fbpx

คุยกับคุณยู Co Temporary กับผู้ออกแบบพื้นที่ใหม่ จากรากฐานเดิม Baan 986

Baan 986 ตั้งอยู่บนพื้นที่ย่านถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ภายใต้บรรยากาศอบอุ่น ด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมเรียบๆ แต่มีสไตล์จากการดีไซน์หลังคาที่ได้ซ่อนลูกเล่นของระแนงไม้ ทำให้เกิดเอฟเฟ็กต์แสงเงาอันน่าสนใจ รวมถึงการสร้างลวดลายลงบนผนัง โดยการพ่นสีเทกเจอร์ โทนน้ำตาล ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับบ้านได้เป็นอย่างดี

วันนี้ TOSTEM ขอพาไปสำรวจแนวคิดการออกแบบ กับ คุณยู – พิเศษ อิศรางกูร ณ อยุธยา จากบริษัท CO Temporary Architects สถาปนิกผู้เนรมิตพื้นที่ใหม่ จากฐานรากบ้านเดิมให้กลายเป็นสเปซสำหรับสมาชิกในครอบครัว ทั้งยังเติมเต็มดีไซน์ด้วยการใช้ประตูและหน้าต่างคุณภาพสูงรุ่น WE 70 จาก #TOSTEM ที่ช่วยให้การใช้งานไปเป็นอย่างสมบูรณ์แบบ

สำหรับพื้นที่ชั้นล่าง ทางสถาปนิกได้ออกแบบ โดยให้ความสำคัญกับการจัดความสัมพันธ์ของพื้นที่ภายใน เพื่อขยายพื้นที่ใช้สอย ลักษณะจะเป็นแบบเปิดโล่ง ทั้งโซนนั่งดูโทรทัศน์ โซนนั่งเล่นชั้นลอย หรือเดินไปยังห้องรับประทานอาหาร พื้นที่ก็เชื่อมโยงกันทั้งหมด หรือแม้เจ้าของบ้านอยู่ในห้องนอนชั้นบนก็สามารถมองเห็นบรรยากาศด้านล่างได้ด้วยเช่นกัน

รวมถึงได้เลือกใช้กรอบอะลูมิเนียมหน้าต่าง จาก TOSTEM ที่ผ่านกระบวนการชุบสีด้วยประจุไฟฟ้า พร้อมชั้นเคลือบพิเศษ TEXGUARD ซึ่งทำให้ผิวสัมผัสเรียบเนียน มีความคงทน และทำให้สีอะลูมิเนียมสวยงามอย่างมีมิติ ซึ่งเข้ากับบรรยากาศอันอบอุ่นของบ้านอย่างลงตัว

ในส่วนของห้องรับประทานอาหาร ถือว่าเป็นสเปซใหญ่ของบ้านทั้งสองหลัง ที่ทุกคนในบ้านสามารถมาใช้งานร่วมกันได้ ซึ่งถูกออกแบบเชื่อมต่อพื้นที่ ด้วยประตูหน้าต่างบานเลื่อน รุ่น #WE70 ของ #TOSTEM ที่มาช่วยเพิ่มมิติของการมองเห็นที่กว้าง ช่วยให้พื้นที่สมูท และช่วยเชื่อมต่อกับพื้นที่อื่นๆ ของบ้าน ให้ห้องมีกว้างขวางขึ้น ขณะเดียวกันก็สร้างความเป็นส่วนตัวได้เมื่อต้องการ 

คุณยู ยังได้บอกถึงหลักการการเลือกใช้ประตูหน้าต่างสำหรับ Baan 986 ให้ทราบว่า “การเลือกประตูหน้าต่างของบ้านหลังนี้ อันดับแรกคือการใช้งาน เพราะเจ้าของบ้านค่อนข้างมีอายุมาก และเป็นคนชอบเปิดหน้าต่าง แต่ประเด็นคือหน้าต่างเดิม เป็นบานเปิดธรรมดาทั่วไป ซึ่งเจ้าของบ้านเล่าว่ากว่าจะเปิดปิดใช้เวลานาน ทางเราก็เลยเลือกเป็นบานเลื่อน ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานของเจ้าของบ้านได้ดี ทั้งในแง่การใช้งานที่เปิดง่าย และมีน้ำหนักเบา”

นอกจากนี้ อีกมุมของผนังยังมีการออกแบบช่องแสงเพิ่มอีกบาน ทำให้ห้องดูไม่อึดอัด โดยความน่าสนใจ คือ #WE70 กรอบบานหน้าต่างแบบหล่อติดผนัง ถูกดีไซน์มาอย่างเรียบหรู พร้อมตัวล็อกแบบก้านโยกอันเป็นเอกลักษณ์ของ TOSTEM ที่ช่วยปิดหน้าต่างอย่างแนบสนิทกันเสียงรบกวนจากภายนอก และป้องกันอากาศรั่วไหล ตอบโจทย์กับพื้นที่และการใช้งานได้เป็นอย่างดี

บริเวณชั้นสองของบ้าน ประกอบไปด้วย โซนนั่งเล่น และห้องนอนขนาดใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว ซึ่งตลอดทางเดินของชั้นสอง จะมีช่องแสงเป็นระยะตลอดทาง รวมถึงในส่วนของห้องนอน ก็มีการออกแบบประตูหน้าต่าง ที่คำนึงถึงแสง การเปิดรับอากาศ และความปลอดภัย เพื่อรองรับการใช้งานของเจ้าของที่เป็นผู้สูงอายุ ซึ่งทางสถาปนิกเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จาก #TOSTEM ที่ตอบโจทย์ทั้งแง่ดีไซน์ การใช้งานและความปลอดภัย


“จากโจทย์ที่เจ้าของบ้านอยากได้ห้องนอนใหญ่ และยังอยากเห็นความเคลื่อนไหวเมื่อมีคนเข้าออกบ้าน เราเลยออกแบบห้องนอนให้รายล้อมด้วยผนังกระจกกั้นทั้งหมด เพราะฉะนั้นจะสามารถมองเห็นคนในบ้าน”

“เรื่องประตูหน้าต่าง หรือช่องแสง ถือว่าเป็นไฮไลท์ของบ้าน โดยช่องแสงของบ้านที่เชื่อมต่อกับภายนอก เราใช้เป็นตัวหน้าต่างไซส์เดียวกันทั้งหมด แต่ออกแบบจัดวางแบบเว้นจังหวะ ซึ่งประเด็นก็คือจังหวะพวกนี้ถูกสอดแทรกอยู่ในสเปซทั้งหมดของบ้าน ตั้งแต่ ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนอนที่สอง รวมถึงไม่เฉพาะข้างหน้าบ้าน แต่ข้างหลังก็มีจังหวะของช่องแสง ที่เราออกแบบให้เชื่อมต่อกัน ฉะนั้นเรื่องของการเปิดรับอากาศ แสง ลม อากาศก็จะไหลลื่นมากขึ้น” คุณยู อธิบายถึงแนวคิดการออกแบบช่องแสงทั้งหมดภายในบ้าน 

“จากตอนแรกที่เราได้รับโจทย์มา คือห้อง Master Bedroom แต่หลังจากที่ทีมเข้ามาคุยกับเจ้าของบ้าน ทางเรามีใส่ความสัมพันธ์ของการมองเห็น เพราะว่าเจ้าของบ้านต้องการรับรู้ว่าใครอยู่ในบ้านบ้าง ใครไป ใครมา เพราะฉะนั้นหลักการออกแบบแรกของเราคือ Open Plan การจัดบ้านแบบเปิดโล่ง เชื่อมต่อพื้นที่ภายในบ้านเข้าไว้ด้วยกัน แล้วทำให้ทุกจุดของบ้านมองเห็นซึ่งกันและกัน รวมถึงเราพยายามทำให้ Master Bedroom มองเห็นจากส่วนอื่นด้วย” คุณยู Co Temporary Architects พูดถึงแนวคิดหลักของการออกแบบพื้นที่ภายใน

สำหรับโทนสีของบ้าน ถูกเติมเต็มด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีอ่อนและสีเอิร์ธโทน พร้อมกับเพิ่มความน่าสนใจด้วยการเลือกใช้ผนังสีขาว ช่วยให้บรรยากาศดูเป็นกันเองมากขึ้น ทั้งยังช่วยให้พื้นที่ของบ้านดูแล้วอบอุ่น ละมุนตา ซึ่งเป็นรูปแบบที่เจ้าของบ้านชื่นชอบ

โดย คุณยู ได้เล่าถึงมู้ดแอนด์โทนของบ้านให้ฟังเพิ่มเติมว่า “เรื่องโทนสี อ้างอิงจากเจ้าของบ้านที่ชอบความเป็นไม้ แต่คุณป้าก็ยังไม่อยากใช้ไม้จริงขนาดนั้น เพราะไม้จริงดูแลรักษายาก เพราะฉะนั้นเราก็เลยเอาหลักการไม้เข้ามา แล้วพยายามแปลงเฉดของไม้ เป็นโทนสีน้ำตาล โดยเอามาไล่ผ่านเฉดสีต่างๆ เช่น ผนังเทกเจอร์หน้าบ้าน เราก็ใช้เป็นสีน้ำตาล หรืองานกระเบื้อง มู้ดแอนด์โทน ก็จะเป็นสีเทา สีน้ำตาล ก็คือยังเป็นเฉดใกล้ๆ กัน”

นอกจากที่สถาปนิกได้ออกแบบบ้าน Baan 986 โดยเน้นเรื่องการเชื่อมต่อทางพื้นที่เป็นหลัก ทางสถาปนิกยังออกแบบให้ฟอร์มของหลังคาบ้านสอดคล้องกับหลังคาเก่าอีกหลัง บวกกับออกแบบช่องแสงที่จะเข้ามาภายในบ้านจากหลังคานี้อีกด้วย ซึ่งจุดนี้นับว่าเป็นไฮไลท์สำคัญที่เพิ่มมิติให้กับตัวบ้านได้เป็นอย่างดี


สเปซที่ว่านี้จะอยู่บริเวณชั้นสอง ถูกออกแบบมาให้เป็นแหล่งรวมความสุข ด้วยการจัดวางพื้นที่เป็นโซนนั่งเล่นและทำกิจกรรมต่างๆ พร้อมกับความสวยงามของแสงเงาที่เกิดจากการเรียงตัวของระแนงไม้ที่เป็นจังหวะเดียวกัน เรียกว่าเป็นการเล่นแสงที่ทำให้บ้านดูโปร่งสบายและไม่อึดอัด แถมยังช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติจากภายนอก ทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นจุดที่ทั้งน่าอยู่และน่าสนใจมากๆ เลยทีเดียว



ออกแบบประตูหน้าต่าง ให้ปลอดภัยและทนทานอย่างไรดี?

การออกแบบประตูหน้าต่างที่มีความปลอดภัยและทนทานเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งความปลอดภัยนั่น มาพร้อมกับการเลือกใช้วัสดุที่มีความแข็งแรง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีตามความต้องการ

แล้วจะมีวัสดุอะไรบ้าง ลองมาดูกัน


วัสดุประตูหน้าต่างที่มีความแข็งแรง
ทนทาน

การให้ความสำคัญกับการเลือกวัสดุหน้าต่างและประตู ไม่เพียงแต่ทำให้หน้าต่างและประตูมีความสวยงาม ใช้งานได้หลากหลาย และมีความแข็งแรงทนทานต่อสภาพอากาศเท่านั้น แต่ยังช่วยให้บ้านของคุณมีความปลอดภัย ยากต่อการงัดแงะ โดยในปัจจุบันก็มีวัสดุหลากหลายที่ตอบโจทย์ทั้งความแข็งแรง ปลอดภัยและทนทาน ได้แก่  

  1. อะลูมิเนียม ไม่มีฤทธิ์กัดกร่อน ปลอดภัย ทนทาน
  • ความสวยงาม: อะลูมิเนียมมีลักษณะที่สวยงามและสามารถออกแบบได้หลากหลายตามความต้องการ เช่น สามารถทำให้มีโครงสร้างที่บาง เพื่อให้มีการมองเห็นที่ดี
  • ความปลอดภัย ทนทาน: เป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงและทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ไม่เกิดสนิม สีสวยนาน และปลอดภัยจากปลวก แมลง เหมาะกับการใช้งานประจำวันได้ดี โดยเฉพาะหากต้องการการใช้งานที่มีความทนทานในระยะยาว 

  1. เหล็ก มีความแข็งแรง ทนทานต่อการบุบสลาย
  • ความสวยงาม: เหล็กเป็นวัสดุที่สามารถขึ้นรูปได้หลากหลาย จึงเหมาะกับการออกแบบตกแต่งที่ต้องการความสวยงาม โดยเฉพาะงานสถาปัตยกรรมในสไตล์ลอฟท์ที่มีความดิบเท่ 
  • ความปลอดภัย ทนทาน: มีความแข็งแรงสูง ทำให้มีความทนทาน ยากต่อการงัดแงะ ฉะนั้นประตูเหล็กจึงเหมาะกับการใช้งานภายนอกบ้าน เช่น บริเวณประตูหน้าบ้าน หลังบ้าน หรือ หน้าต่างที่ต้องการความแข็งแรงคงทน เพื่อป้องกันการบุกรุก ปัจจุบันประตูเหล็กที่ถูกผลิตสำหรับใช้เป็นประตูหน้าบ้าน มีทั้งแบบที่สวยงาม หรูหรา และทันสมัย อีกทั้งยังปลอดภัยกว่าประตูชนิดอื่นอีกด้วย
  1. ไฟเบอร์กลาส สามารถป้องกันการโจรกรรมได้ดี
  • ความสวยงาม: ไฟเบอร์กลาสสามารถเลือกสีและดีไซน์ได้ตามต้องการ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในโครงการออกแบบที่ต้องการสถานที่ที่มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์
  • ความปลอดภัย ทนทาน: วัสดุไฟเบอร์กลาสทำจากโพลีเอสเตอร์เรซิ่นเสริมใยแก้วนำมาหล่อขึ้นรูป ทำให้มีความแข็งแรงมาก ไม่ลามไฟ ซึ่งความแข็งแรงนั่นช่วยเพิ่มความปลอดภัย ป้องกันการโจรกรรมได้ดี สามารใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกบ้าน 
  1. กระจกนิรภัยเทมเปอร์ (Tempered Glass) วัสดุที่สวยงามทนทาน
  • ความสวยงาม: มีความโปร่งใสเหมือนกระจกทั่วไปและมีการขึ้นดีไซน์ที่สวยงาม ทำให้บ้านดูมีความสดใสรวมถึงมีลักษณะการสะท้อนแสงและให้แสงสว่างภายในที่สวยงาม
  • ความปลอดภัย ทนทาน: กระจกเทมเปอร์ผลิตด้วยกระบวนการนำกระจกธรรมดาผ่านกระบวนการอบที่ความร้อนสูง เพื่อให้กระจกมีความแข็งแกร่งกว่าเดิม 3-5 เท่า ทำให้ยากต่อการโจรกรรม และมีความปลอดภัยมากขึ้น โดยในกรณีที่กระจกเกิดการแตกหัก เศษกระจกจะไม่มีความแหลมคมมากรัก ทำให้มีโอกาสเกิดอันตรายน้อยกว่ากระจกธรรมดา ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้ในที่ที่ต้องการความปลอดภัย เช่น บ้านที่อยู่ติดถนนหรือทะเล

และหากคุณกำลังมองหาหน้าต่างหรือประตูสำหรับบ้านหรืออาคารที่ปลอดภัยและทนทาน TOSTEM (ทอสเท็ม) แบรนด์ผลิตภัณฑ์ประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น เราใส่ใจเรื่องนี้ และได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ อย่าง GIESTA ประตูหน้าบ้าน เหล็กเคลือบเรซิ่นลายไม้ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการทั้งหมดที่ประตูหน้าบ้านจำเป็นต้องมี 


ประตูหน้าบ้าน GIESTA มีความแข็งแรง ทนทานกว่าประตูบ้านทั่วไป 

GIESTA เป็นประตูเหล็กเคลือบเรซิ่นลายไม้คุณภาพสูง จึงมั่นใจในเรื่องความแข็งแรงของประตูได้ ตั้งแต่ โครงสร้างภายในบานประตูที่ติดตั้งฉนวนกันความร้อนและยางป้องกันอากาศภายในแผ่นเหล็กที่ประกบเป็นหน้าบาน ที่มาพร้อมคุณสมบัติป้องกันการถ่ายเทความร้อน การต้านทานแรงลม และอากาศรั่วไหล นอกจากนี้ยังทนทานต่อทุกสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง 

ดีไซน์สวยงาม กลมกลืนกับธรรมชาติ

GIESTA บานประตูสุดแข็งแรงจาก TOSTEM ที่มอบความมินิมอล เรียบง่าย สไตล์ญี่ปุ่นให้กับบ้านของคุณ และยังกลมกลืนกับธรรมชาติด้วยแผ่นเหล็กขนาดบางที่นำไปแรปเรซิ่นลายไม้ ให้ความสวยงามมีเสน่ห์ รวมถึงมีรูปแบบบานให้เลือกหลากหลาย เช่น บานเปิดเดี่ยว บานเปิดแม่ลูก และ บานเปิดคู่


ออกแบบป้องกันการโจรกรรม
ประตูที่ดีจะต้องมีฟังก์ชันป้องกันการโจรกรรม ซึ่ง GIESTA มีการติดตั้งระบบมือจับที่ใช้งานง่าย มาพร้อมกับระบบล็อคนิรภัยที่เสริมความปลอดภัยให้บ้าน โดยมีระบบติดตั้งล็อก 2 จุด เพื่อควบคุมกลอนแบบขอเกี่ยว 3 จุด พร้อมกุญแจ 1 ชุดสำหรับติดตั้ง และ 1 ชุดสำหรับเจ้าของบ้านใช้งานจริง จึงปลอดภัยแน่นหนา

นอกจากนี้ ประตู GIESTA สามารถคัสตอมดีไซน์ประตู ให้ตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด และยังสามารถทำความสูงของประตูได้ถึง 3 เมตร ทั้งนี้หากสนใจรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม หรืออยากเช็กราคาสินค้า ไปจนลองเลือกแมตซ์รูปแบบประตูด้วยตัวเอง สามารถคลิกที่ลิ้งค์ https://tostemthailand.com กับฟังก์ชัน “Online Quotation” ได้เลย

สำหรับผู้อยู่อาศัยที่อยากสัมผัสสินค้าจริง หรือต้องการปรึกษาและเลือกแบบหน้าต่างที่มีค่าการต้านทานแรงลมให้เหมาะสมกับอาคารบ้านเรือนของคุณ TOSTEM ผู้เชี่ยวชาญด้านประตู-หน้าต่าง เรามีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญรอตอบรับความต้องการทั้งในแง่ฟังก์ชั่นและดีไซน์ หลากหลายช่องทางการติดต่อ ตามลิงก์ด้านล่าง


VI ARI เพนเฮาส์ผสานความหรูหรากับความคลาสสิกอย่างลงตัว

“อารีย์” นับเป็นศูนย์รวมความหลากหลาย ที่มีทั้งความสมัยใหม่และความคลาสสิกผสมผสานกันอย่างลงตัว

วันนี้ TOSTEM จึงพามาชม Project Reference ล่าสุดที่ตั้งอยู่ในกลางย่านอารีย์อย่างโครงการ VI ARI เพนเฮาส์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมบ้านเก่าในย่านอารีย์ยุค 70-80s มาตีความใหม่ในสไตล์โมเดิร์นคอนเทมโพรารี และยังโดดเด่นด้วยการใช้ประตูหน้าต่างคุณภาพสูงรุ่น ATIS จาก TOSTEM ที่ช่วยเปิดมุมมองการมองเห็นได้กว้างไกล และเติมเต็มดีไซน์ได้ลงตัว

มาชมความสวยงามในทุกมุมมองไปพร้อมๆ กัน

ดีไซน์ที่หรูหราแต่คลาสสิก

การผสมผสานความหรูหราและคลาสสิกเข้าด้วยกันอย่างลงตัว สะท้อนผ่านรายละเอียดการตกแต่งภายในที่พิถีพิถัน ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง ไปจนถึงการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่มีเอกลักษณ์ ประตูและหน้าต่าง TOSTEM รุ่น ATIS ช่วยเสริมบรรยากาศหรูหราด้วยกรอบอะลูมิเนียมสี Shine Gray ที่ดูทันสมัย แต่ยังคงกลิ่นอายความคลาสสิกด้วยรูปทรงที่เรียบง่าย ช่วยขับเน้นความงามของเฟอร์นิเจอร์และงานศิลปะภายในบ้าน ทำให้ทุกมุมมองสวยงามและน่าประทับใจ ไม่ว่าจะมองจากภายในหรือภายนอก

ออกแบบพื้นที่เปิดโล่งด้วย Double Space

แนวคิดการออกแบบ Double Space สูง 6 เมตร สะท้อนถึงการผสานความโมเดิร์นและคลาสสิกได้อย่างลงตัว ด้วยการสร้างพื้นที่โปร่ง โล่ง ที่เปิดรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ การเลือกใช้หน้าต่าง TOSTEM รุ่น ATIS เป็นองค์ประกอบสำคัญในการออกแบบ พร้อมดีไซน์แบบ Streamline ไร้รอยต่อ ทำให้เกิดรูปทรงเพรียวบางที่ไม่รบกวนทัศนียภาพ แต่ยังคงซ่อนฟังก์ชันการใช้งานสำคัญไว้ภายใน ช่วยเสริมสร้างมิติให้กับพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

เชื่อมต่อพื้นที่ภายนอกและภายใน

ตัวโครงการมีการออกแบบที่สร้างความต่อเนื่องระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอก โดยใช้ประตูบานเลื่อน TOSTEM รุ่น ATIS เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญ ซึ่งไม่เพียงขยายพื้นที่ใช้สอยให้กว้างขวางขึ้น แต่ยังสร้างมุมมองที่ไร้ขอบเขต เพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายและเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะการเชื่อมต่อตัวบ้านกับพื้นที่พักผ่อนอย่างสระว่ายน้ำ ซึ่งระบบล็อก 3 ชั้นของประตู ATIS ช่วยสร้างความอุ่นใจในประสิทธิภาพการปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอันตรายจากการเปิดประตูโดยไม่ตั้งใจอีกด้วย

ปรับแต่งดีไซน์สู่เอกลักษณ์เฉพาะตัว

สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวในทุกรายละเอียด ด้วยประตูหน้าบ้าน GIESTA จาก TOSTEM ที่สามารถปรับแต่งดีไซน์ให้เข้ากับสไตล์การออกแบบโดยรวมของ VI ARI ได้อย่างลงตัว ลายไม้ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นแก่ตัวบ้าน และยังแข็งแรงทนทานด้วยวัสดุจากเหล็กเคลือบเลซิ่นลายไม้ มอบดีไซน์ที่โดดเด่น และสวยงาม สะท้อนถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดของการดีไซน์ในโครงการดังกล่าวนี้

สัมผัสความพิเศษของชีวิตที่ VI ARI กับบ้านที่ตอบทุกความต้องการของคุณ ที่นี่

ออกแบบสถาปัตยกรรม: Stu/D/O Architects
ออกแบบสถาปัตยกรรมภายใน: P49 DEESIGN
ออกแบบภูมิสถาปัตยกรรม: TK Studio


เลือกประตูหน้าต่างประหยัดพลังงาน ก้าวสู่ชีวิตที่ยั่งยืน_

เลือกประตูหน้าต่างประหยัดพลังงาน ก้าวสู่ชีวิตที่ยั่งยืน

การเลือกใช้ประตูและหน้าต่างที่มีการออกแบบที่ประหยัดพลังงาน ไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่าย แต่ยังช่วยส่งเสริมสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืนมากขึ้น บทความนี้ TOSTEM ขอรวบเอาทริคดีๆ เกี่ยวกับการเลือกหน้าต่างประหยัดพลังงานและประตูที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นอีกทางที่ทำให้เราเป็นส่วนหนึ่งของการเลือกอนาคตที่ยั่งยืนของโลกไปพร้อมกัน

ทริคติดตั้งประตูหน้าต่าง ให้ประหยัดพลังงาน
เมื่อเราพูดถึงการออกแบบที่มีประสิทธิภาพทางพลังงานสำหรับประตูและหน้าต่าง สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา คือ การใช้วัสดุที่มีฉนวนที่ดี ด้วยการเลือกวัสดุที่มีการฉนวนที่ดี เช่น อะลูมิเนียมหรือพลาสติกที่ทนทานต่ออุณหภูมิ เพื่อช่วยในการรักษาอุณหภูมิในบ้าน ทำให้บ้านประหยัดพลังมากมากยิ่งขึ้น ไปจนถึงคำนึงถึง การติดตั้งประตูหน้าต่างอย่างถูกต้อง จะช่วยทำให้ระบบประหยัดพลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และ ระบบล็อก ที่มีประสิทธิภาพ หนาแน่น เพื่อลดการสูญเสียพลังงานที่ไม่จำเป็น


ส่วนรูปแบบหน้าต่างที่ช่วยประหยัดพลังงานได้ดี คือ หน้าต่างบานติดตาย (fixed-pane window) หรือ หน้าต่างบานกระทุ้ง ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดีเช่นเดียวกัน เนื่องจากช่วยลดการรั่วซึมของอากาศ แต่ทั้งนี้การติดตั้งหน้าต่างจะต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญ สามารถติดตั้งให้ตรงมาตรฐาน เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานที่สมบูรณ์

สำหรับประตู ควรเลือกเป็นประตูเหล็ก ประตูไฟเบอร์กลาส หรือประตูอะลูมิเนียม เพราะเป็นวัสดุที่แข็งแรง และช่วยประหยัดพลังงานได้ด้วย มากกว่านั้นคือประตูเหล่านี้จะไม่บิดงอหรือแตกร้าวง่าย ทำให้ป้องการรั่วไหลอากาศได้ดีนั่นเอง

วิธีการเลือกวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การเลือกใช้วัสดุรีไซเคิลในการผลิตประตูหน้าต่าง นับว่าเป็นตัวเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยิ่ง เช่น อะลูมิเนียมหรือกระจก เพราะนอกจากจะช่วยลดการใช้วัสดุใหม่ ยังช่วยลดการสร้างขยะ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (CO2) ที่จะมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้น โดยวัสดุรีไซเคิลมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ ดังนี้

1. ช่วยลดการใช้พลังงาน

การรีไซเคิล เป็นอีกวิธีในการช่วยลดการใช้พลังงานและวัตถุดิบในการผลิต ไม่สิ้นเปลืองทั้งน้ำมันและพลังงาน ส่งผลให้การใช้พลังของโลกเป็นไปอย่างคุ้มค่ามากขึ้น และช่วยเรื่องการจัดการขยะ เพราะยิ่งขยะถูกนำไปรีไซเคิลมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งช่วยลดปริมาณขยะ รวมถึงมลพิษที่เกิดจากขยะ ก็จะลดลงตามไปนั่นเอง

2. มีความทนทาน

การรีไซเคิล เช่น รีไซเคิลวัสดุก่อสร้างนั้นต้องแยกวัสดุแต่ละชนิดออกจากกันก่อนนำวัสดุชนิดเดียวกันไปหลอมรวมใหม่ หรือนำวัสดุต่างชนิดมาประกอบกัน เพื่อให้เกิดวัสดุใหม่ที่มีประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีขึ้น เช่น การรีไซเคิลเศษแก้วกับวัสดุอื่นๆ อย่างหินปูนและสารต่างๆ  เพื่อรีไซเคิลเป็นวัสดุใหม่ อย่าง ไฟเบอร์กลาส (Fiberglass) ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

3. ช่วยลดการใช้สารเคมี

วัสดุรีไซเคิลไม่ต้องการการใช้สารเคมีมากมาย ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในกระบวนการผลิตได้ 

ฉะนั้นการเลือกใช้ประตูและหน้าต่างที่มีการออกแบบที่ประหยัดพลังงาน เป็นอีกการลงมือทำที่เห็นผลได้จริง ทั้งในแง่การลดการใช้พลังงาน และการลดรายจ่ายในการดูแลบ้านของเราเองในอนาคตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยโลกตั้งเเต่ต้นทางการผลิตในอุตสาหกรรม เพราะตระหนักถึงสิ่งเเวดล้อมเกิดขึ้นมากมาย มากกว่านั้นยังใส่ใจไปถึงวัสดุในการนำมาใช้ ด้วยการเลือกใช้วัสดุรีไซเคิล สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ อย่าง PremiAL R100 จาก TOSTEM ที่ได้คิดค้นและผลิตวัสดุที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นหนึ่งในเป้าหมายการมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืนของ TOSTEM มาโดยตลอด 


PremiAL R100 ทำจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100%
ผลิตที่โรงงานทอสเท็มไทย ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมนวนครได้รับการรับรองจากฉลากสิ่งแวดล้อม EcoLeaf และ JIC Quality Assurance Ltd. โดยมีการตรวจสอบกระบวนการผลิต เพื่อให้แน่ใจว่าใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% และไม่มีอะลูมิเนียมใหม่มาเจือปน ซึ่งการใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิลนี้ ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 97% เมื่อเทียบกับการถลุงอะลูมิเนียมใหม่ 



นอกจากนี้  PremiAL R100 นวัตกรรมประตู-หน้าต่างรักษ์โลก โดย LIXIL HOUSING TECHNOLOGY ภายใต้แบรนด์ TOSTEM ยังสามารถเลือกสีได้ตามต้องการ ซึ่งมีคุณภาพเหมือนอะลูมิเนียมใหม่ทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัมผัส สีสัน หรือรูปแบบต่างๆ ที่ถูกออกแบบอย่างตั้งใจ เพื่อผสานความลงตัวระหว่างการใช้งาน สไตล์ และความยั่งยืนเข้าหากันอย่างไร้เส้นแบ่ง 


PremiAL R100 จึงไม่ใช่แค่อะลูมิเนียมรีไซเคิลทั่วไป แต่เป็นวัสดุแห่งอนาคต  ด้วยคุณสมบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีการคาดการณ์ว่าการใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิลจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Scope 3 ลงได้ถึง 30% ภายในปี 2031 ซึ่งเป็นอีกก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน สำหรับผู้สนใจสินค้า สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ท้ายบทความ 


ประตูบานเลื่อน: เลือกแบบไหนให้เหมาะกับบ้านและการใช้งานของคุณ

ประตูบานเลื่อน เป็นประตูที่มีลักษณะการเปิดด้วยกลไกเลื่อน ซึ่งทำให้ง่ายและสะดวกต่อการใช้งาน จึงเรียกได้ว่าเป็นอีกรูปแบบประตูที่เจ้าของบ้านและอาคารต่างๆ นิยมใช้กันเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้หากใครกำลังสงสัยอยู่ว่าจะเลือกแบบไหนดี เราได้รวบรวมข้อมูลมาฝากไว้ให้แล้ว เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจให้สอดรับกับความต้องการของคุณเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ

ประเภทประตูบ้านเลื่อน

1. ประตูบานเลื่อนแบบบานฟิกส์ยึดติดกับที่
เหมาะกับบ้านที่ต้องการความโปร่งโล่ง นิยมติดตั้งไว้เป็นประตูระเบียง ประตูทางเข้า ประตูเชื่อมโยงกับสวน เพื่อรับวิวและแสงภายนอก หรือนิยมใช้ในการแบ่งห้องภายในบ้านให้เป็นสัดส่วน หรือกั้นห้องเพื่อไม่ให้แอร์ออก ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยเซฟค่าไฟได้

(บานเลื่อนแบบเข้ามุมเชื่อมต่อธรรมชาติ)

(บานเลื่อนภายในห้องนอนเปิดรับแสงธรรมชาติ)

2. ประตูบานเลื่อนแบบ 4 panels

เป็นประตูยอดนิยม ลักษณะบานประตู 4 บานประกอบกัน เหมาะสำหรับใช้เป็นประตูหลักหน้าบ้าน หรือประตูระเบียงขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่มีความกว้างของช่องประตูตั้งแต่ 2.5 เมตรขึ้นไป

(ลักษณะบานประตู 4 บานประกอบกัน)

(เชื่อมต่อพื้นที่เหมือนระเบียงขนาดใหญ่)

3. ประตูบานเลื่อนแบบบานเฟี้ยม 

เสน่ห์ของบานเฟี้ยม คือกลไกการพับอันเป็นเอกลักษณ์ ช่วยในเพิ่มความแตกต่างให้กับการออกแบบสถาปัตยกรรม เพิ่มความสวยงาม แต่ยังคงความเป็นส่วนตัวเมื่อปิดบาน และเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ต่างๆ อย่างราบรื่นเมื่อเปิด

วัสดุสำหรับทำประตูบานเลื่อนที่นิยม มีอะไรบ้าง

  • uPVC 
    Unplasticised Polyvinyl Chloride (uPVC) หรืออีกชื่อคือ ไวนิล (Vinyl) เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมสำหรับผลิตประตูบานเลื่อนที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะเป็นโพลิเมอร์เกรดพิเศษที่ทนต่อแสงแดด ความร้อนได้เป็นอย่างดี 

  • เหล็ก
    คุณสมบัติของประตูเหล็ก คือมีความแข็งแรงทนทาน ยากต่อการงัดแงะ แต่ข้อควรระวังคือเหล็กมีการสนิม ฉะนั้นต้องมีการเคลือบป้องกันสนิม เพราะหากอยู่ในจุดที่ต้องเจอความชื้นสูง ก็จะเป็นสนิทและอาจเกิดการเสียหายได้
  • ไม้ 
    ถ้าพูดถึงความสวยงาม แน่นอนว่าคงไม่อาจปฏิเสธประตูไม้ไปได้ เพราะด้วยลวดลายและความเป็นธรรมชาติของวัสดุ ทำให้เข้ากับบ้านได้แทบจะทุกสไตล์ ทั้งยังให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นธรรมชาติ แต่ทั้งนี้หากต้องการเลือกใช้ประตูบานเลื่อนวัสดุไม้ แนะนำให้เลือกเป็นไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้แดง ไม้สัก และควรหลีกเหลี่ยงการติดตั้งบริเวณที่มีความชื้น เพราะไม้อาจบวม หด หรือ ขึ้นราได้  

  • อะลูมิเนียม
    อะลูมิเนียมเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน น้ำหนักเบา เข้ากับบ้านได้ทุกสไตล์ และด้วยปัจจุบันมี ผลิตภัณฑ์หลากหลาย เช่น บานลสิมในรุ่น ATIS หรือ ขนาดสูงมากขึ้นในรุ่น GRANTS จากทอสเท็ม ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านดีไซน์ของโครงการบ้านและโครงการเชิงพาณิชย์ระดับลักชัวรี่ ขยายความสูงของประตูบานเลื่อน สูงสุด 4.5 เมตร และหน้าต่างบานเปิด สูงสุด 3.5 เมตร

(รูปแบบระบบล็อกของทอสเท็ม)
(รูปแบบระบบล็อกของทอสเท็ม)

นอกจากนี้ข้อดีของประตูทอสเท็ม ยังคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ โดยมีระบบล็อกที่ยากต่อการบุกรุกจากภายนอกและยังป้องกันน้ำท่วมอีกด้วยระบบการระบายน้ำ Drainage system


Security ระบบล็อกที่แน่นหนา
ประตูบานเลื่อนของทอสเท็ม มีให้เลือกหลากหลายแบบ เช่น บานฟิกส์, 4 panels หรือบานเฟี้ยม ไปจนถึง TOSTEM สามารถให้คำปรึกษา และออกแบบขนาดความกว้างและยาวของหน้าบานให้ลงตัวกับพื้นที่ของคุณได้ตามต้องการ รวมถึงมาตรฐานการผลิตตัวบานมีคุณภาพเพราะผลิตจากโรงงาน และบางรุ่นนั้นสามารถเลือกติดตั้งมุ้งลวดเพิ่มเติมได้ ไปจนถึงติดตัวล็อกดิจิตอลเสริมเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด

การระบายน้ำ Drainage system
บานประตูหน้าต่างเป็นด่านแรกๆ ที่น้ำฝนต้องปะทะก่อนเข้าสู่ตัวบ้าน นอกจากความแข็งแรงทนทานของกรอบบานที่ทนต่อแรงปะทะของลมแล้ว ฟีเจอร์เพิ่มเติมที่อยู่ในกรอบบานของทอสเท็ม (TOSTEM) ก็มีส่วนช่วยป้องกันน้ำขังในระบบราง น้ำฝนถูกระบายออกได้โดยไม่ขังอยู่ในกรอบและราง ซึ่งช่วยป้องกันความชื้นส่วนเกินที่เข้าบ้านแล้ว และยืดอายุการใช้งานกรอบบานให้ยาวนานยิ่งขึ้น ฃ

(ระบบระบายน้ำของทอสเท็ม – Drainage system)

สำหรับผู้สนใจและต้องการทราบข้อมูลเรื่องประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมเพิ่มเติม คลิกไปที่ลิงก์ท้ายบทความได้เลย 


รู้ก่อน ป้องกันได้ เช็ก 5 จุดเสี่ยงน้ำรั่วซึมในบ้าน

เมื่อฤดูฝนมาเยือน หลายคนคงกังวลเรื่องปัญหาน้ำรั่วซึมเข้าบ้าน เพราะนอกจากจะสร้างความเสียหายให้กับข้าวของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์แล้ว ยังอาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยอีกด้วย

TOSTEM ผู้เชี่ยวชาญด้านประตู-หน้าต่าง เข้าใจปัญหานี้ดี จึงขอเสนอ เช็กลิสต์สำคัญ เตรียมรับมือหน้าฝน ว่ามีจุดไหนของบ้านที่ควรระวังและป้องกันการรั่วซึม

หน้าฝนนี้จุดไหนของบ้ารั่วซึมบ่อยสุด

ปัญหาน้ำรั่วซึมเข้าบ้านช่วงหน้าฝนนั้นมีด้วยกันหลากหลายปัญหา และเมื่อขึ้นชื่อว่าปัญหา ย่อมส่งผลเสียตามมาให้กับบ้านอย่างแน่ๆ ดังนั้นลองมาเช็กลิสต์กันว่ามีจุดไหนในบ้านบ้างที่ควรต้องระวัง

  1. หลังคา 

การเกิดหลังคารั่วในระหว่างฝนตก เป็นปัญหาที่พบบ่อยที่สุดเลยก็ว่าได้ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น หลังคามีรอยแตก แผ่นหลังคาถูกวางไม่ตรง รอยต่อหลังคาไม่สมมาตร วัสดุปูหลังคาไม่ได้มาตรฐาน เป็นต้น ซึ่งวิธีแก้คือหมั่นสังเกตรอยแตกร้าว หรือรอยต่อต่างๆ ว่ามีคราบน้ำหรือไม่ หากมีแนะนำให้ติดต่อช่างเพื่อซ่อมแชม 

  1. รางน้ำฝน

จุดนี้เป็นอีกจุดที่ควรระวัง เพราะหากรางน้ำฝนมีการอุดตัน การระบายน้ำก็ทำได้ไม่ดี ยิ่งถ้าฝนตกหนักก็อาจทำให้รางน้ำฝนเกิดการแตกหัก ทำให้ใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และน้ำก็อาจรั่วซึมเข้าไปในบริเวณบ้านเราได้ด้วย ซึ่งทางแก้นอกจากการหมั่นสังเกต อีกหนึ่งวิธีก็คือการเลือกวัสดุที่ได้มาตรฐาน ทนทานต่อการใช้งานนั่นเอง

  1. ฝ้าเพดาน 

ช่วงหน้าฝน ปัญหาฝ้าเพดานรั่ว เป็นอีกปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง โดยมีหลายสาเหตุ เป็นต้นว่า หลังคารั่ว วัสดุของแผ่นฝ้าเพดานไม่กันความชื้น ไปจนถึงด้านบนของฝ้าตรงกับห้องน้ำ ซึ่งวิธีเฝ้าระวังง่ายๆ คือหากมองไปที่ฝาแล้วพบคราบน้ำสีน้ำตาลที่เกิดจากการซึมของน้ำ แนะนำว่ารีบแก้ไขให้เร็ว เพราะน้ำอาจรั่วจนทำฝ้าพัง และที่สำคัญก็ทำให้บ้านเกิดเชื้อราได้อีกด้วย 

  1. ผนังบ้าน

จุดผนังบ้านเป็นอีกจุดที่ไม่ควรมองข้าม ยิ่งเวลาฝนตกหนักๆ แรงปะทะของน้ำฝนที่มาพร้อมกับลมแรงๆ ที่ปะทะมาทุกๆ ปี ก็สามารถสร้างความเสียหายกับผนังมีรอยรั่วหรือแตกร้าวได้ พอมีรอบรั่วน้ำก็จะซึมเข้ามาได้ ฉะนั้นต้องคอยสังเกตซ่อมบำรุงบ้านให้ดี 

  1. ขอบประตู-หน้าต่าง 

สาเหตุที่เกิดน้ำรั่วซึมบริเวณวงกบหรือขอบประตูหน้าต่าง ส่วนใหญ่เกิดจากการติดตั้ง วัสดุเสื่อมสภาพ หรือรางระบายน้ำของหน้าต่างชำรุดอุดตัน หรือมาจากรอยร้าวบนผนัง รอยร้าวบริเวณมุมวงกบ ก็เป็นอีกสาเหตุให้น้ำรั่วซึมได้ 

*ไม่ใช่สินค้าทอสเท็ม

ดังนั้นทางแก้ปัญหาประตู-หน้าต่างเกิดน้ำซึมเข้าตัวบ้าน สามารถทำได้ง่ายๆ คือรีบซ่อมแซมก่อนฤดูฝนจะมาเยือน เพราะถ้าฝนมาหนักๆ บ้านของเราและเจ้าของบ้านเองต้องไม่มีความสุขแน่ๆ

นอกจากการซ่อมแซมประตูหน้าต่างที่ชำรุด ก่อนฝนมาเยือนแล้ว ยังสามารถเริ่มต้นจากการเลือกติดตั้งผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน เฉกเช่นผลิตภัณฑ์ TOSTEM มุ่งมั่นพัฒนา นวัตกรรม ที่ผ่านการทดสอบ  Water Tightness Performance อย่างเข้มงวด 

เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของเราสามารถป้องกันน้ำฝนรั่วซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงยังมีข้อดีอีกหลายประการ ดังนี้

1. มีดีลเลอร์ที่ได้มาตรฐานในการติดตั้ง
ทอสเท็ม ให้ความสำคัญตั้งแต่ตัวผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงปลายทางการติดตั้งในสถานที่จริง เพื่อให้งานสถาปัตยกรรมสวยงามทุกองค์ประกอบ ที่สำคัญคงด้วยประสิทธิภาพในการใช้งาน ฉะนั้นสามารถมั่นใจได้เลยว่าจะไม่เกิดการรั่วซึม เพราะทอสเท็มมีดีลเลอร์ที่มีความชำนาญ ทำงานอย่างเป็นระบบ เพื่อให้การใช้งานหน้าบานเป็นไปตามมาตรฐานการติดตั้ง และมีระบบเดรนน้ำ ไม่รั่วซึมเข้าบ้านอย่างแน่นอน 

2. ดีไซน์รางและบานประตูให้สามารถป้องกันน้ำได้ในทุกกรณี
ผลิตภัณฑ์ประตูหน้าต่างทุกรุ่นของ TOSTEM ถูกออกแบบให้ซีลป้องกันน้ำตามรอยต่อและมีระบบป้องกันน้ำฝนในโปรไฟล์ โดยกรอบล่างทำหน้าที่รองรับน้ำฝน แล้วระบายออกด้านนอกผ่านวาล์วระบายน้ำ 

3. สามารถต้านแรงลมฝนและต้านทานน้ำฝนรั่ว
ผลิตภัณฑ์ทุกรุ่นของ TOSTEM จะต้องผ่านการทดสอบจากการจำลองเหตุการณ์พายุฝน โดยการให้แรงดันแทนแรงลมพายุและพ่นปริมาณน้ำ 4 ลิตร / ตร.ม. / นาที เทียบเท่าฝนตกหนัก 240 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง เพื่อการันตีประสิทธิภาพการป้องกันการรั่วซึมตามมาตรฐาน JIS ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตญี่ปุ่นที่ได้รับการยอมรับในแวดวงอุตสาหกรรมระดับโลก

4.โครงสร้างแข็งแรง ทนทานและปลอดภัย TOSTEM มีการทดสอบจำนวนรอบการเปิด-ปิดของประตูหน้าต่าง โดยใช้ระบบแขนกลควบคุมการทดสอบจำนวน 100,000 รอบ ตามมาตรฐาน JIS ฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่าจะมีความแข็งแรง ทนทาน สามารถป้องกันน้ำฝนไปได้อย่างยาวนาน และที่สำคัญมีระบบล็อกที่แน่นหนา เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับทุกคนในบ้าน

สำหรับบ้านไหนที่กำลังเตรียมบ้านให้พร้อมกับหน้าฝน และกำลังมองหาประตู หน้าต่าง ที่มีคุณสมบัติป้องกันน้ำรั่วซึม รวมถึงมีดีลเลอร์ที่ได้มาตรฐานในการติดตั้ง TOSTEM มีผลิตภัณฑ์หลากหลายรุ่น หลากหลายดีไซน์ ที่สามารถเข้าได้กับทุกแบบบ้านและอาคาร โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มได้ที่ลิ้งค์ท้ายบทความ 


1 2 3 9