fbpx

เลือกหน้าต่างอย่างไร ให้รับมือลมพายุ

เมื่อพูดถึงความแข็งแรงทนทานต่อแรงลมของบ้าน หลายคนคงนึกถึงเสาหรือผนังกำแพงเป็นอันดับแรก แต่รู้หรือไม่ว่า หน้าต่าง เองก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งแน่นอนว่าผู้อยู่อาศัยต้องไม่อยากที่จะสัมผัสความรู้สึกไม่ปลอดภัย เมื่อถึงวันที่เจอลมพายุแล้วกรอบบานหน้าต่างสั่น ชำรุด กรอบหน้าต่างโก่งหลุดจากวงกบ เหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่แค่สร้างความเสียหายต่อบ้านเท่านั้น แต่ยังอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของคนในครอบครัวอีกด้วย

สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมตัวรับมือ ด้วยการเลือกใช้บานหน้าต่างที่มีประสิทธิภาพทนทานต่อแรงลม  ซึ่ง TOSTEM เข้าใจดีถึงความสำคัญนี้ จึงได้พัฒนาบานประตูหน้าต่างที่มีประสิทธิภาพการต้านทานลมสูง รับแรงปะทะจากลมพายุได้อย่างปลอดภัย  มาดูกันว่า ระดับแรงลมที่เราต้องเผชิญนั้นมีระดับเท่าไรบ้าง และควรเลือกหน้าต่างแบบไหนให้เหมาะสมกับบ้านของคุณ

Wind Load Performance มาตรฐานจำเป็นสำหรับหน้าต่าง
หน้าต่างที่มีมาตรฐานต้านแรงลม Wind Pressure Resistance Performance ถือเป็นการลงทุนที่สำคัญในด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายภายในบ้านได้เป็นอย่างดี โดยผู้อยู่อาศัยสามารถสังเกตได้จากฉลากบนตัวสินค้า ซึ่งบ่งบอกว่าสินค้านี้ผ่านการทดสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้ได้มาตรฐานในการใช้งาน และมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับกันทั่วโลก คือ มาตรฐานอุตสาหกรรมญี่ปุ่น หรือ JIS (Japanese Industrial Standards) 

ข้อดีของการเลือกใช้หน้าต่างต้านแรงลม

การเลือกหน้าต่างที่ได้รับรองคุณสมบัติต้านแรงลม เป็นการช่วยให้คุณแน่ใจได้ว่าหน้าต่างที่คุณเลือกนั้นทำหน้าที่ปกป้องบ้านของคุณได้ ตั้งแต่การป้องกันลมพายุจากธรรมชาติ และยังช่วยป้องกันความเสียหายต่อทรัพย์สินและการบาดเจ็บในช่วงเหตุการณ์สภาพอากาศเลวร้าย

นอกจากนี้ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรงผ่านการทดสอบมาแล้ว ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยภายในบ้าน ลดเสียงรบกวน รวมถึงมีส่วนช่วยในการควบคุมอุณหภูมิภายในอาคาร ทำให้บ้านประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น

ระดับแรงลมที่เราต้องเผชิญมีระดับเท่าไรบ้าง

เรื่องการต้านทานลมของประเทศไทย Wind Pressure Resistance Performance มีหน่วยเป็น Pa (ปาสคาล) ยิ่งตัวเลขสูง ยิ่งมีประสิทธิภาพการต้านทานลมมากตามไปด้วย ซึ่งค่าเหล่านี้อยู่ในสเปคของบานหน้าต่าง

ทั้งนี้ระดับความแรงลมที่ส่งผลต่อการขับรถที่ใช้ความเร็วสูง รวมถึงทำให้คนยืนทรงตัวลำบาก คือความเร็วประมาณ 104-131 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากบ้านต้องเผชิญความเร็วลมระดับนี้ ควรใช้หน้าต่างที่สามารถต้านทานแรงลมได้ 800 Pa ขึ้นไป  

ส่วนระดับรุนแรงสูงสุดคือ 198 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระดับนี้ทำให้บ้านไม้พัง สิ่งปลูกสร้างด้วยเหล็กผิดรูป และเสาไฟฟ้าล้มได้ จึงควรใช้หน้าต่างที่สามารถต้านทานแรงลมได้ 1,800 Pa ขึ้นไป ฉะนั้นควรเลือกหน้าต่างที่มีค่าการต้านทานแรงลมให้เหมาะสมกับอาคารบ้านเรือนของเรา เพราะหากเลือกใช้หน้าต่างที่มีค่าการต้านทานแรงลมไม่เหมาะสม เช่น อาคารสูง 20 เมตร แต่เลือกใช้บานประตูหน้าต่างที่ต้านแรงลมได้เพียง 800 Pa เมื่อเกิดพายุอาจเป็นอันตรายต่อทั้งผู้อยู่อาศัยและทรัพย์สินภายในที่พักอาศัยได้

อยู่อาคารสูง ต้องเลือกหน้าต่างต้านแรงลมอย่างไรให้ปลอดภัย

การอยู่อาศัยคอนโดมิเนียมที่เป็นอาคาร High Rise มีข้อดีคือสามารถมองเห็นวิวธรรมชาติภายนอกในมุมมองทางสายตาที่กว้างไกล แต่ขณะเดียวกันยิ่งอยู่อาคารสูง แรงปะทะของลมก็ยิ่งมากขึ้น โดยสิ่งปลูกสร้างที่ตั้งในที่โล่ง จะได้รับผลกระทบจากลมพายุมากกว่าพื้นที่ที่มีบ้านเรือนหนาแน่น ส่วนตึกหรืออาคารที่มีระดับความสูงมากๆ เช่น อาคารสำนักงานหรือคอนโด ต้องเผชิญความเร็วลมมากกว่าบ้านแนวราบ

ดังนั้นนอกจากการพิจารณาเลือกหน้าต่างจากแรงลมที่บ้านหรืออาคารต้องเผชิญแล้ว ยังต้องพิจารณาร่วมกับความสูงของอาคารด้วย ได้แก่

▪ อาคารที่สูง 10 – 20 เมตร ควรใช้หน้าต่างที่ต้านทานแรงลมได้ระหว่าง 800 -1,200 Pa
▪ อาคารที่สูง 20 – 40 เมตร ควรหน้าต่างที่ต้านทานแรงลมได้ระหว่าง 1,200 -1,600 Pa
▪ อาคารที่สูงมากกว่า 40 เมตร  ควรหน้าต่างที่ต้านทานแรงลมได้ 1,600 Pa ขึ้นไป

หน้าต่างแต่ละรุ่นจาก TOSTEM มีค่าต้านทานแรงลมหลายระดับ TOSTEM เป็นผลิตภัณฑ์ประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมคุณภาพสูง ที่อยู่ภายใต้มาตรฐาน JIS หรือ Japanese Industrial Standards และ ASTM International สำหรับประตูและหน้าต่างโดยเฉพาะ ฉะนั้นสามารถมั่นใจได้เลยว่าผลิตภัณฑ์ TOSTEM ผ่านการทดสอบการต้านทานแรงลมด้วยมาตรฐานสากล มีคุณสมบัติต้านทานแรงลม รับมือกับพายุ ลม ฝน ได้อย่างสบายๆ

สินค้าแต่ละรุ่นของทอสเท็มมีค่าต้านแรงลมหลายระดับ และมาพร้อมประสิทธิภาพความทนทานต่อทุกสภาพแวดล้อมให้ทุกคนมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพ โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกติดตั้งได้ตามความต้องการ ดังต่อไปนี้

▪ WE40 (500 Pa)
รุ่น WE40 เหมาะกับบ้านแนวราบ มีค่าประสิทธิภาพ การต้านทานแรงลม 500 Pa การต้านทานน้ำรั่ว 100 Pa และป้องกันเสียงรบกวน 25 เดซิเบล
▪WE 70 (800 Pa)
อีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะกับการใช้งานรูปแบบอาคารแนวราบ โดยมีการต้านทานแรงลมอยู่ที่ 800 Pa การต้านทานน้ำรั่ว 150 Pa การป้องกันอากาศรั่วไหล A-3 ส่วนการป้องกันเสียงรบกวน 25 เดซิเบล

▪ATIS (1,200 Pa)
รุ่น ATIS สามารถต้านแรงลมได้ถึง 1,200 Pa เหมาะกับการใช้งานบ้านทั่วไป ผลิตจากอะลูมิเนียมคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน กันน้ำ กันเสียง และกันความร้อนได้ดี

▪WE PLUS (1,600 Pa)
จุดเด่นคือสามารถเพิ่มความสูงได้ถึง 3 เมตร พร้อมประสิทธิภาพการต้านการแรงลมได้ 1,600 Pa จึงตอบโจทย์การใช้งานสำหรับอาคารสูงยิ่งขึ้นนั่นเอง

▪ATIS PLUS, GRANTS (2,000 Pa)
ATIS Plus เป็นรุ่นที่พัฒนาให้เพิ่มประสิทธิภาพสำหรับอาคารสูง โดยสามารถต้านแรงลมได้มากขึ้นถึง 2000 Pa พร้อมการป้องกันการรั่วซึมของน้ำ และป้องกันการรั่วไหลของอากาศได้ดียิ่งขึ้น ส่วนรุ่น GRANTS สามารถต้านแรงลมได้ถึง 2,000 Pa เช่นกัน อีกทั้งยังต้านทานน้ำรั่ว 300 Pa ป้องกันอากาศรั่วไหล 10.7 m3 / h·m2 และการป้องกันเสียงรบกวน 25 เดซิเบล


(ภาพหลังเหตุการณ์พายุลูกเห็บถล่ม)

ยกตัวอย่างเหตุการณ์พายุลูกเห็บถล่ม ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อกลางเดือนมีนาคม 66 ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับบ้าน และอาคารต่างๆ เป็นจำนวนมาก แต่มีโครงการหนึ่งที่วัสดุและประตู หน้าต่าง ‘รอด’ จากภัยธรรมชาติที่ไม่คาดคิดในครั้งนี้ นั่นก็คือโครงการคอนโดมิเนียมหรู ธัช ฮิลล์ เพลส เอลลิแกนท์ สามารถอ่านบทความสัมภาษณ์เจ้าของโครงการได้ที่บทความในลิงก์นี้เลย https://tostemthailand.com/2023/05/12/tostem-doors-and-windows-ready-to-withstand-all-weather-conditions/ 

สำหรับผู้อยู่อาศัยที่อยากสัมผัสสินค้าจริง หรือต้องการปรึกษาและเลือกแบบหน้าต่างที่มีค่าการต้านทานแรงลมให้เหมาะสมกับอาคารบ้านเรือนของคุณ TOSTEM ผู้เชี่ยวชาญด้านประตู-หน้าต่าง เรามีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญรอตอบรับความต้องการทั้งในแง่ฟังก์ชั่นและดีไซน์ หลากหลายช่องทางการติดต่อ ตามลิงก์ด้านล่าง