fbpx

5 จุดเด่นของประตู หน้าต่าง ทอสเท็ม

ทอสเท็ม TOSTEM แบรนด์ประตูและหน้าต่างคุณภาพจากญี่ปุ่นที่ได้รับความไว้วางใจมายาวนาน ผสมผสานเทคโนโลยีทันสมัยกับมาตรฐานสากล เพื่อเสริมความทนทาน และความสวยงาม ให้กับบ้านและโครงการก่อสร้างทุกประเภท ด้วยการออกแบบที่ใส่ใจทั้งในเรื่องความปลอดภัยและความยั่งยืน

และนี่คือ 5 จุดเด่นของประตูและหน้าต่างทอสเท็ม TOSTEM ที่เราอยากให้ทุกคนได้รู้จัก

1. Trust 

ความน่าเชื่อถือ 101 ปี พร้อมก้าวสู่ปีที่ 102

ทอสเท็มได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลกมายาวนานถึง 101 ปี และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 102 ด้วยการมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสูง ตอบโจทย์ทุกการใช้งานด้วยโซลูชันครบวงจร ทำให้ทอสเท็มเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมและความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่องในตลาด

ทอสเท็มได้รับความนิยมในกลุ่มดีไซเนอร์ สถาปนิก และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการเป็น Total Housing Solution ที่ไม่เพียงผลิตประตูหน้าต่างอะลูมิเนียม แต่ยังคำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้งาน เพื่อมอบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ครบทุกมิติ


2. Product quality 

คุณภาพผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานสากล

ทอสเท็มมุ่งมั่นในการผลิตบานประตูและหน้าต่างที่มีคุณภาพสูง ด้วยการควบคุมมาตรฐานทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดเลือกวัสดุ ไปจนถึงกระบวนการผลิตที่เป็นไปตามมาตรฐานระดับสากล เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ได้มีความทนทานและใช้งานได้ยาวนาน


3. Pre-Engineering 

ตรงตามความต้องการ ผลิตจากโรงงานคุณภาพ


ทอสเท็มนำเสนอระบบ Pre-Engineered ที่ออกแบบและผลิตชิ้นงานสำเร็จรูปตามขนาดที่ลูกค้าต้องการ (Customized) โดยทุกชิ้นส่วนผลิตจากโรงงานและส่งมอบพร้อมประกอบในหน้างาน โดยไม่ต้องวัดหรือตัดขนาดใหม่ ช่วยประหยัดเวลาและลดความผิดพลาดในการผลิตและติดตั้ง ทำให้ผลลัพธ์ออกมาตรงตามแบบที่ออกแบบไว้ทุกประการ

  • ชิ้นส่วนถูกผลิตขึ้นตามขนาดและแบบที่ลูกค้าต้องการอย่างแม่นยำ ทำให้มีวัสดุเหลือทิ้งน้อยที่สุด
  • การออกแบบที่คำนึงถึงความสะดวกในการติดตั้ง ทำให้สามารถประกอบและติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว
  • ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นผลิตตามมาตรฐานอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (JIS) รับประกันคุณภาพและความทนทาน
  • ทุกชิ้นส่วนผลิตจากทอสเท็มเอง ตั้งแต่กระบวนการขึ้นรูปวัสดุ มั่นใจในคุณภาพ

นอกจากนี้ทอสเท็มมีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายที่ต้องผ่านการฝึกอบรมจากทอสเท็มแล้วเท่านั้น ถึงจะนำสินค้าจากทอสเท็มไปนำเสนอหรือไปติดตั้งให้ลูกค้าได้ เท่ากับว่ามีทั้งสินค้าที่ดีมีคุณภาพ และระบบการติดตั้งที่ถูกต้องได้มาตรฐาน

4. TexGuard
เทคโนโลยีเคลือบพื้นผิวอะลูมิเนียมทับการทำสีชุบอะโนไดซ์ 

TexGuard คือเทคโนโลยีเคลือบพื้นผิวอะลูมิเนียม ที่ช่วยปกป้องและเพิ่มความเงางามให้คงทนตลอดเวลา พัฒนาและทดสอบโดยทอสเท็มเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มีคุณสมบัติเด่น ดังนี้

  • ปกป้องจากความซีดจาง ยาวนานกว่า 40 ปี
  • เสริมความทนทานให้กับอะลูมิเนียม ลดการเกิดรอยขีดข่วนบนพื้นผิว
  • ทำความสะอาดง่าย ป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรกไม่ให้สะสมบนพื้นผิว

นอกจากนี้ยังมีหลากหลายสีให้เลือกเพื่อตอบโจทย์ทุกดีไซน์ อาทิ Shine Grey, Autumn Brown, Natural White, Natural Silver, Natural Black, และ Dusk Gray ซึ่งทุกสีผ่านกระบวนการชุบอะโนไดซ์และเคลือบผิวด้วยเทคโนโลยี TexGuard ช่วยให้คุณใช้งานผลิตภัณฑ์ได้ยาวนานและไร้กังวล

5. Sustainable 

ด้วยนวัตกรรมการรีไซเคิลอะลูมิเนียม
ทอสเท็มให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยการใช้เทคโนโลยีรีไซเคิลอะลูมิเนียม ที่ช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมกับเนื้อสัมผัสและสีเหมือนกับวัสดุใหม่ 100% ทำให้ทุกชิ้นส่วนยังคงความสวยงาม ทนทาน และตรงตามมาตรฐานการผลิตเดียวกัน

ในปีนี้ทอสเท็ม (TOSTEM) ภายใต้บริษัท ลิกซิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (LIXIL) มุ่งขับเคลื่อนแบรนด์ด้วยนวัตกรรมที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “RE-CONNECTING LIVES” เพื่อเชื่อมโยงผู้อยู่อาศัยกับธรรมชาติ โดยมุ่งสู่เป้าหมาย Net-Zero CO2 emission ภายในปี 2050

ยกตัวอย่าง ผลิตภัณฑ์ “PremiAL R100” นวัตกรรมอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลที่โรงงานทอสเท็มไทย ได้รับการรับรองจาก EcoLeaf และ JIC Quality Assurance โดยการใช้วัสดุรีไซเคิลช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 97% เมื่อเทียบกับการถลุงอะลูมิเนียมใหม่ และคาดว่าจะช่วยลดการปล่อย CO2 ลง 30% ภายในปี 2031

รวมถึง REVIA วัสดุปูพื้นจากขยะพลาสติกและเศษไม้ ซึ่งผลิตจากการนำขยะพลาสติกและเศษไม้มาใช้ใหม่ ช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 ได้ถึง 82% 

ประตูและหน้าต่างทอสเท็ม (TOSTEM) จึงเป็นตัวเลือกที่มั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพ ความทนทาน และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับผู้สนใจผลิตภัณฑ์สามารถคลิกดูรายละเอียดได้ที่ท้ายบทความ 



เจาะลึกมือจับ GIESTA FamiLock ทำไมถึงเหมาะกับทุกคนในครอบครัว

GIESTA FamiLock คือนวัตกรรมมือจับที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของสมาชิกในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ต้องการความสะดวกในการใช้งานทุกวัน
บทความนี้จะพาไปเจาะลึกมือจับ GIESTA FamiLock ทำไมถึงเหมาะกับทุกคนในครอบครัว

จุดเด่น GIESTA FamiLock 

GIESTA FamiLock ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานง่ายและสะดวก สามารถเปิด-ปิดประตูได้ด้วยมือเดียวโดยไม่ต้องใช้แรงมาก เหมาะสำหรับทุกวัย โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็ก

ระบบล็อคของ FamiLock มีความปลอดภัยสูง ไม่ว่าจะเป็น มีเขี้ยวล็อกที่แน่นหนา ที่เกี่ยวประตูป้องกันการบุกรุก มือจับด้านนอกฝาครอบบังกุญแจได้ ลูกกุญแจทำเลียนแบบได้ยาก และวัสดุที่ใช้ในการผลิตมีคุณภาพสูงและทนทานต่อการใช้งานระยะยาว รวมถึงทนต่อสภาพอากาศและการขูดขีดหรือรอยต่างๆ ได้ดี


FamiLock ถูกออกแบบให้ประหยัดพลังงาน โดยใช้แบตเตอรี่อัลคาไลน์ที่สามารถเปลี่ยนได้ง่าย ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการบำรุงรักษาหรือปัญหาพลังงานในระยะยาว และยังสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องยุ่งยาก นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันเสริมที่หลากหลาย เช่น การเชื่อมต่อกับระบบล็อคอัตโนมัติและสมาร์ทโฟน ซึ่งช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถควบคุมการล็อคประตูจากระยะไกล เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล

อุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกับ GIESTA FamiLock

FamiLock รองรับการล็อกและปลดล็อกได้หลากหลายช่องทาง ทั้งการใช้คีย์การ์ด, คีย์แท็ก, รีโมตคอนโทรล, สมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชัน My Entrance และยังมีระบบกุญแจสำรองเพื่อความสะดวกในกรณีที่จำเป็น

  • คีย์การ์ด: ออกแบบให้พกพาง่าย สามารถเก็บในกระเป๋าสตางค์ได้อย่างสบาย และผู้ใช้สามารถล็อกและปลดล็อกได้ง่าย ๆ โดยการกดปุ่มที่มือจับแล้วนำคีย์การ์ดแตะที่จุดรับสัญญาณ
  • คีย์แท็ก: เหมาะสำหรับการคล้องกับพวงกุญแจหรือใช้สายคล้องกับกระเป๋า ผู้ใช้สามารถล็อกและปลดล็อกได้ง่าย ๆ ด้วยการกดปุ่มที่มือจับและแตะคีย์แท็กที่จุดรับสัญญาณ
  • รีโมตคอนโทรล: พกติดตัวในกระเป๋าหรือกระเป๋าสะพาย ผู้ใช้สามารถล็อกและปลดล็อกได้ 2 วิธี

วิธีแรก: กดปุ่มที่มือจับเพื่อล็อกหรือปลดล็อกประตูทันที

วิธีที่สอง: ใช้รีโมตคอนโทรลภายในระยะการส่งสัญญาณบลูทูธเพื่อควบคุมการล็อกและปลดล็อกจากระยะไกล

  • สมาร์ทโฟน: ผู้ใช้ยุคดิจิทัลที่พกสมาร์ทโฟนติดตัวอยู่เสมอ สามารถล็อกและปลดล็อกได้ภายในระยะการส่งสัญญาณ 2 วิธี

วิธีแรก: เปิดแอปพลิเคชัน MY ENTRANCE และสั่งล็อกหรือปลดล็อกผ่านสมาร์ทโฟน

วิธีที่สอง: เมื่อพกสมาร์ทโฟนติดตัว ผู้ใช้สามารถกดปุ่มที่มือจับเพื่อล็อกและปลดล็อกได้ทันที

GIESTA FamiLock เหมาะกับทุกคนในครอบครัว

  1. ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก
    GIESTA FamiLock มีระบบล็อคที่ช่วยป้องกันไม่ให้เด็กสามารถเปิดประตูได้ง่ายๆ จึงช่วยให้พ่อแม่มั่นใจได้ว่าเด็กๆ จะปลอดภัยจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น


  1. ผู้สูงอายุ
    มือจับ FamiLock ออกแบบให้เปิดปิดได้ง่าย ไม่ต้องใช้แรงมาก ซึ่งเหมาะสมกับผู้สูงอายุที่อาจมีปัญหาด้านความคล่องตัวหรือความแข็งแรงของมือ การใช้งานง่ายๆ และปลอดภัยจะช่วยให้ผู้สูงอายุไม่รู้สึกยากลำบากในการใช้
  2. ผู้ที่มีความต้องการพิเศษ
    มือจับ GIESTA FamiLock เหมาะสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นพิเศษในการใช้งานประตู เช่น ผู้ที่ใช้รถเข็น หรือผู้ที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว เพราะสามารถเปิดปิดประตูได้โดยไม่ต้องใช้แรงมาก
  3. เจ้าของบ้านที่ต้องการความปลอดภัย
    GIESTA FamiLock ช่วยให้การรักษาความปลอดภัยของบ้านมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยระบบล็อคที่ปลอดภัยและการเชื่อมต่อกับระบบสมาร์ทโฮม ช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถควบคุมการเข้าถึงได้ตลอดเวลา

ด้วยการออกแบบที่ใส่ใจทุกรายละเอียด มือจับ GIESTA FamiLock จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบายสำหรับทุกคนในครอบครัว

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือการติดตั้ง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิงก์ด้านล่าง



ประตูหน้าต่างรุ่น WE 70 ความลงตัวสำหรับบ้านแนวราบ

การเลือกประตูและหน้าต่างที่มีคุณภาพสูงเป็นปัจจัยสำคัญ สำหรับการสร้างบ้านแนวราบ โดยประตูหน้าต่างรุ่น WE 70 จาก TOSTEM เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่น ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย ฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบสนองต่อความต้องการของบ้านในยุคปัจจุบัน ทำให้คุณสามารถสร้างพื้นที่ที่ทั้งสวยงามและปลอดภัยได้อย่างลงตัว

จุดเด่นของประตูหน้าต่างรุ่น WE 70

WE 70 เป็นอีกหนึ่งรุ่นยอดฮิตของแบรนด์ทอสเท็ม มาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียบง่ายทว่าทันสมัย ทำให้สามารถเข้ากับสไตล์บ้านแนวราบได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์น คลาสสิก หรือยุโรป ทั้งยังมีรูปแบบของประตูหน้าต่างให้เลือกหลากหลายแบบ รวมถึงมีคุณสมบัติโดดเด่นหลายประการ ดังนี้ 

  • ผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมคุณภาพสูง ด้วยพื้นผิวอะลูมิเนียมชุบอะโนไดซ์พร้อมชั้นเคลือบ TEXGUARD เอกลักษณ์ของทอสเท็ม จึงมีความทนทานต่อสภาพอากาศและไม่เกิดการผุกร่อน ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
  • ป้องกันเสียงรบกวน ผ่านการทดสอบการช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก ตามมาตรฐาน JIS ทำให้บรรยากาศภายในบ้านเงียบสงบลง
  • ต้านทานแรงลม ผลิตภัณฑ์ของทอสเท็มผ่านการทดสอบมาตรฐานระดับสากลอย่าง Japanese Industrial Standards (JIS) และ ASTM International ที่ครอบคลุมการทดสอบหลายประเภท และหนึ่งในนั้นก็คือการต้านทานแรงลม โดยซีรี่ส์ WE 70 อยู่ที่ 800 ปาสคาล (Pascal) ซึ่งเหมาะกับบ้านแนวราบ
  • ทำได้สูงสุด 2.4 เมตร ช่วยให้สามารถรับแสงธรรมชาติได้มากขึ้น ทำให้ภายในบ้านรู้สึกโปร่งสบายและสดชื่น รวมถึงการใช้หน้าต่างที่มีความสูงช่วยให้บ้านดูทันสมัยและมีสไตล์ เสริมความสวยงามให้กับการออกแบบภายนอกได้ดี

ประตูหน้าต่างบานเลื่อนยอดฮิตสำหรับบ้านแนวราบ

รูปแบบประตูหน้าต่างบานเลื่อนยอดฮิตสำหรับบ้านแนวราบมีหลายแบบที่นิยมใช้ ซึ่งแต่ละแบบมีความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น

  • บานเลื่อนคู่ ออกแบบมาให้เปิดใช้งานได้สะดวกทั้งสองด้าน เส้นบดบังสายตาน้อย ช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับวิวภายนอกได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นวิวสวน, ทะเล หรือทิวทัศน์ที่คุณชื่นชอบ พร้อมเพิ่มความโปร่งสบายให้กับทุกห้องของคุณ 
  • บานเลื่อน 3 บาน ออกแบบมาให้รวบเก็บบานไว้ข้างเดียวได้อย่างสะดวก เปิดกว้างถึง 2 ใน 3 ของช่องเปิด ช่วยเพิ่มการระบายอากาศได้ดีกว่าบานเลื่อนคู่ที่เปิดได้เพียงครึ่งเดียว ให้คุณสัมผัสประสบการณ์การเปิดกว้างอย่างแท้จริง ช่วยเชื่อมพื้นที่ภายในและภายนอกได้อย่างลงตัว
  • บานเลื่อน 4 บาน ออกแบบมาเพื่อความยืดหยุ่นในการใช้งานที่เหนือกว่า ด้วยฟังก์ชันการเปิดหลากหลายที่ไม่จำกัดแค่การเปิดกลาง แต่ยังสามารถรวบบานไว้ตรงกลาง เพื่อเปิดช่องซ้าย-ขวา ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแค่การระบายอากาศที่ดี แต่เติมเต็มความสะดวกสบายและความสดชื่นให้กับทุกวันของคุณ


นอกจากนี้ซีรี่ส์ WE 70 ยังมีฟังก์ชัน AIRFLOW System ระบบสุดพิเศษที่ซ่อนในประตูบ้านเพื่อช่วยหมุนเวียนอากาศภายในบ้านที่มีอุณหภูมิสูง ให้เกิดการระบาย ไม่ให้เกิดการร้อนอบอ้าว ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในบ้านไทยและแถบเอเชีย โดยมีให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่ Natural White, Natural Silver, Shine Gray, Autumn Brown, Dusk Gray และ Naturual Black

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://tostemthailand.com/products/we-70/ หรือสอบถามข้อมูลได้หลากหลายช่องทางตามลิงก์ด้านล่าง 



ไอเดียออกแบบประตูและหน้าต่าง เพิ่มความเป็นส่วนตัว

ในยุคที่การใช้ชีวิตในบ้านมีความสำคัญมากขึ้น การออกแบบประตูและหน้าต่างที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างภายในและภายนอกสามารถช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นบทความนี้เรามีไอเดียการออกแบบที่จะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับบ้านของคุณมาฝากกัน

เลือกใช้กระจกฝ้า

การเลือกวัสดุที่มีคุณสมบัติป้องกันเสียงและมองเห็นได้ยาก เช่น กระจกฝ้าหรือกระจกทึบแสงในประตูหน้าต่าง สามารถช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกระจกฝ้าจะช่วยบังสายตาจากภายนอก ทำให้คนที่อยู่ในบ้านไม่ถูกมองเห็นจากด้านนอก ในขณะที่ยังสามารถให้แสงธรรมชาติเข้าสู่บ้านได้  อีกทั้งกระจกฝ้ายังมีความทนทานต่อการใช้งาน สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน
 

การใช้ผ้าม่านบังตา

การใช้ผ้าม่านบังตา เป็นอีกไอเดียออกแบบประตูและหน้าต่าง ที่ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้บ้านได้ดี เนื่องจากม่านสามารถช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับหน้าต่าง โดยไม่ทำให้บ้านมืดจนเกินไป สามารถเลือกใช้แบบโปร่งแสงหรือทึบแสงตามความต้องการ เพื่อควบคุมแสงและช่วยปิดกั้นมุมมองจากผู้คนหรือบ้านข้างเคียง ทำให้ผู้ที่อยู่ภายในบ้านรู้สึกปลอดภัยและเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ติดฟิล์มกรองแสงหรือมู่ลี่

การเลือกติดฟิล์มกรองแสงหรือมู่ลี่ให้กับประตูหน้าต่าง เป็นทางเลือกที่ดีในการสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นช่วยบังสายตาจากคนภายนอก ควบคุมแสง ช่วยป้องกัน UV และลดความร้อนให้บ้าน นอกจากนี้ทั้งฟิล์มกรองและมู่ลี่ในปัจจุบันมีหลายประเภทและหลายสีให้เลือก ทำให้สามารถเลือกใช้ให้เข้ากับสไตล์ของบ้านของคุณได้

ให้ต้นไม้เป็นแนวรั้ว 

สำหรับตำแหน่งประตูหน้าต่างที่อยู่บริเวณพื้นที่ใช้สอยหน้าบ้าน สามารถเลือกปลูกต้นไม้เป็นแนวรั้ว จะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับบ้านได้อีกทางหนึ่ง โดยเฉพาะพืชที่มีความสูงและความหนาแน่นสามารถทำหน้าที่เป็นฉากกั้นธรรมชาติ ช่วยสร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัว อย่างเช่น  ไทรเกาหลี  ยูคาลิปตัส และต้นสน เป็นต้น

ออกแบบตำแหน่งประตูและหน้าต่างให้ไม่ตรงกับบ้านข้างเคียง

การออกแบบตำแหน่งของประตูและหน้าต่างมีผลต่อความเป็นส่วนตัวอย่างมาก โดยควรหลีกเลี่ยงการวางหน้าต่างตรงข้ามกับบ้านข้างเคียง เช่น เลือกตำแหน่งหน้าต่างให้อยู่ทางด้านข้างของบ้าน เพื่อป้องกันการมองเห็นจากภายนอก หรือเลือกใช้หน้าต่างที่มีรูปแบบที่ช่วยลดมุมมองจากภายนอก เช่น หน้าต่างสูงหรือหน้าต่างบานกระทุ้งที่มีลักษณะการเปิดเอียงออกด้านนอก ก็ช่วยลดมุมมองจากภายนอกเข้ามาในบ้านได้เช่นกัน

สำหรับใครที่กำลังมองหาประตูและหน้าต่าง เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับบ้าน Tostem มีประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมหลายรูปแบบ ให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสม ทั้งด้านการใช้งานและด้านความสวยงาม สามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ท้ายบทความ


สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือการติดตั้ง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิงก์ด้านล่าง



เคล็ดลับการเลือกขนาดประตู GIESTA และ Airflow Door ให้ลงตัว

เมื่อพูดถึงการเลือกประตูหน้าบ้าน เรื่องของขนาดนั้นมีความสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะขนาดที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความสวยงามและประสิทธิภาพในการใช้งานได้

บทความนี้ เราจะพามาเปิดขนาดประตูหน้าบ้าน GIESTA และประตูระบายอากาศ Airflow Door ที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศภายในบ้าน  เพื่อให้คุณสามารถเลือกสรรให้เข้ากับพื้นที่ของบ้านได้อย่างลงตัว

ประตูหน้าบ้าน GIESTA ทำความสูงและความกว้างได้เท่าไหร่

ประตูหน้าบ้าน GIESTA จากทอสเท็ม (TOSTEM) คือประตูเหล็กลายไม้คุณภาพสูงที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การเลือกวัสดุไปจนถึงการประกอบและการใช้งาน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของบ้านด้วยดีไซน์ที่หลากหลายและอุปกรณ์เสริมที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ

อีกทั้งยังมีการเพิ่มฟังก์ชันการไหลเวียนของอากาศภายในบ้าน GIESTA Airflow ที่ออกแบบมาให้มีหน้าต่างแบบฝังในบาน พร้อมมุ้งกันแมลงที่มากับตัวบานประตู ช่วยสร้างการไหลเวียนของอากาศตลอดทั้งวัน ทำให้บ้านเย็นขึ้น ลดความชื้น และช่วยระบายกลิ่นได้ดี โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแมลง ที่สำคัญช่องระบายอากาศนี้ถูกจัดวางในตำแหน่งที่ปลอดภัยจากการบุกรุก

นอกจากนี้ประตูหน้าบ้าน GIESTA ช่วยเติมเต็มสไตล์ของดีไซน์บ้านให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ด้วยรูปแบบบานประตูบ้าน ที่รองรับวิธีการเปิดได้ถึง 3 รูปแบบ

  • บานเปิดแบบเดี่ยว ทำความกว้างบานได้สูงสุดถึง 0.7-1 เมตร  และความสูง 2 – 3 เมตร
  • บานเปิดแม่ลูก  ทำความกว้างบานได้สูงสุดถึง 1.2-1.4 เมตร และความสูง 2 – 3 เมตร
  • บานเปิดแบบคู่ ได้สูงสุดถึง ความกว้างบานได้สูงสุดถึง 1.4- 2 เมตร และความสูง 2 – 3 เมตร

ขนาดประตูระบายอากาศ Airflow Door

ประตูคุณภาพสูงดีไซน์เรียบหรู มาพร้อมบานกระจกเปิด-ปิดได้ 3 ระดับ ช่วยให้อากาศถ่ายเทสดชื่นตลอดวัน พร้อมเลเยอร์มุ้งลวดกลางที่ไม่บดบังการมองเห็น ป้องกันแมลง ฝุ่น และมลพิษ เช่น PM 2.5 ส่วนขนาดสูงสุดของประตูระบายอากาศ Airflow Door ทำความกว้างบานได้ระหว่าง 0.50 – 1 เมตร  และความสูง 1.7 – 2.4 เมตรซึ่งช่วยให้การไหลเวียนอากาศดี ลดความชื้นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้หากคุณต้องการสั่งซื้อประตูหน้าต่างจาก TOSTEM สามารถติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการของทอสเท็ม หรือเข้าไปสัมผัสสินค้าจริงได้ที่โชว์รูมของทอสเท็ม โดยขั้นตอนการผลิตจะเป็นแบบ Made to Order เพื่อให้ได้สินค้าที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งใช้เวลาผลิตประมาณ 30-45 วันทำการ นับจากวันที่ลูกค้าวางเงินมัดจำและคอนเฟิร์มแบบเรียบร้อยแล้ว

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือการติดตั้ง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิงก์ด้านล่าง



แบบขยายประตูหน้าต่าง คืออะไร

การออกแบบบ้านที่ดีเริ่มต้นจากรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ หนึ่งในนั้นคือ “แบบขยายประตูหน้าต่าง” ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจว่าแบบขยายประตูหน้าต่างคืออะไร และเจ้าของบ้านควรให้ความสำคัญกับส่วนไหนบ้าง เพื่อให้การเลือกและติดตั้งประตูหน้าต่างเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับบ้านของคุณ

แบบขยายประตูหน้าต่าง คืออะไร?

ในแบบแปลนหรือเอกสารที่แสดงรายละเอียดการออกแบบบ้านและอาคาร จะประกอบด้วยข้อมูลสำคัญสำหรับการก่อสร้าง อย่างพื้นที่ใช้สอยและการจัดวางห้องต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบต่างๆ เช่น ประตู หน้าต่าง บันได เป็นต้น โดยมีการระบุตำแหน่งและขนาดของแต่ละชิ้นด้วยสัญลักษณ์

แต่ทั้งนี้สัญลักษณ์ของประตูและหน้าต่างในแบบแปลนจะไม่ได้แสดงรายละเอียดทั้งหมด แต่จะมีข้อมูลเพิ่มเติมใน “แบบขยายประตู” ที่อยู่ในส่วนท้ายของแบบแปลน เพื่อให้เข้าใจรายละเอียดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

แบบขยายประตูหน้าต่าง จะทำหน้าที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการออกแบบ ขนาด และรูปแบบของประตูหรือหน้าต่างที่คุณต้องการติดตั้งในบ้าน โดยทั่วไปแบบขยายจะรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ การติดตั้ง และลักษณะการเปิดปิดที่เหมาะสม ซึ่งช่วยให้การสร้างหรือปรับปรุงบ้านเป็นไปตามความต้องการและมาตรฐานที่กำหนดนั่นเอง 

เจ้าของบ้านจะได้แบบขยายประตูหน้าต่างจากสถาปนิกหรือผู้รับเหมาในช่วงขั้นตอนการออกแบบบ้าน โดยทั่วไปจะอยู่ในขั้นตอนการวางแผนและออกแบบก่อนเริ่มก่อสร้าง ซึ่งหลังจากที่ได้แบบเบื้องต้นแล้ว เจ้าของบ้านสามารถปรึกษาหรือขยายแบบตามความต้องการได้ ก่อนที่จะส่งแบบไปยังการขออนุญาตก่อสร้างและเริ่มงานก่อสร้างจริง

เจ้าของบ้านควรดูอะไรบ้าง
เมื่อเจ้าของบ้านต้องดูแบบขยายประตูและหน้าต่าง ควรพิจารณาหลายปัจจัยประกอบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดังนี้

  • ขนาดและสัดส่วน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าขนาดของประตูหรือหน้าต่างตรงกับขนาดช่องเปิดในบ้าน เนื่องจากหากมีขนาดใหญ่เกินไปหรือน้อยเกินไป อาจส่งผลต่อการใช้งานและความสวยงามของบ้าน  ซึ่งสัญลักษณ์สำหรับขนาด จะถูกระบุด้วยตัวเลขที่แสดงถึงความกว้างและความสูง เช่น 80×200 cm หมายถึงประตูที่มีความกว้าง 80 ซม. และความสูง 200 ซม.
  • ชนิดวัสดุและอุปกรณ์: พิจารณาวัสดุที่ใช้สำหรับประตูหน้าต่าง ทั้งวัสดุวงกบ วัสดุกรอบบาน เช่น อะลูมิเนียม ไม้ เหล็ก เพื่อพิจารณาความทนทานและการดูแลรักษา และเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
  • ลักษณะการเปิด: เลือกประเภทการเปิดประตูหรือหน้าต่างที่เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น เปิดเข้า เปิดออก หรือบานสไลด์ โดยส่วนมากจะมีสัญลักษณ์ลูกศรหรือเส้นประที่แสดงว่าประตูหรือหน้าต่างนั้นสามารถเปิดได้หรือมีการล็อกอยู่  สำหรับสัญลักษณ์การเปิดของประตูหน้าต่างเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่นี่ 

ทั้งหมดนี้เป็นรายละเอียดเบื้องต้นที่เจ้าของบ้านสามารถพิจารณาได้ ซึ่งการตรวจสอบแบบขยายประตูหน้าต่างจะช่วยให้คุณมั่นใจว่าประตูและหน้าต่างที่เลือกเหมาะสมกับบ้านของคุณ นอกจากนี้ยังช่วยให้การอยู่อาศัยสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้นอีกด้วย

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่าง