Tag: ที่อยู่อาศัย

ออกแบบบ้านอย่างไรให้รับมือกับฝนได้อยู่หมัด

ออกแบบบ้านอย่างไรให้รับมือกับฝนได้อยู่หมัด

เมื่อก้าวเข้าสู่ฤดูฝนหลายๆ คนอาจกังวลความปลอดภัยของบ้าน โดยเฉพาะการรั่วซึมจากฝนที่นำมาสู่สารพัดปัญหาภายในบ้าน ทั้งทำให้ตัวอาคารเสียหาย ก่อให้เกิดความชื้นและเชื้อราสะสม ซึ่งส่งผลอันตรายต่อสุขภาพผู้อยู่อาศัย รวมถึงความอยู่สบายของบ้าน วันนี้เราจึงชวนทุกคนมาแก้ต้นเหตุของปัญหาเหล่านี้ ด้วยไอเดียการออกแบบบ้านป้องกันฝนที่เรานำมาฝากกัน

ออกแบบบ้านอย่างไรให้รับมือกับฝนได้อยู่หมัด

ยื่นระยะชายคาออกไปให้เพียงพอ

การจะรับมือกับฤดูฝนให้อยู่หมัดได้ต้องมีเกราะป้องกันที่ดี โดยเฉพาะ ‘หลังคาบ้าน’ ปราการด่านแรกที่เผชิญกับแดด ลม ฝนโดยตรง ซึ่งหลังจากที่เลือกรูปแบบหลังคาให้เหมาะสมกับสไตล์ของตัวบ้านเรียบร้อยแล้ว สิ่งต่อไปที่ต้องคำนึงเสมอคือ ‘ระยะชายคา’ ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันฝนสาดและช่วยสร้างร่มเงาให้กับตัวบ้าน โดยระยะยื่นชายคาที่เหมาะสมสำหรับบ้านในเขตภูมิอากาศแบบร้อนชื้น คือ 1.00-1.20 เมตร ซึ่งเป็นระยะชายคาที่ป้องกันฝนได้ดี และโครงสร้างหลังคาทั่วไปสามารถรับน้ำหนักได้ โดยไม่ต้องเสริมโครงสร้างค้ำยันเพิ่ม แต่ในขณะเดียวกันการเสริมค้ำยัน เพื่อที่จะยื่นระยะชายคามากกว่า 1.20 เมตร ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันฝนและแดดแล้ว เรายังสามารถออกแบบพื้นที่ใต้ชายคา ให้เป็นระเบียงสำหรับนั่งพักผ่อนหรือใช้สอยอเนกประสงค์ก็ได้

ออกแบบบ้านอย่างไรให้รับมือกับฝนได้อยู่หมัด

ติดตั้งรางน้ำฝนบนหลังคา

‘รางน้ำฝน’ เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะมาเสริมทัพให้ชายคาสามารถป้องกันฝนได้ดียิ่งขึ้น โดยรางน้ำฝนจะทำหน้าที่รองรับน้ำฝนจากแนวชายคา ให้ไหลลงตามท่อหรือโซ่ระบายน้ำฝนมายังจุดที่กำหนดไว้ ในปัจจุบันรางน้ำฝนได้ถูกออกแบบด้วยหลากหลายวัสดุ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานและรูปแบบหลังคาที่แตกต่างกัน โดยแบ่งหลักๆ เป็น 2 ประเภท ได้แก่ ‘รางน้ำฝนโลหะ’ ซึ่งมีความแข็งแรง ทนทานสูง มีน้ำหนักเบา และมีลักษณะเป็นชิ้นเดียวยาวต่อเนื่องไร้รอยต่อ ทำให้ช่วยลดปัญหารั่วซึมได้ และ ‘รางน้ำฝนวัสดุสังเคราะห์’ อย่างไฟเบอร์กลาสหรือไวนิล ซที่มีความคงทนสูง สวยงาม และมีอายุการใช้งานยาวนาน

ออกแบบบ้านอย่างไรให้รับมือกับฝนได้อยู่หมัด

เสริมเกราะป้องกันอีกชั้นด้วยฟาซาดอาคาร

นอกจากจะป้องกันฝนจากด้านบนแล้ว ก็อย่าลืมป้องกันในบริเวณด้านข้างด้วย เพราะเมื่อมีแรงลมพัดปะทะมายังตัวบ้าน จะทำให้ทิศทางของฝนเกิดเบี่ยงเบนและสาดเข้ามายังผนังด้านข้างได้ ดังนั้นจึงควรออกแบบเปลือกอาคารหรือฟาซาด ให้มี Double-Skin เพื่อช่วยเสริมเกราะป้องกันอีกชั้น รวมถึงสร้างความสวยงามให้กับหน้าตาอาคารได้หลายรูปแบบ เช่น ระแนงไม้โปร่ง, ผนังอิฐบล็อกช่องลม หรือแผงอะลูมิเนียมฉลุลาย เป็นต้น

ออกแบบบ้านอย่างไรให้รับมือกับฝนได้อยู่หมัด

เลือกประตู-หน้าต่างที่เหมาะสมกับทุกสภาพอากาศ

ประตู-หน้าต่าง ถือเป็นหัวใจสำคัญของบ้าน ที่นอกจากจะคำนึงถึงคุณสมบัติการเปิดรับลมธรรมชาติ, การระบายอากาศ, ความสวยงามของบานกรอบที่เข้ากับสไตล์บ้าน และการเชื่อมต่อบรรยากาศภายในบ้านกับธรรมชาติด้านนอกอย่างต่อเนื่องแล้ว อีกคุณสมบัติที่ต้องให้ความสำคัญคือ ‘ประสิทธิภาพการป้องกันรั่วซึมจากฝน’ ซึ่งประตู-หน้าต่างของ TOSTEM ก็ได้มีการออกแบบให้รับมือกับฤดูฝนได้อยู่หมัด ไม่ว่าจะมีพายุหรือฝนตกหนักก็สามารถปกป้องภายในบ้านได้อย่างปลอดภัย ด้วยประสิทธิภาพการต้านทานน้ำฝนที่เกิดจากแรงดันลม หรือ Water Tightness ที่ผ่านการทดสอบด้วยมาตรฐาน JIS จากญี่ปุ่นและมาตรฐาน ASTM จากสหรัฐอเมริกา ที่สำคัญมีการออกแบบโปรไฟล์กรอบล่าง ให้มีวาล์วระบายน้ำติดตั้งในทุกรุ่น และมีระบบป้องกันน้ำ 2 ชั้นในรุ่น GRANTS ที่ช่วยให้น้ำฝนไม่เอ่อล้นและไหลรั่วซึมเข้ามาตามรอยต่อของบานกรอบประตู-หน้าต่าง

ออกแบบบ้านอย่างไรให้รับมือกับฝนได้อยู่หมัด

ปลูกต้นไม้เป็นเกราะป้องกันอันแสนสบายตา

ไม่เพียงแค่องค์ประกอบของบ้านเท่านั้นที่จะรับมือกับฝนได้ แต่หากปลูกต้นไม้ให้ถูกวิธีก็สามารถป้องกันฝนได้เช่นกัน โดยการจะปลูกต้นไม้ที่ดีนั้น เราควรเลือกใช้พืชพรรณหลากหลายระดับ ทั้งไม้ยืนต้น ไม้พุ่มสูง ไม้พุ่มเตี้ย และพืชคลุมดิน จัดวางประกอบกัน เพื่อทำให้สวนของเราสามารถรับมือกับฝนได้ทุกองศา ทุกทิศทาง พร้อมทั้งช่วยสร้างความหลากหลายในธรรมชาติ ทำให้บ้านดูร่มรื่นสบายตา และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย เช่น ปลูกต้นปีป ซึ่งเป็นไม้ยืนต้น ร่วมกับรั้วต้นไทรเกาหลี (ไม้พุ่มสูง), ต้นลิ้นมังกร (ไม้พุ่มเตี้ย) และหนวดปลาดุกแคระ (ไม้คลุมดิน) เป็นต้น

ออกแบบบ้านอย่างไรให้รับมือกับฝนได้อยู่หมัด

เพียงเท่านี้บ้านของเราก็สามารถผ่านฤดูฝนได้อย่างปลอดภัย และหากใครต้องการเสริมความมั่นใจให้กับบ้าน ด้วยประตู-หน้าต่าง TOSTEM ที่สามารถรับมือกับทุกวิกฤตสภาพอากาศ พร้อมตอบโจทย์การใช้งานและเข้าได้กับดีไซน์บ้านทุกสไตล์ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่


หากใครสนใจสินค้า TOSTEM สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทีปุ่มด้านบนเลย!

C+I House บ้านที่ใช้สินค้า TOSTEM

House C+I การออกแบบบ้านกะทัดรัด ให้โปร่ง โล่ง สบาย

หากเป็นเมื่อก่อนเราอาจอยากได้บ้านที่ใหญ่โต กว้างขวาง อยู่กันได้หลายคน แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป ไลฟ์สไตล์ของคนก็เปลี่ยนแปลงตาม บ้านในฝันของคนรุ่นใหม่หลายคนจึงไม่ได้จำกัดอยู่เรื่องขนาดที่ต้องใหญ่เพียงเท่านั้น แต่ทว่าอยู่แล้วสบายทั้งกายและใจแม้จะมีพื้นที่เล็กๆ หรือขนาดกะทัดรัดก็ตาม เช่นเดียวกับ House C+I ที่ถูกออกแบบตามไลฟ์สไตล์เจ้าของบ้าน และความต้องการสำหรับครอบครัวขนาดเล็กอย่างพอดิบพอดี

C+I House บ้านที่ใช้สินค้า TOSTEM

‘มินิมอล เรียบง่าย กะทัดรัด และมีพื้นที่สีเขียว’ คือโจทย์แรกที่สถาปนิก blankstudio ได้รับ ด้วยไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้านที่ค่อนข้างมีระเบียบ เรียบร้อย และเป็นคนที่ชอบธรรมชาติ ชอบต้นไม้ บวกกับข้อจำกัดของลักษณะผืนที่ดิน ที่มีหน้าแคบแต่ลึก ซึ่งกว้าง 10 เมตร ยาว 34 เมตร จึงเป็นที่มาของหน้าตาบ้านโมเดิร์น รูปทรงเหลี่ยม เน้นสีขาว ดูคลีนๆ หลังนี้

C+I House บ้านที่ใช้สินค้า TOSTEM

ธรรมชาติบนพื้นที่กะทัดรัด

พื้นที่หน้าบ้านซึ่งหันออกทางทิศตะวันตก ถูกออกแบบให้ทำหน้าที่ป้องกันความร้อนจากแสงแดดให้กับตัวบ้าน โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นสองช่วง ได้แก่ ช่วงแรกที่ติดกับถนน ส่วนนี้สถาปนิกออกแบบให้เป็นโรงจอดรถที่เข้า-ออกได้สะดวก พร้อมคอร์ทยาร์ดเล็กๆ สำหรับปลูกต้นไม้ เพื่อสร้างร่มเงาและสร้างเอกลักษณ์ให้กับบ้านจากมุมมองข้างนอก

C+I House บ้านที่ใช้สินค้า TOSTEM

ช่วงที่สองจะถูกกั้นด้วยประตูระแนง ที่สามารถเลือกเปิดเพื่อเชื่อมพื้นที่สวนให้ต่อเนื่องกัน หรือเลือกปิดเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวอีกชั้นก็ได้ ซึ่งพื้นที่นี้เป็นถูกออกแบบให้เป็นสวนพักผ่อนย่อนใจ ที่มีทั้งสนามหญ้า และกระบะต้นไม้แนวยาวขนานไปกับทางเดินเข้าบ้าน ให้สามารถมานั่งเล่น หรือทำกิจกรรมต่างๆ พร้อมกับฟังเสียงน้ำไหลแสนผ่อนคลายจากผนังน้ำตกได้

การวางฟังก์ชันสำหรับบ้านหน้าแคบ

สถาปนิกออกแบบฟังก์ชันภายในบ้านในรูปแบบ Open Plan เพื่อทำให้บ้านขนาดกะทัดรัดดูกว้างขึ้น ทั้งพื้นที่นั่งเล่น รับประทานอาหาร และครัวที่สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างโปร่งโล่ง มีการเลือกใช้สี ดีไซน์ของเฟอร์นิเจอร์และวัสดุประตูหน้าต่างที่เรียบง่าย เข้ากับสีผนังและภาพรวมของบ้าน รวมถึงมีคอร์ทเล็กๆ สำหรับโชว์พืชอวบน้ำ และคอร์ทหลังบ้านสำหรับปลูกไม้ยืนต้นที่มีเรือนยอดสูงชะลูดขึ้นไปถึงชั้น 2

C+I House บ้านที่ใช้สินค้า TOSTEM

สำหรับพื้นที่ชั้น 2 นั้นถูกแบ่งให้เป็นห้องนอน ห้องแต่งตัว และห้องน้ำ ที่มีความเป็นส่วนตัวสูง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถมองเห็นพื้นที่ชั้นล่าง และบรรยากาศธรรมชาติรอบๆ ผ่านบานประตูหน้าต่างกระจกทั้งสองด้าน ซึ่งตอบโจทย์กับความต้องการของเจ้าของบ้าน ที่อยากพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ และมองเห็นต้นไม้ตลอดเวลาในทุกๆ วัน

C+I House บ้านที่ใช้สินค้า TOSTEM

การออกแบบช่องว่าง เพื่อสร้างบรรยากาศน่าสบาย

‘ช่องว่าง หรือ Void’ ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้บ้านรูปทรงกล่อง ไม่ดูทึบตัน ดังนั้นเราจึงเห็นว่าทั้งภายในและภายนอกของบ้าน มีการเปิดช่องว่างทั้งประตูหน้าต่าง และ Skylight เพื่อเปิดรับแสงและลมธรรมชาติ ให้เข้ามาไหลเวียนผ่านทุกพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง

ซึ่งบ้านหลังนี้ก็ได้มีการเลือกใช้บานประตูหน้าต่างของ TOSTEM รุ่น WE40 และ WE70 หลากหลายบาน ได้แก่ บานฟิกซ์ เพื่อเปิดรับแสงแต่ไม่รับลม เหมาะกับพื้นที่โถง Double Volume Space, บานเลื่อนสไลด์ ที่ถูกใช้กับพื้นที่เกือบทั้งหมดของบ้าน และหน้าต่างบานเปิด สะดวกต่อการใช้งานในห้องน้ำ นอกจากนี้ยังมีประตูหน้าบ้านรุ่น GIESTA ที่มาพร้อมกับระบบตัวล็อคแน่นหนา และประตูรุ่น AIRFLOW DOOR ที่ถูกออกแบบพิเศษเพื่อการระบายอากาศโดยเฉพาะ ทำให้บ้านทั้งปลอดโปร่งและปลอดภัยในเวลาเดียวกัน

สีอะลูมิเนียมก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยส่งเสริมตัวบ้านให้ดูคลีนขึ้น ซึ่งสีที่ใช้ในบ้านหลังนี้ คือ สี SHINE GRAY ที่มีเสน่ห์โดดเด่นในตัวเอง ในขณะเดียวกันก็สามารถเข้ากับผนังสีขาวได้อย่างลงตัว และด้วยคุณสมบัติของการชุบสีอะโนไดซ์ ทำให้สีเกาะตัวกับอะลูมิเนียมได้ยาวนาน ไม่ซีดจาง แม้จะผ่านสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในทุกๆ วัน

เราจะเห็นได้ว่าแม้ขนาดพื้นที่จะมีข้อจำกัด แต่การออกแบบพื้นที่ให้เชื่อมถึงกัน มีการเจาะช่องว่างให้เหมาะสม และเลือกใช้สีที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้สว่างขึ้น ก็สามารถสร้าง ‘ความน่าอยู่สบาย’ ให้เกิดขึ้นได้ภายในพื้นที่ไม่กี่ตารางเมตร ไม่แพ้กับบ้านหลังใหญ่เลยทีเดียว

หากสนใจสินค้าประตูหน้าต่าง TOSTEM ที่สามารถเชื่อมต่อธรรมชาติให้เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตในทุกๆ วัน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

ขอขอบคุณ

  • Owner: คุณพีโรรส เปลี่ยนเชาว์ และคุณพุดตาน มิตรานันท์ (ที่ดิน 85 ตารางวา | พื้นที่ใช้สอย 180 ตารางเมตร)
  • Architect: blankstudio
  • Photograph: Panoramic Studio

หากสนใจต้องการบานประตูหรือหน้าต่างสามารถคลิกดูแบบที่ต้องการได้เลย


ประตูไม้มีกี่ประเภท แล้วแบบไหนดีกว่ากัน?

ประตูไม้มีกี่ประเภท แล้วแบบไหนดีกว่ากัน?

จะดีแค่ไหนถ้าบ้านของเรานำวัสดุธรรมชาติอย่าง “ไม้” เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตัวบ้าน อย่างตำแหน่งที่เราสามารถใกล้ชิด และ สัมผัสธรรมชาติได้ทั้งสายตา และมือ อยู่เป็นประจำ นั่นก็คือ “บานประตู” แต่บานประตูไม้ในปัจจุบันมีหลายประเภทให้เลือกใช้ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าบานประตูไม้แบบไหนถึงจะมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับบ้านของเรา วันนี้ TOSTEM จึงนำคุณสมบัติบานประตูไม้แต่ละชนิดไม่ว่าจะเป็น ไม้จริง ไม้อัด ไม้เทียม หรือ เหล็กลายไม้ มาให้ได้รู้จักกัน ก่อนจะซื้อหานำมาติดตั้ง เพื่อให้บ้านของเรารู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ และอยู่สบายมากยิ่งขึ้น

ประตูไม้มีกี่ประเภท แล้วแบบไหนดีกว่ากัน?

ไม้จริงได้รับความนิยมมาตั้งแต่อดีต

ปัจจุบันบานประตู ไม้จริง ถือได้รับความนิยมมาโดยตลอด เพราะสามารถติดตั้งได้ทั้งภายใน และภายนอก ให้สีสันที่อ่อนโยน และผิวสัมผัสที่ผ่อนคลาย ไม้ส่วนใหญ่ที่ถูกนำมาใช้ผลิตประตู ได้แก่ ไม้สัก เพราะเป็นไม้เนื้ออ่อน ให้สีน้ำตาลอ่อน มีลวดลายเป็นเส้นตรง หากเป็นไม้ที่โตเต็มที่จะมีน้ำมันที่ช่วยป้องกันแมลง และปลวกได้ดี

ประตูไม้มีกี่ประเภท แล้วแบบไหนดีกว่ากัน?

อีกชนิดของไม้ที่นิยมไม่แพ้กันก็คือ ไม้แดง ไม้เนื้อแข็งสีน้ำตาลเข้ม มีลวดลายทั้งเส้นตรง และโค้งมนผสมผสานกัน ไม้แดงสามารถทนแดด และฝนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ไม้ประเภท เต็งรัง มะค่า ประดู่ หรือ ตะเคียน ก็นิยมนำมาใช้ทำประตูด้วยเช่นกัน เพราะไม้เหล่านี้มีความแข็งแรง หากเคลือบน้ำยารักษาเนื้อไม้ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น

แต่ในปัจจุบันไม้เหล่านี้มีราคาที่สูงขึ้นอยู่ตลอด เพราะจำนวนไม้ในธรรมชาติที่หายากมากขึ้น ตามท้องตลาดบางครั้งอาจจะเป็นไม้ที่ยังไม่โตเต็มที่ มีความแข็งแรงน้อย และ มีความชื้นสะสม เมื่อนำมาใช้ผลิตบานประตู และนำไปติดตั้งที่บ้านก็อาจจะเกิดการบวม และผุพังเพราะปลวก และแมลงได้

ประตูไม้มีกี่ประเภท แล้วแบบไหนดีกว่ากัน?

ไม้อัดราคาย่อมเยา

หลายคนเริ่มหันมาใช้บานประตูไม้อัด HDF  (High Density Fiber : HDF Door) เพราะมีราคาถูกกว่าไม้จริง น้ำหนักเบา และหาซื้อได้ง่าย เนื่องจากโครงสร้างของประตูผลิตขึ้นจากไม้หลายชนิด พร้อมปิดทับด้วยแผ่นใยไม้อัดให้เสมือนกับผิวไม้จริง โดยใช้เรซิ่นในการประสานวัสดุให้ติดแน่นทนนาน

แต่สิ่งต้องห้ามสำหรับประตูไม้อัดก็คือการติดตั้งบริเวณภายนอกอาคาร เนื่องจากเมื่อโดนแดด และฝนในระยะเวลาหนึ่งจะทำให้ประตูบวม สีซีด และผุพัง ประตูไม้อัดจึงเหมาะกับติดตั้งภายในอาคารมากกว่า 

ประตูไม้มีกี่ประเภท แล้วแบบไหนดีกว่ากัน?

นวัตกรรมในการผลิตไม้สังเคราะห์

เมื่อนวัตกรรมด้านวัสดุถูกพัฒนามากขึ้น การพยายามออกแบบประตูไม้ด้วยกระบวนแบบใหม่ หรือ การใช้วัสดุอื่นเข้ามาทดแทน ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้กับเจ้าของบ้าน เช่น บานประตูไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineered Wood) ที่ถูกผลิตขึ้นจากไม้จริง แต่นำไม้มาผ่านกระบวนการทางวิศวกรรม เช่น กระบวนการอัดสลับเสี้ยน หรือ การอัดประสานกาวกันน้ำ เพื่อให้ไม้มีความแข็งแรง ไม่ยืด หด หรือ ขยายตัว แถมยังสามารถเลือกปิดผิวหน้าด้วยไม้ธรรมชาติได้หลากหลายประเภท นอกจากนี้ยังสามารถสั่งผลิตตามขนาดที่เราต้องการได้ อย่างไรก็ตามประตูไม้เอนจิเนียร์ควรจะติดตั้งภายใน หรือกึ่งภายนอกมากกว่า เพราะเมื่อโดนแสงแดดโดยตรงเป็นระยะเวลานานก็อาจจะเกิดสีซีดจางได้

นอกจากนี้ยังมีไม้เทียมอีกหลายประเภทที่ถูกผลิตด้วยวัสดุอื่น ไม่ว่าจะเป็น ไฟเบอร์ซีเมนต์ พอลิเมอร์ไวนิลผสมกับผงไม้จริง หรือ ประตูไม้สังเคราะห์ WPC (WOOD PLASTIC COMPOSITE) ที่มีส่วนผสมของผง PVC กับเศษไม้เข้าด้วยกัน จึงทำให้มีความทนทาน กันน้ำ และเชื้อรา รวมไปถึงยังสามารถผลิตรูปแบบบานประตูให้ดูแตกต่างได้อย่างไม่จำกัด แต่วัสดุเหล่านี้มีข้อเสียตรงที่มีความบอบบาง หากใช้ของแข็ง หรือสิ่งของแหลมคม เจาะ หรือ ทุบ ก็อาจจะสร้างความเสียหายให้กับภายได้บ้านได้

ประตูไม้มีกี่ประเภท แล้วแบบไหนดีกว่ากัน?
ประตู GIESTA จาก TOSTEM

ประตูเหล็กเคลือบเรซิ่นลามิเนตลายไม้

เพื่อทลายข้อจำกัดของประตูไม้จริง ไม้อัด และไม้เทียม จึงเป็นที่มาของประตูเหล็กเคลือบเรซิ่นลามิเนตลายไม้ หรือ ที่รู้จักกันอีกชื่อหนึ่งคือ ประตูอะลูมิเนียมลายไม้ ที่เลือกใช้แผ่นเหล็กที่ผ่านกระบวนการผลิตแบบพิเศษ จนแผ่นเหล็กมีลักษณะ บาง  เบา และมีความแข็งแรงสูง ช่องว่างระหว่างแผ่นเหล็กเป็น PU แรปด้วยเรซิ่นลายไม้ได้หลายรูปแบบให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติเสมือนไม้จริง โดยชั้นในเคลือบอีพ็อกซี่เพื่อป้องกันสนิม

นอกจากนี้ยังเสริมภายในบานด้วยฉนวนโพลิสไตรินเพื่อลดความร้อนให้กับประตู ด้วยคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมนี้ จึงทำให้ประตูเหล็กเรซิ่นลายไม้ได้รับความนิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก 

ประตูไม้มีกี่ประเภท แล้วแบบไหนดีกว่ากัน?

ทลายข้อจำกัดไม้ทุกประเภท

ไม่ว่าจะยุคสมัยใดบานประตูไม้ก็ยังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง แต่เนื่องด้วยสภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นทำให้การตัดไม้จริงในป่ามาใช้งานอาจจะไม่เกิดความยั่งยืน แถมมีราคาสูงอีกด้วย การออกแบบจึงพยายามพัฒนาบานประตูไม้ ที่เลือกใช้ไม้ให้คุ้มค่ามากที่สุด จึงเกิดเป็นบานประตูไม้อัด หรือ บานประตูไม้สังเคราะห์ เพื่อตอบโจทย์ในเรื่องของราคาที่ถูกขึ้น และให้ผิวสัมผัสที่เป็นธรรมชาติได้เช่นเดิม

ด้วยข้อจำกัดเหล่านี้ทาง TOSTEM จึงได้คิดค้น และออกแบบบานประตูเหล็กเคลือบเรซิ่นลามิเนตลายไม้ รุ่น GIESTA หรือที่รู้จักกันในชื่อเรียกว่า ประตูอะลูมิเนียมลายไม้ TOSTEM ที่ผลิตขึ้นจากแผ่นเหล็กบาง แรปด้วยเรซิ่นลายไม้เป็นธรรมชาติ ทำให้มีน้ำหนักเบา บาง แต่มีความแข็งแรง ทนทานสูง ไม่เกิดสนิม และยังลดความร้อนให้กับภายในบ้านได้อีกด้วย จึงสามารถติดตั้งได้ทั้งภายใน-นอก นอกจากจะมีประตูหน้าบานแบบทึบแล้วยังมีรุ่นฝังช่องกระจกเพื่อเปิดรับความสว่างจากภายนอก พร้อมมือจับอะลูมิเนียมขนาดใหญ่ที่ออกแบบตามหลัก Universal Design สามารถใช้งานได้ทุกเพศทุกวัย ทั้งนี้ยังสามารถเลือกระบบล็อคเพื่อความสะดวกและปลอดภัยได้ตามที่เราต้องการอีกด้วย  หากใครกำลังวางแผนติดตั้งบานประตูไม้แบบใหม่ ทาง TOSTEM ยินดีให้คำปรึกษา และแนะนำเพื่อให้ได้บานประตูไม้ที่เหมาะสมกับตัวบ้าน และไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยมากที่สุด


หากสนใจต้องการบานประตูหรือหน้าต่างสามารถคลิกดูแบบที่ต้องการได้เลย

The Inspiring of Black & White บ้านดีไซน์ขาว-ดำ เรียบเท่ลงตัว

The Inspiring of Black & White บ้านดีไซน์ขาว-ดำ เรียบเท่ลงตัว

โทนสีขาว-ดำ เป็นอีกหนึ่งคู่สีที่นิยมในการแต่งบ้านอย่างมาก ด้วยความเรียบง่าย แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเท่มีสไตล์ ก็ทำให้คนยุคใหม่หันมาเทใจให้เทรนด์ “Black & White” กันมากขึ้น

สำหรับนักออกแบบที่กำลังมองหาตัวอย่างสำหรับการดีไซน์บ้านโทนขาวดำอยู่ วันนี้ทอสเท็ม (TOSTEM) ก็มีมุมต่างๆ ในบ้าน ที่ตกแต่งเฉดขาว-ดำมาฝากกัน ลองมาเก็บไอเดียดีๆ ด้านการออกแบบ พร้อมเลือกดีไซน์กรอบประตูหน้าต่างให้สวยงามลงตัวกันเลย

The Inspiring of Black & White บ้านดีไซน์ขาว-ดำ เรียบเท่ลงตัว

Smart Bedroom
คุมโทนเข้มแต่แฝงความนุ่มนวล

ห้องนอนเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่เจ้าของห้องอยากใช้เวลาในการพักผ่อนให้ได้มากที่สุด หลายๆ บ้านจึงเลือกตกแต่งเป็นโทนสีเข้มๆ อย่างสีดำเกือบ 100% เพราะสีโทนเข้มช่วยรักษาบรรยากาศของความสงบ ปราศจากความสว่าง แต่การใช้สี

สำหรับห้องนอนโทนเข้มแบบนี้ สามารถเลือกแมตช์กับประตูบานเลื่อน TOSTEM พร้อมกรอบประตูสี Natural Black ให้ Mood ไปด้วยกันกับภาพรวมทั้งหมดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

The Inspiring of Black & White บ้านดีไซน์ขาว-ดำ เรียบเท่ลงตัว

Modern Loft Bathroom
เพิ่มมิติด้วยเฉดสีสามน้ำหนัก

สำหรับห้องน้ำในบ้านที่มีการใช้งานกันหลายคน อาจเลือกใช้เฉดสีที่ดรอปลงมาจากสีดำ เป็นสีเทาคอนกรีตสไตล์ลอฟต์ แต่ยกระดับความหรูหราและเนี้ยบขึ้นด้วยการปูกระเบื้อง พร้อมเติมเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ลุคโมเดิร์นสีขาว-ดำ ก็ช่วยทำให้บรรยากาศในห้องน้ำไม่มืดทึบเกินไป แถมยังมีเลเยอร์ของน้ำหนักสีตั้งแต่สีสว่าง สีกลาง ไปจนถึงสีเข้ม ให้รู้สึกมีมิติไม่น่าเบื่อ

และอย่าลืมเพิ่มความปลอดโปร่งให้ห้องน้ำ ด้วยหน้าต่างบานช่องแสงจาก TOSTEM ที่ช่วยรับแสงเข้ามาโดยไม่ต้องเปิดหน้าต่าง ทำให้ห้องน้ำสว่างขึ้น แมตช์กับกรอบสี Natural White ช่วยเติมเต็มลุคแบบ Modern Loft ได้ลงตัว

The Inspiring of Black & White บ้านดีไซน์ขาว-ดำ เรียบเท่ลงตัว

Natural Living Room
เปิดรับธรรมชาติให้พื้นที่หลักของบ้าน

มาถึงพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นจุดพบปะของครอบครัวอย่างห้องนั่งเล่น สำหรับห้องนี้หลายๆ บ้านมักใช้เป็นห้อง Multi-Function ทั้งนั่งเล่น พักผ่อน ทานอาหาร การเลือกใช้โทนสีขาวเป็นส่วนใหญ่ พร้อมออกแบบให้เปิดรับแสงธรรมชาติและวิวภายนอกได้มาก จะช่วยเสริมสร้างพื้นที่ที่ใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยใช้เฟอร์นิเจอร์หลักชิ้นใหญ่เป็นสีดำเข้ม อย่างโซฟาและโต๊ะทานข้าว จะช่วยให้โทนของห้องยังดูเรียบเท่สไตล์ Black & White อยู่

ซึ่งสามารถเลือกใช้ประตูเลื่อนบานสูงจาก TOSTEM เพื่อเปิดมุมมองให้ห้องดูกว้างขึ้น โดยเลือกกรอบสีโทนกลางเช่น Autumn Brown ที่ให้ความเป็นธรรมชาติ เข้ากับโทนของห้องมากขึ้น


หากสนใจต้องการบานประตูหรือหน้าต่างสามารถคลิกดูแบบที่ต้องการได้เลย

AIRFLOW DOOR

AIRFLOW DOOR ประตูระบายอากาศ ที่ทำให้บ้านอยู่สบาย อากาศไหลเวียนดี

ในสภาพอากาศเขตร้อนชื้นอย่างเมืองไทยเรา ยิ่งต้องระมัดระวังภัยที่แฝงมากับฝน ฝุ่น และความร้อน ทั้งความชื้นสะสมในอากาศ อุณหภูมิภายในบ้าน และการรั่วซึมของน้ำ ที่นอกจากจะทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกเหนอะหนะ ไม่สบายทั้งกายและใจแล้ว ยังส่งผลต่อการเสื่อมสภาพของบ้านอีกด้วย

ดังนั้นเราจึงต้องใส่ใจการติดตั้งประตู-หน้าต่าง ที่ช่วยในการไหลเวียนอากาศและแสงภายในบ้านอย่างทั่วถึงทุกมุม และผลิตภัณฑ์ AIRFLOW DOOR จาก TOSTEM ก็เป็นหนึ่งในนวัตกรรมพิเศษที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์เรื่องการระบายอากาศได้เป็นอย่างดี

ประตู AIRFLOW DOOR สามารถเปิด-ปิดกระจกได้ถึง 3 แบบ เพื่อให้อากาศหมุนเวียนได้ตามความต้องการ

ระบายอากาศด้วยบานสไลด์ 3 ระดับ

AIRFLOW DOOR เป็นประตูที่สามารถระบายอากาศ โดยไม่ต้องเปิดบานประตู และควบคุมปริมาณลมได้ตามที่ต้องการ ด้วยคุณสมบัติบานกระจกด้านในสุดที่สามารถเปิด-ปิดได้ 3 ระดับ โดยการเลื่อนบานขึ้น-ลงในแนวตั้ง ไม่ว่าจะเปิดบานกระจกมารวมกันตรงกลาง เพื่อเปิดช่องบน-ล่างให้ระบายอากาศได้อย่างเต็มที่, เปิดแง้มช่องเพียงเล็กน้อย หากไม่ต้องการรับลมมาก หรือจะปิดบานทั้งหมดเพื่อป้องกันอากาศรั่วไหล เมื่อใช้งานเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน นอกจากนี้รอบบานประตูยังมียางทนความร้อน ที่ทนทานต่อแรงดันลม, ช่วยกันเสียงรบกวนจากภายนอก และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการป้องกันน้ำอีกด้วย

ป้องกันอันตรายจากฝุ่นและแมลงด้วยมุ้งลวด

นอกจากการระบายความร้อนในบ้าน รวมถึงปัญหาความอับชื้นแล้ว อีกสิ่งที่เราต้องเตรียมรับมือก็คือ เจ้าเหล่าแมลงทั้งหลายอย่างพวกยุงและแมลงต่างๆ ประตู AIRFLOW DOOR จึงมีการออกแบบบานมุ้งลวดสอดแทรกตรงกลาง โดยไม่บดบังการมองเห็น แต่ช่วยเพิ่มความโปร่งสบายตาเมื่อมองรับวิวไปข้างนอกได้ชัดเจน รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแมลงขนาดเล็กไม่ให้เล็ดลอดเข้ามา และยังช่วยปกป้องคนในบ้านจากฝุ่น และมลพิษทางอากาศอย่าง PM 2.5

AIRFLOW DOOR ประตูหายใจได้ ที่ทำให้บ้านอยู่สบาย อากาศไหลเวียนดี

เสริมความปลอดภัยอีกขั้นด้วยระแนงและระบบล็อคที่แน่นหนา

อีกสิ่งหนึ่งในการออกแบบที่ TOSTEM ให้ความสำคัญนั้นคือเรื่อง ‘ความปลอดภัย’ เพราะนอกจากประตู AIRFLOW DOOR จะสามารถช่วยระบายอากาศได้ดีแล้ว ยังมีการติดตั้งลูกกรง ระแนงกันขโมยเพื่อป้องกันผู้บุกรุก ที่ดีไซน์มาพร้อมเข้ากับตัวประตูอย่างกลมกลืน และเสริมความปลอดภัยด้านใน ด้วยตัวล็อคบานเลื่อนที่ถูกออกแบบมาให้เป็นแบบขอเกี่ยวที่ทำลายได้ยาก ซึ่งเป็นกลไกการล็อคที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยแม้ไม่มีคนอยู่บ้านก็ตาม

AIRFLOW DOOR ประตูหายใจได้ ที่ทำให้บ้านอยู่สบาย อากาศไหลเวียนดี

ดีไซน์ทันสมัย ตอบโจทย์บ้านทุกสไตล์

นอกจากฟังก์ชันการใช้งานที่โดดเด่นแล้ว ประตู AIRFLOW DOOR ยังมีดีไซน์ที่ทันสมัย ตอบโจทย์กับบ้านทุกสไตล์ สามารถใช้ได้ในทุกมุมของบ้าน โดยเฉพาะห้องครัวที่ต้องการระบายอากาศและกลิ่นไม่พึงประสงค์เป็นพิเศษ โดยผลิตภัณฑ์จาก TOSTEM มีสีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่โทนสว่างไปยังโทนเข้ม ได้แก่ Natural White, Natural Silver, Shine Gray, Autumn Brown, Natural Black รวมถึงสีใหม่ล่าสุดอย่าง DUSK GRAY

AIRFLOW DOOR ประตูหายใจได้ ที่ทำให้บ้านอยู่สบาย อากาศไหลเวียนดี

ไม่ว่าอากาศจะไม่เป็นใจแค่ไหน ประตู AIRFLOW DOOR จากซีรีส์ TOSTEM AIRFLOW System ก็สามารถเอาอยู่ได้ทุกสภาพอากาศ นอกจากนี้เรายังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการระบายอากาศ ให้ไหลเวียนเชื่อมกันได้อย่างทั่วถึงทุกซอกทุกมุมของบ้าน ด้วยผลิตภัณฑ์ประตู-หน้าต่างอื่นๆ จาก TOSTEM ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การออกแบบบ้านให้สวยงาม ปลอดโปร่ง และอยู่สบายได้ทั้งปี หากใครสนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่


หากใครสนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทีปุ่มด้านบนเลย

แก้บ้านร้อนด้วยสินค้า TOTEM

ติดตั้งประตูหน้าต่างอย่างไรให้บ้านเย็นสบาย

นอกจากความสวยงามที่ช่วยสร้างบรรยากาศการอยู่อาศัยให้น่าอยู่ ผ่อนคลาย และสบายตาแล้ว ‘การระบายอากาศที่ดี’ ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้อยู่บ้านอย่างสบายกายและสบายใจอีกด้วย ยิ่งท่ามกลางอากาศร้อนๆ แบบนี้ ทำให้เราเห็นภาพชัดว่า ‘การระบายอากาศที่ดี’ ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของคนในบ้านอย่างไร หากขาดการถ่ายเทของอากาศและแสงที่ดี ก็อาจส่งผลทำให้บรรยากาศของบ้านนั้นไม่น่าอยู่เช่นกัน วันนี้เราจึงมีไอเดียการติดตั้งและการเลือกประตู-หน้าต่าง ที่จะมาเปลี่ยนบรรยากาศบ้านทั่วไป ให้กลายเป็น ‘บ้านอยู่สบาย’ ด้วยฟังก์ชันการระบายอากาศที่ดีเยี่ยม และเหมาะสมลงตัวกับบ้านของคุณมาฝากกัน

แก้บ้านร้อนด้วยสินค้า TOTEM

ตำแหน่งการติดตั้งประตู-หน้าต่าง

ก่อนอื่นมารู้จักสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงในการติดตั้งประตูและหน้าต่างกันก่อน นั่นก็คือการวางตำแหน่งช่องเปิดของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นประตู หน้าต่าง หรือช่องลมต่างๆ ซึ่งการจะทำให้อากาศถ่ายเทได้ดีนั้น ต้องมีการเจาะช่องประตู-หน้าต่างอย่างน้อย 2 ชุด โดยวางในตำแหน่งผนังด้านที่เยื้องกันหรือตรงข้ามกัน เพื่อเพิ่มโอกาสทำให้ลมสามารถไหลเวียนได้ทั่วถึง ซึ่งโดยปกติแล้วความร้อนมักลอยตัวขึ้นสูง และความเย็นจะลอยตัวต่ำ ดังนั้นจึงต้องมีการเจาะช่องหน้าต่างทั้งด้านบนและด้านล่าง หรือเลือกใช้หน้าต่างบานสูง เพื่อที่จะสามารถระบายความความร้อนสะสมออกไป และรับลมเย็นเข้ามาแทนที่ ที่สำคัญควรวางในทิศเหนือ-ใต้ เพราะเป็นทิศที่ลมจะพัดเข้าบ้าน

แก้บ้านร้อนด้วยสินค้า TOTEM

ชนิดบานเปิดของหน้าต่าง

เมื่อวางช่องประตู-หน้าต่างในตำแหน่งที่เหมาะสมต่อการระบายอากาศแล้ว สิ่งต่อไปที่ต้องคำนึงคือ ‘ชนิดบานเปิด’ ที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ของดีไซน์ ฟังก์ชัน และการวางพื้นที่รับลมเข้าสู่ตัวบ้าน โดยบานหน้าต่างที่คนทั่วไปนิยมใช้หลักๆ มี 4 ชนิดได้แก่

หน้าต่างบานเปิด เป็นหน้าต่างที่สามารถระบายอากาศได้มากที่สุด เพราะสามารถเปิดรับลมเข้า-ออกได้ตั้งแต่ 90-180 องศา และทำให้เราได้สัมผัสกับบรรยากาศข้างนอกโดยไร้สิ่งบดบัง เหมาะกับการใช้บนชั้น 2 หรือห้องที่ไม่ติดกับทางเดินนอกอาคาร เพราะหากเปิดบานออกไปโดยไม่ระมัดระวัง อาจทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บได้

แก้บ้านร้อนด้วยสินค้า TOTEM

หน้าต่างบานเลื่อน ด้วยดีไซน์ที่เหมาะกับสไตล์โมเดิร์น และมีฟังก์ชันการใช้งานสะดวกสบาย ไม่ต้องเอื้อมมือออกไปปิด-เปิด นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าต่างบานเลื่อนกลายเป็นบานยอดฮิตที่หลายๆ คนนิยมใช้ สำหรับประสิทธิภาพการระบายอากาศนั้น หน้าต่างบานเลื่อนสามารถเปิดรับลมได้หลายระดับ ขึ้นอยู่กับดีไซน์ของตัวบาน โดยปกติจะสามารถรับลมได้ประมาณ 50% แต่หากมีการออกแบบช่องผนัง ให้สามารถเลื่อนบานหน้าต่างไปซ่อนไว้ด้านข้างได้ ก็จะทำให้เราสามารถเปิดรับลมได้เต็มที่ไม่แพ้หน้าต่างบานเปิดเลย และยิ่งเลือกบานเปิดคู่ที่เปิดได้ทั้งสองทาง ก็จะทำให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น

แก้บ้านร้อนด้วยสินค้า TOTEM

หน้าต่างบานกระทุ้ง เป็นหน้าต่างที่เปิดด้วยวิธีผลักออกขึ้นไปข้างบนและค้างไว้ ทำให้สามารถระบายอากาศได้ดี พร้อมกับสามารถกันฝนสาดได้ด้วย แต่มีข้อจำกัดคือ หากมีขนาดบานใหญ่เกินไป จะทำให้ไม่สามารถรับน้ำหนักขณะเปิดค้างได้ และทำให้ใช้งานไม่สะดวก ดังนั้นหลายคนจึงนิยมใช้เป็นหน้าต่างระบายอากาศในห้องน้ำหรือมุมอับของบ้าน

แก้บ้านร้อนด้วยสินค้า TOTEM

หน้าต่างบานเกล็ด เป็นหน้าต่างที่เหมาะกับประเทศไทยอย่างมาก เพราะถูกออกแบบมาเพื่อระบายอากาศโดยเฉพาะ ด้วยคุณสมบัติบานเกล็ดที่ปรับเปลี่ยนองศาได้หลายระดับ จึงทำให้สามารถเลือกรับแสงและลมได้ตามต้องการ พร้อมทั้งสามารถป้องกันฝนในตัว และเนื่องจากบานมีขนาดเล็ก จึงทำให้เหมาะกับการติดตั้งในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณที่ติดกับทางเดินนอกอาคาร แต่ด้วยลักษณะบานที่ซ้อนกันหลายชั้น ทำให้ต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดเป็นประจำ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของฝุ่นและคราบสกปรกได้ 

แก้บ้านร้อนด้วยสินค้า TOTEM
หน้าต่างบานเกล็ด – ไม่ใช่สินค้า TOSTEM

นอกจากประตู-หน้าต่างจะทำหน้าที่เปิดรับลมแล้ว แสงแดด ฝุ่นควันมลพิษ และแมลงก็เป็นอีกปัญหาที่ตามมา ดังนั้นจึงควรเสริมเกราะป้องกันอีกชั้นด้วย ‘มุ้งลวด’ อุปกรณ์เสริมคู่บ้านที่ขาดไม่ได้ ซึ่งสำหรับผลิตภัณฑ์ของ TOSTEM ก็มีการออกแบบมุ้งลวดให้เข้ากับบานหน้าต่างทุกชนิด โดยเฉพาะซีรีส์ ATIS ที่มีนวัตกรรมมุ้งลวดแบบใหม่ เส้นตาข่ายเล็กลงกว่าปกติ 40% ส่งผลให้กันแมลงเล็กๆ ได้ดีขึ้น ทำให้มองเห็นวิวได้ชัดเจนขึ้น 20% และสามารถให้ลมผ่านอย่างปลอดโปร่งเหมือนเดิม

ฟังก์ชันของกรอบบานประตู-หน้าต่าง

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าองค์ประกอบรอง อย่างกรอบบานประตู-หน้าต่างในปัจจุบัน ถูกพัฒนาให้มีฟังก์ชันพิเศษเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายอากาศได้มากขึ้น ซึ่งสำหรับ TOSTEM เอง ก็ได้พัฒนาระบบ TOSTEM AIRFLOW System ที่มีผลิตภัณฑ์ประตู-หน้าต่างตอบโจทย์การระบายอากาศได้เป็นอย่างดี ได้แก่

  1. AIRFLOW SLOT นวัตกรรมช่องระบายอากาศในรุ่น WE 70 และรุ่น WE PLUS ที่ทำหน้าที่ระบายอากาศผ่านช่องพิเศษแทนการเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยในขณะที่ไม่อยู่บ้าน โดยเราสามารถเลือกเปิด-ปิดได้ตามความต้องการ จึงทำให้หมดกังวลเรื่องอากาศรั่วไหล นอกจากนี้ภายในช่องยังมีมุ้งกันแมลง ที่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้อีกด้วย
  • GIESTA AIRFLOW ประตูเหล็กลายไม้คุณภาพสูง ที่มาพร้อมหน้าต่างระบายอากาศแบบฝังในบานและมุ้งกันแมลง ช่วยสร้างการไหลเวียนอากาศ ทำให้สัมผัสได้ถึงความปลอดโปร่งตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าสู่ตัวบ้าน โดยช่องระบายอากาศจะมีบานกระจกอีกชั้น ที่สามารถเปิด-ปิดได้จากข้างในได้ พร้อมกับติดตั้งระบบล็อกอย่างดี จึงทำให้เราหมดห่วงเรื่องผู้บุกรุก

  • AIRFLOW DOOR ประตูที่ถูกออกแบบมาเพื่อการระบายอากาศโดยเฉพาะ ซึ่งประกอบด้วยบานกระจกที่สามารถเลื่อนขึ้น-ลงในแนวตั้ง เพื่อปิด-เปิดได้โดยไม่ต้องเปิดประตู, ระแนงชั้นข้างนอกสุด ที่ช่วยสร้างความปลอดภัย และเสริมการป้องกันจากเหล่าแมลงด้วยบานมุ้งลวดตรงกลาง
แก้บ้านร้อนด้วยสินค้า TOTEM

จะเห็นได้ว่าการเลือกประตู-หน้าต่างที่เหมาะสมนั้น มีส่วนช่วยทำให้ ‘บ้านอยู่สบาย’ เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฟังก์ชันการใช้งาน, การไหลเวียนของอากาศและแสงภายในบ้าน หรือการปกป้องอันตรายจากฝุ่นควันมลพิษ แมลง และผู้บุกรุก ดังนั้นเราจึงต้องใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่การติดตั้ง รูปแบบบานเปิด ไปจนถึงคุณสมบัติของกรอบบาน และนอกจากคุณสมบัติการระบายอากาศแล้ว ผลิตภัณฑ์ของ TOSTEM ยังมีดีไซน์และฟังก์ชันพิเศษอื่นๆ ที่จะช่วยเปลี่ยนให้บ้านของเราให้สวยงามและอยู่สบายได้ในเวลาเดียวกัน


หากใครสนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทีปุ่มด้านบนเลย!