fbpx

Tag: โครงการ

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?

ทุกวันนี้การเลือกหน้าต่างอะลูมิเนียมให้กับบ้านหรืออาคาร ไม่ได้เน้นเพียงแค่เรื่องของฟังก์ชันการใช้งานเท่านั้น แต่ยังใส่ใจไปถึงเรื่องรูปลักษณ์หน้าตา รวมถึงสีสันที่ต้องมาควบคู่กันไปด้วย เพราะสีสันก็เป็นอีกสิ่งที่ช่วยส่งเสริมให้ภาพจำของตัวบ้านมีความสวยงามโดดเด่นมากยิ่งขึ้น เราจึงอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับนวัตกรรมการทำสี 4 รูปแบบ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม ให้เลือกกันดูว่า การทำสีแบบไหนจะตอบโจทย์และเหมาะสมลงตัวกับหน้าต่างของคุณมากที่สุด 

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?
สีลายไม้ ให้ผิวสัมผัสธรรมชาติ

‘เทรนด์สีธรรมชาติ’ ถือเป็นเทรนด์ที่กำลังเป็นที่นิยมในบ้านเราเป็นอย่างมาก สำหรับการนำมาใช้ตกแต่งภายในบ้าน เพราะทำให้บรรยากาศภายในดูอบอุ่น และผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าหากเราต้องการเพิ่มกลิ่นอายธรรมชาติให้กับอาคารหรือที่อยู่อาศัย ก็สามารถที่จะเลือกหน้าต่างอะลูมิเนียมที่มีลวดลายดูเป็นธรรมชาติอย่างลายไม้ได้เช่นเดียวกัน ผ่านการใช้เทคนิคสีพ่น พร้อมเคลือบด้วยแผ่นฟิล์มลายไม้ หลังจากนั้นจึงอบอะลูมิเนียมด้วยความร้อนเป็นขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งเทคนิคนี้เรายังสามารถเลือกลายไม้ที่ต้องการได้อย่างหลากหลายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นลวดลายอย่างไม้สัก ไม้แดง ไม้มะค่า เป็นต้น นอกจากนี้การใช้อะลูมิเนียมลายไม้ยังสามารถให้ผิวสัมผัสที่คล้ายคลึงกับไม้จริง จนเรียกได้ว่า สามารถทดแทนบานหน้าต่างที่ใช้วัสดุไม้จริง ซึ่งมีราคาสูง ดูแลรักษายากกว่า และไม่แข็งแรงทนทานเท่าอะลูมิเนียม

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?
สีพ่น (Powder Coat) สร้างสรรค์ไอเดียได้หลากหลาย

อุตสาหกรรมในหลายแห่งมักนิยมใช้สีพ่น (Powder Coat) ที่เป็นการใช้สีฝุ่นพ่นลงบนพื้นผิวของอะลูมิเนียม ซึ่งทำให้เราสามารถที่จะเลือกสีสันอะลูมิเนียมได้ตามความต้องการ หรือหากใครมีไอเดียในการออกแบบก็สามารถเพิ่มเติมกิมมิกผิวสัมผัสแบบพิเศษให้กับอะลูมิเนียม เพื่อให้ดูน่าสนใจมากขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น การพ่นแบบซาฮาร่าที่ให้ผิวสัมผัสเหมือนกับเม็ดทราย หรือจะเป็นการพ่นผิวแบบผิวเงา หรือผิวด้านก็สามารถทำได้เช่นกัน

               ซึ่งข้อดีในการใช้สีพ่นคือ ความหลากลายของสี เนื้อสีไม่หลุดร่อนง่าย แถมยังทนทานต่อทุกสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี แต่การเลือกใช้สีพ่นก็ยังมีข้อเสียตรงที่เนื้อสีบนอะลูมิเนียมอาจจะไม่มีมิติมากเท่าไหร่นัก และเมื่อใช้ไปในระยะเวลานานสีอาจจะซีดจางลงได้

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?
สีพ่น (Powder Coat) และอบ ให้สีติดทนนานกว่าเดิม

หากต้องการสีอะลูมิเนียมที่มีความคงทนมากยิ่งขึ้นก็สามารถใช้เทคนิคการพ่นสีอะลูมิเนียม (Powder Coat) และเพิ่มเติมการอบด้วยความร้อนอีกขั้นตอนหนึ่ง ซึ่งนอกจากความคงทนของสีแล้ว ยังให้ให้มิติของสีสันมากกว่าสีพ่นแบบปกติ แถมยังสามารถออกแบบสีสันได้ตามความต้องการได้อีกด้วย แต่ด้วยเทคนิคที่มีความซับซ้อนจึงมีค่าใช้จ่ายในการทำค่อนข้างสูง และไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่นัก

