เข้าใจความหนาของอะลูมิเนียม หนาต่างกัน ตามการใช้งาน

เข้าใจความหนาของอะลูมิเนียม หนาต่างกัน ตามการใช้งาน

ดีเทลของงานอะลูมิเนียม นอกจากงานออกแบบให้เข้ากับรูปแบบการใช้งานแล้ว อีกเรื่องที่สำคัญยังอยู่ที่ตัววัสดุเองด้วย เพื่อให้ทั้งสองสิ่งเข้ามาสร้างประสิทธิภาพให้แก่งานประตู-หน้าต่าง ทอสเท็ม (TOSTEM) ได้ออกแบบหน้าตัดเฟรมอะลูมิเนียมด้วยส่วนผสมของความหนาต่างๆ ที่จะนำมาผลิตกรอบบานให้เหมาะสมกับคุณสมบัติตามที่ลูกค้าแต่ละบ้านต้องการ และนี่คือเหตุผลที่ว่า ทำไม ทอสเท็ม (TOSTEM) ต้องมีความหนาของอะลูมิเนียมที่แตกต่างออกไป

ความหนาสำคัญอย่างไรกับกรอบบาน? เพราะหน้าตัดที่หนาแตกต่างกัน ย่อมหมายถึงค่าความแข็งแรงและปัจจัยในการใช้งานที่แตกต่างกัน เมื่อได้การออกแบบทางวิศวกรรมที่สร้างสมดุลย์กันระหว่างการรับแรง ความหนาวัสดุ และน้ำหนักโดยรวมของผลิตภัณฑ์ อย่างลงตัว ดังนั้นในกรอบบานหนึ่งกรอบ จึงประกอบไปด้วยส่วนประกอบแต่ละชิ้นที่ความหนาอะลูมิเนียมแตกต่างกันไปตามหน้าที่ของตัวเอง เพื่อให้ผลทั้งในเรื่องความแข็งแรงไปพร้อมกับน้ำหนักเบากว่าเดิม ส่งผลต่อการติดตั้งที่จะทำได้ง่ายขึ้นและประณีตขึ้น

ค่าความหนามาจากไหน? เมื่อคำนึงถึงความแข็งแรงของกรอบบานอะลูมิเนียม  ความหนาของอะลูมิเนียมจึงต้องมีหลายๆ ขนาด ซึ่งขนาดทั้งหลายเหล่านี้เกิดจากหลักการออกแบบหน้าตัดอะลูมิเนียม ซึ่งเกิดจากความต้องการคุณสมบัติตามปัจจัยต่างๆ ทั้งเรื่องลักษณะการประกอบ การใช้งานชิ้นส่วนย่อยๆ การหดขยายของวัสดุ งานดีไซน์ผลิตภัณฑ์ในแต่ละซีรีส์ และที่เป็นหัวใจสำคัญคือเรื่องความแข็งแรง

เลือกความหนาในขั้นตอนใด? ทาง TOSTEM เองจะคำนวณและทดสอบจริงโดยการนำเสนอเป็นซีรีส์ก่อนที่จะรับออเดอร์การผลิต ซึ่งความหนาของอะลูมิเนียม เป็นแค่หนึ่งในตัวบ่งชี้ในการเลือกรุ่นเพื่อใช้งาน ยังมีเรื่องของประสิทธิภาพความแข็งแรงในการต้านทานลม ประสิทธิภาพด้านการกันน้ำ กันอากาศรั่วซึม กันเสียง และการทดสอบจำนวนรอบเปิด-ปิด ให้ได้ตามมาตรฐานอุตสาหกรรมญี่ปุ่นอีกด้วย

ค่าความหนามาพร้อมมาตรฐาน การคำนวณและทดสอบประสิทธิภาพในทุกขั้นตอน ใช้ทั้งมาตรฐาน JIS ซึ่งเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่น และมาตรฐาน ASTM ซึ่งเป็นมาตรฐานการทดสอบวัสดุของสหรัฐอเมริกา โดยทั้งสองเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และกำกับอยู่ในผลิตภัณฑ์ทุกรุ่นของทอสเท็ม (TOSTEM)