Tag: ประตู

สูตร 60-30-10 คุมโทนห้องให้ลงตัว ไม่กลัวตกเทรนด์

เคยสงสัยไหมว่าบ้านที่มีสีสันสวยงามลงตัว จะมีเคล็ดลับการออกแบบอย่างไรบ้าง ?

ในความจริงแล้วทุกสีสันล้วนมีเสน่ห์ในตัวเอง โดยแต่ละสีสามารถส่งผลต่อความรู้สึกแตกต่างกันออกไป ตามหลักจิตวิทยาของสี (Color Psychology) เช่น สีแดง เป็นสีที่สามารถดึงดูดความสนใจมากที่สุด บ่งบอกถึงความมีอำนาจ ความน่าตื่นเต้นเร้าใจ, สีเหลือง บ่งบอกถึงความสนุกสนาน ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์, สีน้ำเงิน แสดงถึงความสุขุม น่าเชื่อถือ ซึ่งการจะเลือกสีเหล่านี้มาตกแต่งบ้านให้เหมาะสม นอกจากจะคำนึงเรื่องอารมณ์ของสีแล้ว ยังต้องให้ความสำคัญกับ ‘สัดส่วนของสี’ ที่เป็นคีย์สำคัญในการจัดสีบ้านให้ดูสวยงามราวกับมืออาชีพ   

จะเฉดสีไหน สูตร 60-30-10 ก็เอาอยู่ !

เมื่อไหร่ที่ต้องการเลือกสี ให้นึกถึงทฤษฎี 60-30-10 เสมอ ! เพราะทฏษฎีนี้จะช่วยในการควบคุมสัดส่วนสีให้สมดุล ซึ่งสามารถใช้ได้กับทุกเฉดสี ไม่ว่าคุณจะชอบโทนสีเรียบง่าย ดูโปร่งโล่งสบายตา หรือโทนสีจัดจ้าน โดดเด่นไม่เหมือนใคร ก็สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์สีให้ออกมาลงตัวได้อย่างมีมิติ โดยขั้นตอนแรกเริ่มจากเลือกสีที่ชื่นชอบอย่างน้อย 3 สี ที่มีโทนสีใกล้เคียงกันหรือตรงข้ามกันก็ได้ นำมาแบ่งอัตราส่วน ออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่

  • สีหลัก 60% เป็นกลุ่มสีที่ครอบคลุมพื้นที่ภายในห้องมากที่สุด มักใช้กับพื้น, ผนัง, ฝ้าเพดาน หรือวัตถุที่มีขนาดใหญ่ จึงเหมาะกับการตกแต่งด้วยสีโทนอ่อนหรือสีขาว เพื่อทำให้แสงกระจายภายในห้องอย่างทั่วถึง ทำให้รู้สึกโปร่งโล่ง สบาย
  • สีรอง 30% เป็นกลุ่มสีที่ช่วยสร้างมิติให้กับดีไซน์ ทำให้บ้านดูไม่เรียบแบนเกินไป มักใช้กับบานกรอบประตู-หน้าต่าง, ผ้าม่าน, พรม, เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ โดยสามารถใช้สีโทนเดียวกับสีหลัก แต่มีความเข้มมากกว่า หรือจะใช้สีโทนคู่ตรงข้ามก็ได้เช่นกัน
  • สีไฮไลต์ 10% เป็นกลุ่มสีที่ใช้สำหรับสร้างความโดดเด่นให้กับวัตถุหรือพื้นที่ ที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่มักใช้กับของตกแต่งบ้านหรือเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์สะดุดตา เช่น งานศิลปะ, แจกัน, หมอน, โคมไฟ เป็นต้น เพื่อทำให้ภาพรวมของห้องมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น หลายคนจึงนิยมใช้สีคู่ตรงข้าม หรือสีที่มีโทนเข้มสูง เพื่อสร้างความแตกต่างระหว่างบรรยากาศโดยรวมอย่างชัดเจน

ในกรณีที่ต้องการเลือกใช้มากกว่า 3 สี ควรจัดสีที่มีโทนใกล้เคียงกันไว้ในหมวดหมู่เดียวกัน เพื่อช่วยให้ง่ายต่อการแบ่งออกเป็น 3 ส่วนตามหลักทฤษฎี 60-30-10  เช่น หากต้องการตกแต่งด้วยสีน้ำตาล-สีดำ-สีเทาอ่อน-สีขาว ก็สามารถจัดสีขาวและเทาอ่อนเป็นสีหลัก ใช้สีดำเป็นสีรอง และสีน้ำตาลเป็นสีไฮไลต์ หรือจะสลับสีให้สีน้ำตาลเป็นสีรอง และสีดำเป็นสีไฮไลต์ก็ได้เช่นกัน

สร้างบรรยากาศให้ละมุนด้วยสีโมโนโทน

สำหรับใครที่ชื่นชอบความเรียบง่าย แต่ไม่อยากให้ดีไซน์ดูเรียบแบน เราขอแนะนำให้เลือกใช้สีโมโนโทน (Monotone color) ซึ่งเป็นสีที่มีโทนใกล้เคียงกัน หรือเป็นสีโทนเดียวที่มีความเข้มหลายระดับ ในการตกแต่งห้องให้มีบรรยากาศผ่อนคลาย สว่าง สดใส และดูกว้างขวางยิ่งขึ้น เหมาะกับการใช้ในทุกส่วนของบ้าน โดยเฉพาะห้องที่มีพื้นที่แคบ อย่างการใช้สีขาวและสีครีมอ่อนเป็นสีหลัก ในการตกแต่งพื้น ผนังและฝ้าเพดาน เพื่อทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง ใช้สีเบจและสีเทาสำหรับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ เพื่อเสริมมิติให้กับความสวยงาม ปิดท้ายด้วยการใช้สีดำสำหรับประตู-หน้าต่าง เพื่อขับเน้นดีไซน์ของบานกรอบให้เป็นจุดเด่นของบ้าน ทั้งยังช่วยดึงความน่าสนใจของวิวทิวทัศน์รอบบ้าน ให้ชวนสะดุดตามากขึ้นในเวลาเดียวกัน

เพิ่มลูกเล่นให้บ้านดูมีชีวิตชีวาด้วยสีคู่ตรงข้าม

หลายคนอาจคิดว่าการตกแต่งบ้านด้วยสีที่จัดจ้านหรือสีโทนคู่ตรงข้ามนั้นเป็นเรื่องยาก แต่หากใช้ในสัดส่วนที่เหมาะสมก็สามารถทำให้บ้านสวยงามได้เช่นกัน ส่วนใหญ่แล้วสีที่โดดเด่นหรือมีความเข้มมากที่สุดมักถูกใช้เป็นสีไฮไลต์ สำหรับสีคู่ตรงข้ามของสีไฮไลต์จะถูกใช้เป็นสีรอง และจะใช้สีที่อ่อนที่สุดเป็นสีหลัก สาเหตุที่เราควรใช้สีคู่ตรงข้ามในสัดส่วนที่ไม่เท่ากัน เนื่องจากป้องกันการเกิดความรู้สึกขัดแย้งของสี ที่จะนำมาสู่บรรยากาศน่าอึดอัดและรู้สึกไม่สบายตา โดยสีที่นำมาจับคู่กัน ไม่จำเป็นต้องใช้สีคู่ตรงข้ามเสมอไป อาจจะเลือกจากสีที่ชื่นชอบจากโทนร้อน-โทนเย็น ให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนก็เพียงพอ ยกตัวอย่างเช่น การจับคู่สีน้ำเงินกับวัสดุโทนสีเหลือง อย่างไม้เมเปิ้ลหรือโอ๊ค แทนการใช้สีส้มซึ่งเป็นสีคู่ตรงข้ามของสีน้ำเงิน

Anodized Color สีอะลูมิเนียมที่อยู่คู่บ้านอย่างยาวนาน

นอกจากการเลือกโทนสีและจัดสัดส่วนอย่างเหมาะสมแล้ว การเลือกวัสดุพรีเมียมที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ไม่หลุดร่อนหรือผุกร่อนง่าย ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงควบคู่อยู่เสมอ อย่างผลิตภัณฑ์ประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมของ TOSTEM ที่ผ่านกระบวนการทำสีอะโนไดซ์ (Anodized) ซึ่งเป็นการนำอะลูมิเนียมไปชุบสีด้วยประจุไฟฟ้า จนเกิดเป็นชั้นฟิล์มอะลูมิเนียมออกไซด์ พร้อมเคลือบอีกชั้นด้วย TEXGUARD ทำให้พื้นผิวมีความแข็งแรง ทนทานต่อการขูดขีด และมีสีติดทนนานกว่าการทำสีทั่วไป สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมได้อย่างอยู่หมัด

ปัจจุบันประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมของ TOSTEM มีสีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ NATURAL WHITE, NATURAL SILVER, SHINE GRAY, AUTUMN BROWN, DUSK GRAY และ NATURAL BLACK ซึ่งสามารถเข้ากันกับดีไซน์บ้านและอาคารได้ทุกสไตล์ ทุกเฉดสี มาพร้อมกับผิวสัมผัสอะลูมิเนียมที่เนียนเรียบ ไร้ตำหนิ ส่งผลให้ทำความสะอาดได้ง่าย ช่วยลดการสะสมของคราบฝุ่นทั้งภายในและภายนอกอาคาร เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมจาก TOSTEM ที่ตอบโจทย์ทั้งดีไซน์และฟังก์ชันการอยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว

หากสนใจสินค้าประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมจาก TOSTEM ที่เหมาะสมกับ การใช้งานของเด็ก และอยู่คู่กับการเติบโตของครอบครัวได้อย่างยาวนาน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลย

Kid-Friendly Home ออกแบบบ้านอย่างไรให้เหมาะสมกับเด็ก

หากเด็กๆ ได้เติบโตในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ปลอดภัย และมีอิสระในการเรียนรู้ สิ่งเหล่านี้อาจกลายเป็นรากฐานที่ดี ที่นำไปสู่ความมั่นคงทางอารมณ์ และการมีความคิดสร้างสรรค์เมื่อเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ การจัดเตรียมบ้านให้พร้อมสำหรับลูกน้อยจึงเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ทุกคนควรใส่ใจ และแน่นอนว่าเมื่อเด็กๆ มีความสุขแล้ว ผู้ใหญ่ก็จะได้รับพลังบวกจากความสดใสเหล่านั้นไปด้วยเช่นกัน สำหรับบ้านไหนที่กำลังเตรียมต้อนรับสมาชิกตัวน้อย วันนี้เรามีไอเดียการออกแบบบ้านให้เหมาะสมกับเด็กมาฝากกัน 

Kid-Friendly Home ออกบ้านอย่างไรให้เหมาะสมกับเด็ก

ระยะความสูงของเฟอร์นิเจอร์เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย

เมื่อถึงวัยอยากรู้อยากเห็น เด็กๆ ก็มักเริ่มที่จะลองปีนป่ายหรือทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง การตกจากที่สูงถือเป็นอุบัติเหตุที่พบบ่อยสำหรับเด็ก การจะดูแลลูกน้อยให้อยู่ในระยะปลอดภัยได้นั้น สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงคือการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดเหมาะสมกับร่างกายเด็ก เพราะหากเฟอร์นิเจอร์สูงเกินไปอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุกับเด็กๆ ได้ ในขณะเดียวกันหากเฟอร์นิเจอร์เตี้ยเกินไป ก็จะทำให้ใช้งานไม่สะดวกเช่นกัน สำหรับเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันและมักเกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ อย่างโต๊ะ-เก้าอี้จึงควรมีการกำหนดระยะความสูง ที่เหมาะกับการใช้งานของเด็กแต่ละช่วงวัย

  • เด็กวัย 3-4 ปี ควรใช้โต๊ะสูงประมาณ 46 เซนติเมตร เก้าอี้สูง 26 เซนติเมตร
  • เด็กวัย 4-5 ปี ควรใช้โต๊ะสูงประมาณ 53 เซนติเมตร เก้าอี้สูง 31 เซนติเมตร
  • เด็กวัย 6-7 ปี ควรใช้โต๊ะสูงประมาณ 59 เซนติเมตร เก้าอี้สูง 35 เซนติเมตร
  • เด็กวัย 8-10 ปี ควรใช้โต๊ะสูงประมาณ 64 เซนติเมตร เก้าอี้สูง 38 เซนติเมตร
  • เด็กวัย 11-13 ปี ควรใช้โต๊ะสูงประมาณ 71 เซนติเมตร เก้าอี้สูง 43 เซนติเมตร

สำหรับเด็กอายุ 13 ปีขึ้นไป สามารถใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความสูงเดียวกันกับผู้ใหญ่ได้ แต่อาจมีการเสริมเบาะที่รองนั่งเพื่อให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

ปรับระดับพื้นเรียบสม่ำเสมอ ให้ลูกน้อยวิ่งเล่นได้ไม่มีสะดุด

เด็กที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไป มักสนใจที่จะเรียนรู้ผ่านการละเล่นหรือทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งการเดินหรือวิ่งเล่นอย่างมีอิสระ ก็เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ช่วยให้ร่ายกายเด็กแข็งแรง สามารถควบคุมกล้ามเนื้อได้ดี ควบคู่กับการพัฒนาด้านสมอง เพราะฉะนั้นบ้านก็ต้องเตรียมสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการวิ่งเล่นได้อย่างต่อเนื่องโดยอาจจะออกแบบพื้นให้มีระดับเท่ากันในพื้นที่ที่เด็กใช้งานบ่อยเช่น ห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร, ห้อง Playroom หรือห้องนอนเด็ก รวมถึงการเลือกใช้ประตู-หน้าต่างที่มีรางวงกบล่างเรียบเสมอไปกับพื้นรอบๆ อย่างประตู-หน้าต่างรุ่น GRANTS จาก TOSTEM ที่มาพร้อมกับดีไซน์ ‘รางบานเลื่อนแบบเรียบ’ สามารถติดตั้งเสมอระดับพื้นภายในและภายนอกบ้าน มอบความสวยงามอย่างไร้ขอบเขต ทำให้สามารถเดินหรือวิ่งผ่านได้โดยไม่สะดุด รวมถึงประตู-หน้าต่างบานเลื่อนรุ่น ATIS ที่มีอุปกรณ์เสริมอย่าง ‘ฝาครอบรางแบบเรียบ’ สำหรับปิดร่องของบานเลื่อน ที่ติดตั้งได้ทั้งรางในและรางนอกของบานกรอบล่าง ทั้งยังสามารถถอดออกได้เสมอเมื่อต้องการปิดบานเลื่อน

นอกจากการประตู-หน้าต่างที่เรียบเสมอไปกับพื้นจะส่งผลดีต่อการวิ่งเล่นของเด็กแล้ว ยังเป็นการอำนวยความสะดวกกับรถเข็นเด็กทารกและรถเข็นผู้สูงอายุอีกเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นดีไซน์ที่ตอบโจทย์กับความปลอดภัยของทุกคนในบ้านเลยทีเดียว

เลือกวัสดุนุ่มนิ่ม ลดการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ

เพื่อป้องกันลูกน้อยไม่ให้ได้รับบาดเจ็บจากการโดนของมีคมบาดหรือการกระแทกกับสิ่งของ การเลือกใช้วัสดุของเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งห้องที่มีผิวสัมผัสนุ่มและยืดหยุ่น เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดการเกิดผลกระทบอันตรายได้ อย่างการปูพื้นกันกระแทกด้วยแผ่นยาง PVC หรือแผ่นโฟม PE, การใช้เฟอร์นิเจอร์ทำจากพลาสติก ที่มีความแข็งแรง ไม่แตกหักง่าย รวมถึงมีรูปทรงโค้งมนจากการถูกลดเหลี่ยมมุม เพื่อป้องกันการบาดผิว สำหรับโต๊ะทั่วไปหรือเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ที่ไม่มีการลดเหลี่ยมมุม ก็สามารถติดตั้งยางหรือโฟมกันกระแทกขอบโต๊ะ เพื่อเสริมเกราะป้องกันจากอุบัติเหตุได้เช่นกัน, การหุ้มหัวเตียง เก้าอี้ โซฟา หรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ด้วยผ้าที่มีผิวสัมผัสอ่อนโยนต่อผิวเด็ก อย่างผ้าฝ้าย ผ้าใยไผ่ และผ้ากำมะหยี่ โดยหากพ่อแม่ท่านใดสนใจวัสดุชนิดนี้ อาจต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดเป็นประจำ เพื่อลดการสะสมของฝุ่น ซึ่งเป็นตัวการที่นำไปสู่โรคภูมิแพ้ในเด็กได้

สร้างพื้นที่สนุกด้วยดีไซน์ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก

ในช่วงวัยอายุ 1-3 ปี เป็นช่วงที่เด็กเริ่มเป็นตัวของตัวเอง ชอบอิสระ มีพัฒนาการทางด้านร่างกาย สมองและอารมณ์อย่างรวดเร็ว จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญในการส่งเสริมการเรียนรู้ ดังนั้นหากมีการกระตุ้นให้ลูกได้สำรวจและรู้จักสิ่งใหม่ๆ จะเป็นการช่วยให้สมองสามารถพัฒนาได้อย่างเต็มที่ เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 3-5 ปี เด็กจะสามารถควบคุมอารมณ์และมีทักษะร่างกายเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ แต่ในขณะเดียวกันเด็กในวัยนี้ก็มีจินตนาการสูง  ชอบซักถามพูดคุย เพราะฉะนั้นการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และสร้างความมั่นใจให้กับเด็ก จึงเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ในครอบครัวควรใส่ใจเป็นอย่างมาก

สำหรับการออกแบบที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการเหล่านี้ได้นั้น ขั้นแรกควรเริ่มเลือกตกแต่งห้องด้วยสีสันสดใส เพื่อดึงดูดความสนใจของเด็กๆ และทำให้บรรยากาศมีชีวิตชีวามากขึ้น ในส่วนของรูปทรงเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งต่างๆ ภายในห้อง นอกจากจะใช้ตัวละครจากการ์ตูนเรื่องโปรดของลูกน้อยแล้ว เราขอแนะนำให้ลองใช้รูปทรงโค้งมน หรือโค้งอิสระในการออกแบบ เพราะความโค้งของเส้นสายจะทำให้เด็กรู้สึกถึงความมีอิสระ ชวนให้คิดจินตนาการต่อยอด รวมถึงช่วยป้องกันอันตรายจากการกระแทกกับขอบเช่นกัน 

Kid-Friendly Home ออกบ้านอย่างไรให้เหมาะสมกับเด็ก

นอกจากนี้อาจมีการออกแบบพื้นที่สำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ อย่างมุมโต๊ะอ่านหนังสือ ที่ให้ลูกน้อยได้พัฒนาสมองและกล้ามเนื้อมัดเล็ก จากการขีดเขียน วาดรูปง่ายๆ หรือการสร้างชั้นลอยให้กลายเป็นพื้นที่เล่นสนุกขนาดย่อม ที่ให้เด็กๆ ได้วิ่งเล่น กระโดด ปีนป่าย หรือเล่นบทบาทสมมติก็ได้ ทว่าการจะสร้างชั้นลอยได้นั้น ต้องมั่นใจว่าประเภทวัสดุและระยะความสูงที่ใช้นั้น มีความเหมาะสมต่อความปลอดภัยของเด็กในแต่ละช่วงวัยเสมอ

Kid-Friendly Home ออกบ้านอย่างไรให้เหมาะสมกับเด็ก

ปกป้องลูกน้อยจากฝุ่นและมลภาวะทางอากาศ

เมื่อเทียบกับผู้ใหญ่แล้ว เด็กมักมีร่างกายอ่อนแอและมีภูมิคุ้มกันต่ำกว่า เพราะฉะนั้นจึงต้องระมัดระวังการเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นพิเศษ โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจ ที่มักมาพร้อมกับฝุ่น PM 2.5, ฝุ่นควัน และมลพิษต่างๆ ในอากาศ หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมปิดประตู-หน้าต่างแล้ว แต่ฝุ่นก็ยังสามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจมีสาเหตุมาจากช่องว่างต่างๆ ของอาคารที่เราไม่ทันสังเกต โดยเฉพาะประตู-หน้าต่าง ที่มักมีรอยต่อระหว่างประตู-หน้าต่างกับผนัง, เกิดการเสื่อมของยางขอบบานกรอบ หรือมีกลไกภายในบานกรอบหลวม ไม่แข็งแรง จึงทำให้ไม่สามารถปิดประตู-หน้าต่างได้สนิท

Kid-Friendly Home ออกบ้านอย่างไรให้เหมาะสมกับเด็ก

ดังนั้นเราจึงควรเริ่มจากการเลือกใช้บานประตู-หน้าต่างคุณภาพสูง ที่สามารถปิดล็อกแน่นหนาได้ทุกส่วนตั้งแต่แรก ซึ่งผลิตภัณฑ์ประตู-หน้าต่างจาก TOSTEM นั้น ก็ได้ตอบโจทย์เรื่องนี้เป็นอย่างดี ด้วยคุณสมบัติการป้องการรั่วไหลของอากาศ และการควบคุมคุณภาพอากาศภายในบ้าน ที่เกิดจากออกแบบกลไกภายในบานกรอบ ทั้งอุปกรณ์ล็อกมุมต่างๆ และการซีลยางขอบประตู-หน้าต่าง ให้สามารถปิดล็อกได้อย่างแนบสนิท นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบล็อกแน่นหนา ที่สามารถป้องกันได้ทั้งฝุ่นและผู้บุกรุกในเวลาเดียวกัน

การที่ลูกสามารถเติบโตได้อย่างดี นอกจากจะได้รับการสนับสนุนที่ดีจากพ่อแม่แล้ว สิ่งแวดล้อมรอบตัวอย่างบ้านก็เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตในครอบครัวเช่นกัน ทุกองค์ประกอบของอาคารจึงต้องผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถันเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์จาก TOSTEM ที่ถูกออกแบบโดยคำนึงทุกชีวิตในบ้าน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยทุกรูปแบบ โดยมีการรับรองคุณภาพระดับนานาชาติด้วยมาตรฐาน JIS (Japanese Industrial Standards) และมาตรฐาน ASTM (American Society for Testing and Materials)

หากสนใจสินค้าประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมจาก TOSTEM ที่เหมาะสมกับ การใช้งานของเด็ก และอยู่คู่กับการเติบโตของครอบครัวได้อย่างยาวนาน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลย

10 ต้นไม้ใบสวย ดูแลง่าย ไม่ง้อแดด

10 ต้นไม้ใบสวย ดูแลง่าย ไม่ง้อแดด

10 ต้นไม้ใบสวย ดูแลง่าย ไม่ง้อแดด

โดยทั่วไปแล้วเรามักทราบกันว่าต้นไม้ล้วนต้องการแสง น้ำ และอาหารที่เพียงพอ แต่บางครั้งพื้นที่ภายในบ้านหรือคอนโดมิเนียมกลับไม่เป็นใจต่อการปลูกต้นไม้เอาเสียเลย โดยเฉพาะพื้นที่ที่แสงแดดส่องไม่ถึง และอากาศถ่ายเทไม่เพียงพอ ที่ทำให้ต้นไม้ตายง่าย หรือเจริญเติบโตไม่สวยงาม วันนี้เราจึงมาแนะนำ 10 ต้นไม้ใบประดับเติบโตได้ไม่ง้อแดด ที่จะมาเปลี่ยนทุกมุมอับของบ้าน ให้กลายเป็นมุมโปรดสุดร่มรื่นของทุกคนกัน 

01 เดหลี (Peace lily)

ไม้ประดับที่สวยงามทั้งใบและดอก โดยใบมีลักษณะรูปรี, สีเขียวเข้ม, แผ่นใบเรียบและเป็นมันวาว ดอกเดหลีจะประกอบด้วยใบประดับสีขาวนวล, มีลักษณะเป็นรูปหัวใจ, ปลายใบเรียวแหลมสวยงามและมาพร้อมกับช่อดอกเป็นแท่งทรงกระบอกตรงกลาง ซึ่งสามารถส่งกลิ่นอ่อนๆ เมื่อดอกบาน เดหลีชอบพื้นที่ชุ่มชื้นและแสงแดดรำไร หากโดนแสงแดดมากเกินไปจะทำให้ใบไหม้ได้ จึงเหมาะกับการปลูกภายในอาคารอย่างมาก หากต้องการปลูกในสวน ควรปลูกในพื้นที่ที่มีร่มเงา หรือปลูกในบริเวณที่มีความชื้นสูง อย่างสวนริมน้ำตก, บ่อปลาคาร์ฟ หรือข้างสระว่ายน้ำเป็นต้น

02 ฟิโลเดนดรอน ซานาดู (Philodendron xanadu)

10 ต้นไม้ใบสวย ดูแลง่าย ไม่ง้อแดด

ไม้ใบประดับตระกูลฟิโลเดนดรอน ที่มีรูปร่างโดดเด่น ชวนสะดุดตา น่านำมาจับคู่กับกระถางสวยๆ สักใบ วางประดับไว้บริเวณมุมห้องหรือริมหน้าต่าง ด้วยลักษณะแตกออกเป็นแฉกลึกเกือบถึงกลางใบ มีก้านใบยาวแตกเป็นกอสวยงาม คล้ายฟิโลเดนดรอนใบมะละกอ ฟิโลเดนดรอนซานาดูชอบแสงแดดรำไร ชอบความชื้นปานกลาง แต่ไม่ควรรดน้ำจนดินแฉะเกินไป เพราะจะทำให้ต้นไม้รากเน่าตายได้ นอกจากจะนิยมปลูกในกระถางแล้ว ฟิโลเดนดรอนซานาดูยังเหมาะกับการปลูกริมทางเดิน หรือพื้นที่ริมรั้วที่มีแสงแดดไม่จัดอีกด้วย

03 เฟิร์นบอสตัน (Boston fern)

10 ต้นไม้ใบสวย ดูแลง่าย ไม่ง้อแดด

เฟิร์นบอสตันหรือเฟินดาบ เป็นพืชที่หลายคนนิยมนำมาตกแต่งในสวนสไตล์ทรอปิคอลอย่างมาก ไม่ว่าจะนำมาปลูกในกระถางตั้งพื้น ปลูกเป็นไม้กระถางแขวน หรือปลูกลงดินเป็นแนวพุ่มก็ได้ เฟิร์นบอสตันคุณสมบัติฟอกอากาศ สามารถดูดสารพิษได้มากโดยเฉพาะสารฟอร์มาลดีไฮด์ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เป็นพืชที่ชอบแสงแดดค่อนข้างมาก-รำไร สามารถปลูกได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร เพียงแต่ต้องการความชุ่มชื้นสูง จึงควรหมั่นรดน้ำหรือฉีดพ่นละอองน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาใบให้มีสีเขียวสดตลอดเวลา

04 คล้าซิการ์ (Cigar calathea)

10 ต้นไม้ใบสวย ดูแลง่าย ไม่ง้อแดด

พืชล้มลุกที่นิยมปลูกในสวนเป็นอย่างมาก เนื่องจากปลูกได้ดีในสภาพอากาศเขตร้อน มีลักษณะใบเป็นรูปไข่ เรียงสลับระนาบเดียวกัน แผ่นใบด้านบนมีสีเขียวเข้ม มีความมันวาว เห็นเส้นใบชัดเจน มาพร้อมกับก้านใบเรียวยาวสวยงาม มีสีเขียวอ่อน-เหลือง สูงได้ถึง 2-5 เมตร โดยทั่วไปแล้วมักถูกปลูกใกล้บ่อน้ำหรือบริเวณที่มีความชื้น เนื่องจากคล้าซิการ์เป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก และยังเป็นที่นิยมปลูกประดับตามแนวรั้วเช่นกัน 

05 บัวดอย (Cast-iron plant)

10 ต้นไม้ใบสวย ดูแลง่าย ไม่ง้อแดด

อีกหนึ่งชนิดไม้ล้มลุกที่น่าสนใจ แม้จะไม่มีสีสันและลวดลายหลากหลายก็ตาม โดยจุดเด่นของบัวดอย คือมีลักษณะใบเดี่ยว รูปรี มีก้านใบยาวประมาณ 30-50 เซนติเมตร แตกเป็นกอสวยงาม เป็นพืชที่ขึ้นชื่อเรื่องความอึด เนื่องจากสามารถทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ทั้งร้อนจัดและเย็นจัด ไม่ต้องดูแลบ่อยมากนัก เพียงรดน้ำเพียงเล็กน้อยประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น บัวดอยเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีแสงแดดรำไร-แสงน้อย มีคุณสมบัติสามารถปล่อยออกซิเจนออกมาได้มาก เนื่องจากมีใบขนาดค่อนข้างใหญ่ จึงช่วยสร้างความสดชื่นให้กับบรรยากาศภายในบ้านได้ดี  

06 สาวน้อยประแป้ง (Dumb canes)

10 ต้นไม้ใบสวย ดูแลง่าย ไม่ง้อแดด

เป็นไม้ใบประดับที่คนไทยคงคุ้นเคยกันอย่างดี เพราะเป็นที่นิยมนำมาตกแต่งทั้งภายนอกและภายในอาคารมานาน ด้วยลักษณะใบที่มีขนาดใหญ่ มีลวดลายจุดประสีขาวกระจายทั่วใบ ซึ่งบางสายพันธุ์อาจจะมีจุดสีชมพูปะปนอยู่ด้วย โดยทั่วไปแล้วพืชชนิดนี้เติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีแสงแดดรำไร มีความชื้นสูง ในขณะเดียวกันก็ทนทานต่อสภาพอากาศได้ดี ทั้งยังมีคุณสมบัติช่วยในการฟอกอากาศได้ แต่มีข้อระวังสำคัญคือ ทุกส่วนของใบและลำต้นมีสารแคลเซียมออกซาเลต เมื่อสัมผัสน้ำยางจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองอย่างรุนแรง ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับบ้านที่มีเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง 

07 ลิ้นมังกร (Snake plant)

10 ต้นไม้ใบสวย ดูแลง่าย ไม่ง้อแดด

อีกหนึ่งต้นไม้ที่เราพบเห็นกันบ่อย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ภายในอาคาร สวนบ้าน หรือสวนสาธารณะ เนื่องจากเป็นพืชที่โตง่าย ชอบแสงแดดปานกลาง-รำไร และทนต่ออากาศร้อนได้ดี จึงเหมาะกับเมืองไทยอย่างมาก โดยลิ้นมังกรจะมีลักษณะใบเรียวยาว ปลายใบแหลม มีหลากหลายสีสันและลวดลายตามสายพันธุ์ เช่น ลิ้นมังกรโกลเด้น, ลิ้นมังกรไหมไทย, ลิ้นมังกรงาช้าง เป็นต้น มากกว่านั้นลิ้นมังกรยังมีคุณสมบัติเด่นอีกอย่างคือ สามารถฟอกอากาศได้ และคายก๊าซออกซิเจนในเวลากลางคืนแทนช่วงกลางวัน จึงเหมาะกับการปลูกในห้องนอนอย่างมาก ทั้งนี้ควรเลือกสายพันธุ์ที่ไม่มีหนาม เพื่อป้องกันอันตรายหรืออุบัติเหตุจากการสัมผัส

08 เศรษฐีเรือนใน (Spider plant)

10 ต้นไม้ใบสวย ดูแลง่าย ไม่ง้อแดด

พืชล้มลุกใบประดับ สูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร มีลักษณะใบเรียวยาว ปลายใบแหลม มีสีสันสวยงาม โดยด้านนอกริมขอบใบจะเป็นแถบสีเขียว และตรงกลางใบจะมีแถบสีเหลืองอ่อน สามารถปลูกได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ที่มีแสงแดดรำไร โดยทั่วไปแล้วเป็นพืชที่ปลูกง่าย โตไว้ ทนแล้งได้ดี ไม่ต้องรดน้ำบ่อย สามารถรดน้ำเพียง 1 ครั้งต่ออาทิตย์ หรือรดเมื่อหน้าดินแห้ง หลายคนนิยมปลูกพืชชนิดนี้ในกระถางใบเล็กๆ วางตั้งบนโต๊ะและชั้นวางของ หรือจะปลูกเป็นไม้กระถางแขวนริมหน้าต่างก็ได้เช่นกัน

09 กวักมรกต (ZZ plant)

10 ต้นไม้ใบสวย ดูแลง่าย ไม่ง้อแดด

เป็นต้นไม้ที่เหมาะกับมือใหม่หัดปลูกหรือคนที่ไม่มีเวลาดูแลอย่างมาก เพราะกวักมรกตเจริญเติบโตง่าย โตไว ทนแล้งได้ดีและไม่ค่อยมีโรคหรือแมลงมารบกวน จึงไม่ต้องรดน้ำหรือใส่ปุ๋ยบ่อยมากนัก เพียงรดน้ำ 1 ครั้งต่ออาทิตย์และใส่ปุ๋ย 1 ครั้งต่อเดือนก็ถือว่าเพียงพอแล้ว นอกจากนี้ยังสามารถฟอกอากาศได้ดี เหมาะกับนำมาประดับบนโต๊ะทำงาน ห้องนอน หรือวางตามมุมห้องต่างๆ ภายในบ้าน แต่อาจไม่เหมาะกับบ้านที่มีเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยง เพราะมีสารแคลเซียมออกซาเลต ซึ่งก่อให้เกิดอาการระคายเคืองเช่นเดียวกับต้นสาวน้อยประแป้ง

10 เสน่ห์จันทร์แดง (King of heart)

10 ต้นไม้ใบสวย ดูแลง่าย ไม่ง้อแดด

เนื่องจากเป็นพืชจากเขตร้อนชื้น จึงสามารถเติบโตในไทยได้ดี โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความชื้นสูงและมีแสงแดดรำไร-น้อยมาก เสน่ห์จันทร์แดงมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมาก ด้วยลักษณะใบเป็นรูปหัวใจขนาดใหญ่ เส้นใบเห็นเป็นร่องชัดเจน และมีก้านสีแดงเลือดหมู มีคุณสมบัติดูดสารพิษในอากาศได้ โดยเฉพาะสารจำพวกแอมโมเนีย สามารถนำมาประดับตกแต่งได้หลากหลาย ทั้งการนำมาปลูกในกระถางเพื่อประดับภายในอาคาร และการปลูกลงดินเป็นแนวพุ่มไม้ในสวน

10 ต้นไม้ใบสวย ดูแลง่าย ไม่ง้อแดด

นอกจากความสดชื่นและความผ่อนคลายที่ได้รับจากเหล่าต้นไม้นานาชนิดแล้ว การเลือกประตู-หน้าต่างที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะเปลี่ยนบรรยากาศภายในบ้านให้อยู่สบายยิ่งขึ้น เพราะการมีบานประตู-หน้าต่างที่ดีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเปิดรับแสงแดดและสายลมธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้าน ทั้งในเรื่องการควบคุมปริมาณแสงที่เหมาะสม, ช่วยระบายอากาศ, ขับไล่ความอับชื้นและความร้อนสะสมออกไป และคืนความปลอดโปร่ง โล่งสบายให้กับตัวบ้าน ซึ่งนอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยแล้ว ยังทำให้ต้นไม้ภายในบ้านเจริญเติบโตได้สวยงามเช่นกัน

10 ต้นไม้ใบสวย ดูแลง่าย ไม่ง้อแดด

บานกรอบประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ที่ตอบโจทย์เรื่องการควบคุมแสงและอากาศภายในบ้านได้ดี โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จาก TOSTEM ที่ได้คัดสรรอะลูมิเนียมบริสุทธิ์ นำมาผลิตเป็นประตู-หน้าต่างคุณภาพสูง ตามมาตรฐาน JIS จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งโดดเด่นด้วยคุณสมบัติความแข็งแกร่ง ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ช่วยป้องกันอันตรายและสิ่งรบกวนจากรอบบ้าน ไม่ว่าจะเป็นพายุฝน, ลมกระโชกแรง, แสงแดดจัดจ้า, ฝุ่นและมลภาวะทางอากาศ, เสียงรบกวนจากรอบข้าง หรือสัตว์แมลงต่างๆ เพื่อให้เราสามารถดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ธรรมชาติได้ทุกช่วงเวลา ไม่มีหวั่นแม้วันอากาศไม่เป็นใจ

10 ต้นไม้ใบสวย ดูแลง่าย ไม่ง้อแดด

ที่สำคัญแบรนด์ TOSTEM ยังมีซีรีส์ผลิตภัณฑ์หลากหลายดีไซน์ให้เลือกสรรตามความชอบ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้ครบถ้วน  

GRANTS SERIES ประตู-หน้าต่างซีรีส์เรือธงของ TOSTEM ที่เน้นดีไซน์พื้นที่กระจกกว้าง เพื่อเปิดรับวิวทิวทัศน์อย่างเต็มที่ มาพร้อมระบบป้องกันน้ำรั่วซึมภายในวงกบถึง 2 ชั้น
ดูรายละเอียดสินค้าได้ที่ https://bit.ly/43W10JC 

ATIS SERIES สร้างการเชื่อมต่อให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น ด้วยประตู-หน้าต่างดีไซน์เรียบหรู ซ่อนเทคโนโลยีและอุปกรณ์ไว้ภายในบานกรอบ
ดูรายละเอียดสินค้าได้ที่ https://bit.ly/3rjY0Jk 

WE SERIES ประตู-หน้าต่างที่ใช้งานง่าย เข้าได้กับอาคารทุกรูปแบบ และสามารถติดตั้งช่องระบายอากาศพิเศษ AIRFLOW SLOT ได้ในรุ่น WE PLUS และ WE 70
ดูรายละเอียดสินค้า WE 70 ได้ที่ https://bit.ly/3pVBupH
ดูรายละเอียดสินค้าWE PLUS ได้ที่ https://bit.ly/3QvL3a0  

10 ต้นไม้ใบสวย ดูแลง่าย ไม่ง้อแดด

ผลิตภัณฑ์ประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมจาก TOSTEM ถูกออกแบบเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุด เป็นมิตรกับผู้อยู่อาศัยและธรรมชาติทั้งภายในและภายนอกอาคาร พร้อมมอบบรรยากาศสดชื่น ผ่อนคลาย ช่วยเสริมพลังงานบวกในทุกๆ วัน


หากสนใจสินค้าประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมจาก TOSTEM ที่ช่วยปกป้องบ้านจากความร้อน ทนทานต่อทุกสภาพอากาศได้ดี สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลย

5 แนวคิดที่นำมาสู่ดีไซน์สุดโดดเด่นของประตูหน้าต่าง TOSTEM

5 แนวคิดที่นำมาสู่ดีไซน์สุดโดดเด่นของประตูหน้าต่าง TOSTEM

นอกจากสีสัน ความเงางาม และความเรียบเนียนของผิวอะลูมิเนียมแล้ว หากใครสังเกตผลิตภัณฑ์จาก TOSTEM จะพบว่าอีกจุดเด่นของประตู-หน้าต่างของ TOSTEM คือการมีดีไซน์บานกรอบ แข็งแรง ให้ความรู้สึกมั่นคงยาวนาน ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความตั้งใจในการออกแบบของแบรนด์ ที่ผ่านการคิดค้นและทดสอบมาอย่างดีแล้วว่า เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์กับผู้ใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม โดยยึดหลักการออกแบบเพื่อยกระดับคุณภาพที่อยู่อาศัยที่ทำให้คุณเป็นส่วนหนึ่งของบ้านสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆและรู้สึกผ่อนคลาย เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้กับทุกคน ซึ่งประกอบด้วยทั้งหมด 5 แนวคิดดังนี้    

5 แนวคิดที่นำมาสู่ดีไซน์สุดโดดเด่นของประตูหน้าต่าง TOSTEM

01 High Duration แข็งแรง ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ

ด้วยวิถีชีวิตชาวญี่ปุ่นที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศอันโหดร้ายตลอดปี ทั้งร้อนจัด หนาวจัด หรือพายุหนัก ด้วยเหตุนี้ผลิตภัณฑ์จาก TOSTEM จึงถูกออกแบบให้ทนทานต่อทุกสภาพอากาศได้อย่างแข็งแกร่ง ยาวนาน โดยสามารถรับมือกับแรงลมในระดับรุนแรงเทียบเท่ากับพายุโซนร้อนได้อย่างอยู่หมัด ด้วยค่าความต้านทานแรงลม (Wind loading Resistance) ตั้งแต่ 500-2000 Pascal ซึ่งตอบโจทย์กับบ้านและอาคารทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นบ้านตากอากาศบนเขา, รีสอร์ทริมทะเล หรืออาคารสูงใจกลางเมือง

5 แนวคิดที่นำมาสู่ดีไซน์สุดโดดเด่นของประตูหน้าต่าง TOSTEM

มากกว่านั้นบานกรอบอะลูมิเนียมยังตอบโจทย์สำหรับเมืองไทย ที่มีลมมรสุมประกอบกับฝนตกชุกได้อย่างดี ด้วยดีไซน์บานกรอบโปร์ไฟล์ล่าง ที่ซ่อนระบบป้องกันน้ำฝนไว้ภายในบานกรอบ มาพร้อมกับวาล์วระบายน้ำพิเศษ และซีลป้องกันน้ำตามรอยต่อบานกรอบ ซึ่งทำหน้าที่ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำฝนไหลรั่วซึมเข้ามาภายในบ้าน โดยทั้งหมดนี้ล้วนผ่านการทดสอบการจำลองเหตุการณ์พายุฝนอย่างเข้มงวด เพื่อการันตีถึงประสิทธิภาพการต้านทานน้ำฝนที่เกิดจากแรงดันลม (Water Tightness) ตามมาตรฐาน JIS (Japanese Industrial Standard) ของญี่ปุ่น

5 แนวคิดที่นำมาสู่ดีไซน์สุดโดดเด่นของประตูหน้าต่าง TOSTEM

5 แนวคิดที่นำมาสู่ดีไซน์สุดโดดเด่นของประตูหน้าต่าง TOSTEM

02 Airflow System เพิ่มประสิทธิภาพการระบายอากาศจากเทคโนโลยีเฉพาะ

สุขภาพที่ดีสามารถเริ่มต้นสร้างได้ภายในบ้าน เพราะการไหลเวียนของอากาศที่ดีมีส่วนช่วยทำให้บ้านเย็นสบาย สามารถใช้ชีวิตในแต่ละวันได้อย่างสบายตัว ซึ่ง TOSTEM ก็ได้มีการคิดค้นนวัตกรรม TOSTEM Airflow System ที่จะช่วยถ่ายเทอากาศโดยไม่ใช้พลังงาน ปรับคุณภาพของอากาศภายในบ้านที่ดีขึ้น ปราศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์และแหล่งสะสมของเชื้อรา ดังนั้นจึงทำให้ประตู-บานกรอบมีความหนาเพื่อรองรับฟังก์ชันเสริมเหล่านี้

5 แนวคิดที่นำมาสู่ดีไซน์สุดโดดเด่นของประตูหน้าต่าง TOSTEM

นวัตกรรม TOSTEM Airflow System ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ 3 รุ่น ได้แก่

  • GIESTA ประตูเหล็กลายไม้ ที่มีดีไซน์ช่องหน้าต่างสำหรับระบายอากาศในตัว สามารถปิด-เปิดกระจกด้านในเพื่อควบคุมการระบายอากาศ,
  • Airflow Door ประตูระบายอากาศ ที่สามารถสไลด์กระจกบานเลื่อนด้านในได้หลายระดับ โดยไม่ต้องเปิดประตูออกไป ช่วยระบายอากาศได้ตลอดทั้งวันแม้ในเวลาที่ไม่อยู่บ้าน
  •  Airflow Slot ช่องระบายอากาศพิเศษ ที่ช่วยลดอุณหภูมิระหว่างวัน สามารถติดตั้งเข้าชุดกับหน้าต่างทุกดีไซน์ในรุ่น WE PLUS และ WE 70

5 แนวคิดที่นำมาสู่ดีไซน์สุดโดดเด่นของประตูหน้าต่าง TOSTEM


5 แนวคิดที่นำมาสู่ดีไซน์สุดโดดเด่นของประตูหน้าต่าง TOSTEM

03 Safety เสริมความปลอดภัย ลดอันตรายจากภายนอกบ้าน

อีกข้อดีของการมีบานกรอบหนาก็คือ เรื่องความปลอดภัย เพราะอุบัติเหตุและภัยอันตรายสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะกับประตู-หน้าต่างที่เราใช้งานในทุกวัน ดังนั้น TOSTEM จึงมีการออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งานคลอบคลุมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันอุบัติเหตุรุนแรงจากประตู-หน้าต่างหนีบ ด้วยซีลยางหนา 35-55 มิลลิเมตรรอบตัววงกบในผลิตภัณฑ์ TOSTEM ทุกรุ่น และฟังก์ชันตัวหยุดนิรภัย (Save Stopper) สำหรับหน้าต่างบานยก Tilt & Slide ในรุ่น ATIS

สำหรับปัญหาฝุ่นควัน, มลภาวะทางอากาศ, ยุงและแมลง ก็สามารถป้องกันได้ด้วยมุ้งลวดจีบภายในวงกบ ที่ใช้งานง่าย เข้ากันกับดีไซน์ประตู-หน้าต่างได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะเทคโนโลยีมุ้งกันแมลงล่องหน (Smart Insect Screen) ในซีรีส์หน้าต่างรุ่น ATIS ที่มีเส้นตาข่ายเล็กกว่าขนาดเส้นไนลอนในมุ้งทั่วไปถึง 40% ทำให้มองเห็นวิวข้างนอกชัดเจนยิ่งขึ้น ป้องกันยุงและแมลงได้ดีขึ้น ทั้งยังให้ลมสามารถลอดผ่านได้มากกว่ามุ้งลวดแบบทั่วไป

5 แนวคิดที่นำมาสู่ดีไซน์สุดโดดเด่นของประตูหน้าต่าง TOSTEM

5 แนวคิดที่นำมาสู่ดีไซน์สุดโดดเด่นของประตูหน้าต่าง TOSTEM

04 Comfortable สร้างสภาวะอยู่สบาย ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิต

นอกจากสภาวะน่าสบายจะเกิดจากอุณหภูมิและความชื้นในอากาศแล้ว ยังสามารถเกิดจากการได้ยินเสียงเช่นกัน ซึ่งหากมีเสียงรบกวนจากรอบข้างเป็นประจำ อาจส่งผลต่อสภาพจิตใจและความอยู่สบายของผู้อยู่อาศัยในระยะยาวได้ ดังนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ผลิตภัณฑ์จาก TOSTEM มีซีลยางรอบวงกบและบานกรอบประตู-หน้าต่างที่แน่นหนา เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อการอยู่อาศัย โดยมีการการันตีประสิทธิภาพการป้องกันเสียง ผ่านการทดสอบปล่อยเสียงที่ความดัง 100 เดซิเบล และพบว่าประตู-หน้าต่าง TOSTEM สามารถลดความดังของเสียงได้ถึง 25 เดซิเบล

อีกสิ่งสำคัญที่ทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น คือ หลักการออกแบบเพื่อทุกคน (Universal Design) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบผลิตภัณฑ์จาก TOSTEM อย่างมือจับ L-FIT แบบมือจับและแบบก้านโยก ที่มีดีไซน์เหมาะสมกับการใช้งาน มาพร้อมอุปกรณ์เสริมลิมิตอาร์ม ช่วยบังคับทิศทางองศาการเปิด-ปิดหน้าต่าง, ฝาครอบรางแบบเรียบ อุปกรณ์เสริมสำหรับรางบานเลื่อน ที่ช่วยให้เดินผ่านได้อย่างไม่มีสะดุด เหมาะกับบ้านที่มีเด็กเล็ก ผู้สูงวัย และผู้ใช้รถเข็น, บานพับและโช้คคุณภาพสูง ที่ช่วยลดการออกแรงเปิด-ปิดบานประตู


5 แนวคิดที่นำมาสู่ดีไซน์สุดโดดเด่นของประตูหน้าต่าง TOSTEM

05 Energy Saving ประหยัดการใช้พลังงาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

แม้ภาวะโลกรวน จะส่งผลให้บ้านและอาคารมีการใช้เครื่องปรับอากาศมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันเราก็มีวิธีควบคุมให้เครื่องปรับอากาศไม่ทำงานหนักจนเกินไปเช่นกัน ด้วยคุณสมบัติการป้องกันอากาศรั่วไหล (Air Tightness) จากผลิตภัณฑ์ TOSTEM จะทำให้สามารถรักษาสมดุลของอุณหภูมิภายในที่อยู่อาศัย ช่วยลดการแผ่รังสียูวีและความร้อนจากแสงแดด รวมถึงช่วยลดการรั่วไหลของความเย็นจากเครื่องปรับอากาศออกสู่ข้างห้อง นอกจากนี้บานกรอบอะลูมิเนียม TOSTEM ยังผลิตจากอะลูมิเนียมคุณภาพสูง จึงทำให้ผลิตภัณฑ์มีอายุการใช้งานยาวนาน ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ  ซึ่งช่วยลดการเกิดขยะที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม

+ Universal Design ออกแบบเพื่อทุกคน

ดีไซน์บานกรอบอะลูมิเนียม TOSTEM ผ่านการคิดทุกรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน ทั้งในแง่ความสวยงามและฟังก์ชันการใช้งาน เพื่อรังสรรค์การอยู่อาศัยที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน ตอบโจทย์กับผู้ใช้งานทุกเพศทุกวัย และสามารถส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างยาวนาน หากใครสนใจประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมจาก TOSTEM ทุกรุ่นสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลย

5 แนวคิดที่นำมาสู่ดีไซน์สุดโดดเด่นของประตูหน้าต่าง TOSTEM


หากสนใจสินค้าประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมจาก TOSTEM ที่ช่วยปกป้องบ้านจากความร้อน ทนทานต่อทุกสภาพอากาศได้ดี สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลย

ประตูหน้าต่างทอสเท็ม ผลิตด้วยกระบวนการ 6 ขั้นตอน มาตรฐานญี่ปุ่น มั่นใจคุณภาพ ทนทานทุกสภาพอากาศ

6 กระบวนการผลิต ก่อนมาเป็นประตูและหน้าต่างทอสเท็ม

ความปลอดภัยและความอยู่สบาย คือสิ่งที่อยู่คู่กับบ้านเสมอ องค์ประกอบในบ้านทุกส่วนจึงต้องมีคุณภาพสูงเพียงพอ ที่จะสร้างความมั่นใจให้เราได้ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เช่นเดียวกับที่ TOSTEM เองก็ใส่ใจและให้ความสำคัญในทุกกระบวนการผลิตอะลูมิเนียม เพื่อมอบประตู-หน้าต่างคุณภาพพรีเมียมให้กับบ้านทุกหลัง ตามมาตรฐาน JIS (Japanese Industrial Standards) ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตจากญี่ปุ่นที่มีความเข้มงวดสูง จนได้รับการยอมรับในแวดวงอุตสาหกรรมระดับโลก ควบคู่กับมาตรฐาน ASTM (American Society for Testing and Materials) วันนี้เราจะมาแนะนำ 6 กระบวนการผลิต ก่อนจะมาเป็นประตูและหน้าต่าง TOSTEM ที่ส่งตรงถึงบ้านของทุกคนกัน

ประตูหน้าต่างทอสเท็ม ผลิตด้วยกระบวนการ 6 ขั้นตอน มาตรฐานญี่ปุ่น มั่นใจคุณภาพ ทนทานทุกสภาพอากาศ

01 Casting Section การหล่อบิลเล็ตอะลูมิเนียม

ขั้นตอนแรกเริ่มจากการคัดสรรอะลูมิเนียมบริสุทธิ์ที่ได้มาตรฐาน TOSTEM นำมาเป็นสารตั้งต้นในการผลิต เติมด้วยส่วนผสมสำคัญชนิดอื่น เช่น แมกนีเซียม, ซิลิคอน และโลหะต่างๆ แล้วหลอมรวมกันออกมาเป็นน้ำอะลูมิเนียมอัลลอยที่มีคุณภาพสูงตามค่ามาตรฐานที่ต้องการ หลังจากนั้นนำน้ำอะลูมิเนียมอัลลอยที่ได้มาหล่อขึ้นรูปเป็นแท่งทรงกระบอก หรือเรียกว่าบิลเล็ต (Billet) ซึ่งโรงงาน TOSTEM มีแท่นหล่อแท่งบิลเล็ตทั้งหมด 6 ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเพื่อความเหมาะสมกับเครื่องจักรและผลิตภัณฑ์แต่ละแบบ ได้แก่ขนาด 5 นิ้ว,  6 นิ้ว, 7 นิ้ว, 8.5 นิ้ว, 10 นิ้ว, และ 12 นิ้ว หลังจากการหล่อขึ้นรูปเสร็จแล้ว บิลเล็ตจะถูกนำไปอบด้วยความร้อนสูงเพื่อรักษารูปทรง และนำไปจัดเก็บเพื่อรอการแรรูปในขั้นตอนต่อไป

ประตูหน้าต่างทอสเท็ม ผลิตด้วยกระบวนการ 6 ขั้นตอน มาตรฐานญี่ปุ่น มั่นใจคุณภาพ ทนทานทุกสภาพอากาศ

02 Extrusion Section การรีดขึ้นรูปอะลูมิเนียมเส้น

หลังจากที่ผ่านกระบวนการแรกเรียบร้อยแล้ว แท่งบิลเล็ตจะถูกนำเข้าอบความร้อน และตัดสั้นตามปริมาณการใช้แต่ละครั้งเพื่อเตรียมเข้าสู่กระบวนการรีดขึ้นรูปผ่านแม่พิมพ์ จากนั้นแท่งบิลเล็ตร้อนจะถูกวางบนราง เลื่อนเข้าสู่การบีบอัดผ่านแม่พิมพ์ที่ผ่านการอบความร้อนรูปทรงต่างๆ ให้เป็นอะลูมิเนียมเส้น พักไว้ให้เย็นลง และดึงเส้นให้ตึงด้วยเครื่องจักร หลังจากนั้นนำอะลูมิเนียมเส้น มาตัดตามความยาวที่ต้องการ และนำไปอบความร้อนอีกครั้งเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับอะลูมิเนียม และนำไปจัดเก็บรอสำหรับขั้นตอนถัดไป สำหรับเศษอะลูมิเนียมที่เหลือจากถูกตัดจะถูกนำกลับเข้าสู่กระบวนการหลอมรวมใหม่อีกครั้ง เพื่อลดการเกิดเศษขยะจากกระบวนการผลิต

ประตูหน้าต่างทอสเท็ม ผลิตด้วยกระบวนการ 6 ขั้นตอน มาตรฐานญี่ปุ่น มั่นใจคุณภาพ ทนทานทุกสภาพอากาศ

03 Surfacing Treatment Section การชุบสีและเคลือบผิวอะลูมิเนียม

หนึ่งในนวัตกรรมจดสิทธิบัตรของผลิตภัณฑ์ TOSTEM คือ กระบวนการชุบสีด้วยประจุไฟฟ้า หรือ การอะโนไดซ์ (Anodize) พร้อมชั้นเคลือบพิเศษ TEXGUARD ซึ่งมีข้อดีคือทำให้สีอะลูมิเนียมดูสวยงามอย่างมีมิติ ผิวสัมผัสเรียบเนียน ทนทานต่อทุกสภาพอากาศและมลภาวะ ไม่ซีดจางและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

โดยขั้นตอนแรกจะเริ่มจากการเตรียมผิวอะลูมิเนียมให้พร้อมด้วยสารละลายเคมี และเข้าสู่ขั้นตอนการชุบสีอะโนไดซ์ด้วยปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมีทำให้ผิวอะลูมิเนียมเกิดเป็นรูพรุนขนาดเล็ก และทำปฎิกิริยาให้เกิดการติดสีในรูพรุน จากนั้นทำการเคลือบผิวอะลูมิเนียมอีกชั้นด้วยชั้นฟิล์ม TEXGUARD แล้วนำเข้าอบความร้อนเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพื่อทำให้สีมีความทนทานยิ่งขึ้นพร้อมสำหรับการใช้งานจริง

ประตูหน้าต่างทอสเท็ม ผลิตด้วยกระบวนการ 6 ขั้นตอน มาตรฐานญี่ปุ่น มั่นใจคุณภาพ ทนทานทุกสภาพอากาศ

04 Fabrication Section การตัดเจาะและประกอบเป็นชิ้นส่วนประตู-หน้าต่าง

เส้นอะลูมิเนียมที่ชุบสีเรียบร้อยแล้วแต่ละแบบจะถูกนำมาตัดตามขนาดตามคำสั่งผลิต เจาะและประกอบชิ้นส่วนต่างๆ เช่น ตัวล็อก มือจับ ลูกล้อ บานพับ อย่างครบถ้วนเป็นประตู-หน้าต่างตามมาตรฐานของแต่ละดีไซน์ จากนั้นสินค้าจะถูกตรวจสอบเพื่อยืนยันคุณภาพ นำบรรจุหีบห่อและจัดส่งไปติดตั้งที่หน้างานของลูกค้าต่อไป

ปัจจุบันสินค้าประเภทประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมของ TOSTEM มีทั้งหมด 4 ซีรีส์ ได้แก่ GRANTS, ATIS, WE และ INTERIOR พร้อมด้วยซีรี่ส์ประตูเหล็กลายไม้ GIESTA และ ซีรี่ส์ประตูรั้ว ALUMINUN FENCE & GATE ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าแต่ละดีไซน์ตามขนาดความกว้างและความสูงที่ต้องการได้ตามรายละเอียดในแค็ตตาล็อก หรือสั่งขนาดใหญ่พิเศษอย่างซีรี่ส์ GRANTS ที่รองรับขนาดความสูงได้ถึง 4.5 เมตรเลยทีเดียว

ประตูหน้าต่างทอสเท็ม ผลิตด้วยกระบวนการ 6 ขั้นตอน มาตรฐานญี่ปุ่น มั่นใจคุณภาพ ทนทานทุกสภาพอากาศ

05 Testing Section การทดสอบคุณภาพ

เพราะคุณภาพและการรักษามาตรฐานเป็นหัวใจสำคัญของ TOSTEM เราจึงทำการทดสอบคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์แต่ละรุ่นอย่างละเอียดและเข้มงวดตามมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล อย่าง JIS (Japanese Industrial Standard) และ ASTM (American Society for Testing and Materials) ก่อนที่จะเริ่มเปิดสายการผลิตเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพให้กับลูกค้าได้

ศูนย์ทดสอบของ TOSTEM ดำเนินการทดสอบคุณภาพและประสิทธิภาพที่หลากหลาย ตั้งแต่การทดสอบการป้องกันน้ำฝนรั่วซึม, ทดสอบการต้านทานแรงลม, ทดสอบการป้องกันอากาศรั่วไหล, ทดสอบการป้องกันเสียง, ทดสอบความทนทานต่อสภาพอากาศทั้งความร้อน แสงแดด และรังสียูวี, ทดสอบความทนทานต่อการกัดกร่อนจากกรดและด่าง, ทดสอบความทนทานต่อการเปิด-ปิด ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้าได้เกิดความมั่นใจในการใช้ผลิตภัณฑ์ TOSTEM ด้วยความสะดวก ปลอดภัย และคุ้มค่า

ประตูหน้าต่างทอสเท็ม ผลิตด้วยกระบวนการ 6 ขั้นตอน มาตรฐานญี่ปุ่น มั่นใจคุณภาพ ทนทานทุกสภาพอากาศ

06 Delivery and Installation by Dealer จัดส่งและติดตั้งโดยตัวแทนจำหน่าย

การจัดส่งผลิตภัณฑ์และการติดตั้งทั่วประเทศไทยดำเนินการโดยตัวแทนจำหน่ายของ TOSTEM ที่ได้รับการฝึกอบรมตามมาตรฐานจาก TOSTEM มีความเป็นมืออาชีพ พร้อมให้การแนะนำและคำปรึกษาแก่ลูกค้าตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับบ้านและอาคารของลูกค้า, การเตรียมช่องเปิดสำหรับติดตั้งประตู-หน้าต่างและวัดขนาดเพื่อสั่งผลิต, การประกอบกระจกและติดตั้ง, การตรวจคุณภาพประตู-หน้าต่างและงานติดตั้งก่อนส่งมอบงาน ไปจนถึงงานบริการหลังการขาย

ประตูหน้าต่างทอสเท็ม ผลิตด้วยกระบวนการ 6 ขั้นตอน มาตรฐานญี่ปุ่น มั่นใจคุณภาพ ทนทานทุกสภาพอากาศ

รู้หรือไม่ ? TOSTEM มีระบบ Pre-Engineered ด้วยนะ !

บางครั้งข้อจำกัดของไซต์ก่อสร้างก็เป็นโจทย์อันน่าท้าทายสำหรับงานประตูหน้าต่าง ไม่ว่าจะด้วยระยะเวลาในการทำงานที่ถูกจำกัดด้วยลำดับการส่งมอบงานของแต่ละวัสดุและสภาพฝนฟ้าอากาศ หรือ พื้นที่ในการทำงานและจำนวนช่างฝีมือที่จำกัด ด้วยเหตุนี้ TOSTEM จึงมีระบบ Pre-Engineered เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าอีกหนึ่งรูปแบบ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อประตู-หน้าต่างตามแบบ สี ขนาด และจำนวนที่ต้องการ จากนั้นทาง TOSTEM จะผลิตประตู-หน้าต่างเสร็จทั้งหมดภายในโรงงาน ตรวจสอบคุณภาพและแพคลงกล่องหรือห่อวัสดุป้องกันอย่างเป็นระเบียบ เพื่อปกป้องสินค้าให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ สะดวกต่อการขนส่งเคลื่อนย้ายและการจัดวางที่หน้างาน ช่วยให้การทำงานที่หน้างานเป็นไปอย่างรวดเร็วและตัวแทนจำหน่ายสามารถติดตั้งได้อย่างถูกต้องแม่นยำโดยยังคงรักษามาตรฐานและคุณภาพอันดีเยี่ยมของ TOSTEM อย่างสม่ำเสมอให้กับประตู-หน้าต่างทุกบาน

ทั้งหมดนี้เป็น 6 กระบวนการผลิตของ TOSTEM ที่มีการควบคุมการผลิตด้วยระบบ Quality Assurance (การประกันคุุณภาพ) และ Quality Control (การควบคุมคุณภาพ) ทุกกระบวนการ และรักษามาตรฐานเดียวกันกับบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น เพื่อสร้างความมั่นใจในแบรนด์ TOSTEM ให้กับลูกค้าทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศไทย ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและอยู่สบาย ท่ามกลางสภาพอากาศแดดจัด ฝนตกชุกตลอดทั้งปี


หากสนใจสินค้าประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมจาก TOSTEM ที่ช่วยปกป้องบ้านจากความร้อน ทนทานต่อทุกสภาพอากาศได้ดี สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลย

ทิศทางและการออกแบบ

ทิศทางและการออกแบบ

ถ้าคุณกำลังจะสร้างหรือต่อเติมบ้านอย่าลืมเรื่องทิศ! เพราะทิศและการออกแบบบ้านคือศาสตร์ที่อยู่คู่กันมาโดยตลอด เราจำเป็นต้องรู้ทิศเพื่อจะได้ออกแบบการไหลถ่ายเทของลมเข้าตัวบ้าน การสาดส่องของแดด หรือเป็นกันสาดเวลาฝนตก การวางผังบ้านให้เหมาะกับทิศของอากาศจึงสำคัญต่อการพักอาศัยในบ้าน

5 Design บ้านที่ใช้ประตูหน้าต่างสี Natural Black_1

ทิศของสภาพอากาศที่เราต้องคำนึงถึง ได้แก่

  • ทิศแดด
  • ทิศลมและทิศฝน

ทิศทางและการออกแบบ

ทิศแดด

  • ช่วงเดือน กันยายน – เมษายน ดวงอาทิตย์จะโคจรไปอยู่บริเวณทางทิศใต้
  • ช่วงเดือน พฤษภาคม – สิงหาคม ดวงอาทิตย์จะโคจรไปบริเวณทิศเหนือ ทำให้ทิศใต้เป็นทิศที่รับแดดมากที่สุด อยู่ที่ประมาณแปดเดือน แต่ทิศที่ร้อนที่สุดคือทิศตะวันตก เพราะรับแสงแดดโดยตรงในช่วงบ่าย

ห้องนอนควรตั้งอยู่ทางทิศเหนือ เพื่อรับแสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้า ส่วนห้องรับแขกและห้องทำงานจึงควรตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อรับแสงแดดในช่วงเช้า ตกบ่ายแสงแดดก็ไม่สาดเข้ามา

ทิศทางและการออกแบบ

ทิศลมและทิศฝน

ทิศตะวันตกเฉียงใต้จะเป็นทิศที่มีฝนสาดเข้าบ้านมากที่สุด เพราะเป็นฤดูฝน ซึ่งได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้

  • ช่วงกลางเดือนตุลาคม-กลางเดือนกุมภาพันธ์ มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดพาอากาศหนาวมา
  • ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์-กลางเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงลมเปลี่ยนทิศจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือเป็นลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
  • ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม-กลางเดือนตุลาคม มีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดพาฝนและความชื้นมา

พื้นที่ทางเข้าหน้าบ้านควรอยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งช่วยให้ลมพัดผ่านเข้าบ้านเป็นลมเย็น ส่วนห้องรับประทานอาหารและห้องครัวควรตั้งทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อรับลมจากทิศใต้สำหรับการระบายอากาศ

สรุป

การวางผังบ้านให้เหมาะกับทิศของสภาพอากาศจึงสำคัญต่อการพักอาศัยในบ้าน โดยตำแหน่งของห้องต่างๆ ภายในบ้านที่เหมาะสมกับทิศของสภาพอากาศ มีดังนี้

  • ห้องนอน ควรตั้งอยู่ทางทิศเหนือ เพื่อรับแสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้า
  • ห้องรับแขกและห้องทำงาน จึงควรตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อรับแสงแดดในช่วงเช้า ตกบ่ายแสงแดดก็ไม่สาดเข้ามา
  • พื้นที่ทางเข้าหน้าบ้าน ควรอยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งช่วยให้ลมพัดผ่านเข้าบ้านเป็นลมเย็น
  • ห้องรับประทานอาหารและห้องครัว ควรตั้งทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อรับลมจากทิศใต้สำหรับการระบายอากาศ

บ้านที่ใช้ประตู+หน้าต่าง+ทอสเท็ม+TOSTEM

ขอบคุณข้อมูลจาก www.baanlaesuan.com


หากสนใจสินค้าประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมจาก TOSTEM ที่ช่วยปกป้องบ้านจากความร้อน ทนทานต่อทุกสภาพอากาศได้ดี สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลย