fbpx

ARBOR URBAN Ekkamai-Ladprao บ้านในเมืองที่ใส่ใจทุกดีเทลเพื่อบ้านที่อยู่สบายทุกมิติ… ตั้งแต่วัสดุจนถึงการออกแบบ

ARBOR Development เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนสนิทที่มีมุมมองเรื่องอสังหาฯ เหมือนกัน จนตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจร่วมกัน และโครงการแรกคือ ARBOR URBAN EKKAMAI–LADPRAO
คุณเอิร์ธ-นนท์ ธรรมพัฒน์พงศ์ เล่าว่า “ARBOR เกิดจากความตั้งใจอยากสร้างบ้านที่ดีให้กับลูกค้า สำหรับเราบ้านที่ดีคืออยู่อาศัยเพื่อเติมเต็มพลังชีวิต เพื่อใช้ชีวิตในวันพรุ่งนี้ได้อย่างมีคุณภาพ เราจึงคำนึงถึงว่า ชีวิตที่ดี ต้องมีความสะดวกสบาย เดินทางไปไหนสะดวก สงบ ใกล้ชิดธรรมชาติ ซึ่งเป็นคอนเซปต์หลักของ ARBOR ที่เราต้องการสร้างบ้านในเมือง ให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุด”

คุณเอิร์ธ-นนท์ ธรรมพัฒน์พงศ์ และคุณบิ๊ก-สารเชษฐ์ โอษธีศ

ส่วน คุณบิ๊ก-สารเชษฐ์ โอษธีศ เสริมว่าแนวคิดของ ARBOR คือสร้างบ้านทุกหลังเหมือนสร้างบ้านตัวเอง ใส่ใจทุกขั้นตอนตั้งแต่การออกแบบ การเลือกวัสดุพรีเมียมอย่าง TOSTEM ไปจนถึงการก่อสร้าง เพื่อให้มั่นใจว่าบ้านทุกหลังสวยงามและใช้งานได้จริง พร้อมเลือกโลเคชั่นใกล้รถไฟฟ้าเดินถึงง่าย ไม่เกิน 500 เมตร และผสาน ธรรมชาติใจกลางเมือง ให้ทุกห้องมองเห็นต้นไม้และพื้นที่สีเขียว ผ่อนคลายและเติมเต็มพลังชีวิต

ARBOR URBAN เป็นทาวน์โฮมหรู 3.5 ชั้น จำนวนจำกัดเพียง 3 ยูนิต ออกแบบในสไตล์ Modern ที่เน้นเส้นสายเรียบคมและสัดส่วนที่สมดุล โดยเลือกใช้โทนสีเข้มของผนังหินผสานกับสีน้ำตาลอุ่นของไม้ สร้างสมดุลระหว่างความแข็งแกร่งกับความอบอุ่นของการอยู่อาศัย

ขณะเดียวกันยังโดดเด่นด้วย Facade แนวตั้ง ซึ่งนอกจากจะเสริมความงามทางสถาปัตยกรรมแล้ว ยังช่วยกรองแสงแดดและบังสายตา เพิ่มความเป็นส่วนตัวโดยไม่ลดทอนความโปร่งสบายภายในบ้าน

นอกจากนี้ทุกยูนิตยังถูกออกแบบโดยใส่ใจใน privacy zoning และการระบายอากาศตามธรรมชาติ เพื่อให้พื้นที่อยู่อาศัยตอบรับทั้งฟังก์ชันและสุนทรียะของชีวิตเมืองได้อย่างกลมกลืน

บ้านหลังนี้ออกแบบให้ทุกพื้นที่เชื่อมต่อกันอย่างกลมกลืน โดยเมื่อก้าวเข้าสู่ภายในจะพบ Public Space ที่เชื่อมต่อระหว่าง Living Area, Pantry และ Dining Area รอบคอร์ตกลางที่เป็นสวนเปิด ซึ่งทะลุขึ้นไปถึงชั้นลอย และต่อเนื่องไปยังชั้น 3 และ 4 สร้างมิติของการมองเห็นที่โปร่ง โล่ง และสบายตา

เพื่อให้พื้นที่เหล่านี้ทำงานได้เต็มศักยภาพ ทีมผู้ออกแบบเลือกใช้กระจกขนาดใหญ่และกรอบบานหน้าต่างจาก TOSTEM ที่ช่วยเปิดมุมมองรับแสงธรรมชาติได้กว้างขึ้น ขณะเดียวกัน Canopy และระแนงไม้ ถูกวางในตำแหน่งที่คำนึงถึงทิศทางแดดและลม ทำให้ช่วยลดความร้อนและป้องกันแสงจ้าตรงจุดที่จำเป็น พร้อมให้บ้านยังรับแสงอ่อน ๆ และวิวสวนได้เต็มที่
คุณเอิร์ธ อธิบายว่า “เราเลือกใช้พื้นที่กระจกค่อนข้างเยอะ เพราะต้องการให้บ้านโปร่ง รับลมและแสงแดดได้โดยไม่ร้อน อีกทั้งยังพิจารณาคุณสมบัติการกันเสียงรบกวนจากภายนอก เพื่อสร้างบ้านที่สงบ ร่มรื่น และผ่อนคลายสำหรับผู้อยู่อาศัย”

TOSTEM WE70 และ WE Plus สี Autumn Brown

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้บ้านของ ARBOR แตกต่าง คือการเลือกใช้วัสดุเกรดพรีเมียม เพื่อสร้างคุณภาพและความทนทานในระยะยาว
สำหรับกรอบหน้าต่างและประตู โครงการเลือกใช้ TOSTEM WE70 และ WE Plus สี Autumn Brown ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเข้ากับวัสดุอื่น ๆ ภายในบ้าน พร้อมคงความงามและความทนทานตามมาตรฐานสากล ทำให้บ้านไม่เพียงสวย แต่ยังเป็นบ้านที่ สามารถอยู่คู่ครอบครัวได้ไปอีกหลายสิบปี

คุณบิ๊ก เล่าเสริมว่า  “ผมคุ้นเคยกับ TOSTEM มานาน ทั้งจากการเดินทางไปญี่ปุ่นและเห็นการใช้งานในโรงแรมหลายแห่ง จึงมั่นใจในคุณภาพ สำหรับโครงการนี้ การเลือก TOSTEM ยังช่วย กันเสียงจากถนนและรถไฟฟ้าที่ใกล้ตัวโครงการได้ชัดเจน อีกทั้งสี Autumn Brown ของกรอบบานก็เข้ากับสีเข้มของบ้าน ทำให้ความสวยงามของการออกแบบดูลงตัวมากขึ้น”
นอกจากผลิตภัณฑ์ TOSTEM ที่ช่วยเสริมความยั่งยืนให้กับบ้านแล้ว ทีมออกแบบยังใส่ใจในรายละเอียดของวัสดุและการดูแลรักษาในระยะยาว เช่น เลือกใช้ระแนงอลูมิเนียมลายไม้ตกแต่ง Facade แทนการใช้ไม้จริง เพื่อให้บ้านคงความสวยงามโดยไม่ต้องบำรุงรักษาบ่อย ช่วยลดค่าใช้จ่ายในอนาคต และตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ต้องการทั้งคุณภาพ ความสะดวก และความสบายในทุกมิติ

หนึ่งในจุดเด่นของ ARBOR URBAN คือ Twin Double Volume ความสูง 5.7 เมตร แยกเป็นสองช่วงในโซนห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหาร ช่วยให้บรรยากาศดูโปร่งโล่ง โอ่โถง และแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ พร้อมกับเลือกใช้บานหน้าต่างอลูมิเนียมคุณภาพจาก TOSTEM รุ่น WE Series

“ที่เราเลือกใช้ TOSTEM WE Series เพราะต้องการให้บ้านดูโปร่งและเปิดกว้าง และ TOSTEM ยังสามารถทำความสูงได้ 3-4 เมตร ทำให้แสงธรรมชาติเข้าถึงภายในบ้านได้เต็มที่ อีกทั้งยังช่วยกันเสียงได้ดี ..สำหรับมุมมองพื้นที่สีเขียว เราออกแบบให้หน้าต่างแต่ละจุดใหญ่ที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อให้ลูกบ้านเห็นสวนรอบตัวบ้าน แสงที่ลอดผ่านต้นไม้เข้ามาในบ้านจะนุ่ม ไม่ร้อน และบ้านยังร่มรื่น ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ ทั้งหมดนี้ตอบโจทย์ Concept ของโครงการทั้งเรื่องแสง เสียง และสีสันที่เข้ากับบ้านอย่างลงตัว” คุณเอิร์ธ กล่าว

มาถึงอีกไฮไลท์สำคัญของโครงการคือ Master Penthouse พื้นที่กว่า 100 ตารางเมตร ขนาดเทียบเท่าบ้านขนาดย่อม ออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เกิดการแยกสัดส่วนระหว่างห้องนอนและมุมนั่งเล่นได้อย่างลงตัว ช่วยให้การใช้งานภายในห้องพักผ่อนเป็นอิสระ ไม่รบกวนกัน พร้อมสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยพลังและความสดชื่นในทุกเช้า

อีกทั้งการออกแบบ ของ Master Penthouse ยังสะท้อนแนวคิด ARBOR ซึ่งมาจากคำว่า “ต้นไม้กับร่มเงา” ที่ทุกห้องถูกวางให้สามารถเห็นพื้นที่สีเขียวและต้นไม้รอบบ้านอย่างเต็มที่ ผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่จาก TOSTEM ทำให้บ้านไม่เพียงสวยงาม แต่ยังตอบโจทย์การใช้งาน การพักผ่อน และการเชื่อมต่อกับธรรมชาติอย่างแท้จริง

ARBOR ให้ความสำคัญกับการสร้างบ้านทุกหลังเหมือนสร้างให้ตัวเอง ตั้งแต่การออกแบบ การเลือกวัสดุ ไปจนถึงการก่อสร้างทุกขั้นตอน วัสดุที่เลือกใช้คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ทั้งทนทาน สวยงาม ดูแลง่าย และช่วยเก็บเสียง ทำให้แม้บ้านจะตั้งอยู่ในทำเลเมือง ใกล้รถไฟฟ้าและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แต่ภายในบ้านยังคงความสงบ ร่มรื่น และเป็นพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวได้อย่างแท้จริง

ด้วยความตั้งใจนี้ ARBOR URBAN EKKAMAI–LADPRAO จึงไม่ใช่เพียงบ้านแนวราบในเมือง แต่เป็นบ้านที่ผสานคุณภาพ ความร่มรื่น และความสะดวกสบายได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับคนเมืองรุ่นใหม่ที่ต้องการทั้งพื้นที่พักผ่อนและพื้นที่ใช้ชีวิตคุณภาพสูงในที่เดียว

สัมผัสประสบการณ์ชีวิตที่สะดวกสบายและสงบอย่างแท้จริงกับ ARBOR URBAN EKKAMAI–LADPRAO ได้ที่ https://www.arborurban.com/

สอบถามเกี่ยวกับสินค้า TOSTEM เพิ่มเติมได้ที่ https://tostemthailand.com