fbpx

Tag: ที่อยู่อาศัย

แบบขยายประตูหน้าต่าง คืออะไร

การออกแบบบ้านที่ดีเริ่มต้นจากรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ หนึ่งในนั้นคือ “แบบขยายประตูหน้าต่าง” ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจว่าแบบขยายประตูหน้าต่างคืออะไร และเจ้าของบ้านควรให้ความสำคัญกับส่วนไหนบ้าง เพื่อให้การเลือกและติดตั้งประตูหน้าต่างเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับบ้านของคุณ

แบบขยายประตูหน้าต่าง คืออะไร?

ในแบบแปลนหรือเอกสารที่แสดงรายละเอียดการออกแบบบ้านและอาคาร จะประกอบด้วยข้อมูลสำคัญสำหรับการก่อสร้าง อย่างพื้นที่ใช้สอยและการจัดวางห้องต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบต่างๆ เช่น ประตู หน้าต่าง บันได เป็นต้น โดยมีการระบุตำแหน่งและขนาดของแต่ละชิ้นด้วยสัญลักษณ์

แต่ทั้งนี้สัญลักษณ์ของประตูและหน้าต่างในแบบแปลนจะไม่ได้แสดงรายละเอียดทั้งหมด แต่จะมีข้อมูลเพิ่มเติมใน “แบบขยายประตู” ที่อยู่ในส่วนท้ายของแบบแปลน เพื่อให้เข้าใจรายละเอียดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

แบบขยายประตูหน้าต่าง จะทำหน้าที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการออกแบบ ขนาด และรูปแบบของประตูหรือหน้าต่างที่คุณต้องการติดตั้งในบ้าน โดยทั่วไปแบบขยายจะรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ การติดตั้ง และลักษณะการเปิดปิดที่เหมาะสม ซึ่งช่วยให้การสร้างหรือปรับปรุงบ้านเป็นไปตามความต้องการและมาตรฐานที่กำหนดนั่นเอง 

เจ้าของบ้านจะได้แบบขยายประตูหน้าต่างจากสถาปนิกหรือผู้รับเหมาในช่วงขั้นตอนการออกแบบบ้าน โดยทั่วไปจะอยู่ในขั้นตอนการวางแผนและออกแบบก่อนเริ่มก่อสร้าง ซึ่งหลังจากที่ได้แบบเบื้องต้นแล้ว เจ้าของบ้านสามารถปรึกษาหรือขยายแบบตามความต้องการได้ ก่อนที่จะส่งแบบไปยังการขออนุญาตก่อสร้างและเริ่มงานก่อสร้างจริง

เจ้าของบ้านควรดูอะไรบ้าง
เมื่อเจ้าของบ้านต้องดูแบบขยายประตูและหน้าต่าง ควรพิจารณาหลายปัจจัยประกอบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ดังนี้

  • ขนาดและสัดส่วน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าขนาดของประตูหรือหน้าต่างตรงกับขนาดช่องเปิดในบ้าน เนื่องจากหากมีขนาดใหญ่เกินไปหรือน้อยเกินไป อาจส่งผลต่อการใช้งานและความสวยงามของบ้าน  ซึ่งสัญลักษณ์สำหรับขนาด จะถูกระบุด้วยตัวเลขที่แสดงถึงความกว้างและความสูง เช่น 80×200 cm หมายถึงประตูที่มีความกว้าง 80 ซม. และความสูง 200 ซม.
  • ชนิดวัสดุและอุปกรณ์: พิจารณาวัสดุที่ใช้สำหรับประตูหน้าต่าง ทั้งวัสดุวงกบ วัสดุกรอบบาน เช่น อะลูมิเนียม ไม้ เหล็ก เพื่อพิจารณาความทนทานและการดูแลรักษา และเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
  • ลักษณะการเปิด: เลือกประเภทการเปิดประตูหรือหน้าต่างที่เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น เปิดเข้า เปิดออก หรือบานสไลด์ โดยส่วนมากจะมีสัญลักษณ์ลูกศรหรือเส้นประที่แสดงว่าประตูหรือหน้าต่างนั้นสามารถเปิดได้หรือมีการล็อกอยู่  สำหรับสัญลักษณ์การเปิดของประตูหน้าต่างเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่นี่ 

