fbpx

Tag: สถาปัตยกรรม

TOSTEM, สถาปนิก, ประตู, หน้าต่าง, สถาปนิกเลือกประตู

เมื่อสถาปนิกสร้างบ้านให้ตัวเองอยู่ ประตูหน้าต่างจึงต้องท็อปฟอร์ม

หลังจากครอบครัวมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งชีวิต คุณนาว อัคราวุฒิ รัชต์บริรักษ์ สถาปนิกเจ้าของบริษัทออกแบบภายใน TOFF  จึงต้องการขยับขยายที่อยู่อาศัยเพื่อความสะดวกสบายของทุกคนที่เขารัก ทาวน์โฮมขนาดใหญ่ภายในหมู่บ้าน Noble Cube ซึ่งเป็นหมู่บ้านเดิมที่คุณนาวและครอบครัวพักอาศัยอยู่จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการรองรับขนาดครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น

TOSTEM, สถาปนิก, ประตู, หน้าต่าง, สถาปนิกเลือกประตู
คุณนาว อัคราวุฒิ รัชต์บริรักษ์ สถาปนิกและเจ้าของบ้าน

“เราจะเน้นในเรื่องของคุณสมบัติมัน เช่น ถ้าฝนตกลงมา น้ำต้องไม่เข้าบ้าน ซึ่งวันที่ติดตั้งเสร็จเนี่ยฝนตกหนักพอดี ตอนแรกเรากังวลว่าจะมีปัญหาไหม แต่ทางเจ้าหน้าที่ที่ติดตั้งของ TOSTEM เขาแจ้งว่ายังไงน้ำก็ไม่เข้า เพราะระบบของตัวเฟรมถูกออกแบบมาให้รับน้ำแล้วก็เดรนออกด้านล่าง ซึ่งพอฝนตกวันนั้นผมก็รีบเข้ามาดูบ้าน ก็ไม่มีรั่วสักจุด แฮปปี้มาก”

คุณนาวกล่าวถึงหนึ่งในคุณสมบัติของ TOSTEM ที่ทำให้รู้สึกวางใจ

TOSTEM, สถาปนิก, ประตู, หน้าต่าง, สถาปนิกเลือกประตู

ลักษณะของบ้านที่ปลอดโปร่งโล่งสายตาคือดีไซน์ที่คุณนาวสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยตัวเอง และแน่นอนว่าหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้บรรยากาศออกมาน่าอยู่เช่นนี้ก็คือการเลือกใช้บานประตูหน้าตาภายในตัวอาคารนั่นเอง ซึ่งกว่า 90% ของประตูหน้าต่างทุกบานในบ้านล้วนเป็นผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ TOSTEM ทั้งสิ้น

“ส่วนตัวผมไม่ชอบประตูมือจับ เเต่พอมาเจอประตู หน้าต่างรุ่น ATIS มันตอบโจทย์เพราะมันเป็นมือจับยาวตลอดแนว คือเขาเอาเฟรมของบานมาเป็นที่จับ ซึ่งแบรนด์อื่นไม่มี เราก็อยากจะให้บ้านออกมาสวยงามแล้วก็แข็งแรงทนทาน TOSTEM ก็ตอบเลยโจทย์ที่สุด” นี่ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่มีผลต่อการตัดสินใจของคุณนาวไม่แพ้กัน

TOSTEM, สถาปนิก, ประตู, หน้าต่าง, สถาปนิกเลือกประตู

“ผมว่า TOSTEM เน้น design + function มันเลยตอบโจทย์ เพราะว่าเราเป็นสถาปนิกด้วย ก็ต้องการออกแบบ design แล้วก็ function ให้มัน perfect fit กัน” คุณนาวบอกเล่าถึงความประทับใจหลังการติดตั้งผลิตภัณฑ์เสร็จทั้งหมด “สำหรับบ้านหลังนี้ก็พอใจเต็มที่ครับ เราก็ลุยออกแบบเอง เขียนแบบเอง คุมงานผู้รับเหมา ดังนั้นเราก็ค่อนข้างจะภูมิใจกับสิ่งที่เราทำ เวลามีใครเข้ามาเยี่ยม ก็จะชื่นชมเป็นเสียงเดียวกัน ว่าหน้าต่างสวยนะครับ ใช้ของยี่ห้ออะไร พอบอก TOSTEM มันก็สร้างมูลค่าให้กับบ้านด้วย”

“อีกเรื่องนึงที่เราเซอร์ไพรส์หลังจากติดตั้งเสร็จคือความเงียบ ต้องเล่าก่อนว่าในละแวกนี้จะมีศาสนสถาน ซึ่งบ้านเดิมผมก็อยู่ตรงหลังข้างในนั่นแหละ หลังนั้นก็ใช้เป็นอะลูมิเนียมชุดที่โครงการจัดหามาให้ ซึ่งมันไม่ได้ช่วย ป้องกันเรื่องเสียง ดังนั้นพอรีโนเวทหลังนี้ มันก็เลยเป็นประเด็นนึงด้วยว่าการจะเลือกประตูหน้าต่าง การกันเสียงต้องมาอันดับหนึ่ง แล้วตอนแรกเราก็ยังไม่ได้ทดสอบ เพราะมันทดสอบไม่ได้ จนกระทั่งติดตั้งเสร็จ ต้องบอกตรงๆ นะครับว่ามันเงียบมากครับ ใช้คำนี้เลย คือมันเงียบจนแบบไม่ได้ยินเสียงอะไรข้างนอกเลยอะ ผมแฮปปี้กับ TOSTEM ตัวระบบกันเสียงของเขามาก” ความประทับใจที่ไม่คาดคิดยิ่งทำให้คุณนาวรู้สึกว่าตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกใช้ TOSTEM

  

วิธีอ่านแปลนบ้านจากวิศวะ และสถาปนิก

วิธีอ่านแปลนบ้านจากวิศวะ และสถาปนิก

แปลนบ้าน ช่วยให้เราเข้าใจรายละเอียดต่างๆ ของบ้าน ไปจนถึงสามารถจินตนาการถึงห้องต่างๆ ภายในบ้าน หรือแม้แต่ส่วนโค้งที่ทอดยาวเข้าไปในผนัง ประตู และหน้าต่าง ทั้งยังช่วยให้เราสื่อสารกับผู้ออกแบบและผู้รับเหมาให้งานบ้านออกมาสวยตรงใจ ตรงตามละเอียดในแปลนบ้านของเราได้เป็นอย่างดี

บทความนี้ TOSTEM จึงขอแนะนำเรื่องควรรู้ขั้นพื้นฐานของแปลนบ้านแบบวิศวกรรม และแบบสถาปัตยกรรม รวมถึงสัญลักษณ์ต่างๆ ที่พบเห็นบ่อย ให้ทุกคนได้ทราบเบื้องต้นกัน 

วิธีอ่านแปลนบ้านจากวิศวะ และสถาปนิก

รู้จักแปลนแบบวิศวกรรม 

แปลนแบบวิศวกรรม เป็นเอกสารที่บอกรายละเอียดของการก่อสร้างบ้านอย่างละเอียด ออกแบบโดยวิศวกร โดยครอบคลุมตั้งแต่ โครงสร้างพื้นฐาน ระบบไฟฟ้าและระบบน้ำ ซึ่งสถาปนิกมักจะติดตัวอักษรกำกับแปลนด้วยรหัสตัวอักษร เป็นต้นว่า

  • แผ่น S – แบบวิศวกรรมโครงสร้าง (Structural Drawing) แปลนที่กำหนดรายละเอียดของโครงสร้างและความแข็งแรงของตัวบ้าน ประกอบไปด้วยข้อมูลฐานราก เสา คาน พื้น โครงหลังคา และวิธีการเสริมคอนกรีต เหล็กเส้น รวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ ที่รับประกันความสมบูรณ์ของโครงสร้างของอาคาร
  • แผ่น E – แบบวิศวกรรมระบบไฟฟ้า (Electrical Drawing) บอกรายละเอียดงานระบบไฟฟ้าและแสงสว่างภายในบ้าน เช่น ชนิดของโคมไฟ ตำแหน่งของวงจร เบรกเกอร์ เป็นต้น

วิธีอ่านแปลนบ้านจากวิศวะ และสถาปนิก

ใส่ใจและเข้าใจแปลนแบบสถาปัตยกรรม

แปลนสถาปัตยกรรม เป็นแปลนที่สถาปนิกออกแบบ โดยระบุขนาดห้อง จำนวนห้อง แปลนหลังคา แปลนพื้นของอาคาร และรายการประกอบแบบ บอกรายละเอียดวัสดุที่จะใช้ เช่น ผนัง ฝ้า ประตูและหน้าต่าง นอกจากนี้ภายในแบบจะมีสัญลักษณ์ที่ต่างกันไปตามแต่ละแปลน โดยสัญลักษณ์ที่ปรากฏให้เห็นบ่อยๆ มีอะไรบ้าง ลองมาดูกัน 

  • เส้นบอกระยะ (dimention) คือ เส้นบอกขนาดความกว้าง ความยาวของแต่ละห้อง 
  • สัญลักษณ์รูปด้าน ในแปลนบ้านจะมีสัญลักษณ์ที่เป็นหัวลูกศรหันเข้าหากัน นั่นคือเพื่อแสดงรูปด้านรวมภายนอกอาคาร ส่วนหัวลูกศรหันออกแสดงรูปด้านรวมภายในของห้อง ส่วนตัวเลขในวงกลมแถวบน หมายถึงแต่ละด้านในแปลน ส่วนตัวเลขแถวล่าง เป็นหน้าที่แสดงรูปด้านนั้นๆ อ้างอิงถึง

  • สัญลักษณ์ประตู หน้าต่าง
    สำหรับสัญลักษณ์ประตูนั้นจริงๆ อาจไม่เป็นวงกลมเสมอไป แต่ทั้งนี้มักมีตัวเลขและตัวอักษรกำกับ เช่น D9 อยู่ภายในกรอบ เพื่อบอกว่าประตูบานนั้นเป็นประตูบานที่เท่าไหร่และลักษณะไหน ซึ่งจะเห็นได้แบบขยาย 

วิธีอ่านแปลนบ้านจากวิศวะ และสถาปนิก

ส่วนสัญลักษณ์หน้าต่าง อาจเป็นรูปหกเหลี่ยม สี่เหลี่ยม หรือระบุด้วยรูปทรงต่างๆ นอกจากนี้หน้าต่างบานเดี่ยวและบานคู่ส่วนใหญ่จะแสดงด้วยเส้นสามเส้น ซึ่งมีการแรงเงาแตกต่างจากผนัง หรืออาจระบุด้วยรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ เช่นหน้าต่างบานเปิด จะแสดงเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีเส้นทแยงมุมและมีส่วนโค้งด้านหนึ่ง เพื่อระบุว่าบานเปิดออกด้านนอก เป็นต้น 

วิธีเลือกประตูหน้าต่างให้เหมาะกับบ้าน 

การเลือกประตูหน้าต่างให้เหมาะกับบ้าน สำคัญไม่น้อยกว่าการอ่านแปลนบ้าน เพราะการออกแบบประตูหน้าต่างให้เหมาะกับฟังก์ชั่นการใช้งาน ไม่เพียงช่วยในเรื่องการจัดผังพื้นภายในเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเลือกช่องเปิด-ปิดของกรอบบานหน้าต่าง สำหรับเชื่อมต่อสิ่งแวดล้อมภายนอกที่ดีได้ ซึ่งการเลือกใช้วัสดุที่ได้คุณภาพมาตรฐาน จากแบรนด์ TOSTEM นวัตกรรมประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมจะช่วยตอบโจทย์ทุกความต้องการสำหรับที่อยู่อาศัยของคุณได้เป็นอย่างดี

บานเปิดและบานกระทุ้ง 

บานเปิด เป็นอีกหนึ่งรูปแบบยอดนิยม เหมาะกับหน้าต่างห้องทั่วไป โดยเฉพาะห้องที่ทิศทางลมมาด้านข้าง ประตูหน้าต่างแบบบานเปิดจะช่วยดักให้ลมเข้าบ้านมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สะดวกสบาย สามารถปรับให้เข้ากับรูปลักษณ์และดีไซน์ทุกสไตล์ ตั้งแต่ งานคลาสสิกกับเส้นสายสวยงาม หรือแม้แต่งานออกแบบที่เน้นความเรียบง่ายของกรอบบาน

ส่วนบานกระทุ้ง มีลักษณะคล้ายหน้าต่างบานเปิด โดยลักษณะการเปิดเป็นการเปิดขึ้นด้านบน ซึ่งมีได้ทั้งบานเล็กที่มักใช้ระบายอากาศให้ห้องน้ำ และบานใหญ่ที่ใช้ตามพื้นที่ทั่วไป โดยควรคำนึงถึงขนาดและน้ำหนักของบาน เพื่อง่ายต่อการเปิดปิด 

บานเลื่อน 

บ้านที่ต้องการให้ประตูหน้าต่างเรียบไปกับผนัง แนะนำให้เลือกประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบบานเลื่อน เพื่อช่วยทั้งเรื่องงานดีไซน์ที่สวยงามและไม่ให้เสียพื้นที่ในการเปิดปิดหน้าต่าง ซึ่งผลิตภัณฑ์ TOSTEM มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ เช่น 

  • บานเลื่อนแบบ 3 บาน สามารถรวบเก็บหน้าบานไว้ข้างเดียวได้ และช่วยให้เปิดส่วนหน้าบานได้ถึงสองในสามของช่องเปิด ให้มุมมองที่กว้าง โดยบานเลื่อนแบบ 3 บาน 3 รางของทอสเท็ม พบได้ในรุ่น WE PLUS

  • หลายบานเลื่อนในกรอบเดียว สำหรับบ้านที่อยากเพิ่มลูกเล่น ลองเลือกรูปแบบประตูหน้าต่างบานเลื่อนในกรอบเดียว แต่มีหน้าที่ที่หลากหลายขึ้น ร่วมกับกรอบบานฟิกซ์ที่สร้างสเปซให้โปร่งโล่งขึ้น นอกจากได้ฟังก์ชันที่หลากหลาย ยังเพิ่มดีไซน์ของเส้นกรอบบานได้อีก

บานเฟี้ยม มีลักษณะเหมือนบานเปิดผสมกับบานเลื่อน โดยบานเฟี้ยมสามารถเปิดได้กว้างโล่งกว่าประตูรูปแบบอื่น ให้ลุคที่ดูหรูหรา มีสไตล์ไม่ซ้ำใคร โดยประตูบานเฟี้ยมของทอสเท็มมาพร้อมโปรไฟล์ที่ถูกออกแบบอย่างชาญฉลาด และการติดตั้งชุดอุปกรณ์คุณภาพสูง บานเฟี้ยมของทอสเท็มจึงสวยงาม ใช้งานได้อย่างสะดวก รวมถึงมีดีไซน์แบบเปิดที่แตกต่างหลากหลาย ให้คุณเลือกได้ตามความต้องการ

นอกจากความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ TOSTEM ที่คำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นสำคัญ ทุกดีเทลของทุกรุ่นยังผ่านการออกแบบมาอย่างดี เพื่อให้ได้ความแข็งแรงจากโครงสร้างภายใน และความสะดวกสบายจากการใช้งานภายนอก หากอยากดูสินค้าประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมเพิ่มเติม คลิกได้ที่

  

ก่อนสร้างบ้าน ขั้นตอนอะไรบ้างที่ควรรู้?

ก่อนสร้างบ้าน ขั้นตอนอะไรบ้างที่ควรรู้?

การสร้างบ้าน นับว่าเป็นการลงทุนที่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ ซึ่งการวางแผนที่ดีมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อให้ได้บ้านในฝันของเราสวยงามตรงตามใจต้องการ และสำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่าการจะสร้างบ้าน 1 หลัง มีขั้นตอนอะไรบ้างที่ควรรู้ หรือควรเลือกอะไรก่อนหลังดี วันนี้เรามีข้อมูลเบื้องต้นมาฝากให้ทุกคนได้ลองนำไปปรับใช้กันไว้ในบทความนี้แล้ว

1. เลือกพิจารณาสภาพพื้นที่ดินให้ถูกที่และถูกใจ
หากคุณยังไม่ได้ซื้อที่ดินสำหรับสร้างบ้าน ควรเลือกย่านหรือชุมชนที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างครอบครัวของคุณ และควรเลือกที่ดินที่มีความปลอดภัย สามารถเข้าถึงพื้นที่สิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ตลาด ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

แต่หากมีที่ดินอยู่แล้ว ควรตรวจสอบปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพดิน การระบายน้ำ ระดับถนน และให้ความสำคัญกับการปรับสภาพพื้นที่ก่อสร้าง การกำหนดความสูงต่ำของพื้นที่บ้าน เพื่อป้องกันเรื่องของน้ำท่วมขังเมื่อฝนตกหนัก หรือแม้กระทั่งทิศทางลมและแดด ที่เราก็ควรเลือกไว้ล่วงหน้าว่าอยากให้ห้องไหนอยู่ทิศไหน เพื่อให้การปรับแต่งเหมาะสมกับพื้นที่อย่างดีที่สุด

2. เลือกแปลนบ้าน วางแผนให้พร้อมสำหรับอนาคตครอบครัว
ก่อนจะสร้างบ้านสักหลัง อันดับแรกๆ ที่ควรรู้คือ ความต้องการของตัวเอง อยากสร้างบ้านหลังขนาดไหน สไตล์ไหน อยากได้แปลนบ้านแบบไหน จำนวนสมาชิกในครอบครัวมีกี่คน ต้องการห้องหรือพื้นที่ใช้สอยอะไรบ้าง เช่น ต้องมีพื้นที่ทางลาดสำหรับรถเข็น ต้องการโซนเด็กหรือโซนสัตว์เลี้ยง อาจจะจดสิ่งที่ต้องการเป็นลิสต์ เพื่อให้ผู้ออกแบบสามารถวางแผนแปลนบ้านคร่าวๆ ได้ตรงตามความต้องการของเราได้มากที่สุด

3. ตั้งงบประมาณให้ครอบคลุม
เริ่มพิจารณางบประมาณตั้งแต่วินาทีแรกที่เริ่มคิดจะสร้างบ้าน โดยคำนึงถึงรายได้และรายจ่ายของตัวเอง เพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายที่จะบานปลายในอนาคต โดยต้องคำนวณค่าใช้จ่ายที่จะเกิดจากการสร้างบ้านให้ครอบคลุม เช่น ที่ดิน สถาปนิก ผู้รับเหมา วัสดุอุปกรณ์ ค่าตกแต่ง สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งภายในและภายนอกบ้าน  รวมถึงข้อกำหนดด้านภาษี ไปจนถึงควรจัดสรรเงินสัดส่วนเกินไว้เพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดบางอย่าง เช่น มิเตอร์ไฟฟ้า สายไฟ รั้ว เป็นต้น

4. ยื่นคำร้องขออนุญาตก่อสร้างบ้าน
จะสร้างบ้าน 1 หลัง เรื่องกฎหมายการขออนุญาตปลูกสร้าง เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ควรรู้ เพื่อป้องกันปัญหาขณะสร้างที่อาจจะตามมา และเป็นหลักฐานว่าเราได้ทำการสร้างบ้านอย่างถูกต้องตามกฎหมายกำหนด ด้วยการยื่นคำร้องขออนุญาตก่อสร้างบ้านกับสำนักงานเขตท้องถิ่นภายในพื้นที่ของจังหวัดนั้น ๆ ที่เราจะทำการสร้างบ้าน โดยสามารถสอบถามข้อมูลจากสำนักงานเขตท้องถิ่นว่ามีเอกสารอะไรต้องใช้บ้าง เพื่อให้การยื่นคำร้องขออนุญาตก่อสร้างบ้านเป็นไปอย่างราบรื่น

