Tag: ประตู

TOSTEM X Malton Gates Krungthep Kreetha ประตูสู่คุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

TOSTEM X Malton Gates Krungthep Kreetha 
ประตูสู่คุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

TOSTEM X Malton Gates Krungthep Kreetha
เติมเต็มทุกมิติการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน

แม้ว่าปัจจุบันทุกคนต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ทั้งสถานการณ์โควิด 19 หรือสภาวะมลพิษทางอากาศที่มีผลต่อคุณภาพชีวิต แต่ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มธุรกิจเฮ้าส์ซิ่งเดินหน้าออกแบบที่อยู่อาศัย เพื่อตอบสนองทุกรายละเอียดแห่งคุณค่าใหม่ของชีวิต มอบสถานที่แห่งความทรงจำ ที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวได้เติบโตอย่างมีความสุขไปได้นานแสนนาน

TOSTEM X MALTON GATES Krungthep Kreetha ประตูสู่คุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

บทความนี้ เราขอพาไปเจาะลึกการออกแบบโครงการบ้านจัดสรร ในแง่มุมของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ MAJOR DEVELOPMENT กับคุณจินดาภา จงสฤษดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาโครงการ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ และ คุณวิชา วรสายัณห์ ผู้บริหาร จากบริษัท บริษัท แอล เอช ที เอเซีย เซลส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด แบรนด์  TOSTEM ว่ามีสิ่งสำคัญอะไรบ้างที่ต้องคำนึงถึงทั้งในบทบาทผู้ออกแบบและผู้ดูแลโครงการทั้งหมดตั้งแต่ต้น ภายใต้โครงการ Malton Gates Krungthep Kreetha บนคอนเซปท์ “The Gates to Well- living” บ้านที่เป็นเสมือนประตูสู่ความเป็นอยู่ที่ดีอย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมยกระดับคุณค่าการใช้ชีวิตแบบยั่งยืน

สรรสร้างรายละเอียดบนคุณค่าใหม่แห่งการใช้ชีวิต “ Crafting Lifescape to Excellence”

“ในทุกโครงการของ MAJOR DEVELOPMENT เราจะเน้นเรื่องคุณภาพมาเป็นอันดับหนึ่ง พิถีพิถันในการเลือกวัสดุคุณภาพให้ใช้ได้นาน คุ้มค่า และคุณภาพที่ดี ต้องดีจากข้างใน ดีจากการออกแบบ ฟังก์ชัน และวัสดุ เพราะฉะนั้นการคัดเลือกวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่จะนำมาใช้ในโครงการจึงต้องผ่านหลักเกณฑ์ตามมาตรฐาน MAJOR CRAFT & QUALITY ไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่จัดเตรียมให้ในโครงการ ที่ส่งเสริมเรื่อง Well-being ยกระดับคุณภาพความเป็นอยู่ที่ดี” คุณจินดาภา เริ่มต้นเล่าถึงสิ่งที่เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ มุ่งมั่นสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่ตอบสนองทุกรายละเอียดของชีวิต

ไปจนถึงโครงการยังคำนึงถึงการออกแบบเพื่อสุขภาวะที่ดี ตอบโจทย์ชีวิตได้ครอบคลุม 6 มิติ

  • The Gates to Well Design การออกแบบสง่างามเหนือกาลเวลา รองรับการใช้ชีวิตของคนทุกวัย 
  • The Gates to Well Community สังคมดี มอบความเป็นส่วนตัวและสังคมคุณภาพ 
  • The Gates to Well Rest พักผ่อนดี คัดสรรโซลูชันเพื่อสุขภาวะที่ดี อาทิ ระบบบ้านปลอดฝุ่น PM2.5 
  • The Gates to Well Essence สิ่งแวดล้อมที่ดี ผ่อนคลายด้วยสวนสีเขียวขนาดใหญ่ และผนึกปัญญ์ปุริ (PAÑPURI) มอบสุนทรียภาพในการอยู่อาศัย
  • The Gates to Well Health ดูแลสุขภาพลูกบ้านแบบ Preventive มอบชุดตรวจสุขภาพทางไกล TytoCare และแอปพลิเคชันติดตามสุขภาพ EngageCare ภายใต้การดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยววชาญ รพ.สมิติเวช
  • The Gates to Well Service บริการเหนือระดับจาก Major Concierge คอยช่วยอำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง

ทั้งหมดได้สะท้อนการสร้างสังคมแห่งคุณภาพ และให้ความสำคัญกับสุขภาพของผู้อยู่อาศัยทั้งกายและใจได้มีความสุขอย่างยืนยาว ดังนั้นจึงใส่ใจการออกแบบทุกพื้นที่ ทั้งตัวบ้าน พื้นที่ส่วนกลาง ภูมิทัศน์รอบๆ รวมทั้งยังใส่ใจไปถึงการเลือกวัสดุทุกองค์ประกอบอย่างเข้มงวด

โครงการ Malton Gates Krungthep Kreetha เราออกแบบมาเพื่อรองรับครอบครัวขนาดใหญ่อยู่อาศัยได้หลายเจนเนอเรชัน รวมถึงคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย อย่างภายใน เน้นการออกแบบในรูปแบบดับเบิ้ลสเปซ สร้างบรรยากาศที่โปร่งโล่ง และมองออกไปที่คอร์ตข้างนอกได้ บ้านทุกหลังที่นี่เป็นลักษณะรูปตัว C มีคอร์ตเอาต์ดอร์ตรงกลางที่หันไปทางข้างบ้าน ทำให้มีพื้นที่สีเขียวที่เป็นส่วนตัว และยังใส่ใจไปถึงการเลือกต้นไม้ในโครงการ อาทิ ต้นสนหรือแม้แต่ไม้พุ่มก็จะเป็นสนใบพาย ก็จะทำให้บรรยากาศของที่นี่มีความโมเดิร์นร่วมสมัย ดูเป็น Timeless Design จะดูตอนไหนก็ไม่เบื่อ ทั้งสวยงามและก็ช่วยกรองมลพิษไปในตัว”

ใส่ใจในทุกรายละเอียด สร้างคุณภาพ รักษามาตรฐานสูงสุด

เพราะ MAJOR DEVELOPMENT ไม่ประนีประนอมให้กับรายละเอียดแม้เพียงจุดเล็กน้อย จึงพิถีพิถันในการเลือกวัสดุคุณภาพ ตอบโจทย์ในแง่ดีไซน์ สวยงาม ฟังก์ชันการใช้งาน และต้องดูแลรักษาง่ายด้วย โดยเลือกใช้ประตู หน้าต่างของ TOSTEM ในเครือของ LIXIL บริษัทวัสดุและผลิตภัณฑ์ก่อสร้างบ้านชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น แบรนด์ระดับแนวหน้าในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ สำหรับอาคารที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและอาคารสูง ที่มีชื่อเสียงในวงการมานานถึง 100 ปี  ผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐาน ทั้งระดับสากลและจากญี่ปุ่น

คุณจินดาภา อธิบายถึงจุดเด่นการออกแบบบ้านในโครงการ  Malton Gates Krungthep Kreetha ที่ตั้งใจมอบความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย  ไม่ว่าจะเป็นแง่ของการเชื่อมพื้นที่ การรับรู้ด้านการมองเห็น หรือป้องกันเสียงรบกวน “ซึ่งคุณสมบัติของกรอบประตู-หน้าต่าง TOSTEM  สามารถกันเสียงรบกวนได้เป็นอย่างดี ทำให้บ้านกลายเป็นพื้นที่ส่วนตัว ไร้กังวลของผู้อยู่อาศัย และอีกองค์ประกอบสำคัญ ก็คือความปลอดภัย อาทิ ประตู มีการกรุยางรอบตัววงกบ ป้องกันอุบัติเหตุประตูหนีบมือ  มีระบบล็อกป้องกันการงัดแงะ และมีความสวยงามแบบเรียบหรู ตอบโจทย์กับบ้านสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก”

เบื้องหลังการร่วมงานกันระหว่าง  MAJOR DEVELOPMENT และ TOSTEM คุณวิชา เล่าให้ฟังว่าจากจุดประสงค์ของโครงการ ที่ต้องการให้ดีไซน์สะท้อนถึงการอยู่อาศัยที่มีรสนิยม สะท้อนความภาคภูมิใจในชีวิตของลูกบ้าน จึงนำมาสู่การออกแบบสไตล์ Modern Classic ที่ผสานกลิ่นอายความเป็นอังกฤษ โทนสีจึงออกมาเป็นสีเรียบง่ายดำขาว จึงได้เลือกใช้หน้าต่างเป็นวัสดุอะลูมิเนียมสีดำ เพื่อให้ตัดกับตัวผนังสีขาว รวมทั้งสินค้าประตูหน้าบ้านรุ่น GIESTA และ AIRFLOW Door ที่มีความเรียบง่ายและสวยงาม เข้ากับบ้านสไตล์โมเดิร์นได้เป็นอย่างดี

“ที่สำคัญวัสดุอลูมิเนียมของ TOSTEM ตรงกับคอนเซปต์ของโครงการ Malton Gates Krungthep Kreetha ที่คงความสวยงามเหนือกาลเวลา เนื่องจากใช้เทคโนโลยีการชุบสีอะโนไดซ์ (Anodized) คือการนำเส้นอะลูมิเนียมลงชุบด้วยกระแสไฟฟ้า  แล้วจึงเข้ากระบวนการอบผิวเพื่อความทนทานต่อทุกสภาวะอากาศ และช่วยให้บ้านสวยงามมากยิ่งขึ้น”

เติมเต็มชีวิต Well-living ให้กับลูกบ้านทุกคน

คุณวิชา เล่าถึงคุณสมบัติ GIESTA ผลิตภัณฑ์ประตูเหล็กลายไม้คุณภาพสูง ติดตั้งระบบมือจับที่ใช้งานง่าย พร้อมระบบล็อคนิรภัยที่แน่นหนา ให้ความสะดวกสบายกับผู้ใช้งานทุกคนและ AIRFLOW Door ผลิตภัณฑ์ที่ถูกดีไซน์ เพื่อสร้างการระบายอากาศด้วยตัวบานเลื่อนแนวตั้งขนาดใหญ่ แม้ในเวลาที่ปิดล็อกประตูอยู่ ทำให้มั่นใจได้ในด้านความปลอดภัย  ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมทั้งช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ Well-living ในทุกๆ วัน

“ประตูหน้าบ้านรุ่น GIESTA สี Turin Pine เป็นบานสูงโปร่ง ดีไซน์ที่มาพร้อมช่องกระจก สามารถรับแสงธรรมชาติได้ ช่วยให้พื้นที่ในบ้านดูสว่างมากขึ้น ถ้าดูจากภายนอก ประตูรุ่นนี้จะดูเหมือนเป็นวัสดุไม้เข้ากับบ้านสไตล์อังกฤษของโครงการ แต่จริงๆ ตัววัสดุเป็นแผ่นเหล็ก หุ้มด้วยแผ่นเรซินลายไม้ Resin Laminated Sheet ด้านในบุโฟม อีพีเอส Expanded Polystyrene เป็นโฟมที่ไม่ลามไฟ คุณสมบัติป้องกันการถ่ายเทความร้อน ทำให้บ้านเย็นขึ้น”

TOSTEM X MALTON GATES Krungthep Kreetha ประตูสู่คุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
ประตูรุ่น GIESTA

ผลิตภัณฑ์ TOSTEM ตอบโจทย์กับทางคอนเซปต์หลัก The Gate to Well-living ของทางมอลตัน เกทส์ กับคำว่า The Gates to Well Design (ออกแบบดี) โดยยึด Universal Design เป็นหลักการออกแบบเพื่อให้ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านั้นได้อย่างเต็มที่และเท่าเทียมกัน รองรับทุกขนาดของครอบครัว รวมถึงเมื่อครอบครัวขยายใหญ่ เพราะฉะนั้นลักษณะการเปิดปิดประตูหน้าต่าง จะต้องมีดีไซน์ที่ไม่ว่าเด็กหรือผู้สูงอายุ สามารถที่จะเปิดปิดได้ง่าย

“และอีกสิ่งที่เราตอบโจทย์ก็คือ The Gates to The Rest (พักผ่อนดี) ที่เราต้องการบ้านที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ซึ่งในส่วนห้องครัวเป็นพื้นที่ที่ลูกบ้านไว้ทำอาหารหรือรับประทาน ทำให้อาจมีกลิ่นอบอวลอยู่ในนั้น TOSTEM จึงนำเสนอตัวประตูตัวหนึ่งในห้องครัวเรียกว่าประตูรุ่น AIRFLOW Door ที่มีกลไกสำหรับเปิดเป็นช่องว่างให้อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวก โดยที่ไม่จำเป็นต้องเปิดบานประตูหรือหน้าต่าง ลมจากภายนอกจะพัดเข้ามาและออกไปตามทิศทางลม ช่วยให้ระบายความร้อน ทำให้บ้านเย็นสบาย”

AIRFLOW DOOR

มากกว่านั้น ประตูและหน้าต่างบานเลื่อนของ TOSTEM ทุกบาน จะมีตัวล็อกตรงกลาง ทำให้บานเลื่อนบีบเข้าหากันแน่นหนา หมดห่วงเรื่องผู้บุกรุก พร้อมตัวล็อกหน้าต่างแบบ Multi-lock ล็อก 2 จุด ได้ทั้งเรื่องความปลอดภัยและยังสามารถกั้นเสียงและกันฝุ่นเนื่องจากมีตัวยางหุ้มรอบด้าน

มาตรฐานพื้นที่อยู่อาศัยที่ยั่งยืน ตอบโจทย์ทั้งผู้ออกแบบและผู้อยู่อาศัย

ด้วยความที่ MAJOR DEVELOPMENT ไม่ได้จบกระบวนการทำงานในวันที่คุณซื้อบ้าน แต่คำนึงถึงทุกๆ ประสบการณ์ที่ดีที่สุด เพื่อมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับผู้เป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่เจนเนอเรชัน บ้านต้องดีและอยู่คู่กับผู้อาศัยได้อย่างยั่งยืน ตอบโจทย์ทั้งดีไซน์และฟังก์ชัน ซึ่งการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ TOSTEM เป็นอีกการการันตีในระดับพรีเมียม ที่มอบให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตในบ้านอย่างอุ่นใจไร้ความกังวล ผ่านความงามจากวัสดุดีมีคุณภาพสูงในการสร้างบ้าน

v

“อย่างจุดเด่นที่นี่ตั้งใจนำเสนอคือเน้นการเปิดช่องแสงเพื่อสร้างความโปร่งโล่งสบายให้กับตัวบ้าน ซึ่งสินค้าของ TOSTEM มีขนาดประตู-หน้าต่างตามดีไซน์และคุณภาพที่ต้องการ” คุณจินดาภาอธิบายข้อดีของการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานระดับสากล ว่าช่วยส่งเสริมความน่าเชื่อถือในฝั่งเจ้าของโครงการ ทั้งยังสะดวกต่อการติดตั้ง ทำให้การก่อสร้างเป็นไปอย่างราบรื่น

TOSTEM X MALTON GATES Krungthep Kreetha ประตูสู่คุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

ส่วนทาง TOSTEM กล่าวว่าในระยะหลังๆ ผู้อยู่อาศัยหรือเจ้าของบ้านเริ่มให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัสดุและประตู หน้าต่างมากขึ้น เพราะการเลือกประตู หน้าต่างคุณภาพดี ทำให้ใช้ชีวิตอย่างไร้กังวลว่าน้ำจะรั่วซึมหรือระบบล็อก ที่ได้มาตรฐานและจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการอยู่อาศัยและด้วยความใส่ใจผู้บริโภคในทุกรายละเอียด TOSTEM จึงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม เพื่อการอยู่อาศัยที่ดีกว่าให้มากที่สุด รวมถึงปรับให้สอดรับกับการใช้งานของคนไทย

“อย่างตัวโครงการนี้ทำโถงที่ค่อนข้างสูง และในเชิงเทคนิคการที่จะทำประตูหน้าต่างสูงๆ ต้องออกแบบให้รับน้ำหนักกระจกได้ เปิดปิดได้ง่ายต่อการใช้งาน และต้องสอดรับกันการออกแบบที่สวยงาม ซึ่ง TOSTEM เองมีระบบที่เรียกว่า Pre – Engineering คำนวณและทดสอบสินค้า เหมือนกับบริษัทที่ญี่ปุ่น ฉะนั้นไม่ว่าจะแง่ของเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เองหรือผู้อยู่อาศัยหรือเจ้าของบ้านการเลือกวัสดุประตูหน้าบ้าน ต้องตอบโจทย์ทั้งเรื่องของฟังกชันและความสวยงามด้วย เพื่อมอบความมั่นใจให้แก่ผู้อยู่อาศัย และสะท้อนแนวคิดการออกแบบสไตล์ Modern Luxury ของโครงการ”

TOSTEM X MALTON GATES Krungthep Kreetha ประตูสู่คุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน

แน่นอนว่าคุณภาพของวัสดุที่นำมาใช้ในโครงการบ้านจัดสรร ย่อมส่งผลโดยตรงกับอาคาร ซึ่งหากคัดสรรวัสดุที่ดีมีคุณภาพ ก็จะยิ่งส่งเสริมให้การสร้างสรรค์ก่อสร้างโครงการเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ ขณะเดียวกันการเลือกวัสดุที่มีคุณภาพ ยังส่งผลต่อดีเฉพาะต่อผู้อยู่อาศัย รวมถึงยังสามารถส่งเสริมความน่าเชื่อถือของผู้สร้างและผู้ออกแบบได้อีกด้วย

สำหรับผู้สนใจ สามารถดูรายละเอียดโครงการ Malton Gates Krungthep Kreetha เพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3LuLChy หรือสนใจผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม แบรนด์ TOSTEM ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://tostemthailand.com/ และสามารถชมอี-แคตตาล็อก ได้ที่ https://bit.ly/42fSFAE หรือสอบถามข้อมูลสินค้าได้ที่ TOSTEM Thailand  

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?

ทุกวันนี้การเลือกหน้าต่างอะลูมิเนียมให้กับบ้านหรืออาคาร ไม่ได้เน้นเพียงแค่เรื่องของฟังก์ชันการใช้งานเท่านั้น แต่ยังใส่ใจไปถึงเรื่องรูปลักษณ์หน้าตา รวมถึงสีสันที่ต้องมาควบคู่กันไปด้วย เพราะสีสันก็เป็นอีกสิ่งที่ช่วยส่งเสริมให้ภาพจำของตัวบ้านมีความสวยงามโดดเด่นมากยิ่งขึ้น เราจึงอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับนวัตกรรมการทำสี 4 รูปแบบ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม ให้เลือกกันดูว่า การทำสีแบบไหนจะตอบโจทย์และเหมาะสมลงตัวกับหน้าต่างของคุณมากที่สุด 

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?
สีลายไม้ ให้ผิวสัมผัสธรรมชาติ

‘เทรนด์สีธรรมชาติ’ ถือเป็นเทรนด์ที่กำลังเป็นที่นิยมในบ้านเราเป็นอย่างมาก สำหรับการนำมาใช้ตกแต่งภายในบ้าน เพราะทำให้บรรยากาศภายในดูอบอุ่น และผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าหากเราต้องการเพิ่มกลิ่นอายธรรมชาติให้กับอาคารหรือที่อยู่อาศัย ก็สามารถที่จะเลือกหน้าต่างอะลูมิเนียมที่มีลวดลายดูเป็นธรรมชาติอย่างลายไม้ได้เช่นเดียวกัน ผ่านการใช้เทคนิคสีพ่น พร้อมเคลือบด้วยแผ่นฟิล์มลายไม้ หลังจากนั้นจึงอบอะลูมิเนียมด้วยความร้อนเป็นขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งเทคนิคนี้เรายังสามารถเลือกลายไม้ที่ต้องการได้อย่างหลากหลายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นลวดลายอย่างไม้สัก ไม้แดง ไม้มะค่า เป็นต้น นอกจากนี้การใช้อะลูมิเนียมลายไม้ยังสามารถให้ผิวสัมผัสที่คล้ายคลึงกับไม้จริง จนเรียกได้ว่า สามารถทดแทนบานหน้าต่างที่ใช้วัสดุไม้จริง ซึ่งมีราคาสูง ดูแลรักษายากกว่า และไม่แข็งแรงทนทานเท่าอะลูมิเนียม

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?
สีพ่น (Powder Coat) สร้างสรรค์ไอเดียได้หลากหลาย

อุตสาหกรรมในหลายแห่งมักนิยมใช้สีพ่น (Powder Coat) ที่เป็นการใช้สีฝุ่นพ่นลงบนพื้นผิวของอะลูมิเนียม ซึ่งทำให้เราสามารถที่จะเลือกสีสันอะลูมิเนียมได้ตามความต้องการ หรือหากใครมีไอเดียในการออกแบบก็สามารถเพิ่มเติมกิมมิกผิวสัมผัสแบบพิเศษให้กับอะลูมิเนียม เพื่อให้ดูน่าสนใจมากขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น การพ่นแบบซาฮาร่าที่ให้ผิวสัมผัสเหมือนกับเม็ดทราย หรือจะเป็นการพ่นผิวแบบผิวเงา หรือผิวด้านก็สามารถทำได้เช่นกัน

               ซึ่งข้อดีในการใช้สีพ่นคือ ความหลากลายของสี เนื้อสีไม่หลุดร่อนง่าย แถมยังทนทานต่อทุกสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี แต่การเลือกใช้สีพ่นก็ยังมีข้อเสียตรงที่เนื้อสีบนอะลูมิเนียมอาจจะไม่มีมิติมากเท่าไหร่นัก และเมื่อใช้ไปในระยะเวลานานสีอาจจะซีดจางลงได้

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?
สีพ่น (Powder Coat) และอบ ให้สีติดทนนานกว่าเดิม

หากต้องการสีอะลูมิเนียมที่มีความคงทนมากยิ่งขึ้นก็สามารถใช้เทคนิคการพ่นสีอะลูมิเนียม (Powder Coat) และเพิ่มเติมการอบด้วยความร้อนอีกขั้นตอนหนึ่ง ซึ่งนอกจากความคงทนของสีแล้ว ยังให้ให้มิติของสีสันมากกว่าสีพ่นแบบปกติ แถมยังสามารถออกแบบสีสันได้ตามความต้องการได้อีกด้วย แต่ด้วยเทคนิคที่มีความซับซ้อนจึงมีค่าใช้จ่ายในการทำค่อนข้างสูง และไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่นัก

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?
การชุบสี (Anodized) นวัตกรรมที่ทำให้อะลูมิเนียมมีมิติมากยิ่งขึ้น

ด้วยนวัตกรรมด้านสีที่พัฒนาขึ้นทุกวัน อีกรูปแบบของการทำสีอะลูมิเนียมที่น่าสนใจก็คือ การชุบสี (Anodized) ซึ่งมีการใช้เทคโนโลยี Electrolytic Coloring หรือการทำสีด้วยระบบกระแสไฟฟ้าเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต โดยก่อนทำการชุบสีจะนำอะลูมิเนียมไปผ่านกระบวนการทางเคมีไฟฟ้าที่เรียกกว่า อะลูมิเนียมออกไซด์ (Aluminum Oxide) ลงไปบนชั้นผิวอะลูมิเนียมจนเกิดเป็นรูพรุนจำนวนมาก จากนั้นจึงเติมสีแบบโลหะด้วยประจุไฟฟ้าลงไปที่อะลูมิเนียม เนื้อสีจะเข้าไปตามรูพรุนต่างๆ จนเป็นเหมือนชั้นฟิล์มเคลือบอะลูมิเนียม จากนั้นจึงเข้ากระบวนการอบผิวอีกครั้งเพื่อให้สีทนทานมากยิ่งขึ้น
วิธีนี้ช่วยสร้างผลดีให้กับเนื้อสี และตัวอะลูมิเนียม เพราะไม่ทำให้เกิดการผุกร่อน ให้สีสันที่มีมิติสวยงาม ไม่เกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย คงทนต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นอกจากนี้ยังคงทนต่อรังสี UV และน้ำฝนที่เป็นสาเหตุให้สีซีดจาง รวมไปถึงยังคงผิวสัมผัสลื่น และความเรียบเนียน

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?
เลือกใช้เทคนิคสีของหน้าต่างให้เหมาะสม เพื่อบ้านที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด

จะเห็นได้ว่า ทุกวันนี้การทำสีอะลูมิเนียมนั้นมีกระบวนการทำสีที่แตกต่างกัน จึงต้องดูว่าบานหน้าต่างอะลูมิเนียมของเรานำไปใช้ติดตั้งในพื้นที่ส่วนไหน หรือ ต้องการลวดลายและมิติของสีมากน้อยเพียงใด รวมไปถึงเรื่องของงบประมาณด้วย

ซึ่งถ้าต้องการลวดลายที่เป็นธรรมชาติก็แนะนำให้ใช้วิธีการทำสีแบบลายไม้ แต่ถ้าต้องการทำเฉดสีสไตล์โมเดิร์นอย่างเฉดสีเทาจนถึงเฉดสีดำที่มีมิติ แข็งแรงทนทาน ดูแลรักษาง่าย และมีราคาถูก ก็แนะนำให้เลือกการชุบสี (Anodized) เพราะเป็นการเคลือบสีที่ลงลึกไปถึงด้านในของอะลูมิเนียม ที่มีคุณภาพกว่าการทำสีเทคนิควิธีอื่นๆ  

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?
e-Catalog สี DUSK GRAY

ซึ่งทาง TOSTEM ก็มีผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้วิธีชุบสีแบบ Anodized ให้กับกรอบหน้าต่าง ซึ่งให้มิติสีสันที่สวยงาม ไม่เกิดรอยขีดข่วนง่าย แถมยังคงทนต่อทุกสภาพอากาศ อย่าง Dusk Gray สีเทาเข้มเหลือบน้ำเงิน ที่ได้แรงบันดาลใจมาช่วงพระอาทิตย์ตกดินในยามพลบคล่ำของประเทศญี่ปุ่น เป็นการเชื่อมสีสันให้สีของหน้าต่างดูอบอุ่นเช่นเดียวกับเส้นของขอบฟ้าได้อย่างสวยงาม

หากใครที่กำลังวางแผนตกแต่งบ้านหรือสร้างบ้านใหม่ทาง TOSTEM ก็ยังมีหน้าต่างและประตู อะลูมิเนียมดีไซน์ทันสมัยอีกหลากหลายรุ่นให้ได้เลือกสรรกันว่าแบบไหนจะเหมาะสมกับสไตล์บ้านของเรามากกว่ากัน  

TOSTEM ก้าวสู่ศตวรรษถัดไป พร้อมสีใหม่ ‘DUSK GRAY’

TOSTEM ก้าวสู่ศตวรรษถัดไป พร้อมสีใหม่ ‘DUSK GRAY’

จากประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่าหนึ่งศตวรรษ หนึ่งศตวรรษแห่งความมุ่งมั่นตั้งใจ สู่หนึ่งศตวรรษแห่งความเชี่ยวชาญ ก้าวแรกสู่ศตวรรษถัดไป สีใหม่จากทอสเท็ม DUSK GRAY

 

แนะนำสีใหม่ TOSTEM - DUSK GRAY

หนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ทอสเท็มไม่ได้ผลิตแค่เพียงประตูหน้าต่างเท่านั้นเพราะเป้าหมายของเราคือยกระดับคุณภาพของที่อยู่อาศัยให้ดียิ่งขึ้นโดยใช้ความรู้และนวัตกรรมที่เราคิดค้นมาอย่างต่อเนื่อง ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญทำให้เราก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมและเป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับที่อยู่อาศัยเป็นเจ้าแรก

เป็นเวลากว่าหนึ่งศตวรรษแล้วที่ทอสเท็มทุ่มเทให้กับการพัฒนาเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สินค้าของเราทำให้เราก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมและทอสเท็มกำลังมุ่งหน้าสู่ศตวรรษถัดไป พร้อมเปิดตัวสีใหม่ล่าสุดสู่วงการประตูหน้าต่าง สี Dusk Gray

แนะนำสีใหม่ TOSTEM - DUSK GRAY

ความลงตัวระหว่างพื้นผิวเมทาลิกและสีเข้ม การผสมผสานระหว่างพื้นผิวเมทาลิกและสีเข้ม ทอสเท็มให้ความสำคัญกับพื้นผิวของสินค้าเพราะเป็นส่วนที่สร้างความสวยงามให้กับตัวอาคาร โดยใช้เทคนิคการชุบสีอโนไดซ์เป็นชั้นๆ และเคลือบผิวด้วยไฟฟ้าเพื่อให้ได้สี DUSK GRAY ที่มีความทึบแสงและไม่ทำลายเนื้ออะลูมิเนียม

 

แนะนำสีใหม่ TOSTEM - DUSK GRAY

Blends into your lifestyle 

ปัจจุบัน สีเทาเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเนื่องจากเป็นโทนสีที่เหมาะกับเปลือกของอาคาร และสีเทาเป็นสีที่เข้าได้กับเฉดสีที่อ่อนและเข้มกว่า นอกจากนี้ ยังเหมาะกับตัวอาคารดีไซน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมินิมอล โมเดิร์น คอนเทมโพรารี่ หรือดีไซน์ที่มีความซับซ้อน ทอสเท็มจึงเลือกออกสีใหม่เป็นสีเทา Dusk Gray เพื่อตอบสนองเทรนด์นี้โดยเฉพาะ เมื่อนำสินค้าพื้นผิวอะลูมิเนียมมาใช้กับตัวบ้านจะช่วยเพิ่มพื้นผิวที่มีความแตกต่างแต่เข้ากับตัวบ้านและกลมกลืนกับบริเวณโดยรอบได้อย่างลงตัวนอกจากนี้ วัสดุอะลูมิเนียมยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานอีกด้วย

 

ชม e-Catalog สี DUSK GRAY คลิกที่นี่

 

ช่องทางการติดต่อ TOSTEM Thailand

7 สัญญาณ ที่บอกว่าควรเปลี่ยนประตูบ้านบานใหม่

7 สัญญาณ ที่บอกว่าควรเปลี่ยนประตูบ้านบานใหม่

ประตูบ้านคือทางเข้าหลักจากนอกบ้านเข้าสู่ภายในบ้าน จึงเป็นส่วนประกอบภายในบ้านที่จำเป็นจะต้องให้ความสำคัญอยู่เสมอ ตั้งแต่การเลือกประตูที่แข็งแรงทนทานต่อการปิดเปิดใช้งานทุกวัน ความปลอดภัยเพื่อป้องกันการบุกรุกจากนอกบ้าน ไปจนถึงเรื่องความสวยงามตลอดอายุการใช้งาน แล้วเมื่อไหร่ที่เราควรจะเปลี่ยนประตูบ้านบานใหม่ได้แล้ว? คำถามที่ใครหลายคนอาจคาดไม่ถึง เพราะมักจะเปลี่ยนก็ต่อเมื่อเกิดปัญหาเรียบร้อยแล้ว เราจึงชวนคุณมาเช็คสุขภาพประตูบ้าน เพื่อจะได้เปลี่ยนเป็นบานใหม่ก่อนปัญหาจะมาถึง หากพบปัญหาใดปัญหาหนึ่งเกิดขึ้นกับประตูบ้านของคุณแล้วละก็ เตรียมพิจารณาเปลี่ยนประตูบ้านบานใหม่ได้เลย

7 สัญญาณ ที่บอกว่าควรเปลี่ยนประตูบ้านบานใหม่ได้แล้ว

แสงลอดจากกรอบบานประตูไม้

สังเกตรอยต่อระหว่างขอบบานกับวงกบ หากกลางคืนหรือปิดแล้วมีแสงลอดผ่านได้ โดยเฉพาะหากบานประตูบ้านเป็นบานไม้ แสดงว่าประตูไม้เกิดการหดตัว อาจจะเนื่องจากการใช้งานมาอย่างยาวนาน หรือการเตรียมไม้ก่อนทำบานประตูที่ไม่ดีพอ อาจทำการแก้ไขชั่วคราวด้วยการติดเทปโฟมซีลกับขอบประตูโดยรอบ แต่หากใช้งานนานไปแล้ว ไม้เกิดการหดตัวเพิ่มขึ้นอีก อาจพิจารณาเปลี่ยนบานประตูใหม่

7 สัญญาณ ที่บอกว่าควรเปลี่ยนประตูบ้านบานใหม่ได้แล้ว

ประตูไม้ปิดไม่สนิท

ข้อจำกัดของประตูไม้จริงคือการหดหรือขยายตัวตามแต่สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง หากประตูปิดไม่สนิทหรือไม่แน่น พยายามดึงอย่างไรก็ไม่สนิทพอดีกับวงกบ นั่นอาจเป็นเพราะบานประตูที่บวมขยายตัวขึ้นจากความชื้น หรืออีกประการหนึ่งที่เห็นชัดคือ บานประตูโก่งหรือบิดร้าวจนประกบกับวงกบไม่สนิท ส่วนนี้เป็นจุดเร่งด่วนที่ควรเปลี่ยนบานประตูให้เร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัยทั้งกับการใช้งาน และความปลอดภัยภายในบ้าน

7 สัญญาณ ที่บอกว่าควรเปลี่ยนประตูบ้านบานใหม่ได้แล้ว

บานประตูตกจนลากกับพื้น

เป็นอาการที่เห็นได้บ่อยโดยเฉพาะกับบานประตูบ้าน เพราะประตูบ้านบานหลักมักเป็นบานใหญ่ น้ำหนักเยอะ สังเกตจากเวลาปิดประตูจะมีเสียงลากไปกับพื้น จนอาจทำให้เกิดความเสียหายกับพื้นได้ หรือหากจะต้องล็อกปิดประตูจะต้องยกประตูขึ้นจึงจะล็อกได้สนิท สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากบานพับที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเสื่อมสภาพจนไม่สามารถรองรับน้ำหนักของบานประตูและแรงกระแทกจากการเปิดปิดได้ แนะนำให้เปลี่ยนหน้าบานและชุดอุปกรณ์ใหม่ทั้งหมด

7 สัญญาณ ที่บอกว่าควรเปลี่ยนประตูบ้านบานใหม่ได้แล้ว

บานเลื่อนฝืด

สำหรับบางบ้านที่ใช้บานประตูแบบเลื่อนเปิดปิด หากเกิดอาการบานเลื่อนฝืด ขั้นแรกอาจใช้การหยอดน้ำมันหล่อลื่นก่อน แต่หากเป็นไปนานเข้า หรือสังเกตเห็นได้ชัดเจนว่าบานประตูตก อาจเกิดจากล้อเลื่อนไม่ได้มาตรฐาน หรือเสื่อมสภาพไม่สามารถรองรับน้ำหนักของหน้าบานได้อีกต่อไป แนะนำให้รีบเปลี่ยนบานประตูให้เร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัย

7 สัญญาณ ที่บอกว่าควรเปลี่ยนประตูบ้านบานใหม่ได้แล้ว

สังเกตบานพับ เสียงดังออดแอด

หลายครั้งที่บานประตูบ้านอาจยังไม่แสดงอาการ การหมั่นสังเกตบานพับก็ช่วยให้เห็นความเสียหายได้ตั้งแต่เนิ่นๆ บานพับที่บางเกินไป ใช้ไปนานเข้าน้ำหนักของประตูจะกดทับลงจนเกิดเสียงดังออดแอด โดยเฉพาะบานพับด้านบนที่เสริมไม่เพียงพอสำหรับรับน้ำหนักของประตูเอาไว้ หรือบานพับที่ขึ้นสนิมก็ยิ่งส่งผลให้การใช้งานลดถอยลงอีก หากยังไม่อยากเปลี่ยนบานประตูทั้งบาน อาจแก้ไขเบื้องต้นด้วยการเปลี่ยนเป็นบานพับอะลูมิเนียม และเติมอุปกรณ์ประกอบ อย่างโช๊คอัพประตู เพื่อเสริมความแข็งแรงให้มากขึ้น หรือหากอายุการใช้งานประตูถึงควรแก่เวลาต้องเปลี่ยน ก็ถือโอกาสเปลี่ยนทั้งบานประตู​เสียเลย

7 สัญญาณ ที่บอกว่าควรเปลี่ยนประตูบ้านบานใหม่ได้แล้ว

ต้องเปลี่ยนหน้าต่างส่วนอื่นของบ้าน

หากประตูบ้านใช้งานมาในระยะหนึ่ง หรือจำเป็นจะต้องเปลี่ยนหน้าต่างส่วนอื่นของบ้านใหม่ เนื่องจากเริ่มผุพังหรือเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะหากต้องเปลี่ยนทั้งหน้าบานและวงกบ ทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลาและขั้นตอนในการทำงาน รวมทั้งต้องทำความสะอาดภายในบ้านหลังจากการติดตั้งใหม่ให้เรียบร้อย ก็ถือโอกาสนี้เปลี่ยนบานประตูบ้านใหม่เสียเลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาทำทีละอย่างตามปัญหาที่เกิด รวมทั้งเป็นการเมคโอเวอร์บ้านให้บานประตูและหน้าต่างเป็นดีไซน์เดียวกันไปในตัว

7 สัญญาณ ที่บอกว่าควรเปลี่ยนประตูบ้านบานใหม่ได้แล้ว

เก่าโทรม อายุการใช้งานยาวนาน

บางครั้งบานประตูบ้านอาจจะไม่ได้เกิดปัญหาใดๆ แต่ด้วยอายุการใช้งานที่ผ่านมายาวนานแล้ว เกิดอยากจะเปลี่ยนบานใหม่ขึ้นมา แนะนำให้เริ่มต้นสังเกตข้อจำกัดของวัสดุประตูบ้านเดิม ยกตัวอย่างบานประตูไม้ที่มีการหดขยายตัวตามสภาพอากาศ หรืออุปกรณ์ประกอบจากเหล็กที่มักขึ้นสนิมเมื่อโดนแดดฝนนานเข้า เน้นเลือกวัสดุที่ข้ามข้อจำกัดจากสภาพภูมิอากาศได้เพราะประตูบ้านจะต้องเจอกับความเปลี่ยนแปลงของอากาศตลอดทั้งวัน อย่างกรอบบานประตูอะลูมิเนียมที่ได้รับการรับรองมาตรฐานว่าทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง ปลอดปลวก ทนไฟ ป้องกันเสียง ป้องกันน้ำและอากาศที่รั่วซึม โดยเลือกที่ได้มาตรฐานรับรองตั้งแต่ตัวหน้าบาน มาตรฐานการติดตั้ง ไปจนถึงบริการหลังการขาย เพื่อให้การเปลี่ยนประตูบ้านครั้งใหม่คุ้มค่า และทนทานอย่างดีตลอดอายุการใช้งาน


หากใครสนใจสินค้า TOSTEM สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทีปุ่มด้านบนเลย!

สัญลักษณ์ประตูหน้าต่าง คืออะไร

คลายข้อสงสัย สัญลักษณ์ประตูหน้าต่างแต่ละแบบ

สัญลักษณ์ของงานเขียนแบบสถาปัตยกรรมเป็นเรื่องที่เจ้าของบ้านหลายคนพอจะเข้าใจในระดับเบื้องต้น อย่างตัวหน้าบานประตูหรือหน้าต่าง เห็นจากภาพจากผังพื้นก็พอจะนึกออกว่า สัญลักษณ์เหล่านี้เกิดขึ้นจากมุมมองการมองในแบบ Bird’s Eye View หรือมุมมองจากด้านบนลงด้านล่างในแนวระนาบ หรือถ้ามองจากรูปข้างหรือรูปตัด ก็พอจะรู้อยู่ว่าเป็นบานประตู แล้วในส่วนที่มองไม่เห็นในรูปแบบเช่นนี้ อย่างฟังก์ชันที่เกิดขึ้นในแนวระนาบอย่างบานเลื่อนหรือบานกระทุ้งบนผังพื้น จะมีวิธีเขียนแบบอย่างไร หรือเส้นรอยประบนรูปประตูในรูปตัดมีไว้ทำไม จะมีวิธีเขียนแบบอย่างไร เราพาคุณมารู้จักกับสัญลักษณ์ของประตูหน้าต่างเพิ่มเติมให้แอดวานซ์ขึ้นไปอีก

สัญลักษณ์ประตูหน้าต่าง คืออะไร

ประตูบานเปิด 

รูปสัญลักษณ์ประตูอย่างที่เราชินกัน คือรูปประตูบานเปิด ที่หากมองจากผังพื้นก็พอจะเดาออกว่ามาจากรูปแบบบานที่ถูกเปิดออก ซึ่งสัญลักษณ์การเปิดเข้าตัวบ้านหรือออกจากตัวบ้านก็เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่สถาปนิกให้ความสำคัญ ส่วนแบบรูปด้าน รอยประบนบานประตูมีไว้บอกจุดหมูนของการเปิดประตู โดยมุมที่บรรจบกันเป็นด้านที่ติดวงกบ และรูปแบบของบานประตูก็ถูกวาดลงไปบนหน้าบานสำหรับสเป็ควัสดุด้วยเช่นกัน  

สัญลักษณ์ประตูหน้าต่าง คืออะไร

ประตูบานเลื่อน 

สำหรับบานเลื่อนในรูปผังพื้น ใช้ตำแหน่งของลูกศรในการบอกทิศทางการเลื่อนของหน้าบาน เช่น บานเลื่อนที่เลื่อนได้ข้างเดียวแล้วอีกข้างเป็นบานติดตาย หรือบานเลื่อนออก เป็นต้น ซึ่งลูกศรบอกทิศทางการเลื่อนนี้มีการใช้ในรูปด้านเพื่อบอกทิศของการเลื่อนเช่นกัน หากหน้าบานรูปไหนที่ไม่มีลูกศร แสดงว่าเป็นบานฟิกซ์ติดตาย  

สัญลักษณ์ประตูหน้าต่าง คืออะไร

ประตูบานเฟี้ยม 

ปัจจุบันประตูบานเฟี้ยมเป็นที่นิยมกันมากสำหรับบ้านที่มีเนื้อที่จำกัด เพราะใช้คุณสมบัติที่เปิดปิดได้เต็มหน้าบานในการจัดสรรพื้นที่ได้ตามความต้องการใช้งาน สัญลักษณ์ของบานเฟี้ยมจึงใช้รูปแบบซิกแซ็กตามการเปิดออกและปิดเข้าหากันของบานประตู โดยมีลูกศรบ่งบอกทิศทางของการสไลด์เลื่อน และบานที่มีคาดกลางบานด้วยเส้นทะแยงคือบานที่จุดเริ่มต้นของการเปิดออก ซึ่งมุมของเส้นคือด้านที่ติดตั้งบานพับสำหรับเชื่อมต่อกับบานถัดๆ มา

สัญลักษณ์ประตูหน้าต่าง คืออะไร

หน้าต่างบานเปิด

เมื่อมองจากมุมบนในผังพื้น หน้าต่างแบบเปิดมีหน้าตาที่บ่งบอกการเปิดออกเช่นเดียวกันกับประตู หากแต่หน้าต่างจะมีข้อแตกต่างตรงส่วนขอบของรูปวาดหน้าบานที่มีขนาดครึ่งหนึ่งของผนัง สังเกตจากมีเส้นกลางพาดอยู่ระหว่างส่วนผนัง ต่างจากรูปประตูที่ระหว่างผนังสองด้านจะเป็นช่องว่างผ่านได้ทั้งหมด เปรียบเทียบเหมือนกับบนพื้นที่เราสามารถเดินผ่านประตูได้เพราะไม่มีวงกบล่างกีดขวาง แต่กับหน้าต่างมีกรอบวงกบล่างหรือผนังที่เราไม่สามารถเดินข้ามได้  

หน้าต่างบานกระทุ้ง 

ความพิเศษอีกอย่างของหน้าต่างคือการเขียนแบบหน้าต่างบานกระทุ้งที่สามารถเขียนได้ชัดเจนเห็นภาพในผังพื้น โดยจะใช้การลากเส้นประให้มุมของเส้นบรรจบกันในด้านที่ต้องติดวงกบเช่นเดียวกับหน้าบานทุกแบบ ซึ่งสำหรับบานกระทุ้งก็คือด้านที่ติดกับส่วนผนังนั่นเอง และในภาพรูปด้าน ก็คือการเปิดขึ้นด้านบนตามรูปแบบการเปิดของบานกระทุ้ง

หน้าต่างแบบอื่นๆ 

สำหรับหน้าต่างแบบอื่นๆ อย่างหน้าต่างบานฟิกซ์ ในรูปผังพื้นก็จะเขียนให้เห็นกรอบวงกบด้านข้าง โปรไฟล์ตรงกลาง และตัวบาน แล้วค่อยลงรายละเอียด เช่นวัสดุหน้าบานว่าเป็นไม้หรือกระจกได้จากส่วนขยายแบบ หรือบานเกล็ด ในรูปจากผังพื้นก็จะมองเห็นเหมือนบานเกล็ดกระจกตอนที่กำลังเปิดอยู่ ที่จะยื่นออกมาจากผนังเล็กน้อย และสามารถเห็นระบุได้ชัดเจนว่าเป็นหน้าต่างบานเกล็ดได้จากรูปด้านสำหรับดูประกอบกัน  


หากใครสนใจสินค้า TOSTEM สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทีปุ่มด้านบนเลย!

ใช้ชีวิตอย่างไร ให้ห่างไกลจาก PM 2.5

ใช้ชีวิตอย่างไร ให้ห่างไกลจาก PM 2.5

แม้จะปิดบานประตูหน้าต่างอย่างดีแล้ว แต่อนุภาคเล็กๆ ที่มองไม่เห็นอย่าง PM2.5 ที่หนาแน่นจากนอกบ้านยังสามารถหลุดลอดเข้ามาภายในบ้านได้ผ่านช่องว่างที่เราอาจคาดไม่ถึง จากโจทย์เหล่านี้จึงนำมาสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์กรอบบานประตูหน้าต่างของทอสเท็ม (TOSTEM) ที่จะต้องป้องกันมลภาวะจากนอกบ้าน ให้ผู้อยู่อาศัยภายในบ้านได้อย่างอุ่นใจ สองส่วนประกอบที่สำคัญที่จะช่วยป้องกันสมาชิกในบ้านจากฝุ่นตัวร้ายนั่นก็คือ กรอบบานประตูหน้าต่างที่ปิดสนิทอย่างมิดชิดแน่นหนา รวมทั้งประสิทธิภาพของวัสดุและการประกอบขึ้นเป็นกรอบบาน ทั้งสองส่วนที่จะช่วยผนึกกำลัง ป้องกันมลพิษตัวร้ายที่จะมาทำลายสุขภาพของสมาชิกครอบครัว

ใช้ชีวิตอย่างไร ให้ห่างไกลจาก PM 2.5

ความจริงของ PM2.5  ( Fact about PM2.5 ) 

อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า อนุภาคฝุ่นของ PM2.5 มีขนาดเล็กกว่าฝุ่นปกติทั่วไปอย่างที่เรามองเห็นด้วยตาเปล่า แต่ความน่ากลัวจนทำให้เราชะล่าใจอยู่ที่ขนาดเล็กมากจนสามารถผ่านเข้าสู่ถุงลมปอด ซึมเข้าหลอดเลือด และใช้เวลาสะสมในร่างกายถึง 10-20 ปีจึงค่อยแสดงอาการ หลายคนจึงคิดว่า แค่ปิดหน้าต่าง ฝุ่นเหล่านี้ก็ไม่เข้ามาแล้ว แต่แท้จริงแล้ว ที่มาของฝุ่นครึ่งหนึ่งมาจากนอกบ้านก็จริง แต่อีกครึ่งหนึ่งก็มาจากของใช้ภายในบ้าน ทั้งเกาะกับเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ ไรฝุ่นที่นอน เพราะฉะนั้นฝุ่นจึงอยู่ทุกที่ การปิดหน้าต่างจึงช่วยได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น  

ใช้ชีวิตอย่างไร ให้ห่างไกลจาก PM 2.5

ใช้ชีวิตห่างไกลฝุ่น  ( Get Rid of Dust ) 

ฉะนั้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นขนาดใหญ่ที่ต้องปัดกวาดทุกวัน หรือฝุ่นขนาดเล็กที่มองไม่เห็น ก็เป็นกิจวัตรประจำวันที่จำเป็นต้องทำเพื่อคุณภาพชีวิตของทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะช่วง PM2.5 เช่นนี้ ทางเลือกแรกสุดของทุกคนคือการใช้เครื่องฟอกอากาศ ร่วมกับการรักษาความสะอาดภายในบ้านอยู่เสมอ โดยเฉพาะกับวัสดุกักฝุ่นจำพวกผ้าม่าน พรม เครื่องนอน และปลูกต้นไม้ช่วยฟอกอากาศ เป็นการเติมอากาศดีในบ้านแบบง่ายๆ  

ใช้ชีวิตอย่างไร ให้ห่างไกลจาก PM 2.5

หน้าต่างกับ PM2.5  ( Windows & PM2.5 ) 

ทางเลือกที่ดีของการใช้ชีวิตในยุค PM2.5 ครองเมืองเช่นนี้ คือการใช้ชีวิตประจำวันในห้องที่มีหน้าต่างน้อยๆ พร้อมกับการตรวจเช็คกรอบบานประตูหน้าต่างทุกบานว่าปิดสนิททั้งหมด อาจเสริมด้วยสักหลาดกับขอบหน้าต่างเพื่อปิดร่อง หรือหากพบรอยรั่วระหว่างผนังหรือรอยต่อควรยาแนวปิดทั้งหมด ดังนั้น เพื่อให้บ้านกันฝุ่นได้อย่างยั่งยืน จึงควรเลือกกรอบบานประตูหน้าต่างที่มีปิดสนิทหนาแน่น และมีคุณภาพมาตรฐานป้องกันอากาศรั่วไหล หากอากาศนอกบ้านกลับมาดีเช่นเคยแล้ว ควรเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศภายในบ้าน เพื่อป้องกันการอับชื้น และเพิ่มการไหลเวียนอากาศที่ดีขึ้น  

ใช้ชีวิตอย่างไร ให้ห่างไกลจาก PM 2.5

เสริมยางขอบประตู  ( Smart Rubber Designs ) 

ในกลุ่มผลิตภัณฑ์รุ่นบานเฟี้ยมที่มีหน้าบานหน้าต่างแบบพับหลายบานของรุ่น WE70 ความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุทำให้มีการออกแบบการเสริมยางป้องกันอุบัติเหตุจากการถูกประตูหนีบ และข้อดีของกรอบบานที่เสริมขอบยางอีกประการคือ ทำให้หน้าต่างปิดสนิทแนบแน่นครบทุกบาน เช่นเดียวกับประตูบ้านรุ่น GIESTA ที่กรอบวงกบเป็นอะลูมิเนียมโปรไฟล์ยาง ที่ทำให้การปิดประตูเป็นไปอย่างนุ่มนวลและแน่นหนา พร้อมกับป้องกันอุบัติเหตุไปในตัว  

ใช้ชีวิตอย่างไร ให้ห่างไกลจาก PM 2.5

ระบบล็อกแน่นหนา  ( High Security Lock ) 

ความสำคัญของระบบล็อก นอกเหนือจากเรื่องความปลอดภัยจากผู้บุกรุกแล้ว ยังเป็นเรื่องของความแน่นหนาของการปิดหน้าบาน เพื่อให้หน้าบานและกรอบบานปิดกันได้อย่างสนิทแน่นหนา ระบบล็อกสำหรับกรอบบานมีทั้งระบบล็อกแบบก้านโยกป้องกันการล็อกไม่สนิทในกรอบบานรุ่น WE Plus, WE70 ระบบ Sub-Lock ในกรอบบานรุ่น P7 เพิ่มความแน่นหนาในการปิดหน้าบาน  

ใช้ชีวิตอย่างไร ให้ห่างไกลจาก PM 2.5

การป้องกันอากาศรั่วไหล  ( Air Tightness Performance ) 

รอยรั่วของกรอบบานประตูหน้าต่างส่วนใหญ่มาจากช่องว่างเล็กๆ ระหว่างวงกบกับหน้าบานประตูหน้าต่าง ผลิตภัณฑ์ของทอสเท็ม (TOSTEM) ทุกชิ้นทุกรุ่นให้ความสำคัญกับค่ามาตรฐานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการป้องกันอากาศรั่วไหล เพราะการที่กรอบบานปิดสนิท นอกจากจะช่วยป้องกันมลภาวะจากนอกบ้านแล้ว ยังช่วยเรื่องการควบคุมคุณภาพอากาศภายในห้องให้อยู่ในระดับที่ต้องการ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า กรอบบานที่มีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างคุณภาพชีวิตของการอยู่อาศัยให้เกิดผลสูงสุด  

ใช้ชีวิตอย่างไร ให้ห่างไกลจาก PM 2.5

ควบคุมคุณภาพอากาศภายในบ้าน  ( Air Quality ) 

การควบคุมคุณภาพอากาศภายในบ้าน นอกเหนือจากมลภาวะนอกบ้านอย่าง ฝุ่น ควัน โดยเฉพาะอนุภาค PM2.5 ที่เล็กกว่าตาเปล่ามองเห็น การที่บานประตูหน้าต่างปิดสนิทยังส่งผลต่อการป้องกันเสียง กลิ่น และความร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ป้องกันการรั่วไหลของความเย็นจากเครื่องปรับอากาศขณะเปิดใช้งานอยู่ ทำให้เครื่องปรับอากาศไม่ทำงานหนักเกินไป จึงช่วยประหยัดค่าไฟและประหยัดพลังงาน ช่วยโลกได้อีกทางหนึ่งด้วย