ทั้งหมดนี้เป็นรายละเอียดเบื้องต้นที่เจ้าของบ้านสามารถพิจารณาได้ ซึ่งการตรวจสอบแบบขยายประตูหน้าต่างจะช่วยให้คุณมั่นใจว่าประตูและหน้าต่างที่เลือกเหมาะสมกับบ้านของคุณ นอกจากนี้ยังช่วยให้การอยู่อาศัยสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งขึ้นอีกด้วย

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่าง 



เปลี่ยนประตู 1 บานต้องเตรียมอะไรบ้าง

การเปลี่ยนประตูใหม่สัก 1 บาน อาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา เช่น ขนาดของประตู  รูปแบบและวัสดุที่เหมาะสม รวมถึงการติดตั้งที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะ ซึ่งแน่นอนว่ามีหลายขั้นตอนที่คุณควรเตรียมให้พร้อม เพื่อให้การเปลี่ยนประตูเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

ฉะนั้นจะมีขั้นตอนอะไรบ้าง เมื่อคุณต้องการเปลี่ยนประตู 1 บาน มาดูไปพร้อมกันเลย!

วัดขนาดประตู 

ขั้นตอนแรกในการเปลี่ยนประตู คือ การวัดขนาดของประตูเดิม โดยใช้สายวัดเพื่อวัดความกว้างความสูง และความหนา เพื่อให้แน่ใจว่าประตูใหม่จะพอดีกับกรอบประตูเดิม นอกจากนี้ควรตรวจสอบขนาดของช่องเปิดที่คุณต้องการติดตั้งเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในภายหลัง

เลือกวัสดุ 

การเลือกวัสดุสำหรับประตูเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เพราะวัสดุที่เลือกจะมีผลต่อความทนทาน ความสวยงาม และฟังก์ชันการใช้งานของประตู ซึ่งควรพิจารณาเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับความต้องการ อย่าง ประตูอะลูมิเนียม นับเป็นอีกตัวเลือกที่นิยมในปัจจุบัน เนื่องจากมีคุณสมบัติที่หลากหลายและเหมาะกับการใช้งานในหลายสภาพแวดล้อม

ข้อดีของวัสดุอะลูมิเนียม คือเป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงและทนทานต่อการกัดกร่อน ทำให้ไม่เกิดสนิมเมื่อสัมผัสกับความชื้น มากกว่านั้นคือมีน้ำหนักเบาจึงติดตั้งและใช้งานได้ง่าย รวมถึงมีดีไซน์ทันสมัย และมีรูปแบบให้เลือกมากมายสามารถเข้ากับสไตล์บ้านที่แตกต่างกันได้ 

เลือกรูปแบบ วิธีการเปิดของประตู

การเลือกวิธีการเปิดประตูเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ เพราะวิธีการเปิดที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน โดยคุณสามารถเลือกได้จากหลายประเภท เช่น 

  • บานเลื่อนหรือบานสไลด์: เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัด สามารถเปิดได้ง่ายและไม่เกะกะ นิยมทั้งเป็นประตูบ้าน หรือประตูเข้าออกกับชานบ้าน
  • เปิดเข้า: เป็นระบบประตูที่เปิดโดยการดันเข้าห้องหรือพื้นที่ด้านใน ช่วยประหยัดพื้นที่ และใช้งานง่าย เพียงแค่ดันประตูเข้าไป ไม่ต้องมีการหมุนหรือดึง
  • เปิดออก: เปิดโดยการดึงออกไปข้างนอก เหมาะสำหรับประตูทางออกหรือประตูที่ต้องการเพิ่มพื้นที่ภายใน
  • บานเฟี้ยม: ประเภทของประตูที่มีลักษณะเฉพาะ โดยสามารถพับได้เหมือนบานพับเพื่อเปิดและปิด อีกทั้งยังเข้าถึงง่ายจากหลายทิศทาง เนื่องจากสามารถเปิดได้ทั้งสองด้าน ขึ้นอยู่กับการออกแบบ 


สั่งผลิตประตู

หลังจากที่คุณได้เลือกวัสดุและวิธีการเปิดแล้ว สิ่งที่ต้องเตรียมถัดไป คือการสั่งผลิตประตู ควรเลือกผู้ผลิตหรือร้านค้าที่มีชื่อเสียงเพื่อให้ได้ประตูที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ บางร้านอาจมีบริการปรับแต่งขนาด หรือดีไซน์ และสี ตามความต้องการของลูกค้า


ติดตั้งประตู

เมื่อประตูใหม่ถูกผลิตเสร็จแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือการติดตั้ง ควรให้ช่างมืออาชีพทำการติดตั้งและทดสอบบานประตูและตัวล็อกให้เรียบร้อย เพื่อให้มั่นใจว่าประตูจะถูกติดตั้งอย่างถูกต้องและปลอดภัย แต่หากคุณต้องการทำเอง ควรศึกษาแนวทางการติดตั้งที่ถูกต้องและเตรียมเครื่องมือที่จำเป็นให้พร้อม

สำหรับใครที่กำลังคิดจะเปลี่ยนประตู แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน TOSTEM พร้อมที่จะช่วยคุณทุกขั้นตอนด้วยบริการครบวงจร โดยควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานญี่ปุ่นอย่างเคร่งครัดรวมถึงมีโชว์รูมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ  ซึ่งคุณจะได้สัมผัสสินค้าจริงและรับคำแนะนำจากพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญ ตั้งแต่ข้อมูลสินค้า ฟังก์ชันต่างๆ การติดตั้ง ไปจนถึงบริการหลังการขาย เพื่อให้คุณได้เลือกสรรสินค้าที่ดีที่สุดให้กับบ้านที่คุณรักได้อย่างสบายใจ 

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่าง 



ทำไม GIESTA FamiLock คือทางเลือกที่ดีที่สุด สำหรับความปลอดภัยในบ้าน

เพราะความปลอดภัยในบ้านเป็นสิ่งสำคัญที่สุด TOSTEM จึงได้พัฒนานวัตกรรมมือจับดิจิทัลล็อกรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง GIESTA FamiLock ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ด้านความปลอดภัยอย่างครบวงจร เพื่อใช้กับประตู GIESTA เท่านั้น

ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ GIESTA FamiLock อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับความสะดวกสบายที่บ้านของคุณ พร้อมช่วยให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่าบ้านของคุณจะได้รับการปกป้องอย่างมีประสิทธิภาพ

รู้จักข้อดีของมือจับระบบดิจิทัล GIESTA FamiLock 

  1. วิธีปลดล็อกที่หลากหลาย
    GIESTA FamiLock ชุดล็อกระบบดิจิตอลใหม่ล่าสุดสำหรับประตู GIESTA นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น มาพร้อมกับเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย ช่วยให้คุณสามารถเปิดปิดล็อกได้ง่ายๆ ด้วยด้วยกุญแจที่เหมาะกับคุณ ได้แก่ สมาร์ทโฟน, รีโมทคอนโทรล, คีย์การ์ด, คีย์แท็ก และคีย์แมนนวล ซึ่งทำให้การเข้าถึงบ้านเป็นเรื่องง่ายและสะดวก
  1. ระบบรักษาความปลอดภัยได้มาตรฐาน
    ผลิตภัณฑ์ GIESTA FamiLock จาก TOSTEM ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ด้านความปลอดภัยอย่างครบวงจร ด้วยฟีเจอร์การล็อกอัตโนมัติและการแจ้งเตือนเมื่อมีการพยายามเข้าถึงที่ไม่ถูกต้อง ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าบ้านของคุณจะได้รับการปกป้องจากการบุกรุก

  1. มีระบบตรวจสอบประวัติการล็อกบนสมาร์ทโฟน
    ระบบตรวจสอบประวัติการล็อกที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของคุณ ผ่านแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย อย่าง MY ENTRANCE ซึ่งเท่ากับว่าคุณสามารถเช็กสถานะล่าสุดของการล็อกประตูได้แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

  1. เพิ่มความสะดวกสบายด้วยฟีเจอร์ Pocket In
    ฟีเจอร์ Pocket In จะทำให้การเข้าบ้านของคุณง่ายและสะดวกสบายขึ้น เพียงกดปุ่มบนประตู ก็สามารถปลดล็อกได้ โดยไม่ต้องนำอุปกรณ์ออกจากกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋าอื่นที่พกติดตัว  หรือแม้แต่คุณจะอุ้มลูกน้อยหรือถือของเต็มมือ ก็ไม่ต้องยุ่งยากในการเปิดประตูอีกต่อไป

  1. การออกแบบที่คำนึงถึงสรีรศาสตร์และความทนทาน
    GIESTA FamiLock ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงหลักสรีรศาสตร์ ทำให้ผู้ใช้ทุกวัยรู้สึกสะดวกและปลอดภัยในขณะใช้งาน ระบบล็อกนี้ช่วยให้เปิด-ปิดประตูได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุหรือเด็ก ก็สามารถใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา

    นอกจากนี้ ประตูเหล็กลายไม้ GIESTA ยังมอบความยั่งยืนให้กับบ้าน ด้วยความทนทานต่อลม ฝน แดด และช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก อีกทั้งลวดลายไม้ที่สวยงามยังเสริมให้บ้านดูมินิมอลและทันสมัย

  1. TOSTEM มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา
    ไม่ว่าคุณจะมีคำถามเกี่ยวกับฟังก์ชันการทำงานหรือวิธีการใช้งาน ทีมงานของทอสเท็มพร้อมให้คำปรึกษากับทุกท่านในทุกขั้นตอน


สุดท้ายนี้ หากคุณกำลังต้องการเพิ่มความปลอดภัยให้กับบ้านและสร้างความสบายใจในชีวิตประจำวัน อย่าลืมพิจารณามือจับFamiLock ร่วมกับประตู GIESTA ผลิตภัณฑ์นี้มาพร้อมระบบล็อกแน่นหนา 3 ชั้น และยังปลดล็อกได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วยคีย์การ์ด คีย์แท็ก  รีโมทคอนโทรล และแอปพลิเคชั่นผ่านโทรศัพท์ ช่วยยกระดับความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้กับบ้านของคุณได้อย่างยอดเยี่ยม



สร้างสรรค์ความงามเหนือกาลเวลา ด้วยบานหน้าต่างสี Shine Gray

การเลือกสีที่เหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญที่สามารถสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนในรูปลักษณ์ของบ้าน โดยหนึ่งในสีที่ได้รับความนิยมมาตลอดคือ สี Shine Gray ที่ให้ความรู้สึกหรูหราและทันสมัย

วันนี้เราจะพาคุณไปดูตัวอย่างจากโครงการบ้านที่เลือกใช้กรอบอะลูมิเนียมสี Shine Gray จาก TOSTEM สำหรับใครที่กำลังพิจารณาการเลือกใช้กรอบสีอยู่ บทความนี้จะเป็นแนวทางที่ดีในการตัดสินใจและช่วยให้คุณเห็นว่ากรอบสี Shine Gray จาก TOSTEM สามารถเปลี่ยนโฉมบ้านของคุณให้โดดเด่นได้อย่างไร ไปชมกันเลย!


Providence Lane Ekkamai-Ramintra 

บ้านเดี่ยวสไตล์ Luxury Modern ตั้งอยู่ในย่านเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา Providence Lane Ekkamai-Ramintra เป็นบ้านเดี่ยวที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องการทั้งความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัว คอนเซ็ปต์ ‘Defining Me’ ช่วยให้บ้านสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้อยู่อาศัย ผ่านฟังก์ชันและดีไซน์ที่ยืดหยุ่น รองรับกิจกรรมหลากหลาย

การออกแบบบ้านเน้นความเป็นส่วนตัว ด้วยการเชื่อมต่อพื้นที่ผ่าน Courtyard กลางบ้าน และใช้ประตู-หน้าต่าง TOSTEM ที่กันเสียงรบกวนได้ดี ทำให้บ้านสงบและปลอดภัยยิ่งขึ้น

อีกทั้งโครงการนี้เลือกใช้กรอบประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมสี Shine Gray จาก TOSTEM ซึ่งสะท้อนความหรูหราและทันสมัยให้กับบ้านได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังให้ความรู้สึกเรียบหรู ช่วยเพิ่มมิติและความลึกให้กับบ้าน ทำให้บ้านดูโดดเด่นและมีสไตล์มากขึ้น 


CI House 

CI House: บ้านโมเดิร์นเรียบหรูจากสถาปนิก blankstudio ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้านที่รักความเรียบร้อยและธรรมชาติ บนที่ดินแคบแต่ลึกขนาด 10 x 34 เมตร บ้านหลังนี้จึงถูกออกแบบในรูปทรงเหลี่ยม และเน้นสีขาวที่ให้ความรู้สึกสะอาดตา

การออกแบบภายในเป็นแบบ Open Plan เพื่อให้พื้นที่ขนาดกะทัดรัดดูกว้างขึ้น และยังให้ความสำคัญกับช่องว่าง (Void) ที่ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้บ้านไม่รู้สึกทึบตัน การเปิดช่องว่างทั้งประตูหน้าต่างและ Skylight ช่วยให้แสงและลมธรรมชาติไหลเวียนได้ทั่วถึง ซึ่งบ้านหลังนี้เลือกใช้บานประตูหน้าต่าง TOSTEM รุ่น WE40 และ WE70 เช่น บานฟิกซ์, บานเลื่อนสไลด์, และบานเปิด กับกรอบสีอะลูมิเนียม Shine Gray เสริมให้บ้านดูคลีนและเข้ากันได้ดีกับผนังสีขาว พร้อมคุณสมบัติการชุบสีอะโนไดซ์ (Anodizing) และชั้นเคลือบ TEXGUARD ทำให้มีความทนทานและดูแลรักษาง่าย


Vi Ari

VI ARI เพนเฮาส์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมบ้านเก่าในย่านอารีย์ยุค 70-80s ซึ่งถูกตีความใหม่ในสไตล์โมเดิร์นคอนเทมโพรารี ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว


ในส่วนของพื้นที่ภายในทั้งหมด 3 ชั้นครึ่ง ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ การเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง ไปจนถึงการออกแบบที่เน้นสร้างความต่อเนื่องระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอก โดยทางโครงการเลือกใช้ประตูและหน้าต่าง TOSTEM รุ่น ATIS ที่มาช่วยเสริมบรรยากาศหรูหราด้วยกรอบอะลูมิเนียมสี Shine Gray ทำให้ทุกมุมมองของบ้านสวยงามและน่าประทับใจ


นอกจากนี้ TOSTEM รุ่น ATIS มาพร้อมดีไซน์แบบ Streamline ไร้รอยต่อ ทำให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกได้อย่างไร้ขีดจำกัด ขณะเดียวกันยังช่วยเสริมสร้างมิติให้กับพื้นที่ได้อย่างลงตัว



เช็กลิสต์ประตู-หน้าต่าง ควรเปลี่ยนหรือซ่อมแซม

แน่นอนว่าการดูแลรักษาบ้านให้ปลอดภัย เริ่มต้นจากการตรวจสอบสิ่งต่างๆ ภายในบ้านอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะประตูหน้าต่างที่ถือเป็นหัวใจสำคัญในการปกป้องบ้านจากสภาพอากาศภายนอกและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัย

นี่คือวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถประเมินได้ว่า ควรเปลี่ยนประตูหน้าต่างใหม่หรือซ่อมแซมให้ดีขึ้น ?

เช็กลิสต์ประตูหน้าต่าง ควรเปลี่ยนหรือซ่อมแซม

การสังเกตสัญญาณของการสึกหรอเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความสมบูรณ์และประสิทธิภาพของหน้าต่างและประตูของคุณ เพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมทอสเท็มมีแข็งแรงทนทาน หมดปัญหาการโก่ง บิดงอ

  • สภาพของกรอบและบานประตู
    ตรวจสอบว่ากรอบบานประตูหรือหน้าต่างมีการบิดงอ แตกหัก หรือมีรอยสนิมหรือไม่ ไปจนถึงเช็กความสมบูรณ์ของบานประตูว่าเปิดปิดได้ลื่นไหลหรือไม่

  • การรั่วซึมของน้ำและอากาศ
    ตรวจสอบว่ามีการรั่วซึมของน้ำฝนหรือไม่ โดยเฉพาะที่รอยต่อระหว่างวงกบ
    และหน้าบานและหากคุณรู้สึกว่ามีลมพัด เช่นบางครั้งอาจมีเสียงหวีดดังขึ้นมา แสดงว่าถึงเวลาต้องดำเนินการแก้ไขแล้ว

LOCK SYSTEM ฟังก์ชั่นสำคัญของประตูหน้าต่างทอสเท็ม เสริมทั้งความปลอดภัยและบานปิดสนิท
  • ระบบล็อก
    ทดสอบการทำงานของระบบล็อกหรือกลอนประตูหน้าต่างว่ายังทำงานได้ดีหรือปิดสนิทหรือไม่ และตรวจสอบว่ามีการสึกหรอหรือเสียหายของกลอนหรือปิดล็อกหรือเปล่า


บานประตูหน้าต่างของทอสเท็มใช้วัสดุคุณภาพสูง มีความแข็งแรง ทนทานใช้งานได้ยาวนาน

  • ความสะดวกในการใช้งาน
    ตรวจสอบความสะดวกในการเปิด-ปิดประตูและหน้าต่างว่ามีความคล่องตัวหรือไม่ เพราะเมื่อประตูหน้าต่างผ่านการใช้ในระยะมายาวนาน อาจเกิดปัญหาเช่นติดขัดหรือฝืดได้

หากเช็กลิสต์ด้านบนแล้ว ประตูหน้าต่างมีความเสียหายที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้ หรือปัญหาที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายอย่างชัดเจน เช่น รอยแตกใหญ่ การรั่วซึมอย่างหนัก  บานหน้าต่างหลุด หรือการทำงานที่ไม่สมบูรณ์ แนะนำว่าควรเปลี่ยนใหม่จะดีที่สุด

แต่หากปัญหาที่พบเจอเป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ด้วยการซ่อมแซม เช่น ปัญหาหน้าต่างและประตูที่มีลมโกรกสามารถอุดรอยรั่วหรือติดแถบกันลมได้ การเปลี่ยนซีลยางที่เสื่อมสภาพ การทาน้ำมันที่บานพับเพื่อให้การเคลื่อนไหวลื่นไหล การปรับตั้งระบบล็อกใหม่เพื่อให้ทำงานได้สมบูรณ์ การซ่อมแซมก็เป็นทางเลือกที่ดีและประหยัดกว่าการลงทุนเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด 


และเพื่อให้การตัดสินใจเปลี่ยนประตูหน้าต่างเป็นเรื่องง่ายขึ้น TOSTEM ขอมอบโปรโมชั่นพิเศษ กับ โปรโมชั่น “เปลี่ยนประตูสู่ชีวิตที่ดีกว่ากับทอสเท็ม” รับส่วนลดสูงสุดถึง 10,000 บาท* เมื่อคุณเลือกเปลี่ยนประตูเก่าเป็นประตู TOSTEM ซึ่งจะช่วยให้คุณอัปเกรดความปลอดภัยและความสะดวกสบายในบ้านได้ในราคาที่คุ้มค่ากว่าเดิม เพิ่มเติมคือได้รับส่วนลดสุดปัง!

ประเภทประตูที่ร่วมรายการ

  • ประตูหน้าบ้าน GIESTA ทุกรุ่น ทุกแบบ ทุกสี (บานเดี่ยว, บานแม่ลูก, และบานคู่) 
  • ประตูระบายอากาศ Airflow Door ทุกสี ทุกขนาด 

รายละเอียดการรับส่วนลด

1) ประตูหน้าบ้านรุ่น GIESTA:

– แบบบานคู่ รับส่วนลดทันที 10,000 บาทต่อชุด (ไม่จำกัดจำนวนชุด)

– แบบบานเดี่ยวหรือแบบบานแม่ลูก รับส่วนลดทันที 5,000 บาทต่อชุด (ไม่จำกัดจำนวนชุด)

2) ประตูระบายอากาศ Airflow Door

– รับส่วนลดทันที 2,000 บาทต่อบาน (ไม่จำกัดจำนวนบาน)

ระยะเวลาโปรโมชัน 

  • สั่งสินค้ากับตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมโปรโมชั่น 2 กันยายน 2567 – 30 พฤศจิกายน 2567 
  • ติดตั้งในสินค้าภายใน 31 ธันวาคม 2567

สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อตัวแทนจำหน่าย TOSTEM ที่ร่วมรายการ เพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมและร่วมรายการโปรโมชัน หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมของโปรโมชันได้ที่  https://tostemthailand.com/upgrade-your-door-to-a-better-life-campaign-2024/ 



“White office” ออฟฟิศสีขาว กับการใช้ช่องแสงสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี

การออกแบบออฟฟิศสีขาว ที่มีการจัดวางช่องแสงอย่างลงตัว สามารถเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานของคุณให้กลายเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยพลังอย่างที่คุณไม่เคยคาดคิด

บทความนี้ TOSTEM จะพาคุณไปสำรวจการออกแบบออฟฟิศสีขาวด้วยช่องแสงเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีที่สุดสำหรับการทำงาน เพื่อเป็นอีกหนึ่งไอเดียดีๆ ที่จะช่วยให้คุณปรับปรุงออฟฟิศของคุณให้ดูทันสมัย สดใส และเต็มไปด้วยพลังทุกๆ วัน 

ข้อดีในการเลือกสีขาวสำหรับออฟฟิศ

เมื่อพูดถึงการออกแบบออฟฟิศที่ดูทันสมัยและมีประสิทธิภาพ หนึ่งในแนวทางที่ได้รับความนิยมคือการใช้สีขาวและช่องแสง ซึ่งสีขาวไม่เพียงทำให้พื้นที่ทำงานดูสะอาดและเรียบง่าย แต่สีขาวยังส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกในการทำงาน อย่างเช่น ช่วยให้ไม่เครียด และรู้สึกผ่อนคลาย รวมถึงช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างดีเยี่ยม

การใช้ช่องแสง เพื่อสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี

การออกแบบออฟฟิศสีขาวให้มีการเปิดช่องแสง ช่วยดึงธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ทำงาน ทำให้ได้บรรยากาศที่สดชื่นและมีชีวิตชีวา ทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อีกด้วย 

มากกว่านั้นแสงสว่างมีผลมากต่อการทำงานและสุขภาพตาของเราอย่างมาก ดังนั้นการจัดการแสงสว่างในที่ทำงานจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยประเภทของแสงสว่างในที่ทำงาน จะมีแสงหลักๆ 2 ประเภท คือ

  1. แสงประดิษฐ์ จากหลอดไฟ LED และหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ ซึ่งความสว่างที่ควรใช้ในห้องทำงาน ประมาณ 400 – 600 ลักซ์
  2. แสงธรรมชาติ ที่หากสาดส่องเข้ามาอย่างเพียงพอและทั่วถึง เป็นประโยชน์ต่อสายตามากที่สุด เพราะแสงธรรมชาติช่วยลดอาการปวดตา ลดความเมื่อยล้า และยังช่วยปรับนาฬิกาชีวิตให้เป็นปกติ

การจัดการแสงสว่างให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการเลือกชนิดของหลอดไฟ การควบคุมความสว่าง หรือการออกแบบช่องแสง จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อต่อสุขภาพและประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างมาก

เคล็ดลับการออกแบบออฟฟิศสีขาวด้วยช่องแสง

  • เลือกหน้าต่างที่สูงโปร่งและคำนึงถึงทิศทางแสง
    การติดตั้งหน้าต่างที่สูงโปร่งหรือผนังกระจกสามารถทำให้แสงธรรมชาติไหลเข้ามาได้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันก็ควรคำนึงถึงทิศทางแสงแดดเพิ่มด้วย โดยทิศทางของแดดเมืองไทย ที่จะได้รับแสงสว่างทั้งวันโดยไม่พาความร้อนเข้ามาด้วย ก็คือ ทิศเหนือ ซึ่งควรออกแบบช่องเปิด ด้วยการใช้หน้าต่างขนาดบานใหญ่ จะช่วยเพิ่มช่องแสงและมิติใหม่ๆ ให้บ้านหรือออฟฟิศได้เป็นอย่างดี

  • ตั้งโต๊ะทำงานใกล้กับหน้าต่าง เพื่อรับแสงธรรมชาติ
    ถ้าทำงานกลางวัน ควรจัดโต๊ะทำงานใกล้หน้าต่างหรือริมระเบียงเพื่อรับแสงธรรมชาติ ซึ่งเป็นแสงที่สบายตามากที่สุด ทั้งนี้หากแสงแดดแรงเกินไป สามารถใช้ผ้าม่านปรับแสงได้

  • ออกแบบช่องแสงภายใน เพื่อให้แสงสว่างกระจายทั่วถึง
    การออกแบบพื้นที่ภายในให้มีแสงสว่างเข้าอย่างทั่วถึง ทำให้พื้นที่ดูสดใสและน่าอยู่ รวมถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสุขภาพโดยรวมของผู้อยู่อาศัยด้วย

    การจัดการแสงที่ดีมีข้อดีหลายประการ อย่างเช่น ออกแบบดีไซน์ภายในด้วยเพดานที่ดูโปร่งโล่ง ไปจนถึงการเลือกใช้วัสดุสะท้อนแสง อย่างกระจก เพื่อลดความต้องการในการใช้แสงประดิษฐ์และเพิ่มการกระจายของแสงธรรมชาติ

  • สร้างมู้ดแอนด์โทนออฟฟิศสีขาวที่ลงตัวด้วยกรอบหน้าต่างสีขาว
    การใช้กรอบหน้าต่างสีขาวช่วยเสริมให้ธีมสีขาวของออฟฟิศดูสมบูรณ์แบบมากขึ้น และทำให้บรรยากาศในที่ทำงานมีความเป็นระเบียบ เรียบง่าย ซึ่งสอดคล้องกับการออกแบบที่ทันสมัยและมีสไตล์ 

นอกจากนี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ด้วยแสงธรรมชาติที่ผ่านกรอบหน้าต่างสีขาวจะช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น ลดความเมื่อยล้าของตาและเพิ่มความสามารถในการมองเห็นรายละเอียดที่สำคัญ และสร้างบรรยากาศที่กระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี

หากคุณกำลังมองหากรอบหน้าต่างสีขาวที่เพิ่มความสว่างและสร้างบรรยากาศในการทำงานที่ลงตัว TOSTEM มีตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคุณ ด้วยกรอบหน้าต่างสี Natural White ซึ่งเหมาะกับการออกแบบหลากหลายสไตล์ ทั้งมินิมัลและโมเดิร์น ด้วยสีขาวสะอาดที่ให้ความรู้สึกคลีนและสบายตา

TOSTEM มีเซตอุปกรณ์ครบครันสำหรับประตู-หน้าต่าง เช่น
โช้คและตัวควบคุมประตู เพื่อป้องกันการปิดกระแทกและยืดอายุการใช้งาน

กรอบหน้าต่าง Natural White จาก TOSTEM ไม่เพียงแต่เพิ่มความสว่างให้กับพื้นที่ทำงาน แต่ยังหมดกังวลเรื่องคราบฝังแน่นจากกาลเวลา ด้วยการใช้สีชุบอะโนไดซ์เป็นชั้นฟิล์มของอะลูมิเนียมออกไซด์ ซึ่งผ่านกระบวนการอบผิวเพื่อเพิ่มความทนทานและยืดอายุการใช้งาน

สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมจากแบรนด์ TOSTEM สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลย