fbpx

5 วิธีจัดการบ้านปลอดภัยจากเชื้อโรคร้าย

5 วิธีจัดการบ้านปลอดภัยจากเชื้อโรคร้าย

แม้จะมั่นใจว่าอยู่ในบ้านที่สะอาดเรียบร้อยแล้ว แต่เชื้อโรคร้ายหลายสายพันธุ์ก็ยังแฝงตัวติดอยู่กับข้าวของใช้งานประจำวัน แม้จะมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่ก็ทุกคนก็ประมาทไม่ได้จากที่เคยทำความสะอาดอยู่แล้ว ยิ่งต้องเพิ่มความเข้มข้นของการดูแลบ้านเพื่อให้ทุกคนในครอบครัวมั่นใจตลอดเวลาที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ ทอสเท็มจึงมาแนะนำ 5 วิธีจัดการบ้านปลอดภัยจากเชื้อโรคต่างๆนานาที่พร้อมเข้ามารังควานเราทุกเมื่อเริ่มต้นแรกสุดจากการรักษาสุขภาพร่างกายของเราให้แข็งแรง ไปพร้อมกับการสร้างสภาพแวดล้อมในบ้านให้สะอาดปลอดเชื้อเสมอ เพื่อลดโอกาสสะสมเชื้อให้น้อยที่สุด เพิ่มความสุขให้มากที่สุด

อากาศสะอาด ถ่ายเทสะดวก

หัวใจสำคัญของหลักการรักษาสุขลักษณะภายในบ้านที่เรียนรู้กันมายาวนานคือการให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทและสดชื่นอยู่สม่ำเสมอ เพื่อหมุนเวียนเอาอากาศเก่าออกไปสู่นอกบ้าน นำอากาศใหม่เข้ามาภายในบ้าน อย่างน้อยวันละ 2-3 ชั่วโมง เปิดหน้าต่างให้กว้างออกเพื่อรับอากาศและลมอย่างเต็มที่ หรือหากมีบานหน้าต่างภายในบ้านสักส่วนที่เป็นบานกระทุ้งหรือบานสำหรับระบายอากาศโดยเฉพาะสามารถเปิดทิ้งไว้ได้ทั้งวันอย่างปลอดภัย ก็ช่วยให้การระบายอากาศเป็นไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

เช็คระบบปรับอากาศ

สำหรับอากาศร้อนในช่วงนี้ หนีไม่พ้นจะต้องใช้เครื่องปรับอากาศกันแทบทุกวัน ซึ่งทั้งตัวแอร์เองและท่อแอร์เป็นแหล่งสะสมความชื้นที่เอื้อให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ การล้างเครื่องปรับอากาศจึงเป็นเรื่องจำเป็นมาก หรือการถอดแผ่นกรองแอร์ไปทำความสะอาดก็ช่วยขั้นต้นได้ในระดับหนึ่ง รวมทั้งส่วนกักฝุ่นของบ้านส่วนอื่นๆ ทั้งมุ้งลวด หรือมู่ลี่ ก็อาจทำพร้อมกันไปได้ เพราะใช้วิธีทำความสะอาดแบบเดียวกัน ด้วยการล้างน้ำเปล่าก่อน แล้วค่อยใช้แปรงชุบน้ำสบู่อุ่น ขัดฝุ่นต่างๆ ออกให้เกลี้ยง หรืออาจใช้น้ำยาเดตตอลช่วยทำความสะอาดได้ (ระวังห้ามให้โดนร่างกาย) แล้วนำไปผึ่งตากแดดให้แห้งสนิท

เพิ่มความถี่การทำความสะอาด

ในจุดที่เราต้องสัมผัสและใช้งานอยู่เป็นประจำ จำเป็นต้องทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างละเอียดทุกซอกมุม กับตั้งแต่ของชิ้นใหญ่อย่างเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องใช้งาน ไปจนถึงของชิ้นเล็กชิ้นน้อย โดยเฉพาะของที่ต้องนำออกจากบ้านไปด้วย เช่น กุญแจบ้าน โทรศัพท์มือถือ รีโมทคอนโทรล แว่นตา เป็นต้น จะให้ดีให้เช็ดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อชนิดกรดไฮโปรคลอรัส ซึ่งมีความปลอดภัยต่อร่างกายมนุษย์ด้วย เช็ดทำความสะอาดบนพื้นผิวตั้งแต่ก่อนนำเข้ามาในบ้าน และกลับถึงบ้านก็ต้องล้างมือด้วยสบู่ทันที เพื่อช่วยลดการปนเปื้อนกลับเข้ามาภายในบ้าน หลักฐานทางวิชาการ จากข้อมูลโดยนายแพทย์สุธี ทุวิรัตน์ บอกว่า เชื้อไวรัสโควิดสามารถอยู่บนพื้นผิวกระดาษได้ประมาณ 1 วัน บนโลหะประมาณ 2 วัน และพลาสติก 3 วัน

น้ำยาฆ่าเชื้อ ของสำคัญติดบ้าน

ในยุคนี้ น้ำยาฆ่าเชื้อเป็นเหมือนน้ำยาสามัญประจำบ้านอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยทำให้บ้านหลังนี้เป็นเขตปลอดเชื้อ ทั้งเชื้อโรคทั่วไปในอากาศ และโดยเฉพาะเชื้อไวรัสโควิดที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในบ้านเราขณะนี้ หากไม่สามารถจัดหาน้ำยาฆ่าเชื้อเฉพาะได้ สามารถใช้งานไฮเตอร์รุ่นผ้าขาว ซึ่งมีส่วนผสมของโซเดียมไฮโปรคอลไรต์ความข้มข้น 6% ผสมน้ำในอัตราส่วน 1:20 มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสได้อย่างดี ใช้เช็ดถูทำความสะอาดพื้นและเฟอร์นิเจอร์ทุกซอกทุกมุม แต่จำเป็นจะต้องเตรียมใหม่ทุกครั้งที่ใช้งาน (ข้อมูลจากนายแพทย์สุธี ทุวิรัตน์ ​นักวิชาการอิสระ)

ฆ่าเชื้อผืนผ้า

อย่างที่ทราบกันดีว่า ผ้าเป็นประเภทของวัสดุที่กักฝุ่นและเชื้อโรค โดยเฉพาะสารคัดหลั่งต่างๆ จากร่างกายที่ติดอยู่บนผืนผ้าได้ยาวนานกว่าพื้นผิวประเภทอื่นๆ ผืนผ้าภายในบ้านทั้งเสื้อผ้าเองก็ดี หรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เช่น ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน จึงเป็นส่วนสำคัญที่ประมาทไม่ได้ โดยเฉพาะหากภายในบ้านมีคนที่มีความเสี่ยงการสัมผัสเชื้อ ควรแยกผ้ากันซักเพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยก่อนซักเสื้อผ้าควรนำเสื้อผ้ามาแช่น้ำร้อนประมาณ 80 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 10 นาที หรือแช่ด้วยคลอรีนความเข้มข้น 0.02 เปอร์เซ็นต์