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?
การชุบสี (Anodized) นวัตกรรมที่ทำให้อะลูมิเนียมมีมิติมากยิ่งขึ้น

ด้วยนวัตกรรมด้านสีที่พัฒนาขึ้นทุกวัน อีกรูปแบบของการทำสีอะลูมิเนียมที่น่าสนใจก็คือ การชุบสี (Anodized) ซึ่งมีการใช้เทคโนโลยี Electrolytic Coloring หรือการทำสีด้วยระบบกระแสไฟฟ้าเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต โดยก่อนทำการชุบสีจะนำอะลูมิเนียมไปผ่านกระบวนการทางเคมีไฟฟ้าที่เรียกกว่า อะลูมิเนียมออกไซด์ (Aluminum Oxide) ลงไปบนชั้นผิวอะลูมิเนียมจนเกิดเป็นรูพรุนจำนวนมาก จากนั้นจึงเติมสีแบบโลหะด้วยประจุไฟฟ้าลงไปที่อะลูมิเนียม เนื้อสีจะเข้าไปตามรูพรุนต่างๆ จนเป็นเหมือนชั้นฟิล์มเคลือบอะลูมิเนียม จากนั้นจึงเข้ากระบวนการอบผิวอีกครั้งเพื่อให้สีทนทานมากยิ่งขึ้น
วิธีนี้ช่วยสร้างผลดีให้กับเนื้อสี และตัวอะลูมิเนียม เพราะไม่ทำให้เกิดการผุกร่อน ให้สีสันที่มีมิติสวยงาม ไม่เกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย คงทนต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นอกจากนี้ยังคงทนต่อรังสี UV และน้ำฝนที่เป็นสาเหตุให้สีซีดจาง รวมไปถึงยังคงผิวสัมผัสลื่น และความเรียบเนียน

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?
เลือกใช้เทคนิคสีของหน้าต่างให้เหมาะสม เพื่อบ้านที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด

จะเห็นได้ว่า ทุกวันนี้การทำสีอะลูมิเนียมนั้นมีกระบวนการทำสีที่แตกต่างกัน จึงต้องดูว่าบานหน้าต่างอะลูมิเนียมของเรานำไปใช้ติดตั้งในพื้นที่ส่วนไหน หรือ ต้องการลวดลายและมิติของสีมากน้อยเพียงใด รวมไปถึงเรื่องของงบประมาณด้วย

ซึ่งถ้าต้องการลวดลายที่เป็นธรรมชาติก็แนะนำให้ใช้วิธีการทำสีแบบลายไม้ แต่ถ้าต้องการทำเฉดสีสไตล์โมเดิร์นอย่างเฉดสีเทาจนถึงเฉดสีดำที่มีมิติ แข็งแรงทนทาน ดูแลรักษาง่าย และมีราคาถูก ก็แนะนำให้เลือกการชุบสี (Anodized) เพราะเป็นการเคลือบสีที่ลงลึกไปถึงด้านในของอะลูมิเนียม ที่มีคุณภาพกว่าการทำสีเทคนิควิธีอื่นๆ  

ทำสีหน้าต่างอะลูมิเนียมแบบไหนดีที่สุด?
e-Catalog สี DUSK GRAY

ซึ่งทาง TOSTEM ก็มีผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้วิธีชุบสีแบบ Anodized ให้กับกรอบหน้าต่าง ซึ่งให้มิติสีสันที่สวยงาม ไม่เกิดรอยขีดข่วนง่าย แถมยังคงทนต่อทุกสภาพอากาศ อย่าง Dusk Gray สีเทาเข้มเหลือบน้ำเงิน ที่ได้แรงบันดาลใจมาช่วงพระอาทิตย์ตกดินในยามพลบคล่ำของประเทศญี่ปุ่น เป็นการเชื่อมสีสันให้สีของหน้าต่างดูอบอุ่นเช่นเดียวกับเส้นของขอบฟ้าได้อย่างสวยงาม

หากใครที่กำลังวางแผนตกแต่งบ้านหรือสร้างบ้านใหม่ทาง TOSTEM ก็ยังมีหน้าต่างและประตู อะลูมิเนียมดีไซน์ทันสมัยอีกหลากหลายรุ่นให้ได้เลือกสรรกันว่าแบบไหนจะเหมาะสมกับสไตล์บ้านของเรามากกว่ากัน  

OSTEM x Providence Lane Ekkamai-Ramintra

TOSTEM x Providence Lane Ekkamai-Ramintra บ้านที่สะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัย

OSTEM x Providence Lane Ekkamai-Ramintra

TOSTEM x Providence Lane Ekkamai-Ramintra
บ้านที่สะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัย

การเลือกใช้วัสดุที่ดีมีคุณภาพสูงในการสร้างบ้าน นอกจากจะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตในบ้านอย่างอุ่นใจไร้ความกังวลแล้ว ยังช่วยสะท้อนแนวคิดการออกแบบและตัวตนของคนในบ้านอย่าง  Providence Lane Ekkamai-Ramintra  ที่ตั้งใจออกแบบให้บ้านที่สะท้อนตัวตนของผู้อยู่อาศัย ผ่านความงามวัสดุและดีไซน์ที่เรียบง่าย

วันนี้เราจึงมาเล่า 5 สิ่งที่น่าสนใจจาก   TOSTEM  แบรนด์ผลิตภัณฑ์ประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมคุณภาพสูงจากญี่ปุ่นที่มาเติมเต็มโครงการ Providence Lane Ekkamai-Ramintra บ้านเดี่ยวสไตล์ Luxury Modern ให้เป็นบ้านที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนรุ่นใหม่ โดย 2 ผู้บริหาร คุณวิชา วรสายัณห์ จากบริษัท LIXIL (Thailand) แบรนด์ TOSTEM และคุณณพน เจนธรรมนุกูล จากบริษัท   สัมมากร (Sammakorn)

OSTEM x Providence Lane Ekkamai-Ramintra
คุณวิชา วรสายัณห์ จากบริษัท LIXIL (Thailand) แบรนด์ TOSTEM
OSTEM x Providence Lane Ekkamai-Ramintra
คุณณพน เจนธรรมนุกูล จากบริษัทสัมมากร (Sammakorn)

OSTEM x Providence Lane Ekkamai-Ramintra

บ้านที่เป็นเหมือนผืนผ้าใบให้ผู้อยู่อาศัยได้มาแต่งแต้มสีสัน

Providence Lane Ekkamai-Ramintra  โครงการบ้านเดี่ยวระดับ Luxury บนเนื้อที่ 3 ไร่ ย่านเลียบด่วน เอกมัย – รามอินทรา เป็นย่าน Residential Area ด้วยสภาพแวดล้อมโดยรอบที่มีความคึกคักและใกล้สถานที่สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และโรงเรียนนานาชาติ และยังเชื่อมต่อกับความเป็นเมืองอย่างพหลโยธิน-ลาดพร้าว พระรามเก้า–รามคำแหง รวมถึงย่านใจกลางเมืองที่มีสีสันอย่างเอกมัย -ทองหล่อ

ทางสัมมากรจึงมองว่าโครงการนี้เหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์ชอบทำกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ รวมถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการใช้ชีวิตในเมือง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องการความสงบและเป็นส่วนตัวในชีวิตประจำวัน จึงนำมาสู่คอนเซ็ปต์การออกแบบ ‘Defining Me’    บ้านที่บ่งบอกตัวตนของผู้อยู่อาศัย สะท้อนความคิด ความชอบหรือเรื่องราวของแต่ละคนผ่านฟังก์ชันและดีไซน์ ออกมาบนสเปซที่ทางโครงการตั้งใจออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่น สามารถรองรับได้ทุกกิจกรรมและความต้องการ

TOSTEM x Providence Lane Ekkamai-Ramintra

โดยในพื้นที่บ้านมีทั้งหมด 3 ชั้น ถูกแบ่งออกเป็น 2 ปีก ในชั้นแรกจะเป็นส่วนพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหาร ครัว สวนและสระว่ายน้ำ ชั้นสองเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่เน้นความเป็นส่วนตัวของเจ้าของบ้าน สามารถจัดเป็นพื้นที่ทำงาน พื้นที่นั่งเล่นแบบส่วนตัว หรือเติมเต็มด้วยกิจกรรมงานอดิเรกก็ได้ และในชั้นบนสุดจะเป็น Master Suite ที่เชื่อมสเปซเข้าหากันหมดทั้งชั้น สามารถออกแบบขนาดและฟังก์ชันในห้องนอนได้อย่างเต็มที่

1. สร้างความเป็นส่วนตัวให้ใส่ความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่

การออกแบบบ้านให้ผู้อยู่อาศัยสามารถแสดงความเป็นตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ แน่นอนว่าเรื่องแรกที่ต้องคำนึง คือ เรื่องความเป็นส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นแง่ของการเชื่อมพื้นที่ถึงกัน การรับรู้ด้านการมองเห็น หรือการป้องกันเสียงรบกวน ดังนั้นแปลนบ้านของ Providence Lane Ekkamai-Ramintra จึงถูกออกแบบมาเพื่อเปิดสเปซเข้าหา Courtyard ในกลางบ้านแทนการเปิดออกไปนอกบ้าน โดยเชื่อมการมองเห็นของแต่ละฟังก์ชันทั้ง 3 ชั้นด้วยประตู-หน้าต่าง ทำให้คนในบ้านยังสามารถรู้สึกเชื่อมต่อกันได้แม้จะอยู่คนละส่วนของบ้าน ในขณะเดียวกันด้วยคุณสมบัติของกรอบประตู-หน้าต่าง TOSTEM ที่สามารถกันเสียงรบกวนจากด้านนอกได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยสร้างบรรยากาศภายในบ้านให้มีความเงียบสงบมากยิ่งขึ้น ทำให้บ้านกลายเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่มีความปลอดภัย ไร้กังวลของผู้อยู่อาศัย

2. ตอบโจทย์กับดีไซน์ DOUBLE VOLUME SPACE

อีกหนึ่งจุดเด่นดีไซน์ที่ Providence Lane Ekkamai-Ramintra ตั้งใจนำเสนอคือ Translucent Design ที่เน้นการเปิดช่องแสงเพื่อสร้างความโปร่งโล่งสบายให้กับตัวบ้าน ดังนั้นจึงมีการเลือกใช้ประตูหน้าต่างที่ค่อนข้างใหญ่เพื่อให้แสงและลมสามารถเข้ามาได้สะดวก โดยเฉพาะพื้นที่ Double Volume Space ที่มีช่องเปิดสูง 2 ชั้น เชื่อมต่อพื้นที่รับประทานอาหาร สระว่ายน้ำ สวนกลางบ้านเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งสินค้าของ TOSTEM ก็สามารถตอบโจทย์กับดีไซน์นี้ได้เป็นอย่างดี เพราะเราสามารถสั่งผลิตขนาดประตู-หน้าต่างได้ตามดีไซน์ที่ต้องการ ซึ่งเป็นข้อดีที่ช่วยเปิดโอกาสให้เจ้าของโครงการ ผู้ออกแบบหรือแม้กระทั่งผู้อยู่อาศัยเองสามารถสร้างบ้านออกมาได้ตามแบบโดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องวัสดุ ซึ่งหน้าต่างบานกระทุ้งและบานเลื่อนที่ใช้ในโครงการนี้จะเป็นรุ่น  P7, WE PLUS  และ  WE70  และประตูทางเข้าบ้านรุ่น  GIETSA  สี  Turin Pine ที่มีความเรียบง่ายและสวยงาม เข้ากับบ้านสไตล์โมเดิร์นได้เป็นอย่างดี

 

3. ขับเน้นความงามอย่างเรียบง่ายตรงไปตรงมาของ BAUHAUS

หากกล่าวถึงดีไซน์ของบ้านที่นี่ นอกจากสไตล์ ‘โมเดิร์น’ แล้ว ทางโครงการยังใส่ความงามแบบ ‘BAUHAUS’ เข้ามา ซึ่งสาเหตุที่เลือกใช้ Bauhaus มาจากคอนเซ็ปต์ Defining Me ที่ต้องการให้ความเป็นตัวเองของผู้อยู่อาศัยเด่นออกมามากกว่าตัวบ้าน ดังนั้นจึงกลายเป็นสไตล์โมเดิร์นที่มีความเรียบง่าย ดูอบอุ่น ไม่ฉูดฉาด สอดคล้องกับปรัชญาการออกแบบของ Bauhaus ที่ลดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป คงเหลือไว้เพียงความงามที่เกิดการผสานดีไซน์และฟังก์ชันเข้าด้วยกันอย่างเรียบง่ายและปราณีต

‘อะลูมิเนียม’ ถือเป็นหนึ่งในวัสดุตัวแทนของดีไซน์ Bauhaus ที่เรามักเห็นมาคู่กันเสมอ ในโครงการนี้เองก็มีการเลือกใช้ประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมสี Shine Gray เพื่อสะท้อนนิยามความเป็น Luxury ในฉบับของโครงการเอง และด้วยนวัตกรรมการชุบสีพื้นผิวด้วยไฟฟ้าหรือเรียกว่า อะโนไดซ์ (Anodizing) พร้อมชั้นเคลือบ TEXGUARD ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ TOSTEM ให้สีอะลูมิเนียมที่มีความสวยงาม มีความทนทานต่อทุกสภาวะอากาศ และทำความสะอาดง่ายอีกด้วย

 

4. สุนทรียะที่มาพร้อมกับความปลอดภัยในบ้าน

หลายคนเชื่อว่า ‘บ้านคือเซฟโซนของเรา’ และคำนี้ก็ดูจะใกล้เคียงกับบ้านใน Providence Lane Ekkamai-Ramintra นอกจากโครงการจะเน้นสอดแทรกความสุนทรียะให้อยู่ในทุกกิจกรรมแล้ว ในขณะเดียวกันก็ใส่ใจการออกแบบบ้านให้ผู้อยู่อาศัยสามารถอยู่บ้านได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นการเลือกวัสดุที่ดีมีคุณภาพก็ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมั่นใจได้ว่าปัญหาต่าง ๆ ในบ้านจะไม่เกิดขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องการดูแลรักษามาก อย่างหน้าต่างของ TOSTEM นอกจากคุณสมบัติกันเสียงแล้ว ยังช่วยกันอากาศรั่วไหลและการรั่วซึมของน้ำ ซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศในเมืองไทยเราที่อยู่ในเขตร้อนชื้น ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ว่ามีพายุฝนหรือแดดร้อนจัดก็ยังสามารถใช้ช่วงเวลาพักผ่อนในบ้านได้สบาย ๆ นอกจากนี้ประตู-หน้าต่างของ TOSTEM ที่ใช้ในโครงการยังมีระบบล็อกอย่างแน่นหนาปลอดภัย

 

TOSTEM x Providence Lane Ekkamai-Ramintra

5. มาตรฐานที่ควบคู่กันไประหว่างงานออกแบบและวัสดุ

ทุกองค์ประกอบการออกแบบ ทุกวัสดุที่ใช้ก่อร่างสร้างบ้านขึ้นมาล้วนสามารถบ่งบอกถึงระดับมาตรฐาน ความใส่ใจ รวมถึงคุณภาพการอยู่อาศัยที่เราจะได้รับจากโครงการนั้น ๆ ได้ ดังนั้น Providence Lane Ekkamai-Ramintra ต้องใส่ใจทุกรายละเอียดการออกแบบตั้งแต่โครงสร้างไปจนถึงการเลือกสรรวัสดุที่นำมาใช้ อย่าง TOSTEM ประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมที่มีคุณภาพสูงที่ถูกพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถใช้งานท่ามกลางสภาพอากาศอันรุนแรงของประเทศญี่ปุ่น ทั้งหนาวจัด ร้อนจัด รวมถึงต้องเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติหลากหลายรูปแบบ โดยมีการการันตีผ่านการทดสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานทั้ง JIS ของประเทศญี่ปุ่น และ ASTM ของประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อมอบความมั่นใจให้แก่ผู้อยู่อาศัยและสะท้อนความเป็น Modern Luxury ของโครงการ

TOSTEM x Providence Lane Ekkamai-Ramintra

คุณณพน เจนธรรมนุกูล จากบริษัทสัมมากร Sammakorn (ซ้าย) และคุณวิชา วรสายัณห์ จากบริษัท LIXIL (Thailand) แบรนด์ TOSTEM (ขวา)

เมื่อการออกแบบสถาปัตยกรรมและวัสดุที่ดีมาผสานรวมกัน จึงทำให้บ้านเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย แต่เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่สะท้อนตัวตนของเรา และพาเราหลีกหนีจากความวุ่นวายข้างนอก แล้วหันมาใช้ช่วงเวลากับตัวเองหรือครอบครัวได้อย่างเต็มที่

หากใครที่สนใจสินค้าผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียมคุณภาพสูงของ  TOSTEM  สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อี-แคตตาล็อก หรือสอบถามข้อมูลสินค้าได้ที่ TOSTEM Thailand และหากสนใจเยี่ยมชมโครงการ  Providence Lane Ekkamai-Ramintra  สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่   http://bit.ly/3XFKoni

Facebook
Twitter
LinkedIn
Email

โปรสุดปัง! ลดกระหน่ำรับหน้าฝนกับ Total Housing Solution จาก TOSTEM

พบกับโปรสุดปัง! ลดกระหน่ำรับหน้าฝน ลดสูงสุด 20%* กับ Total Housing Solution จาก TOSTEM

รับสิทธิ์ลด 10% เมื่อมียอดสั่งซื้อ ตั้งแต่ 50,000 – 299,999 บาท*

รับสิทธิ์ลด 20% เมื่อมียอดสั่งซื้อ ตั้งแต่ 300,000 บาทขึ้นไป*

ลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ทั้งออนไลน์และโชว์รูมที่ร่วมรายการตามด้านล่างเลยครับ

• Line @TOSTEMThailand

• TOSTEM Flagship showroom crystal design center

• TOSTEM บุญถาวร สาขาราชพฤกษ์

• TOSTEM Demo room เชียงใหม่

• TOSTEM Demo room ภูเก็ต

ขั้นตอนการรับสิทธิ์ผ่านช่องทางไลน์

1. Add line @TOSTEMThailand หรือ คลิก! https://bit.ly/3zBgPHt

2. พิมพ์โค้ดลับหาแอดมิน “รับสิทธิ์โปรสุดปัง”

3. ลงทะเบียนรับสิทธิ์ในลิงก์พร้อมแคปหน้าจอส่งให้แอดมินก็ได้รับสิทธิ์ส่วนลดทันที

ลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ถึง 15 สิงหาคม 2564 

และสามารถใช้สิทธิ์สั่งซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ถึง 30 กันยายน 2564

ขั้นตอนการรับสิทธิ์ผ่านช่องทางไลน์

1. เพิ่มเพื่อนในไลน์ @TOSTEMThailand หรือคลิก https://bit.ly/2S4gAE5 เพื่อลงทะเบียนรับสิทธิ์และข้อมูลข่าวสารก่อนใคร! หากใครเป็นเพื่อนในไลน์กับ TOSTEM อยู่แล้วไปขั้นตอนต่อไปได้เลย

2. พิมพ์โค้ดลับ “รับสิทธิ์โปรสุดปัง” หาแอดมินหลังเพิ่มเพื่อน เพื่อลงทะเบียนรับสิทธิ์ส่วนลดสูงสุด 20%*

3. ลงทะเบียนรับสิทธิ์ในลิงก์ที่แอดมินส่งมาให้และเมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนแคปหน้าจอส่งกลับในห้องแชทให้แอดมินเท่านี้ก็ได้รับสิทธิ์ส่วนลดทันที

เงื่อนไขการรับสิทธิ์ส่วนลด

۰ลูกค้าที่ประสงค์จะรับสิทธิ์โปรโมชั่นทุกรายการ ต้องติดต่อลงทะเบียนรับสิทธิ์ที่ TOSTEM Flagship Showroom สาขา Crystal Design Center, บุญถาวร สาขาราชพฤกษ์, Demo Room เชียงใหม่, Demo Room ภูเก็ต, และ LINE@ TOSTEM Thailand ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 – 15 สิงหาคม 2564 ทั้งนี้ไม่สามารถมอบสิทธิ์ให้ตัวแทนจำหน่ายทอสเท็ม หรือ บุคคลอื่นให้ดำเนินการแทน

۰สามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขรายละเอียดในใบเสนอราคาของตัวแทนจำหน่ายทอสเท็มอย่างเป็นทางการ โดยต้องลงนามในใบเสนอราคาภายในวันที่ 30 กันยายน 2564 เท่านั้น

۰ส่วนลดตามเงื่อนไขของโปรโมชั่นนี้ คำนวณเฉพาะราคาค่าผลิตภัณฑ์ในกลุ่มที่ร่วมรายการเท่านั้น ทั้งนี้ส่วนลดไม่รวมถึงค่าขนส่งและค่าแรงช่างในการติดตั้ง

۰พื้นที่ติดตั้งงานของลูกค้าที่รับสิทธิ์โปรโมชั่นฯ ครอบคลุมทั่วราชอาณาจักรไทย

۰บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณามอบสิทธิ์และยกเลิกสิทธิ์โปรโมชั่นฯ แก่ลูกค้าเป็นรายกรณี โครงการอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มลูกค้า VIP ไม่สามารถเข้าร่วมโปรโมชั่น

۰บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขของโปรโมชั่นฯ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และคำตัดสินของบริษัทฯ ถือเป็นที่สิ้นสุด