไม่ทราบว่ามีแนวความคิดในการเลือกแบรนด์วงกบหน้าต่างอย่างไร “เราเลือกใช้ TOSTEM รุ่น WE 70 สี Autumn Brown สำหรับหน้าต่างของทางสะลี บูติก โฮเทลทั้งหมดครับ เนื่องจากตัวโรงแรมตั้งอยู่ติดกับถนน อีกทั้งแนวกันสาดของอาคารก็มีไม่มากนัก เราจึงต้องการคุณสมบัติของหน้าต่างที่กันน้ำได้อย่างดีเยี่ยมและมีค่าการกันเสียงที่ดีในเวลาเดียวกันเพื่อที่ถึงแม้โรงแรมจะอยู่ติดถนนแต่ภายในห้องก็ยังเงียบและคงความเป็นส่วนเอาไว้ได้ ซึ่งทาง TOSTEM เองสามารถตอบโจทย์ที่เราต้องการได้ทั้งหมด นอกจากนี้ด้วยคุณภาพของอุปกรณ์ต่างๆ ของ TOSTEM เรามั่นใจว่าจะทำให้เกิดปัญหาการบำรุงรักษาในอนาคตที่บานปลาย สามารถลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้เป็นจำนวนมากครับ”

แม้ว่าการออกแบบ สะลี บูติก โฮเทล จะไม่ได้ง่ายและมีความท้าทายเข้ามาทดสอบไม่น้อย ทั้งเรื่องของข้อจำกัดต่างๆ ของพื้นที่โครงการที่ต้องทุ่มเทประสบการณ์ในการออกแบบใส่ไปในโครงการนี้อย่างเต็มที่ รวมถึงการใช้ระยะเวลา 3 ปีกว่าที่ สะลี บูติก โฮเทล จะพร้อมอวดโฉม แล้วความสุขที่ได้จากการออกแบบโรงแรมแห่งนี้คืออะไร “ความสุขที่ได้จากการออกแบบ สะลี บูติก โฮเทล สำหรับเราคือ การได้ใช้ความคิดอย่างอิสระ ได้ทดลองออกแบบ รวมถึงรายละเอียดในงานสถาปัตยกรรมใหม่ๆ ครับ และอย่างยิ่งอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญอย่างเจ้าของโครงการที่มีแนวคิดไปในทางเดียวกันทำให้งานนี้ออกมาได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจมากครับ”

สำหรับ สะลี บูติก โฮเทล โรงแรมขนาดเล็กที่ดีไซน์ไม่เล็กตาม เพราะเป็นโรงแรมที่กล้าจะเป็นตัวเอง กล้าที่จะนำเอกลักษณ์ของงานสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นมาสร้างให้เกิดเส้นสายที่ใหม่ขึ้น สบายตาขึ้นและเข้าถึงได้ง่ายอย่างมีชั้นเชิง ทั้งในส่วนของอาคารภายนอกที่มีการทอนรายละเอียดของย่อมุมมาใช้กับงานผนังอาคาร การตกแต่งภายในที่ร้อยเรียงงานออกแบบจากภายนอกเข้ามาได้ไม่เคอะเขิน นั่นจึงทำให้ที่นี่เป็นตัวอย่างของงานออกแบบที่สามารถแสดงอัตลักษณ์ของเชียงใหม่อย่างแข็งแรงผ่านงานสถาปัตยกรรมได้ชัดเจนและน่าค้นหาในเวลาเดียวกัน

เลือกบานประตูหน้าต่าง สำหรับห้องครัว

เลือกสรรบานประตู-หน้าต่างสำหรับห้องครัว

ห้องครัว คือพื้นที่การใช้งานสำคัญที่ควรให้ความสำคัญ นั่นก็เพราะเป็นห้องที่มีความต้องการพิเศษหลายประการจากฟังก์ชันที่ต้องใช้งาน เพื่อให้เราสามารถใช้งานส่วนอื่นของบ้านได้อย่างมีความสุขไปพร้อมกับการได้ลิ้มรสอาหารอร่อยจากครัวหลังบ้านของเราเอง ห้องสำหรับประกอบอาหารเช่นนี้ จึงจำเป็นต้องมีการจัดการกลิ่นและการระบายอากาศ ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุด ก็คือการเลือกใช้บานประตูหน้าต่างให้เหมาะกับการใช้งานพร้อมกับการเติมความงามให้กับห้องครัว หนึ่งในห้องแสนรักของสมาชิกในครอบครัว

ประตูระบายอากาศ

เลือกบานประตูหน้าต่าง สำหรับห้องครัว

ประตูของห้องครัวจำเป็นต้องทำหน้าที่ได้หลายๆ อย่าง ทั้งรักษาความปลอดภัยเพราะเป็นส่วนที่เชื่อมต่อกับพื้นที่นอกบ้าน แต่ในขณะเดียวกันต้องสามารถระบายอากาศและระบายกลิ่นจากในห้องครัว เพื่อรักษาสุขลักษณะที่ดีของบ้าน ทอสเท็ม (TOSTEM) จึงออกแบบ Airflow Door ที่สามารถเลือกระดับการเลื่อนเปิดหน้าบานตามฟังก์ชันทั้งหมดที่ต้องการ กรองผ่านทางมุ้งลวด – เปิดเพียง 35 มม. พร้อมล็อกบานเพื่อรักษาความปลอดภัยไปพร้อมกับการระบายความร้อน กลิ่น และเปิดเต็มบานขณะใช้งานห้องครัว หรือจะปิดสนิทก็ได้เช่นกัน

ประตู-หน้าต่างแต่ละซีรีส์ของ TOSTEM ต่างกันอย่างไร ?
ดูสินค้าเพิ่มเติม
แก้บ้านร้อนด้วยสินค้า TOTEM

หน้าต่างบานเลื่อน

เลือกบานประตูหน้าต่าง สำหรับห้องครัว

บานหน้าต่างที่เป็นที่นิยมในห้องครัวทุกบ้านนั่นคือบานเลื่อนกระจก เพราะสามารถเปิดออกอย่างเต็มที่เพื่อระบายกลิ่นและควันระหว่างการประกอบอาหาร หรือจะเปิดไว้ระบายอากาศ รวมทั้งบานกระจกยังเปิดให้แสงธรรมชาติเข้ามาทำให้ห้องครัวสว่างเต็มที่เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจขึ้นระหว่างการทำครัว และรังสี UV ยังช่วยสร้างสุขลักษณะที่ดีให้กับห้องครัวด้วย

หน้าต่างบานเปิด

เลือกบานประตูหน้าต่าง สำหรับห้องครัว

บานหน้าต่างแบบเปิดเป็นบานอีกประเภทที่นิยมกันมากในประเทศไทย ปรับจากหน้าต่างบานเปิดแบบเดิมๆ ด้วยการกรุหน้าบานด้วยกระจกเพื่อดึงเอาแสงสว่างมาสร้างสุขภาวะที่ดีในการทำครัว ลองปรับจากหน้าต่างบานกว้างให้แคบลง เติมดีไซน์ให้กับฟังก์ชั่นการระบายอากาศ โดยที่พื้นที่ตู้บิลท์อินบนผนังครัวยังใช้งานเก็บของได้เต็มที่ตามความต้องการ อีกทั้งการติดตั้งบานหน้าต่างเช่นนี้ข้างอ่างล้างมือ ยังช่วยให้อ่างล้างมือแห้งอยู่เสมอ

หน้าต่างบานกระทุ้ง

เลือกบานประตูหน้าต่าง สำหรับห้องครัว

หน้าต่างบานกระทุ้งทำหน้าที่เช่นเดียวกันกับหน้าต่างบานเปิด เพียงเปลี่ยนทิศทางจากการเปิดออกในแนวขวางเป็นการเปิดออกในแนวดิ่ง หน้าต่างแบบนี้ทำให้สามารถเปิดทิ้งไว้สำหรับระบายอากาศได้ตลอดทั้งวัน โดยยังคงความปลอดภัยในการใช้งานด้วย

บานเลื่อนแบ่งฟังก์ชัน

เลือกบานประตูหน้าต่าง สำหรับห้องครัว

นอกจากบานหน้าต่างที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ภายนอกบ้านแล้ว บานหน้าต่างแบบบานเลื่อนก็สามารถใช้กั้นแบ่งพื้นที่ภายในบ้านได้เช่นกัน เพื่อป้องกันกลิ่นและควันจากการประกอบอาหารที่จะเล็ดลอดออกไปสู่ห้องอื่นๆ และยังสามารถใช้ส่วนนี้เป็นส่วนเซอร์วิส เปิดออกเพื่อส่งอาหารต่อมายังห้องรับประทานอาหารได้โดยไม่ต้องเดินผ่านเข้าออกหลายครั้ง หรือใช้พื้นที่นี้เป็นส่วนกิจกรรมของครอบครัวในการช่วยตั้งโต๊ะอาหาร เติมความอบอุ่นในครอบครัวผ่านการสร้างสรรค์พื้นที่ภายในบ้าน

เลือกบานประตูหน้าต่าง สำหรับห้องครัว

ความต่างของการทำสีแบบอะโนไดซ์ และ Powder Coat

ความต่างของการทำสีแบบอะโนไดซ์ และ Powder Coat

สำหรับงานออกแบบที่ดีต่อผู้ใช้งานนั้นไม่อาจเลือกเพียงความสวยงามหรือฟังก์ชันการใช้งานได้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่นเดียวกับงานทำสีวงกบอะลูมิเนียมในปัจจุบันที่พัฒนาทั้งการดูแลรักษา ความคงทนไปจนถึงการสามารถสั่งทำให้เป็นรูปทรงและขนาดต่างๆ ได้นอกเหนือจากสี่เหลี่ยมแบบทั่วไป โดยเฉพาะในเรื่องของสีสันที่มีให้เลือกกว่าอดีตอยู่มาก ซึ่งวิธีการสำหรับทำสีให้กับวงกบประตูหน้าต่างนิยมทำกัน 2 วิธี คือ สีชุบอะโนไดซ์ (Anodized) ซึ่งเป็นวิธีทีทอสเท็ม (TOSTEM) เลือกใช้ และแบบสีพ่น Powder Coated ที่พบเห็นกันได้ทั่วไป โดยทั้งสองวิธีมีความแตกต่างกันในรายละเอียดค่อนข้างมาก ซึ่งในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกันมากขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกในการเลือกใช้วงกบอะลูมิเนียมให้เหมาะสมกับอาคารของคุณ

ที่มาของสีสัน

เริ่มแรกขอแนะนำวิธีทำสีแบบสีชุบอะโนไดซ์ (Anodized Color) คือการนำเส้นอะลูมิเนียมลงชุบด้วยกระแสไฟฟ้าจนเกิดเป็นชั้นฟิล์มอะลูมิเนียมออกไซด์ จนเกิดเป็นเฉดสีต่างๆ ตั้งแต่เฉดสีอ่อนอย่างสีซิลเวอร์ไปจนถึงเข้มสุดอย่างสีดำ แล้วจึงนำอะลูมิเนียมเข้ากระบวนการอบผิวเพื่อความทนทาน ซึ่งต่างจากวิธี Powder Coated ที่เป็นการใช้สีฝุ่นพ่นลงบนพื้นผิวของอะลูมิเนียมแล้วจึงค่อยอบ ด้วยขั้นตอนและวิธีการที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนกว่าทำให้วิธีทำสีแบบ Anodized Color หรือสีชุบอะโนไดซ์ให้อะลูมิเนียมให้สีสันที่มีมิติกว่าแบบ Powder Coated อย่างชัดเจน

ระยะเวลาการใช้งานและการดูแลรักษา

เนื่องจากกระบวนการที่ทำให้เม็ดสีติดกับพื้นผิวที่แตกต่างกันทำให้วิธีการทำสีแบบ Anodized Color ที่สร้างเนื้อสีด้วยกระแสไฟฟ้าให้ผิวมีความแข็งแร่ง เนื้อสีติดอยู่ทนทานได้ยาวนานและทนทานต่อการขูดขีดการกัดกร่อนของพื้นผิวได้ดี โดยความแข็งแรงของพื้นผิวนั้นเกิดจากความหนาของชั้นสีที่ทำการชุบไว้ทำให้วิธีการทำสีแบบ Anodized Color ส่งผลให้วงกบอะลูมิเนียมมีอายุการใช้งานยาวนานและดูแลรักษาได้ง่ายกว่าการทำสีแบบ Powder Coated

สวยงามคงทนไม่หวั่นต่อสภาพแวดล้อมภายนอก

วิธีการทำสีแบบ Anodized Color นอกจากให้สีสันสวยงามมีมิติแล้ว ผิวอะลูมิเนียมที่ได้ยังที่มีความเนียนเรียบ ลื่น ไม่ซีดจางแม้อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอด ทั้งยังทนต่อรังสี UV และการชะล้างจากน้ำฝนซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้สีซีดจาง จึงทำให้กรอบบานประตูหน้าต่างแบบ Anodized Color คงความสวยได้ยาวนานทนทานเหมาะกับการใช้งานภายนอก

ความคุ้มค่า

เนื่องจากวิธีการทำสีแบบ Anodized Color สามารถคงความสวยงามได้ตลอดอายุการใช้งาน จากสีที่เรียบเนียนติดแน่นทนนาน การเลือกกรอบบานที่ทำสีด้วยวิธี Anodize Color จึงนับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เนื่องจากอาคารภายนอกจะทำความสะอาดได้ยากกว่าภายในการใช้อะลูมิเนียมที่มีคุณภาพสูง ไม่ต้องทำความสะอาดบ่อยย่อมช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้เป็นจำนวนมาก

หลักการออกแบบช่องบานเปิดของอาคารสูง

หลักการออกแบบช่องบานเปิดของอาคารสูง

อาคารยิ่งสูง ก็ยิ่งมีปัจจัยของงานออกแบบที่จำเป็นต้องใส่ใจเพิ่มขึ้นอีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะกับประสิทธิภาพของบานหน้าต่าง ส่วนประกอบที่จะต้องสัมผัสและปะทะกับสิ่งแวดล้อมภายนอกตลอดเวลา และยังรุนแรงกว่าการอยู่ใกล้ระดับพื้นดินทั่วไป เราชวนคุณมารู้จักกับหลักการออกแบบช่องเปิดของอาคารสูง เพื่อการเลือกใช้บานหน้าต่างที่เหมาะสมทั้งฟังก์ชั่นการใช้งาน และเสริมให้สถาปัตยกรรมงดงามตามดีไซน์

ช่องเปิดตามข้อบังคับ

ช่องเปิดออกสู่ภายนอกสำหรับอาคารสูงนั้น มีหน้าที่สำหรับการระบายอากาศโดยวิธีธรรมชาติ ซึ่งตามกฎกระทรวงบอกไว้ว่า ช่องเปิดที่ออกสู่ภายนอกอาคารจำเป็นต้องเปิดได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของพื้นที่ห้องนั้น ซึ่งจะเป็นบานหน้าต่างแบบบานกระทุ้ง บานสะวิง บานเกล็ด หรือประตูสำหรับเปิดออกสู่ระเบียงในแต่ละส่วนได้อย่างปลอดภัย

ชนิดช่องเปิด

ชนิดของช่องเปิดสำหรับอาคารสูงนั้น ควรคำนึงถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก ทั้งความปลอดภัยในเรื่องระยะความสูงจากพื้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักติดตั้งส่วนล่างเป็นหน้าต่างบานฟิกซ์ร่วมกับหน้าต่างบานกระทุ้ง บานสะวิง หรือบานเลื่อนที่อยู่ด้านบน รวมทั้งความปลอดภัยจากความรุนแรงของสภาพอากาศ ซึ่งอยู่ที่มาตรฐานของกรอบบานและกระจกเป็นสำคัญ

กระจกสำหรับช่องเปิด

กระจกเป็นอีกส่วนประกอบที่สำคัญนอกเหนือจากกรอบบานหน้าต่างสำหรับอาคารสูง เพราะเป็นพื้นผิวที่ต้องสัมผัสกับแรงปะทะจากสิ่งแวดล้อมภายนอกโดยตรงตลอดเวลา กฎกระทรวงจึงออกมาเพื่อบังคับว่า กระจกสำหรับอาคารสูงจะต้องเป็นกระจกตั้งแต่สองชั้นขึ้นไปประกบกัน โดยมีวัสดุคั่นกลางระหว่างชั้นและยึดกระจกให้ติดแน่นเป็นแผ่นเดียว

GRANTS Series

ด้วยลักษณะพิเศษของบานหน้าต่างสำหรับอาคารสูงที่จำเป็นต้องมีประสิทธิภาพเหนือกว่าอาคารทั่วไป ทอสเท็ม (TOSTEM) เองก็มีผลิตภัณฑ์รุ่น GRANTS Series ที่ผ่านมาตรฐานการทดสอบสำหรับอาคารสูงโดยเฉพาะ ทั้งเรื่องคุณสมบัติการต้านทานแรงลมตามระดับความสูงของอาคาร ที่ยิ่งสูง ยิ่งต้องต้านแรงลมได้มากขึ้น, การป้องกันน้ำรั่วซึม จากแรงดันลมและน้ำฝน, การป้องกันอากาศรั่วไหลเพื่อความอยู่สบาย และการป้องกันเสียงจากภายนอก จึงนับเป็นความงามของงานสถาปัตยกรรมที่มาพร้อมกับคุณสมบัติของฟังก์ชันการใช้งานตามมาตรฐานในระดับสากล และไม่จำกัดเพียงแค่อาคารสูงเท่านั้น อาคารแบบใดก็สามารถใช้งานกรอบบานรุ่น GRANTS ได้อย่างทนทานและงดงาม

UNIQUE FEATURES

นอกจากคุณสมบัติของกรอบบานตามมาตรฐานแล้ว กรอบบานประตูหน้าต่างรุ่น GRANTS ของทอสเท็ม (TOSTEM) ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์พิเศษที่เสริมประสิทธิภาพให้เต็มที่ขึ้นอีก ทั้งส่วนคู่ชนกลางบานเลื่อนที่ซ้อนตัวเข้าหากันแบบสลิม ดีไซน์ซ่อนกรอบบานเข้าภายในวงกบ ระบบป้องกันน้ำ 2 ชั้น และอุปกรณ์ดีไซน์แบบ L-Fit ทั้งยังสามารถติดตั้งมุ้งจีบเป็นบานเสริมสำหรับวันสบายๆ อากาศดีที่ต้องการเปิดหน้าต่างรับลมได้อีกด้วย

7 สัญญาณ ที่บอกว่าควรเปลี่ยนประตูบ้านบานใหม่

7 สัญญาณ ที่บอกว่าควรเปลี่ยนประตูบ้านบานใหม่

ประตูบ้านคือทางเข้าหลักจากนอกบ้านเข้าสู่ภายในบ้าน จึงเป็นส่วนประกอบภายในบ้านที่จำเป็นจะต้องให้ความสำคัญอยู่เสมอ ตั้งแต่การเลือกประตูที่แข็งแรงทนทานต่อการปิดเปิดใช้งานทุกวัน ความปลอดภัยเพื่อป้องกันการบุกรุกจากนอกบ้าน ไปจนถึงเรื่องความสวยงามตลอดอายุการใช้งาน แล้วเมื่อไหร่ที่เราควรจะเปลี่ยนประตูบ้านบานใหม่ได้แล้ว? คำถามที่ใครหลายคนอาจคาดไม่ถึง เพราะมักจะเปลี่ยนก็ต่อเมื่อเกิดปัญหาเรียบร้อยแล้ว เราจึงชวนคุณมาเช็คสุขภาพประตูบ้าน เพื่อจะได้เปลี่ยนเป็นบานใหม่ก่อนปัญหาจะมาถึง หากพบปัญหาใดปัญหาหนึ่งเกิดขึ้นกับประตูบ้านของคุณแล้วละก็ เตรียมพิจารณาเปลี่ยนประตูบ้านบานใหม่ได้เลย

7 สัญญาณ ที่บอกว่าควรเปลี่ยนประตูบ้านบานใหม่ได้แล้ว

แสงลอดจากกรอบบานประตูไม้

สังเกตรอยต่อระหว่างขอบบานกับวงกบ หากกลางคืนหรือปิดแล้วมีแสงลอดผ่านได้ โดยเฉพาะหากบานประตูบ้านเป็นบานไม้ แสดงว่าประตูไม้เกิดการหดตัว อาจจะเนื่องจากการใช้งานมาอย่างยาวนาน หรือการเตรียมไม้ก่อนทำบานประตูที่ไม่ดีพอ อาจทำการแก้ไขชั่วคราวด้วยการติดเทปโฟมซีลกับขอบประตูโดยรอบ แต่หากใช้งานนานไปแล้ว ไม้เกิดการหดตัวเพิ่มขึ้นอีก อาจพิจารณาเปลี่ยนบานประตูใหม่

7 สัญญาณ ที่บอกว่าควรเปลี่ยนประตูบ้านบานใหม่ได้แล้ว

ประตูไม้ปิดไม่สนิท

ข้อจำกัดของประตูไม้จริงคือการหดหรือขยายตัวตามแต่สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง หากประตูปิดไม่สนิทหรือไม่แน่น พยายามดึงอย่างไรก็ไม่สนิทพอดีกับวงกบ นั่นอาจเป็นเพราะบานประตูที่บวมขยายตัวขึ้นจากความชื้น หรืออีกประการหนึ่งที่เห็นชัดคือ บานประตูโก่งหรือบิดร้าวจนประกบกับวงกบไม่สนิท ส่วนนี้เป็นจุดเร่งด่วนที่ควรเปลี่ยนบานประตูให้เร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัยทั้งกับการใช้งาน และความปลอดภัยภายในบ้าน

7 สัญญาณ ที่บอกว่าควรเปลี่ยนประตูบ้านบานใหม่ได้แล้ว

บานประตูตกจนลากกับพื้น

เป็นอาการที่เห็นได้บ่อยโดยเฉพาะกับบานประตูบ้าน เพราะประตูบ้านบานหลักมักเป็นบานใหญ่ น้ำหนักเยอะ สังเกตจากเวลาปิดประตูจะมีเสียงลากไปกับพื้น จนอาจทำให้เกิดความเสียหายกับพื้นได้ หรือหากจะต้องล็อกปิดประตูจะต้องยกประตูขึ้นจึงจะล็อกได้สนิท สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากบานพับที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเสื่อมสภาพจนไม่สามารถรองรับน้ำหนักของบานประตูและแรงกระแทกจากการเปิดปิดได้ แนะนำให้เปลี่ยนหน้าบานและชุดอุปกรณ์ใหม่ทั้งหมด

7 สัญญาณ ที่บอกว่าควรเปลี่ยนประตูบ้านบานใหม่ได้แล้ว

บานเลื่อนฝืด

สำหรับบางบ้านที่ใช้บานประตูแบบเลื่อนเปิดปิด หากเกิดอาการบานเลื่อนฝืด ขั้นแรกอาจใช้การหยอดน้ำมันหล่อลื่นก่อน แต่หากเป็นไปนานเข้า หรือสังเกตเห็นได้ชัดเจนว่าบานประตูตก อาจเกิดจากล้อเลื่อนไม่ได้มาตรฐาน หรือเสื่อมสภาพไม่สามารถรองรับน้ำหนักของหน้าบานได้อีกต่อไป แนะนำให้รีบเปลี่ยนบานประตูให้เร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัย

7 สัญญาณ ที่บอกว่าควรเปลี่ยนประตูบ้านบานใหม่ได้แล้ว

สังเกตบานพับ เสียงดังออดแอด

หลายครั้งที่บานประตูบ้านอาจยังไม่แสดงอาการ การหมั่นสังเกตบานพับก็ช่วยให้เห็นความเสียหายได้ตั้งแต่เนิ่นๆ บานพับที่บางเกินไป ใช้ไปนานเข้าน้ำหนักของประตูจะกดทับลงจนเกิดเสียงดังออดแอด โดยเฉพาะบานพับด้านบนที่เสริมไม่เพียงพอสำหรับรับน้ำหนักของประตูเอาไว้ หรือบานพับที่ขึ้นสนิมก็ยิ่งส่งผลให้การใช้งานลดถอยลงอีก หากยังไม่อยากเปลี่ยนบานประตูทั้งบาน อาจแก้ไขเบื้องต้นด้วยการเปลี่ยนเป็นบานพับอะลูมิเนียม และเติมอุปกรณ์ประกอบ อย่างโช๊คอัพประตู เพื่อเสริมความแข็งแรงให้มากขึ้น หรือหากอายุการใช้งานประตูถึงควรแก่เวลาต้องเปลี่ยน ก็ถือโอกาสเปลี่ยนทั้งบานประตู​เสียเลย

7 สัญญาณ ที่บอกว่าควรเปลี่ยนประตูบ้านบานใหม่ได้แล้ว

ต้องเปลี่ยนหน้าต่างส่วนอื่นของบ้าน

หากประตูบ้านใช้งานมาในระยะหนึ่ง หรือจำเป็นจะต้องเปลี่ยนหน้าต่างส่วนอื่นของบ้านใหม่ เนื่องจากเริ่มผุพังหรือเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะหากต้องเปลี่ยนทั้งหน้าบานและวงกบ ทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลาและขั้นตอนในการทำงาน รวมทั้งต้องทำความสะอาดภายในบ้านหลังจากการติดตั้งใหม่ให้เรียบร้อย ก็ถือโอกาสนี้เปลี่ยนบานประตูบ้านใหม่เสียเลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาทำทีละอย่างตามปัญหาที่เกิด รวมทั้งเป็นการเมคโอเวอร์บ้านให้บานประตูและหน้าต่างเป็นดีไซน์เดียวกันไปในตัว

7 สัญญาณ ที่บอกว่าควรเปลี่ยนประตูบ้านบานใหม่ได้แล้ว

เก่าโทรม อายุการใช้งานยาวนาน

บางครั้งบานประตูบ้านอาจจะไม่ได้เกิดปัญหาใดๆ แต่ด้วยอายุการใช้งานที่ผ่านมายาวนานแล้ว เกิดอยากจะเปลี่ยนบานใหม่ขึ้นมา แนะนำให้เริ่มต้นสังเกตข้อจำกัดของวัสดุประตูบ้านเดิม ยกตัวอย่างบานประตูไม้ที่มีการหดขยายตัวตามสภาพอากาศ หรืออุปกรณ์ประกอบจากเหล็กที่มักขึ้นสนิมเมื่อโดนแดดฝนนานเข้า เน้นเลือกวัสดุที่ข้ามข้อจำกัดจากสภาพภูมิอากาศได้เพราะประตูบ้านจะต้องเจอกับความเปลี่ยนแปลงของอากาศตลอดทั้งวัน อย่างกรอบบานประตูอะลูมิเนียมที่ได้รับการรับรองมาตรฐานว่าทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง ปลอดปลวก ทนไฟ ป้องกันเสียง ป้องกันน้ำและอากาศที่รั่วซึม โดยเลือกที่ได้มาตรฐานรับรองตั้งแต่ตัวหน้าบาน มาตรฐานการติดตั้ง ไปจนถึงบริการหลังการขาย เพื่อให้การเปลี่ยนประตูบ้านครั้งใหม่คุ้มค่า และทนทานอย่างดีตลอดอายุการใช้งาน


หากใครสนใจสินค้า TOSTEM สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทีปุ่มด้านบนเลย!