5. เลือกวัสดุที่ได้มาตรฐานเหมาะสมสำหรับบ้านของคุณ
ขั้นตอนการสร้างบ้านจะมีประสิทธิภาพ เมื่อเรามีการวางแผนที่ดี ไม่ว่าจะเป็นแปลนบ้าน สไตล์บ้าน หรือต้นทุนในการปลูกสร้าง รวมถึงรายละเอียดของวัสดุต่างๆ ที่นอกจากความสวยงาม ยังต้องคำนึงถึงความทนทานด้วย เพื่อให้บ้านอยู่กับเราไปนานๆ ตัวอย่างเช่น หากที่บ้านมีผู้สูงอายุ ควรพิจารณาปูพื้นกระเบื้องที่มีค่า R 10 ขึ้นไป เพื่อป้องกันการหกล้มของผู้สูงอายุ หรือคำนึงถึงติดตั้งฉนวนความร้อนบนฝ้าเพดาน เพื่อช่วยลดความร้อนในบ้าน

นอกจากนี้ การเลือกใช้วัสดุให้สอดรับกับการอยู่อาศัย ยังรวมไปถึงการเลือกประตู หน้าต่าง ที่เราควรใส่ใจด้วยเช่นกัน เพราะจะต้องใช้งานติดกันตัวบ้านยาวหลายสิบปี และยังช่วยเสริมสภาพอากาศภายในอาคารที่ดีสำหรับความเป็นอยู่ที่ดี เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ TOSTEM กรอบบานประตูและหน้าต่างคุณภาพ ที่มีการพัฒนาออกแบบ ภายใต้การควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้กับทุกคน ครอบคลุมทุกประโยชน์การใช้งาน ดังนี้

ก่อนสร้างบ้าน ขั้นตอนอะไรบ้างที่ควรรู้?

แข็งแรงทนทานต่อทุกสภาพอากาศ
ความทนทานของวัสดุอะลูมิเนียมคุณภาพสูง เคลือบสีด้วยเทคโนโลยีอโนไดซ์ตามมาตรฐานประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีความสวยงามทนทานยาวนานกว่า 40 ปี อีกทั้งผลิตภัณฑ์จาก TOSTEM ถูกออกแบบให้ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ และสามารถต้านทานแรงลม (Wind loading Resistance) ตั้งแต่ 500-2000 Pascal ซึ่งตอบโจทย์กับบ้านและอาคารทุกประเภท

บ้านที่ใช้สินค้า TOSTEM

เปิดโล่งและมีอากาศบริสุทธิ์
ประตูและหน้าต่างจาก TOSTEM มีนวัตกรรมที่ช่วยดักฝุ่น ลม และน้ำที่รั่วซึมในบางรุ่น รวมทั้งยังมีนวัตกรรม TOSTEM Airflow System ที่ช่วยถ่ายเทอากาศโดยไม่ใช้พลังงาน ช่วยให้การระบายอากาศภายในบ้านที่ดีขึ้น ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์และแหล่งสะสมของเชื้อรา

ระบบล็อคที่ปลอดภัย กุญแจสำคัญของประตูหน้าต่าง
ความปลอดภัยที่ TOSTEM ให้ความสำคัญ คือ ระบบล็อค ที่ถูกออกแบบให้สามารถป้องการกันการงัดแงะ รวมถึงคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งานในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันอุบัติเหตุรุนแรงจากประตู-หน้าต่างหนีบ ด้วยซีลยางหนา 35-55 มิลลิเมตรรอบตัววงกบในผลิตภัณฑ์ TOSTEM ทุกรุ่น และฟังก์ชันตัวหยุดนิรภัย สำหรับหน้าต่างบานยก ATIS Tilt & Slide หรือ GIESTA ประตูหน้าบ้านจาก TOSTEM ที่มาพร้อมระบบล็อค 2 ชั้น พร้อมหัวล็อคดีไซน์แบบขอเกี่ยวเสริมอีก 3 จุด และ Door Guard ด้านบนสุดที่เติมเต็มความปลอดภัยแบบแมนนวล ส่วนฝั่งด้านในห้อง ออกแบบลูกบิดกุญแจให้สามารถดึงปลายออกได้ เพื่อป้องกันการบุกรุกอีกหนึ่งทางด้วย

ก่อนสร้างบ้าน ขั้นตอนอะไรบ้างที่ควรรู้?

รูปร่างและขนาดหลากหลาย เพื่อเชื่อมมุมมองที่ดีที่สุด
เอกลักษณ์ในการดีไซน์จาก TOSTEM นอกจากจะเน้นเรื่องของความสวยงาม เรียบหรู ยังมีหลากหลายซีรีส์มาให้เลือกสรร เช่น รุ่น GRANTS ที่เน้นดีไซน์พื้นที่กระจก เพื่อเปิดรับวิวได้กว้างอย่างเต็มที่ เหมาะกับการใช้เปิดมุมพาโนรามาเป็นอย่างยิ่ง หรือรุ่น WE PLUS  รุ่นพิเศษที่ถูกออกแบบที่มีความสูงของบานประตู-หน้าต่างถึง 3 เมตร ซึ่งเป็นความสูงที่มากกว่าประตู-หน้าต่างทั่วไป และเป็นที่ต้องการในงานออกแบบสไตล์โมเดิร์นในยุคนี้

ให้ความสำคัญกับคุณภาพ และตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
ผลิตภัณฑ์ TOSTEM โดดเด่นด้านงานดีไซน์ที่สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานทุกเพศทุกวัย และมีการควบคุมคุณภาพตามหลักวิศวกรรมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบ การผลิตชิ้นส่วนโครงสร้าง ตลอดจนการติดตั้งถึงที่ ทั้งยังได้รับการการันตีมาตรฐานจาก Japanese industrial Standards (JIS) ที่เป็นมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการยอมรับในแวดวงอุตสาหกรรมระดับโลก
 

สำหรับใครที่กำลังคิดจะสร้างบ้าน หรือก่อสร้าง ซ่อมแซม TOSTEM มีผลิตภัณฑ์ ประตู หน้าต่าง คุณภาพสูงตรงตามมาตรฐานระดับสากลให้เลือกสรรหลากหลายซีรีส์ ที่เหมาะกับบ้านทุกสไตล์ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิ้งค์ด้านล่าง

ข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติม

  •          https://build.com.au/what-do-first-when-you-want-build-house
  •          https://www.thespruce.com/before-you-build-steps-new-home-175909


สัมผัสศิลปะ "SEAMLESS INBETWEEN” 

สัมผัสศิลปะ “SEAMLESS INBETWEEN” 

ชวนคุณมาสัมผัสกับความพิเศษของ TOSTEM Flagship Showroom ที่ได้จัด Showroom Wrap ด้วยผลงานการออกแบบจาก “Pomme Chan” ศิลปินแนวหน้าของเมืองไทย ที่ถ่ายทอดงานศิลปะในคอลเลกชัน “SEAMLESS INBETWEEN” เพื่อเปิดมุมมองการมองเห็นและสะท้อนความเป็น TOSTEM อย่างลงตัว มาเจาะลึกความน่าสนใจ ก่อนไปชมสถานที่จริงกัน!

จาก TOSTEM สู่ “SEAMLESS INBETWEEN”

สัมผัสศิลปะ "SEAMLESS INBETWEEN” 



ผลิตภัณฑ์ของ TOSTEM ขึ้นชื่อในเรื่องความแข็งแรง ทนทานและปลอดภัย โดยเฉพาะความบางของกรอบประตูและหน้าต่าง ผ่านการเปิดมุมมองการมองเห็นแบบ seamless view ที่ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อกับธรรรมชาติระหว่างภายในและภายนอกบ้านได้อย่างใกล้ชิด โดยนำเสนอแนวคิดของพื้นที่ ช่วงเวลา และฤดูกาล โดยได้แรงบันดาลใจจากภาพที่สามารถมองเห็นได้ผ่านกรอบประตูและหน้าต่างในชีวิตประจำวัน และนำมาต่อยอดใหม่ เรียกว่าใช้แนวคิดธรรมชาติของฤดูกาลอันเป็นตัวบ่งชี้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอก และนำมาจัดวางใช้ลักษณะ seamless pattern เชื่อมต่อแต่ละบานกระจกด้วยเส้น Swirl อันเป็นเอกลักษณ์ที่แสดงถึงพลังของความรู้สึกที่หมุนเวียนทั้งในและนอก และลูกแก้วอันเป็นตัวแทนของห้วงความทรงจำ ทั้งนี้ เพื่อชูมุมมองของความสวยงามของความสัมพันธ์ระหว่างผลิตภัณฑ์ของ TOSTEM ต่อผู้ใช้งานนั้นเอง

ศิลปะ 4 ฤดู ในโชว์รูม TOSTEM



ศิลปะอันสวยงามนั้นเล่าเรื่องผ่านฤดูกาลทั้งสี่ โดยมีลายละเอียดของภาพที่แตกต่างกัน

❄️ Winter/Afternoon

นําเสนอฤดูหนาวในช่วงเวลากลางวัน แนวต้นสนที่ปกคลุมด้วยหิมะและนํ้าแข็งในช่วงฤดูหนาวที่หิมะลงจัดเป็นช่วงที่ภูมิประเทศของญี่ปุ่นนั้นปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลนในช่วงฤดูหนาว

🍁 Autumn/Night

นําเสนอฤดูใบไม้ร่วงในช่วงเวลากลางคืน เพราะเป็นช่วงที่กลางคืนยาวขึ้นกลางวันสั้นลง เต็มไปด้วยสีสันมากมายจากต้นไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีแดง ส้ม และเหลืองนําเสนอผ่านต้นเมเปิลญี่ปุ่น และโอ๊กแดงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฤดูนี้

🌸 Spring/Evening

นําเสนอฤดูใบไม้ผลิในช่วงเวลาเย็นซึ่งการผลิบานของดอกซากุระที่เป็นสัญลักษณ์โด่งดังของญี่ปุ่น เป็นฤดูแห่งความสดใสเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่

🌲 Summer/Morning

นําเสนอฤดูร้อนในช่วงเวลาเช้า เป็นฤดูแห่งเทศกาลโดยนําเสนอผ่านต้นโอ๊ก และต้นสนมา ซึ่งเป็นไม้มงคลแห่งความมั่นคง กล้าหาญ และสง่างาม

ของขวัญพิเศษที่ห้ามพลาด

สัมผัสศิลปะ "SEAMLESS INBETWEEN” 


ความพิเศษของศิลปะที่รังสรรค์โดย Pomme Chan ไม่ได้มีเพียงการจัดแสดงผ่านงานตกแต่งโชว์รูมเท่านั้น เพราะนอกจาก Showroom Wrap ที่เปิดให้ทุกคนมาชื่นชมผลงานแล้ว ยังมี New Year Gift 2024 Design ผ่านผลิตภัณฑ์ที่นิยมใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ถุงผ้า ร่ม พัด ยาดม เทียนหอม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการมอบเป็นของขวัญรับปีใหม่ ให้กับตนเองและคนที่รัก สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมสินค้าจริง หรือร่วมทำกิจกรรม “แวะ แชะ แชร์” ได้ที่โชว์รูมเช่นกัน

ชมผลงานศิลปะสุดพิเศษ และผลิตภัณฑ์คุณภาพจาก TOSTEM ได้ที่
📍 TOSTEM Flagship Showroom ที่ Crystal Design Center (CDC)
https://maps.app.goo.gl/CcFVxUXmqdYGvTaw6

โถงต้อนรับ, Genkan, Foyer, การออกแบบโถงต้อนรับ, เคล็ดลับการออกแบบโถงต้อนรับ, ตัวอย่างการออกแบบโถงต้อนรับ

Foyer Design เคล็ดลับเสริมความหรูหรา สร้างความประทับใจตั้งแต่ก้าวแรก

หากกล่าวถึง ‘โถงต้อนรับ’ ส่วนมากเรามักจะคุ้นเคยกับล็อบบี้ในโรงแรมหรือรีสอร์ท ที่มีการตกแต่งหรูหราโอ่อ่า ชวนสะดุดตาตั้งแต่แรกพบ แต่หากลองสังเกตสถาปัตยกรรมจากทั่วทุกมุมโลก เราจะพบว่าพื้นที่โถงต้อนรับยังเป็นที่นิยมสำหรับการออกแบบบ้านเช่นกัน 

โถงต้อนรับ, Genkan, Foyer, การออกแบบโถงต้อนรับ, เคล็ดลับการออกแบบโถงต้อนรับ, ตัวอย่างการออกแบบโถงต้อนรับ

อย่างบ้านเดี่ยวหรืออะพาร์ตเมนต์ส่วนใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น ที่มักจะมีพื้นที่เล็ก ๆ บริเวณประตูทางเข้าบ้าน และมีระดับพื้นต่ำกว่าพื้นที่หลักของบ้านเล็กน้อย เรียกว่า Genkan (เก็นคัง) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใช้สำหรับเปลี่ยนรองเท้าก่อนเข้า-ออกบ้าน หรือเป็นจุดรอสำหรับแขกผู้มาเยือน ข้อดีของการมี Genkan อยู่หน้าทางเข้าคือ ช่วยป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรกจากข้างนอก ที่สามารถเล็ดลอดเข้าไปในพื้นที่หลักของบ้านได้ ถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของบ้านที่บ่งบอกถึงความพิถีพิถันและเป็นระเบียบของคนญี่ปุ่นได้อย่างชัดเจน 

ในประเทศทางฝั่งตะวันตกเองก็มีโถงต้อนรับของบ้านเช่นกัน โดยโถงนี้จะถูกเรียกว่า Foyer (ฟัว-เย) ซึ่งเป็นศัพท์ที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการออกแบบ หมายถึงพื้นที่โถงต้อนรับในอาคารทุกประเภท ซึ่ง Foyer จะทำหน้าที่เป็นจุดเปลี่ยนผ่านระหว่างนอกบ้านและในบ้าน ที่กั้นความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ด้านใน ช่วยให้เรามีเวลาเตรียมพร้อมก่อนออกจากบ้าน รวมถึงปรับโหมดอารมณ์ให้ผ่อนคลายหลังจากกลับมา ยิ่งไปกว่านั้นดีไซน์ของ Foyer ที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์ ยังสามารถสร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือนเช่นเดียวกัน และนี่คือไอเดียตกแต่งบ้านให้สวยมัดใจได้ตั้งแต่แรกพบที่เรานำมาฝากวันนี้กัน

จัดระเบียบให้ทางเดินด้วยชั้นวางของ Built-in

ชั้นวางรองเท้าเป็นของที่มาคู่กับประตูทางเข้าบ้านเสมอ แม้บางครั้งเราจะจัดรองเท้าให้เป็นระเบียบเรียบร้อย แต่สุดท้ายก็ไม่วายกลับมายุ่งเหยิงอีกรอบ ซึ่งชั้นวางรองเท้าหรือชั้นวางแบบ Built-in ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยจัดการมุมนี้ได้ดี โดยดีไซน์ตู้ให้สูงตั้งแต่พื้นจรดเพดานและยาวตลอดทั้งแนว ทำให้ดูเรียบเนียนราวกับเป็นผนังอีกชั้น ตอบโจทย์ทั้งความสวยงามและฟังก์ชัน รวมถึงอาจมีการตกแต่งด้วยลูกเล่นต่าง ๆ เข้าไปให้เกิดความน่าสนใจยิ่งขึ้น เช่น การกรุกระจกเงาอีกชั้น ทำให้บ้านดูเรียบหรู และสามารถใช้ตรวจเช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากบ้าน, การทาสีสันที่ชื่นชอบ เพื่อสร้างบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา, การฝังไฟหลืบด้านในหรือด้านใต้ตู้ ทำให้บ้านดูทันสมัยและเอื้อต่อการใช้งานทุกช่วงเวลา เป็นต้น

เต็มเติมความสะดวกสบายด้วยเก้าอี้สตูลยาว

หลายคนอาจไม่คุ้นชินกับการใช้เก้าอี้สตูลยาวหรือม้านั่ง เนื่องจากเป็นที่นิยมในฝั่งประเทศทางตะวันตกมากกว่าประเทศทางตะวันออกอย่างไทยเรา แต่หากกล่าวถึงประโยชน์ในเชิงการใช้งานแล้ว เก้าอี้สตูลถือเป็นฟังก์ชันที่ตอบโจทย์กับโถงต้อนรับอย่างยิ่ง โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุ หรือสำหรับใครที่มีรองเท้าหลากหลายรูปแบบ ซึ่งเก้าอี้สตูลจะช่วยให้เราสามารถนั่งใส่รองเท้าได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องนั่งพื้นให้เสื้อผ้าสกปรก รวมถึงสามารถใช้เป็นที่นั่งพักคอยสำหรับแขกที่เข้ามารอบริเวณโถงต้อนรับได้เช่นกัน และความสูงที่เหมาะสมสำหรับเก้าอี้สตูล จะสูงจากพื้นประมาณ 40 เซนติเมตร ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าความสูงของเก้าอี้ทั่วไปเล็กน้อย 

จัดแต่งแสงไฟอย่างเหมาะสม เพื่อปรับอารมณ์ให้ผ่อนคลาย

หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับสภาพอากาศทั้งร้อนทั้งชื้นจากภายนอกมาทั้งวัน การได้กลับบ้านมาพักผ่อนคงเป็นสวรรค์ของใครหลาย ๆ คน แต่หากเปิดประตูเข้ามาแล้วพบกับความมืดสนิททันที อาจทำให้ความรู้สึกดีใจแปรเปลี่ยนกลายเป็นความหว้าเหว่ โหวงเหวงใจแทนได้ ยิ่งไปกว่านั้นการเปลี่ยนแปลงระดับแสงโดยฉับพลันสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพตาได้เช่นกัน ดังนั้นโถงต้อนรับที่เป็นพื้นที่ระหว่างภายในและภายนอกบ้าน จึงควรมีการตกแต่งแสงไฟเพื่อปรับอารมณ์และสายตา ให้ร่างกายของเราค่อยๆ เข้าสู่โหมดพักผ่อน ซึ่งหากใครต้องการขับเน้นบรรยากาศให้ผ่อนคลายและทันสมัย ควรใช้ประเภท ‘ไฟหลืบ ไฟซ่อน’ เป็นจุดเด่น เพราะแสงที่ส่องกระจายออกมาจะดูนุ่มนวล เบาสบาย ในขณะเดียวกันหากต้องการสร้างภาพจำที่ชวนสะดุดตา การใช้โคมไฟที่มีดีไซน์โดดเด่นก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน นอกจากนี้สีของแสงไฟที่เหมาะสมสำหรับโถงต้อนรับ ยังสามารถใช้ได้ทั้งแสงไฟสี Warm white ที่ให้บรรยากาศอบอุ่น หรูหรา และสี Natural white ที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ เข้าได้กับบ้านทุกสไตล์

เปิดรับความสดชื่นจากต้นไม้ ช่วยเติมพลังบวกให้กับทุกวัน

การออกแบบสวนคอร์ทยาร์ดไว้บริเวณโถงทางเข้าก็เป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจ ที่ช่วยเปิดพื้นที่ให้แสงแดดและอากาศธรรมชาติไหลเวียนเข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างปลอดโปร่ง ทำให้บรรยากาศภายในบ้านมีความร่มรื่น อยู่สบายตลอดทั้งวัน ทั้งยังสามารถออกแบบให้เป็นจุดเด่นของบ้านได้เช่นกัน โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะมีการปลูกไม้ยืนต้นที่มีรูปทรงสวยงาม เพื่อใช้เป็นจุดโฟกัสดึงดูดสายตาและสร้างร่มเงาขนาดใหญ่ และปลูกไม้พุ่ม ไม้ยืนต้นขนาดเล็กหรือไม้คลุมดิน เพื่อสร้างความอุดมสมบูรณ์ และเสริมภาพรวมของสวนให้สวยงาม สำหรับชนิดพืชพรรณที่ใช้นั้นจะขึ้นอยู่กับสไตล์สวนที่เราต้องการ ความสะดวกในระหว่างการขนย้าย และการดูแลรักษาทั้งก่อนและหลังปลูกต้นไม้ สำหรับบ้านที่มีพื้นที่ไม่เพียงพอต่อการออกแบบสวนคอร์ทยาร์ด ก็สามารถเปลี่ยนมาตกแต่งด้วยไม้กระถางก็ได้เช่นกัน 

GIESTA DOOR เปิดประตูสู่คุณภาพชีวิตที่ดีของครอบครัว

นอกจากโถงต้อนรับแล้ว ‘ประตูหน้าบ้าน’ ถือด่านแรกสุดที่เราพบเจอเมื่อจะเข้าบ้าน การใช้ประตูที่สัมผัสได้ถึงคุณภาพระดับไฮคลาสตั้งแต่แรกพบ ก็เป็นสิ่งที่สามารถบ่งบอกถึงคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัยได้เช่นกัน อย่างประตูโลหะสำเร็จรูปลายไม้ รุ่น GIESTA จาก TOSTEM ที่ตอบโจทย์บ้านทุกสไตล์ ด้วย 4 รูปแบบดีไซน์และ 7 สีสันของประตูให้เลือกตามสไตล์ที่ชอบ โดดเด่นด้วยฟังก์ชันมือจับที่ใช้งานง่าย มาพร้อมกับระบบป้องกันความปลอดภัยสูง ที่ติดตั้งตัวล็อกหลายจุด สามารถป้องกันผู้บุกรุกอย่างแน่นหนา และมีซีลยางรอบวงกบ ที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากประตูหนีบ ทั้งยังป้องกันการรั่วซึมของน้ำ, ความร้อนและเสียงรบกวนจากข้างนอกได้ดี 

โถงต้อนรับ, Genkan, Foyer, การออกแบบโถงต้อนรับ, เคล็ดลับการออกแบบโถงต้อนรับ, ตัวอย่างการออกแบบโถงต้อนรับ

ที่สำคัญประตู GIESTA ยังมีนวัตกรรมพิเศษ GIESTA AIRFLOW ซึ่งเป็นหน้าต่างระบายอากาศแบบฝังในบาน มาพร้อมกับมุ้งกันแมลง ที่ช่วยสร้างการไหลเวียนอากาศที่ดีภายในบ้าน ช่วยระบายความร้อน ความชื้น หรือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกไป และแทนที่ด้วยลมธรรมชาติจากข้างนอก ทำให้บ้านเย็นสบายตลอดทั้งวัน ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าไปอีกขั้น 

โถงต้อนรับ, Genkan, Foyer, การออกแบบโถงต้อนรับ, เคล็ดลับการออกแบบโถงต้อนรับ, ตัวอย่างการออกแบบโถงต้อนรับ

การเลือกประตูหน้าบ้านและการออกแบบโถงทางเข้าที่ดี ไม่เพียงแค่สร้างความประทับใจแก่แขกผู้มาเยือนเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างความสุขให้กับผู้อยู่อาศัย ผ่านดีไซน์และฟังก์ชันที่อำนวยความสะดวกให้เราเตรียมพร้อมรับมือกับวันใหม่ และต้อนรับการกลับบ้านอย่างอบอุ่นและผ่อนคลาย ดังนั้น TOSTEM จึงตั้งใจออกแบบทุกผลิตภัณฑ์ด้วยความใส่ใจ และตรวจสอบกระบวนการผลิตอย่างเข้มงวด เพื่อให้ประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมจาก TOSTEM เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคน 

สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมจากแบรนด์ TOSTEM สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลย

รู้จักกฎหมาย ‘ระยะร่นอาคารและส่วนที่เว้นว่าง’ ที่ช่วยให้สร้างบ้านห่างจากเขตที่ดินอย่างเหมาะสม

ก่อนที่สถาปนิกจะลงมือวาดเขียนแบบ นอกจากจะต้องทำความเข้าใจกับโจทย์จากเจ้าของบ้านแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือการสำรวจพื้นที่ไซต์ก่อสร้างจริง เพื่อหาระดับความสูงของพื้นดิน สังเกตบริบทรอบข้าง และวัดระยะจากเขตที่ดิน เพื่อนำไปคำนวณพื้นที่ใช้สอย และเขียนแปลนบ้านได้อย่างแม่นยำ สำหรับใครที่อยากทราบว่า ควรสร้างบ้านห่างจากเขตที่ดินเท่าไรถึงจะเหมาะสม ไม่มีปัญหากับเพื่อนข้างบ้าน วันนี้เราจะชวนมารู้จักกับกฎหมาย ‘ระยะร่นอาคารและส่วนที่เว้นว่าง’ ที่จะเป็นตัวกำหนดระยะห่างในการก่อสร้างกัน

กฎหมายระยะร่นอาคารและส่วนที่เว้นว่าง สำหรับอาคาร Low Rise และ High Rise

ระยะร่นอาคารและส่วนที่เว้นว่าง เป็นคำศัพท์ที่ใช้เรียกระยะห่างระหว่างตัวอาคารกับพื้นที่รอบๆ โดย ‘ระยะร่นอาคาร’ คือ ระยะห่างที่วัดจากถนนสาธารณะจนถึงแนวอาคาร และ ‘ส่วนที่เว้นว่าง’ คือ ระยะห่างที่วัดจากแนวเขตที่ดินจนถึงแนวตัวอาคาร ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้าง ซึ่งระยะร่นอาคารและส่วนที่เว้นว่าง จะถูกกำหนดให้มีระยะห่างแตกต่างกันไป ตามความสูงของอาคารในกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2543 โดยมีการจำแนกดังนี้

  • อาคารที่มีความสูงไม่เกิน 9 เมตร (ประมาณ 1-2 ชั้น) และมีช่องเปิดอาคาร อย่างประตู, หน้าต่าง, ช่องแสง, ช่องระบายอากาศ หรือระเบียง จะต้องเว้นระยะห่างจากเขตที่ดินอย่างน้อย 2 เมตร
  • อาคารที่มีความสูงเกิน 9 เมตร แต่ไม่เกิน 23 เมตร (ประมาณ 3-8 ชั้น) และมีช่องเปิดอาคาร จะต้องเว้นระยะห่างจากเขตที่ดินอย่างน้อย 3 เมตร
  • อาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 23 เมตรขึ้นไป และอาคารขนาดใหญ่พิเศษ จะต้องเว้นระยะห่างจากเขตที่ดินอย่างน้อย 6 เมตร
  • อาคารที่มีความสูงไม่เกิน 15 เมตร และด้านไหนที่ไม่มีช่องเปิดอาคาร ด้านนั้นสามารถสร้างห่างเขตที่ดินได้น้อยกว่า 1 เมตร แต่หากต้องการเว้นระยะห่างจากเขตที่ดินน้อยกว่า 50 เซนติเมตร จะต้องได้รับหนังสือความยินยอมจากเจ้าของที่ดินที่ติดกันด้วย

สำหรับการเว้นระยะร่นจากถนนสาธารณะนั้น จะพิจารณาจากความกว้างของถนน แทนความสูงของอาคาร โดยถนนสาธารณะที่มีความกว้างน้อยกว่า 6 เมตร ต้องร่นแนวอาคารห่างจากกึ่งกลางถนนอย่างน้อย 3 เมตร, ถนนสาธารณะที่มีความกว้างน้อยกว่า 10 เมตร ให้ร่นแนวอาคารห่างจากกึ่งกลางถนนอย่างน้อย 6 เมตร, ถนนสาธารณะที่มีความกว้าง 10-20 เมตร ให้ร่นแนวอาคารห่างจากถนนอย่างน้อย 1 ใน 10 ของความกว้างถนน และถนนสาธารณะที่มีความกว้างมากกว่า 20 เมตร ให้ร่นแนวอาคารห่างจากเขตถนนสาธารณะอย่างน้อย 2 เมตร

หากที่ดินของเราติดกับแหล่งน้ำสาธารณะ เช่น แม่น้ำ, คู, คลอง, ลำน้ำ และแหล่งน้ำนั้นมีความกว้างน้อยกว่า 10 เมตร ต้องร่นแนวอาคารห่างจากแหล่งน้ำอย่างต่ำ 3 เมตร แต่หากแหล่งน้ำนั้นมีความกว้างมากกว่า 10 เมตรขึ้นไป จะต้องร่นแนวอาคารห่างจากแหล่งน้ำอย่างต่ำ 6 เมตร 

หากต้องการสร้างอาคารใกล้ชิดกับเขตที่ดิน มีวิธีแก้ปัญหาอย่างไรบ้าง ?

หากใครที่ต้องการสร้างอาคารใกล้ชิดกับเขตที่ดิน น้อยกว่าระยะห่างตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ก็สามารถทำได้ 2 วิธี โดยวิธีแรกคือ การทำเป็นผนังทึบทั้งหมด ไม่มีช่องเปิด ซึ่งเหมาะกับพื้นที่ที่ได้รับแสงจากช่องเปิดด้านอื่นเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีช่องแสงในด้านนั้น หรือเป็นด้านที่ต้องการโชว์ความสวยงามของลวดลายผนัง หรือมีงานศิลปะติดตั้งบนผนัง 

วิธีที่สองคือ ใช้บล็อกแก้วสำหรับเป็นช่องแสง ตามที่กฎกระทรวงฉบับที่ 68 พ.ศ. 2563 ได้กำหนดไว้ให้รวมเป็น ‘ผนังทึบ’ โดยจะต้องมีลักษณะความหนาของบล็อกแก้ว ไม่น้อยกว่า 9 เซนติเมตร ก่อสูงจากระดับพื้นของห้อง 1.8 เมตรขึ้นไป และบล็อกแก้วจะต้องมีพื้นที่รวมกันไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ผนังในด้านนั้นๆ 

เลือกหน้าต่างอย่างไร ให้ตอบโจทย์กับกฎหมายและการใช้งาน ?

แม้ว่าจะมีระยะห่างจากเขตที่ดินเพียงพอในการติดตั้งประตู-หน้าต่างถูกตามกฎหมาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบานเปิดทุกชนิดจะเหมาะสมกับการใช้งานเสมอไป ในกรณีที่มีทางเดินข้างบ้านใกล้ชิดติดกับผนังอาคารชั้นล่าง หน้าต่างบานเปิดหรือบานกระทุ้งอาจจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไร เพราะเมื่อเปิดบานออกไปแล้ว อาจชนกับผู้ที่อยู่นอกบ้านจนได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นหน้าต่างบานเลื่อนและบานฟิกซ์จึงมีความเหมาะสมมากกว่า

ซึ่งหลายคนมักเลือกหน้าต่างบานเลื่อนมากกว่าบานฟิกซ์ เนื่องจากบานฟิกซ์ไม่สามารถเปิดรับลมธรรมชาติข้างนอกได้ เหมือนบานหน้าต่างชนิดอื่นๆ จึงทำให้หลายคนมองข้ามไป แต่ความจริงแล้วบานฟิกซ์ เป็นหน้าต่างที่ตอบโจทย์กับข้อจำกัดของดีไซน์ ฟังก์ชัน และบริบทรอบอาคารได้ดี เพราะสามารถเป็นได้ทั้งช่องแสงสำหรับผนังที่อยู่สูง ไม่สามารถเอื้อมไปเปิด-ปิดได้, สามารถนำมาออกแบบประกอบกับหน้าต่างชนิดอื่นๆ หรือเป็นเสมือนผนังโปร่งใส ที่สามารถสั่งทำเป็นผืนขนาดใหญ่ เปิดรับทัศนียภาพแบบพาโรนามา โดยไม่มีเส้นกรอบของหน้าต่างบดบัง ในขณะที่สามารถป้องกันการเข้าถึงจากข้างนอกได้ในเวลาเดียวกัน

มากไปกว่านั้นด้วยคุณสมบัติของบานหน้าต่างอะลูมิเนียม TOSTEM ที่ทนทานต่อสภาพอากาศทุกรูปแบบ สามารถป้องกันรังสียูวีและความร้อน, ต้านทานแรงลมได้สูงถึง 2000 Pascal, มีระบบป้องกันน้ำฝนในโปรไฟล์กรอบล่าง หมดกังวลเรื่องน้ำฝนรั่วซึม, สามารถลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ถึง 25 เดซิเบล และมาพร้อมกับหลากหลายโทนสีอะลูมิเนียม ที่เข้าได้กับงานออกแบบอาคารทุกสไตล์ ยิ่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบๆ บ้าน ผ่านกระจกบานฟิกซ์ได้อย่างปลอดภัยและรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวสูงสุด 

กฎหมายกำหนดระยะร่นอาคารและส่วนที่เว้นว่างไว้เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้อาคารและผู้ใช้ถนนสาธารณะ รวมถึงเพื่อความสวยงามและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของชุมชน ระยะร่นจะแตกต่างกันไปตามลักษณะของอาคารและบริบทของพื้นที่

หากสนใจสินค้าประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมจาก TOSTEM ที่มีหลากหลายดีไซน์ ตอบโจทย์กับทุกข้อจำกัดของพื้นที่ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลย