fbpx

Tag: อะลูมิเนียม

รีโนเวทบ้านอย่างไร ให้ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย

รีโนเวทบ้านอย่างไร ให้ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย

การรีโนเวทบ้าน เป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับการปรับปรุงบ้านหลังเดิมให้น่าอยู่และใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น เพราะเมื่อเวลาผ่านไป บางทีอาจจะมีมุมใดมุมหนึ่งภายในบ้าน ที่กระตุ้นให้เราเกิดความคิดในการปรับปรุงใหม่ ฉะนั้นเพื่อให้การรีโนเวทบ้านทั้งที เป็นไปอย่างสมบูรณ์ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย TOSTEM มีทริคเล็กๆ ในการเตรียมตัวก่อนคิดรีโนเวทบ้านมาฝาก

รีโนเวทบ้านอย่างไร ให้ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย

ก่อนรีโนเวทบ้านต้องเตรียมอะไรบ้าง

การรีโนเวทบ้านที่ดี ต้องอาศัยการเตรียมพร้อมในเรื่องต่างๆ ให้ดี เพื่อให้งานออกมาราบรื่น แต่ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง มาดูกัน 

  1. สำรวจความต้องการให้ดีก่อนรีโนเวท เริ่มจากคิดให้ถี่ถ้วนว่าการรีโนเวทบ้านของเรา ทำเพื่อขยายต่อเติม ซ่อมแซมส่วนที่พัง อยากปรับฟังก์ชันให้สอดรับกับสมาชิกในบ้าน หรือเปลี่ยนสไตล์ เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นก่อนรีโนเวท และมีทิศทางที่ชัดเจนกับผู้ออกแบบ
  1. กำหนดงบสำหรับการรีโนเวท การรีโนเวทบ้านนั้นต้องใช้เงินไม่น้อย เพราะอาจจะมีทั้งค่าแบบ ค่าวัสดุ ค่าจิปาถะ ดังนั้นต้องมีการกำหนดงบให้ดี เพื่อจะได้ไม่บานปลายภายหลัง
  1. ตรวจสอบสภาพพื้นที่โดยรอบบ้าน เพื่อไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างเดิม  เจ้าของบ้านต้องตรวจสอบโครงสร้างเดิมของบ้านว่าเป็นอย่างไร มีจุดไหนทรุดหรือร้าวไหม รวมถึงตรวจเช็กระบบไฟฟ้า ประปา และเพื่อให้การรีโนเวทได้ประสิทธิภาพ ควรปรึกษาทีมผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทรับสร้างบ้าน ในการช่วยสำรวจพื้นที่ก่อนออกแบบวางแผนรีโนเวท
  1. ศึกษากฎหมายให้รอบคอบ เจ้าของบ้านควรศึกษาข้อมูลกฎหมายการดัดแปลงอาคารให้รอบด้าน ว่ามีข้อจำกัดใดที่สามารถทำได้หรือทำไม่ได้ หรือให้บริษัทรับรีโนเวทบ้านช่วยแนะนำจัดการ หรือเบื้องต้นเจ้าของบ้านสามารถโทรสอบถามกับทางเทศบาล เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
  1. เคลียร์สิ่งของต่างๆ ก่อนรีโนเวท สิ่งสำคัญที่ไม่แพ้เรื่องอื่น คือการจัดการเคลียร์ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เพื่อเคลียร์พื้นที่ให้เรียบร้อย 
  1. เลือกวัสดุอุปกรณ์ในการรีโนเวท ไม่ว่าจะเป็น หลังคา พื้น ประตู หน้าต่าง หรือองค์ประกอบอื่นๆ ควรเลือกวัสดุที่สวยตรงใจ ตอบโจทย์ทุกการใช้งานของทุกวัย มีความแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน ง่ายต่อการดูแลรักษา เพื่อให้การรีโนเวทบ้านของเราคงสภาพการใช้งานต่อไปได้อีกนาน 

การเลือกประตูหน้าต่างให้เหมาะกับทุกช่วงวัย

ประตู หน้าต่าง จัดว่าเป็นอีกองค์ประกอบที่สำคัญของบ้าน ยิ่งหากคิดอยากรีโนเวทให้เข้ากับทุกช่วงวัย และเข้ากับยุคนี้ที่ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของผู้คนเปลี่ยนไป ทำให้บ้านกลายเป็นพื้นที่ที่เราใช้เวลาอยู่เกือบตลอดทั้งวันมากกว่าที่เคยเป็น 

ดังนั้น เมื่อถึงคราวรีโนเวททั้งที การเลือกผลิตภัณฑ์ประตู-หน้าต่าง ที่จะทำให้การอยู่บ้านทั้งวันไม่อึดอัด ควรเลือกรูปแบบที่สามารถเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่บ้านภายในกับธรรมชาติภายนอกแบบไร้สิ่งกีดขวาง โดยที่ยังคงความเป็นส่วนตัว ให้ความสะดวก และปลอดภัยในการใช้งาน อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ทอสเท็ม (TOSTEM) รุ่น ATIS บานเลื่อนไร้รอยต่อที่เติมเต็มเรื่องสุนทรียะ และเพิ่มมุมมองปราศจากสิ่งกีดขวาง

ประตูหน้าต่างรุ่น ATIS โดดเด่นด้านความสวยงามของดีไซน์แบบมินิมอล  แต่ซ่อนฟังก์ชันการใช้งานสุดพิถีพิถันเอาไว้ภายใน รวมถึงให้ความสะดวก ปลอดภัยสำหรับสมาชิกทุกวัยของครอบครัว  เช่น การปิดหน้าต่าง มีการเลื่อนสองสเต็ป เพื่อไม่ทำให้มือบาดเจ็บ หรือแม้กระทั่งในบ้านที่มีผู้ใช้เก้าอี้วีลแชร์ ประตูจาก ATIS ก็มีอุปกรณ์เสริมที่สามารถถอดเก็บได้ สร้างความราบเรียบบนพื้นในการใช้งานที่สะดวกทุกสถานการณ์

อีกทั้งยังมีฟังก์ชันเสริมความปลอดภัยลิมิตอาร์ม “Limit Arm” อุปกรณ์เสริม สำหรับหน้าต่างบานเปิดและบานเลื่อนสลับ ช่วยจำกัดระยะการเปิดบานไม่ให้กว้างเกินไป เพื่อป้องกันเด็กเล็กจากอุบัติเหตุผลัดตกออกไปด้านนอก 

นอกจากนี้มีฟังก์ชันเสริมความแน่นหนาของระบบล็อกบานเลื่อน “Sub-lock” ตัวล็อก-รองเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ช่วยเพิ่มการป้องกันการบุกรุกจากภายนอก ไปจนถึงฟังก์ชัน “Sill attachment” ฝาครอบรางอุปกรณ์เสริมบนรางบานเลื่อน ช่วยเพิ่มความสมูทให้พื้นที่ ให้การเดินผ่านหรือการใช้วีลแชร์ ทั้งกับผู้สูงอายุและเด็ก สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น

และสำหรับใครที่ต้องการมุมมองที่มากกว่าเดิม ประตูหน้าต่างรุ่น ATIS สามารถสั่งทำความสูงพิเศษได้ถึง 3 เมตร และมีสีสันให้เลือกที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ตรงใจ พร้อมการันตีคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ TOSTEM โดยมีการทดสอบต่างๆ ที่เป็นไปตามมาตรฐานระดับสากล ASTM และมาตรฐานของญี่ปุ่น JIS สามารถมั่นใจในความแข็งแรงทนทานได้อย่างไม่มีเรื่องให้กังวลใจ

หรือหากครอบครัวไหนที่กำลังมีสมาชิกเพิ่มขึ้น และต้องการรีโนเวทบ้านใหม่ให้ตอบโจทย์กับสมาชิกในครอบครัว เหมือนกับบ้านคุณนาว จาก TOFF สถาปนิกผู้ออกแบบและผู้อาศัยจริงที่เลือกใช้ ATIS ในบ้านเดิมที่รีโนเวทใหม่ อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3TIdClq 

TOSTEM, สถาปนิก, ประตู, หน้าต่าง, สถาปนิกเลือกประตู

อ่านรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ https://bit.ly/3rjY0Jk 

TOSTEM, สถาปนิก, ประตู, หน้าต่าง, สถาปนิกเลือกประตู

เมื่อสถาปนิกสร้างบ้านให้ตัวเองอยู่ ประตูหน้าต่างจึงต้องท็อปฟอร์ม

หลังจากครอบครัวมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งชีวิต คุณนาว อัคราวุฒิ รัชต์บริรักษ์ สถาปนิกเจ้าของบริษัทออกแบบภายใน TOFF  จึงต้องการขยับขยายที่อยู่อาศัยเพื่อความสะดวกสบายของทุกคนที่เขารัก ทาวน์โฮมขนาดใหญ่ภายในหมู่บ้าน Noble Cube ซึ่งเป็นหมู่บ้านเดิมที่คุณนาวและครอบครัวพักอาศัยอยู่จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการรองรับขนาดครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น

TOSTEM, สถาปนิก, ประตู, หน้าต่าง, สถาปนิกเลือกประตู
คุณนาว อัคราวุฒิ รัชต์บริรักษ์ สถาปนิกและเจ้าของบ้าน

“เราจะเน้นในเรื่องของคุณสมบัติมัน เช่น ถ้าฝนตกลงมา น้ำต้องไม่เข้าบ้าน ซึ่งวันที่ติดตั้งเสร็จเนี่ยฝนตกหนักพอดี ตอนแรกเรากังวลว่าจะมีปัญหาไหม แต่ทางเจ้าหน้าที่ที่ติดตั้งของ TOSTEM เขาแจ้งว่ายังไงน้ำก็ไม่เข้า เพราะระบบของตัวเฟรมถูกออกแบบมาให้รับน้ำแล้วก็เดรนออกด้านล่าง ซึ่งพอฝนตกวันนั้นผมก็รีบเข้ามาดูบ้าน ก็ไม่มีรั่วสักจุด แฮปปี้มาก”

คุณนาวกล่าวถึงหนึ่งในคุณสมบัติของ TOSTEM ที่ทำให้รู้สึกวางใจ

TOSTEM, สถาปนิก, ประตู, หน้าต่าง, สถาปนิกเลือกประตู

ลักษณะของบ้านที่ปลอดโปร่งโล่งสายตาคือดีไซน์ที่คุณนาวสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยตัวเอง และแน่นอนว่าหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้บรรยากาศออกมาน่าอยู่เช่นนี้ก็คือการเลือกใช้บานประตูหน้าตาภายในตัวอาคารนั่นเอง ซึ่งกว่า 90% ของประตูหน้าต่างทุกบานในบ้านล้วนเป็นผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ TOSTEM ทั้งสิ้น

“ส่วนตัวผมไม่ชอบประตูมือจับ เเต่พอมาเจอประตู หน้าต่างรุ่น ATIS มันตอบโจทย์เพราะมันเป็นมือจับยาวตลอดแนว คือเขาเอาเฟรมของบานมาเป็นที่จับ ซึ่งแบรนด์อื่นไม่มี เราก็อยากจะให้บ้านออกมาสวยงามแล้วก็แข็งแรงทนทาน TOSTEM ก็ตอบเลยโจทย์ที่สุด” นี่ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่มีผลต่อการตัดสินใจของคุณนาวไม่แพ้กัน

TOSTEM, สถาปนิก, ประตู, หน้าต่าง, สถาปนิกเลือกประตู

“ผมว่า TOSTEM เน้น design + function มันเลยตอบโจทย์ เพราะว่าเราเป็นสถาปนิกด้วย ก็ต้องการออกแบบ design แล้วก็ function ให้มัน perfect fit กัน” คุณนาวบอกเล่าถึงความประทับใจหลังการติดตั้งผลิตภัณฑ์เสร็จทั้งหมด “สำหรับบ้านหลังนี้ก็พอใจเต็มที่ครับ เราก็ลุยออกแบบเอง เขียนแบบเอง คุมงานผู้รับเหมา ดังนั้นเราก็ค่อนข้างจะภูมิใจกับสิ่งที่เราทำ เวลามีใครเข้ามาเยี่ยม ก็จะชื่นชมเป็นเสียงเดียวกัน ว่าหน้าต่างสวยนะครับ ใช้ของยี่ห้ออะไร พอบอก TOSTEM มันก็สร้างมูลค่าให้กับบ้านด้วย”

“อีกเรื่องนึงที่เราเซอร์ไพรส์หลังจากติดตั้งเสร็จคือความเงียบ ต้องเล่าก่อนว่าในละแวกนี้จะมีศาสนสถาน ซึ่งบ้านเดิมผมก็อยู่ตรงหลังข้างในนั่นแหละ หลังนั้นก็ใช้เป็นอะลูมิเนียมชุดที่โครงการจัดหามาให้ ซึ่งมันไม่ได้ช่วย ป้องกันเรื่องเสียง ดังนั้นพอรีโนเวทหลังนี้ มันก็เลยเป็นประเด็นนึงด้วยว่าการจะเลือกประตูหน้าต่าง การกันเสียงต้องมาอันดับหนึ่ง แล้วตอนแรกเราก็ยังไม่ได้ทดสอบ เพราะมันทดสอบไม่ได้ จนกระทั่งติดตั้งเสร็จ ต้องบอกตรงๆ นะครับว่ามันเงียบมากครับ ใช้คำนี้เลย คือมันเงียบจนแบบไม่ได้ยินเสียงอะไรข้างนอกเลยอะ ผมแฮปปี้กับ TOSTEM ตัวระบบกันเสียงของเขามาก” ความประทับใจที่ไม่คาดคิดยิ่งทำให้คุณนาวรู้สึกว่าตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกใช้ TOSTEM

  

หน้าต่างแบบนี้ ควรเลือกใช้ผ้าม่านแบบใด

หน้าต่างแบบนี้ ควรเลือกใช้ผ้าม่านแบบใด 

หากคุณกำลังสงสัยอยู่ว่า ผ้าม่านสำหรับหน้าต่างแบบไหน ที่จะช่วยยกระดับการตกแต่งบ้านของคุณให้มีสไตล์ ถูกใจทั้งเจ้าของบ้านและแขกที่มาเยือน ไม่อยากให้พลาดบทความนี้ เพราะผ้าม่านไม่เพียงช่วยเรื่องงานดีไซน์ แต่ผ้าม่านสำหรับหน้าต่าง ยังเป็นองค์ประกอบหนึ่งของบ้าน ที่ช่วยในการกรองแสง ป้องกันเสียงภายนอก และสร้างความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดี

6 แบบผ้าม่านยอดนิยม

โครงสร้างของจีบผ้าม่าน ส่งผลต่อวิธีการแขวนผ้าม่านบนกรอบหน้าต่าง ฉะนั้นการรู้จักประเภทผ้าม่านจะช่วยให้การตกแต่งภายในให้ออกมาสวยงามและตรงตามการใช้งาน ซึ่งในปัจจุบันผ้าม่านมีให้เลือกกันอยู่หลายแบบ แต่เราขอคัดแบบยอมนิยมมาให้ได้รู้จักกัน ทั้งหมด 6 แบบ 

  • ม่านจีบ ม่านทรงมาตราฐาน ที่ลักษณะของม่านจะมีการจับจีบด้านบน ด้วยการเว้นระยะเท่าๆ กัน ช่วยให้รอยพับของผ้าไหลลงมาด้านล่าง และสร้างลุคที่หรูหราและเป็นทางการ โดยม่านจีบสามารถติดผ้าได้ 2 ชั้น คือม่านโปร่งและม่านทึบ
  • ม่านลอน ผ้าม่านลอนจะใช้วัสดุติดที่หัวผ้ากับราง ทำให้แขวนแล้วเกิดลอนสวย นอกจากจะใช้กับประตูหน้าต่างได้แล้ว ยังเหมาะกับการกั้นพื้นที่อีกด้วย
  • ม่านตาไก่ เป็นม่านผ้าที่มีลักษณะของรางผ้าม่านที่สอดผ่านห่วงตาไก่ที่ยึดติดกับหัวผ้าม่านด้านบน ทำให้เกิดลอนสวยงามแถมยังเป็นการโชว์รางพร้อมห่วงตาไก่ทีเพิ่มความโดดเด่นได้เป็นอย่างดี
  • ม่านพับ เป็นม่านอีกชนิดที่หลายบ้านให้ความนิยม เนื่องจากม่านพับมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ให้ความรู้สึกเรียบหรู ดูทันสมัย โดยรูปแบบม่านจะใช้ระบบเชือกในการดึงผ้าม่าน ให้พับทบกันเป็นชั้นๆ และเรียงซ้อนกันขึ้นไปด้านบน
  • ม่านม้วน ลักษณะพิเศษของผ้าม่านม้วนคือ เป็นผ้าผืนใหญ่ที่สามารถม้วนเก็บขึ้นไปให้มิดชิดได้ ซึ่งม่านม้วนมีทั้งชนิดกันแสง และชนิดกรองแสง ที่ปล่อยให้แสงส่องผ่านได้บ้าง เหมาะกับการตกแต่งที่ต้องการทั้งแสงสว่างและความเป็นส่วนตัวในเวลาเดียวกัน
  • ม่านมูลี่ ไม่ได้ใช้วัสดุผ้า แต่นับว่าเป็นม่านบังตาอีกชนิดหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยลักษณะเฉพาะที่ถูกออกแบบเป็นซี่ๆ โดยวัสดุมีทั้ง พลาสติก โลหะ ไม้ การใช้งานจะมีรอกและเชือกสำหรับชักให้ม้วนหรือคลี่ออกได้ 

หน้าต่างแต่ละแบบแมตช์กับผ้าม่านแบบไหนดี

หากกรอบบานหน้าต่างหรือประตูเป็นบานใหญ่และสูง การเลือกติดม่านจีบแบบสองชั้น ด้วยการจับคู่ผ้าบางและผ้าหนา จะยิ่งช่วยเสริมให้ห้องนั้นดูสวย เรียบหรู 

หน้าต่างแบบนี้ ควรเลือกใช้ผ้าม่านแบบใด

ทั้งนี้ม่านจีบยังสามารถออกแบบรางม่านซ่อนไว้บนฝ้าเพดาน ร่วมกับการออกแบบไลท์ติ้ง ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้ห้องดูโมเดิร์นร่วมสมัย บวกกับมุมมองหน้าต่างที่มีขนาดใหญ่ ยิ่งเป็นการเปิดมุมมองให้กว้างขึ้น สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามภายนอกได้อย่างเต็มตากว่าที่เคย

สำหรับหน้าต่างบานกระทุ้ง หรือบานเปิด ที่มีลักษณะบานแคบ เหมาะกับการแมตช์กับผ้าม่านแบบพับ เพราะช่วยเน้นแนวตั้งของประตูหรือหน้าต่าง เมื่อผ้าม่านพับไปถึงชั้นบนสุดจะทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง เข้ากับการแต่งห้องในสไตล์โมเดิร์น ที่สำคัญทำความสะอาดง่ายอีกด้วย

หน้าต่าง ขนาดเล็กถึงปานกลางที่มีความกว้างไม่มากจนเกินไป แนะนำให้แมตช์กับผ้าม่านตาไก่ เพื่อป้องกันรางม่านแอ่นจากน้ำหนักของผ้า เสน่ห์ของม่านตาไก่ คือ การโชว์ความสวยงามของลอนผ้าและโชว์รางพร้อมกับห่วงตาไก่ 

หน้าต่างกรอบบานเลื่อน เข้าได้ง่ายกับม่านมูลี่ ซึ่งช่วยให้บานหน้าต่างไม่ดูโล่งจนเกินไป ทั้งยังเพิ่มลูกเล่นของช่องแสงที่ลอดผ่านมูลี่ทำให้ห้องนั้นๆ ดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ขอแนะนำให้เลือกติดตั้งม่านมู่ลี่ ในบริเวณห้องน้ำ หรือห้องครัว เพราะสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ทนความชื้นได้ดี หรือจะให้ดีสามารถเลือกเป็นบานประตูระบายอากาศของทอสเท็มสำหรับห้องที่ต้องการการระบายอากาศโดยเฉพาะ ซึ่งมีทั้งบานมุ้งลวดและการปรับระดับหน้าต่างให้เลือกได้ตามความต้องการของการใช้งาน 

หน้าต่างแบบนี้ ควรเลือกใช้ผ้าม่านแบบใด

สำหรับใครที่ต้องการติดตั้งหน้าต่างอะลูมิเนียม สามารถดูข้อมูลสินค้าทุกรุ่นของ TOSTEM ล้วนผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากล ผสานด้วยดีไซน์อันสวยงาม กลมกลืนไปกับผ้าม่านได้หลากสไตล์และเข้าตัวบ้านทุกรูปแบบได้อย่างลงตัว 

หน้าต่างไม้ vs. หน้าต่างอะลูมิเนียม แบบไหนดี และดูรักษาอย่างไร?

หน้าต่างไม้ vs. หน้าต่างอะลูมิเนียม แบบไหนดี และดูรักษาอย่างไร?

House C+I การออกแบบบ้านกะทัดรัด ให้โปร่ง โล่ง สบาย

การตัดสินใจเลือกหน้าต่าง คุณควรพิจารณาก่อนว่าหน้าต่างนั้นเหมาะสมกับบ้านของคุณหรือไม่ และหน้าต่างนั้นทำจากวัสดุอะไร โดยปกติแล้วหน้าต่างยอดนิยมจะถูกสร้างขึ้น ด้วย 2 วัสดุ คือ ไม้ และอะลูมิเนียม ซึ่งวัสดุแต่ละชนิดมีข้อดีต่างกัน ในบทความนี้ เราจะอธิบายความแตกต่างบางประการของ หน้าต่างไม้ vs. หน้าต่างอะลูมิเนียม ว่าแบบไหนดี และมีวิธีดูรักษาอย่างไร?


ข้อดีของหน้าต่างไม้ vs. หน้าต่างอะลูมิเนียม


คุณสมบัติที่ดีของหน้าต่างไม้และหน้าต่างอะลูมิเนียม หรือแม้กับหน้าต่างวัสดุอื่นๆ มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ที่คล้ายคลึง คือช่วยในเรื่องฟังก์ชันการทำงานของบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ขยายการมองเห็นไปยังพื้นที่ภายนอก ช่วยให้แสงธรรมชาติลอดผ่านมายังตัวบ้าน ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันสิ่งต่างๆ เช่น เสียงรบกวน ฝุ่น ลม และฝน 

ความแข็งแรงทนทาน


อะลูมิเนียม –
เนื่องจากวัสดุอะลูมิเนียมเป็นโลหะที่ทนทาน จึงไม่มีปัญหาเรื่องบวมจากความชื้น ปลวก และไม่เกิดสนิม ทำให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน ยิ่งหากเป็นอะลูมิเนียมบริสุทธิ์ ความยืดหยุ่นของเนื้อวัสดุจะยิ่งมีความต้านทานการแตกหักได้สูง ทำให้ทนต่อสภาพอากาศร้อนและชื้นในประเทศได้อย่างดี

ไม้ –
เป็นวัสดุธรรมชาติ จึงอาจทำให้เกิดการโก่งตัว บวมหรือผิดรูปขึ้นได้ แต่หากมีการดูแลที่ดี หมั่นทาน้ำยาเคลือบผิวไม้ และไม่เลือกติดตั้งบริเวณที่มีความชื้น หน้าต่างไม้ก็นับว่าเป็นวัสดุที่มีคุณภาพและมีอายุการใช้งานได้ยาวนานประมาณหนึ่ง

ความสวยงาม


อะลูมิเนียม –
มีให้เลือกหลายสี และมีหลากหลายลวยลายแพทเทิร์น แต่ที่นิยม คือ สีขาว  สีชา สีดำ สีน้ำตาล  ซึ่งเป็นเฉดสีที่เข้ากับบ้านได้ทุกสไตล์ ทำให้การตกแต่งบ้านง่ายยิ่งขึ้น ที่สำคัญความบางของวงกบอะลูมิเนียม ทำให้ดูสลิม ไม่หนาเทอะทะ รับวิวได้เต็มที่ สวยงาม สบายตา

ไม้ –
เสน่ห์อันอบอุ่นและความสง่างามของวัสดุจากธรรมชาติอย่างไม้ มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้ความรู้สึกเหนือกาลเวลาและคลาสสิก

ความปลอดภัย

อะลูมิเนียม – ผลิตภัณฑ์หน้าต่างอะลูมิเนียม ปัจจุบันมีการพัฒนาเรื่องระบบล็อค รักษาความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น ทำให้หน้าต่างอะลูมิเนียมมีความปลอดภัยสูง และด้วยความเหนียวแน่นของวัสดุที่สูง ทำให้ทนการแตกหักได้ดี

ไม้ –
เมื่อผ่านกาลเวลาไปนานหลายปี วัสดุไม้ อาจจะมีปลวกและแมลงมากัดกิน หรือต้องเจอกับสภาพอากาศของเมืองไทย ที่ทั้งร้อนและฝน จนเกิดการผุกร่อนได้ จึงอาจส่งผลต่อระบบล็อกของหน้าต่างไม้ได้ แต่ทั้งนี้ปัจจุบันหากเลือกไม้คุณภาพสูงที่มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยเพิ่มเติม เช่น ไม้เนื้อแข็ง หรือมีระบบล็อคแบบหลายจุด และเพิ่มกระจกรักษาความปลอดภัย ก็จะสามารถช่วยเรื่องปลอดภัยเพิ่มขึ้นได้ 

เคล็ดลับการดูแลรักษา

หน้าต่างไม้ vs. หน้าต่างอะลูมิเนียม แบบไหนดี และดูรักษาอย่างไร?
*ไม่ใช่สินค้า TOSTEM*

หน้าต่างไม้
ไม่ว่าหน้าต่างไม้จะเพิ่งติดตั้งหรือผ่านเวลามานาน การบำรุงดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งสามารถเริ่มต้นโดย

  1. ป้องกันปลวกด้วยการใช้น้ำยาป้องกันแมลงกินไม้ (ควรปฏิบัติตามคำแนะนำข้างกระป๋อง)
  2. ปกป้องผิวไม้จากความชื้นและแสงแดดด้วยการเคลือบเงา ลงแว๊กซ์ หรือทาสีสำหรับงานไม้โดยเฉพาะ
  3. ตรวจสอบและทำความสะอาดเป็นประจำ เพื่อช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปรกหรือความชื้น ที่อาจทำให้ผิวหน้าต่างเสื่อมสภาพได้ โดยหลีกเหลี่ยงการใช้ผงซักฟอกที่มีฤทธิ์รุนแรง เช่น สารฟอกขาว หรือสารเคมีทำความสะอาดหน้าต่าง และการทำความสะอาดหน้าต่างไม้ทุกครั้งต้องเช็ดให้แห้ง
  4. หากพบว่ามีรอยขีดข่วนบนหน้าต่างไม้ สามารถใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำมันชักเงาถูเบาๆ ช่วยให้รอยบางลงได้
  5. สำหรับคราบเชื้อรา ให้ใช้กระดาษทรายขัดผิวไม้ส่วนที่เป็นเชื้อราออก แล้วเช็ดทำความสะอาดก่อนใช้น้ำยาเคลือบผิวไม้ทาทับ เป็นการป้องกันเชื้อราได้

หน้าต่างไม้ vs. หน้าต่างอะลูมิเนียม แบบไหนดี และดูรักษาอย่างไร?
*ไม่ใช่สินค้า TOSTEM*

หน้าต่างอะลูมิเนียม
หน้าต่างอะลูมิเนียม การดูแลจะง่ายกว่าหน้าต่างไม้ เพราะค่อนข้างทนทานต่อทุกสภาพอากาศ จึงทำให้อายุการใช้งานยาวนาน แต่ทั้งนี้ก็ควรดูแลรักษาอย่างถูกวิธีด้วยเช่นกัน

  1. การทำความทำสะอาดหน้าต่างอะลูมิเนียม ไม่ควรใช้แปรงขัด หรือสก็อตไบรท์ เพราะทำให้เกิดรอยขีดข่วน แนะนำให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ หรือน้ำยาสำหรับทำความสะอาดผิวอะลูมิเนียม ก็เพียงพอ
  2. หลีกเลี่ยงการติด การแปะวัสดุบนพื้นผิว เช่น นำเทปกาวมาติดบริเวณอะลูมิเนียม เนื่องจากกาวจะหลอมละลาย ทำให้ผิวหน้าอะลูมิเนียมสูญเสียสภาพเดิมได้
  3. ไม่ควรใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง มาทำความสะอาด เพราะจะส่งผลให้ผิวอะลูมิเนียม เกิดรอยด่าง หรือสีหลุดร่อนได้
  4. หากพบปัญหาในการเลื่อนหน้าต่างอะลูมิเนียม ที่เกิดจากฝุ่นหรือเศษสิ่งสกปรกเข้าไปสะสมในร่องและซีลประตู แนะนำว่าไม่ควรดึงและดันอย่างหนัก ให้ใช้เพียงปลายเล็กๆ ของเครื่องดูดฝุ่นในการดูดออก


ทั้งนี้การหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจพบเจอกับการดูแลรักษาหน้าต่างอะลูมิเนียม สามารทำได้โดยเลือกใช้สินค้าที่มีการประกันคุณภาพ ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมในระดับสากล อย่างผลิตภัณฑ์กรอบบานหน้าต่างอะลูมิเนียม TOSTEM ที่ใช้เทคโนโลยีสีการชุบ สีอะโนไดซ์ (Anodized) ทำให้สีอะลูมิเนียมดูสวยงามอย่างมีมิติ ทนทานยาวนาน


นอกจากนี้ทุกรุ่นมีระบบล็อคที่แน่นหนา มีความปลอดภัยสูง และดีไซน์รับกับการออกแบบที่หลากหลาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ลิ้งค์ท้ายบทความ
 


จัดสีห้องอย่างไรให้ลงตัว ?

จัดสีห้องอย่างไรให้ลงตัว ?

“การเลือกสีดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” ประโยคนี้ไม่ได้ใช้กับการเสื้อสีมงคลตามวันเท่านั้น แต่บทความนี้เราอยากพามาเลือกสีห้องให้ลงตัวกับบ้านที่แสนอบอุ่นของเรากัน เพราะเรื่องการ “จัดสีห้อง” ถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยสร้างบรรยากาศภายในบ้าน ทั้งความสัมพันธ์ของสีภายในห้องยังช่วยเชื่อมต่อระหว่างช่องทางที่คั่นด้วยประตู หน้าต่าง และสร้างความต่อเนื่องของการมองเห็นอีกด้วย 

ถ้าพร้อมแล้ว มาเนรมิตห้องในบ้านไปกับ TOSTEM ด้วยกันเลย

จัดสีห้องอย่างไรให้ลงตัว ?

ใช้เทรนด์สีธรรมชาติทั้งห้อง

สีธรรมชาติ เป็นเทรนด์ที่รับความนิยมในการตกแต่งห้องเป็นอย่างมาก เพราะทำให้บรรยากาศภายในดูอบอุ่น ผ่อนคลาย และสีธรรมชาติยังเป็นสีที่สามารถเข้ากับเฟอร์นิเจอร์ และเฉดสีต่างๆ ในห้องได้ง่าย ซึ่งโทนสีธรรมชาติ มีทั้ง สีน้ำตาล สีขาว สีครีม เป็นต้น  

จัดสีห้องอย่างไรให้ลงตัว ?

ทั้งนี้หากเราต้องการเพิ่มกลิ่นอายธรรมชาติให้กับพื้นที่ สามารถเลือกประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมที่มีลวดลายดูเป็นธรรมชาติ อย่างลวดลายไม้ หรือโทนสี Natural Silver ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มให้พื้นที่มีเสน่ห์น่าค้นหา และให้ฟีลธรรมชาติโดยไม่ต้องใช้วัสดุไม้ที่มีราคาสูง ดูแลรักษายากกว่าอะลูมิเนียม

จัดสีห้องโทนสว่างช่วยเปลี่ยนขนาดห้อง
สีขาว เป็นสีสว่าง และตามหลักจิตวิทยาเป็นสีที่ให้ความรู้สึกสงบสุข เรียบง่าย จึงไม่แปลกที่นักออกแบบทั้งมือเก่า มือเก๋า นิยมหยิบสีขาวมาใช้เป็นสีในการแต่งห้อง ซึ่งจะทำให้ห้องดูกว้าง ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง ไม่อึดอัด และทำให้ห้องมีความสว่าง ช่วยให้การมองเห็นภายในห้องของเราดีขึ้น ที่สำคัญสีขาวใช้ได้กับทุกห้อง ทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ฯลฯ  

สีโทนสว่างมีด้วยกันหลายเฉด ซึ่งสามารถเลือกใช้สีขาวครีม สีขาวไข่ สีขาวนวล  หรือเลือกตกแต่งโทนสีพาสเทล สีเบจ ก็ช่วยสร้างบรรยากาศละมุนขึ้นไปได้อีกสเต็ป ทั้งยังสามารถเข้ากับเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย และทำให้ห้องดูกว้างขวางสบายตาขึ้นได้แบบไม่ต้องกลัวห้องจะหลุดโทน

เทคนิคไล่โทนสีเข้ม ให้ห้องคอมพลีทลุคในแบบหรูหรา


การเพิ่มระดับความเข้ม เป็นอีกหนึ่งไอเดียการจัดสีห้องให้ทันสมัย ดูเท่ เรียบหรูไม่ซ้ำใคร อย่างเช่น การเลือกไล่เฉดสีเทาคู่กับสีเทาที่เข้มขึ้นไปอีกเฉด หรือจะเป็นโทนสีน้ำตาลเข้มจับคู่กับสีดำ ก็สามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดี ซึ่งการไล่เฉดสีเข้มจะช่วยเพิ่มเลเยอร์ของห้องให้ดูมิติมากยิ่งขึ้น และเสริมให้ห้องไม่ดูทึบตัน

จัดสีห้องอย่างไรให้ลงตัว ?

แต่ข้อควรคำนึง คือจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในตำแหน่งที่อากาศหมุนเวียนได้ดี หรือเลือกใช้กรอบบานหน้าต่าง TOSTEM เพื่อป้องกันอากาศรั่วไหล ช่วยให้ห้องไม่ร้อน เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของ TOSTEM มีการทดสอบคุณภาพอย่างละเอียดและเข้มงวดตามมาตรฐานในระดับสากล อย่าง JIS (Japanese Industrial Standard) และ ASTM (American Society for Testing and Materials) ตั้งแต่ ป้องกันน้ำฝนรั่วซึม, ต้านทานแรงลม, ป้องกันอากาศรั่วไหล, ป้องกันเสียง, ทนทานต่อสภาพอากาศทั้งความร้อน แสงแดด และรังสียูวี, ทนทานต่อการกัดกร่อนจากกรดและด่าง และทนทานต่อการเปิด-ปิด

จัดสีห้องอย่างไรให้ลงตัว ?

สำหรับใครที่ไม่อยากให้ห้องดูเข้มจนเกินไป ก็สามารถแมทช์สีเองตามทฤษฎี 60-30-10 จะช่วยให้การตกแต่งห้องมีมิติและเพิ่มลูกเล่นที่แปลกใหม่ ด้วยการเลือกใช้สีหลักใน 60% ของห้อง ต่อด้วยอีก 30% เลือกเป็นสีโทนเข้มกว่า และ 10% แบ่งให้กับส่วนที่เหลือในห้อง เช่น บัวผนัง กรอบประตู หน้าต่าง หรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ในห้อง 

จัดสีห้องอย่างไรให้ลงตัว ?

มากกว่าการเลือกสีให้กับห้อง การเลือกประตูหน้าต่างก็เป็นหนึ่งปัจจัยที่ส่งเสริมให้ห้องสวยเนี้ยบขึ้นมาได้ เช่นเดียวกับความหลากหลายและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ TOSTEM ที่ปัจจุบันมีสีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ NATURAL WHITE, NATURAL SILVER, SHINE GRAY, AUTUMN BROWN, DUSK GRAY และ NATURAL BLACK เข้าได้กับห้องทุกเฉดสี มาพร้อมคุณสมบัติอะโนไดซ์ (Anodized) ที่ทำให้สีติดทนยาวนาน ช่วยยืดอายุของการใช้งานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 

หนึ่งในนวัตกรรมจดสิทธิบัตรของผลิตภัณฑ์ TOSTEM คือ กระบวนการชุบสีด้วยประจุไฟฟ้า พร้อมชั้นเคลือบพิเศษ TEXGUARD ซึ่งมีข้อดีคือทำให้สีอะลูมิเนียมดูสวยงามอย่างมีมิติ ผิวสัมผัสเรียบเนียน คงทนต่อการใช้งานจริงทุกสภาพอากาศ อีกทั้งยังคงทนต่อรังสี UV และน้ำฝนที่เป็นสาเหตุให้สีซีดจาง ตอบโจทย์ทั้งดีไซน์และฟังก์ชันการอยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ

สำหรับผู้สนใจผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม แบรนด์ TOSTEM ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

 ข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติม

เปลี่ยนบรรยากาศบ้านให้น่าอยู่

เปลี่ยนบ้านให้ ‘น่าอยู่’ ใส่ใจทั้งกลางวันและกลางคืน

ทุกวันนี้รูปแบบการทำงานได้เปลี่ยนไปแล้ว เทรนด์การทำงานจากที่บ้านหรือ Work from Home ถูกให้ความสนใจมากขึ้น แม้บางคนอาจมองว่าเป็นรูปแบบการทำงานที่ไม่ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของตนเอง แต่ก็มีกลุ่มคนจำนวนไม่น้อยที่พบว่าการทำงานที่บ้าน ให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าการทำงานในออฟฟิศเสียอีก จึงทำให้บางบริษัทได้มีการออกนโยบายให้เป็น Hybrid Office ที่มีทั้งการทำงานจากที่บ้านและออฟฟิศสลับกัน ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงหันมาให้ความสนใจกับการจัดแต่งมุมทำงานในบ้านมากยิ่งขึ้น หรืออาจถึงขั้นรีโนเวทกันใหม่เลยทีเดียว สำหรับใครที่กำลังหาแรงบันดาลใจในการออกแบบ วันนี้ TOSTEM ขอนำเสนอ4 ไอเดียที่จะเปลี่ยนมุมทำงานอันแสนจำเจ ให้กลายเป็นมุมทำงานที่เพิ่มพลัง Productive ในทุก ๆ วันมาฝากกัน 

เปลี่ยนบรรยากาศบ้านให้น่าอยู่

1. จัดขนาดพื้นที่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่มุมไหนๆ ของบ้าน ‘ฟังก์ชันที่ดี’ ย่อมต้องมีคู่บ้านเสมอ เช่นเดียวกันกับห้องทำงาน ที่ต้องมีการแบ่งพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วน และเหมาะสมกับการใช้งานของเรา ดังนั้นก่อนจะลงมือจัดมุม Work from Home ให้น่าทำงาน เราควรรู้ก่อนว่างานของเราต้องใช้อุปกรณ์หรือเฟอร์นิเจอร์อะไร และสิ่งของเหล่านั้นมีขนาดเท่าไหร่บ้าง เพื่อที่จะนำมาออกแบบพื้นที่แต่ละมุมให้ใช้งานง่าย จัดเก็บสะดวก และตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งานในทุก ๆ วัน อีกทั้งยังช่วยลดการใช้พื้นที่อย่างสิ้นเปลืองอีกเช่นกัน ซึ่งในทางจิตวิทยา หากเราใช้เวลาในห้องที่มีขนาดแคบ กว้าง สูง หรือเตี้ยเกินไป สามารถส่งผลต่อสภาพจิตใจเราให้เกิดพลังลบได้ในขณะเดียวกัน 

เมื่อมีการจัดขนาดพื้นที่อย่างเหมาะสมแล้ว เราก็ต้องเลือกเฟอร์นิเจอร์อย่าง โต๊ะ เก้าอี้ และตู้วางของ ให้มีขนาดที่สมดุลกับสรีระของเราเช่นกัน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึง และลดการเกิดภาวะออฟฟิศซินโดรม ที่นำไปสู่อาการปวดกล้ามเนื้อในวัยทำงาน อย่างที่หลายคนกำลังประสบปัญหานั่นเอง 

2. เปิดรับและปรับระดับแสงสว่างให้เพียงพอ

เราคงเคยได้ยินบ่อย ๆ ว่าหากจ้องจอนานจะทำให้สายตาเสีย ทว่าสายตาเสียในที่นี้ไม่ได้หมายถึงสายตาสั้นหรือยาว แต่กล่าวถึง ‘อาการตาล้า’ ที่เกิดจากการใช้งานสายตาหนักเป็นเวลานานในห้องที่มีแสงสว่างที่ไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะมืดหรือสว่างเกินไป หากปล่อยให้เผชิญกับอาการตาล้าบ่อย ๆ อาจนำมาสู่การเกิดโรคทางดวงตาอย่างรุนแรงได้ในระยะยาว ดังนั้นเราจึงต้องจัดเตรียมแสงสว่างให้เพียงพอทั้งในช่วงเวลากลางวันและกลางคืน 

โดยแสงไฟส่องสว่างที่เหมาะสมสำหรับห้องทำงาน จะอยู่ที่ประมาณ 400 – 600 ลักซ์ และควรใช้แสงสี Daylight หรือ Cool white เพื่อการมองเห็นที่ชัดเจน สบายตา และสร้างความรู้สึกกระตือตือร้นในการทำงานได้ดี ทั้งนี้ควรติดตั้งแสงไฟทั้ง ‘ไฟบริเวณ’ ซึ่งทำหน้าที่ให้แสงสว่างทั่วห้อง เน้นอำนวยความสะดวกในการใช้งานทั่วไป และ ‘ไฟเฉพาะจุด’ อย่างโคมไฟบนโต๊ะทำงาน เพื่อปรับระดับแสงสว่างให้ตอบโจทย์กับการทำงานยิ่งขึ้น 

สำหรับในช่วงกลางวันนั้น ‘แสงธรรมชาติ’ ถือเป็นหัวใจสำคัญในการทำงาน ที่นอกจากจะส่งผลดีต่อสายตาแล้ว ยังส่งผลดีต่อใจของเราอีกเช่นกัน เพราะในเชิงจิตวิทยา แสงธรรมชาติสามารถส่งผลให้สมองปลอดโปร่ง ช่วยผ่อนคลายความเครียด ทั้งยังกระตุ้นให้สมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ หากสังเกตจะพบว่าห้องที่ดูน่าทำงาน ส่วนใหญ่มักจะมีหน้าต่างบานกว้าง หรือมีหน้าต่างหลายด้านเสมอ แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องระวังภัยเงียบที่แฝงมากับแสงธรรมชาติ อย่างความร้อนและรังสียูวีด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงควรเลือกใช้หน้าต่างที่มีบานกรอบหนาแน่น ลดการรั่วไหลของอุณหภูมิ ประกอบกับกระจกที่มีความหนาเพียงพอ อย่างกระจกลามิเนตหรือกระจกอินซูเลท เพื่อปกป้องตัวเราจากรังสียูวี และช่วยประหยัดพลังงาน ลดการสะสมความร้อนภายในห้อง 

3. รักษาความสะอาด ลดการสะสมของฝุ่นและความอับชื้น

ในช่วงเวลาทำงานหลายคนมักเปิดเครื่องปรับอากาศเป็นประจำ จึงทำให้เกิดความอับชื้นและเชื้อราสะสมภายในห้องได้ง่าย โดยเฉพาะห้องทำงานที่เก็บหนังสือหรือเอกสารกองโต ซึ่งหากปล่อยไว้นานอาจส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจได้ ดังนั้นเราจึงควรเปิดรับอากาศธรรมชาติให้เข้ามาถ่ายเทบ้างเป็นบางครั้ง แต่ในขณะเดียวกันก็อย่าลืมระมัดระวังฝุ่นละออง ที่มักปลิวมาตามลม หรืออาจเล็ดลอดผ่านรอยต่อระหว่างบานกรอบประตู-หน้าต่าง 

ด้วยเหตุนี้บานกรอบประตู-หน้าต่างของ TOSTEM จึงถูกออกแบบกลไกภายในบานกรอบ ทั้งอุปกรณ์ล็อกมุมต่างๆ และซีลยางขอบประตู-หน้าต่าง ให้สามารถปิดล็อกได้อย่างแนบสนิท ไร้กังวลเรื่องฝุ่น PM 2.5 ละอองเกสร และมลภาวะทางอากาศต่างๆ  สำหรับใครที่กังวลเรื่องแมลงในระหว่างเปิดประตู-หน้าต่าง ก็สามารถติดตั้งมุ้งลวดเพิ่มเติมได้ ซึ่งมุ้งลวดของ TOSTEM นั้น ถูกออกแบบให้มีดีไซน์ทันสมัย ใช้งานง่าย เข้ากับบานกรอบประตู-หน้าต่างอย่างลงตัว โดยเฉพาะในรุ่น ATIS ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีมุ้งกันแมลงล่องหน ซึ่งผลิตจากเส้นตาข่ายที่มีขนาดเล็กกว่าเส้นไนลอนขนาดทั่วไปถึง 40% ทำให้สามารถมองเห็นวิวข้างนอกได้ชัดเจนขึ้น ทั้งยังช่วยป้องกันฝุ่น แมลง และปล่อยให้ลมสามารถลอดผ่านเข้ามาได้ดีกว่าเดิม

4. เพิ่มความสดชื่น มีชีวิตชีวา ด้วยสีเขียวจากต้นไม้

การพักสายตาหันไปมองธรรมชาติรอบตัว เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยผ่อนคลายจิตใจจากความเครียดได้ดี และการปลูกต้นไม้ภายในห้องทำงาน อาจมีประโยชน์มากกว่าที่เราคาดคิด เพราะต้นไม้บางชนิดมีคุณสมบัติช่วยดักจับฝุ่นและสารพิษในอากาศ หรือสามารถฟอกอากาศให้สะอาด สดชื่น ด้วยการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ อย่างต้นยางอินเดีย, เขียวหมื่นปี, เดหลี, ฟิโลเดนดรอน หรือลิ้นมังกร เป็นต้น โดยพืชเหล่านี้มักมีรูปทรงสวยงาม และชอบแสงแดดรำไร จึงเหมาะกับการประดับตกแต่งภายในบ้านเป็นอย่างยิ่ง 

การจะเลือกชนิดต้นไม้มาปลูกภายในห้องทำงานนั้น เราควรคำนึงถึงพื้นที่ว่างภายในห้องเป็นอย่างแรก หากห้องทำงานมีพื้นที่ไม่เพียงพอกับการวางกระถางบนพื้น อาจต้องหันมาเลือกไม้กระถางที่มีขนาดเล็ก หรือไม้แขวนประดับแทน เช่น ต้นเศรษฐีเรือนใน, พลูด่าง, เฟิร์นบอสตัน, ว่านหางจระเข้ เป็นต้น ที่สำคัญแม้ต้นไม้เหล่านี้จะต้องการแสงแดดน้อย แต่ก็ควรปลูกในจุดที่ลมถ่ายเทสะดวก และโดนแสงแดดอ่อนๆ บ้าง เพื่อให้ต้นไม้มีสุขภาพดี สามารถเจริญเติบอย่างสวยงาม หรือหากต้องการต้นไม้ใบสวยที่ไม่ง้อแดด ที่เน้นการดูแลรักษาได้ง่ายเหมาะกับไลฟ์สไตล์ก็จะยิ่งเหมาะสม หรือหากเลือกปลูกต้นไม้ที่สามารถช่วยฟอกอากาศได้ ก็จะช่วยให้บรรยากาศรวมถึงอากาศในห้องทำงานสดชื่นขึ้นอีกด้วย

จาก 4 ไอเดียที่เราแนะนำมานี้ จะสังเกตได้ว่าการไหลเวียนของแสงและอากาศเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้บรรยากาศภายในห้องทำงานน่าอยู่สบาย การเลือกประตู-หน้าต่างที่มีคุณภาพสูง จึงเปรียบเสมือนเป็นเกราะป้องกันอันแข็งแกร่ง ที่ช่วยปกป้องเสียงและอุณหภูมิจากภายใน แต่ยังเปิดวิวทิวทัศน์ให้เราสามารถใช้ชีวิตและ Work from Home ได้อย่างสบายกายสบายใจ ซึ่งผลิตภัณฑ์ประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมจาก TOSTEM ทุกชิ้นล้วนผ่านกระบวนการผลิตและการทดสอบประสิทธิภาพอย่างเข้มงวด ตามมาตรฐานการผลิตจากญี่ปุ่นควบคู่กับมาตรฐานจากอเมริกา จนได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานมายาวนานตลอด 100 ปี

5 แนวคิดที่นำมาสู่ดีไซน์สุดโดดเด่นของประตูหน้าต่าง TOSTEM

สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมจากแบรนด์ TOSTEM สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลย